bloggang.com mainmenu search
ทำบล๊อควาดไผ่แล้วนึกอยากเขียนตัวอักษร เขียนไม่นานก็เสร็จเพราะเป็นบทกวีสั้น ๆ งวดนี้อัพให้อ่านสองบท แต่ ๆ ละบทมีคำอธิบายยาวทั้งคู่เลยแยกเป็นสองบล๊อคเหมียนเดิม อ่านคำอธิบายท้ายบทกวีบทนี้ที่ได้ยินมานานแล้วแต่เพิ่งจะรู้ว่าเป็นคำพูดของท่านซูตงปัว

"ซูตงปัวชมงานของหวังเหว่ยว่า ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี
诗中有画 画中有诗 (ซือจงโหย่วฮว่า ฮว่าจงโหย่วซือ)"



ภาพจากเวบ //downloads.zdnet.com/abstract.aspx?docid=303080

Recall Hometown With Nostalgia - Zhou Xiao Zhou Wei












เพลงเมืองเว่ย
หวังเหวย

ฝนเมืองเว่ยยามเข้า ฝุ่นเปียกชื้น
ที่พักแรม ต้นหลิวสีสันใหม่เขียวขจี
ขอเชิญท่านดื่นสุราให้หมดอีกสักถ้วย
ออกจากด่านหยังกวนไปทางตะวันตก ไร้ผู้คุ้นเคย



หมายเหตุ


เว่ยเฉิงฉวี่เหรือเพลงเมืองเว่ย เป็นซือในสมัยราชวงศ์ถัง (เว่ยเฉิง = เมืองเว่ย ฉวี่ = เพลง) มีชื่อเดิมว่า ซ่งหยวนเอ้อร์สื่ออานซี แปลว่า ส่งหยวนเอ่อร์ไปทำราชการที่เมืองอานซี เมืองอานซีเป็นเมืองบทเส้นทางสายแพรไหม อยู่เลยด่านจยาอวี้กวนออกไป เมืองอานซีเป็นเมืองชุมทางของเส้นทางแพรไหมสายต่าง ๆ กล่าวคือ เมื่อออกเดินทางจากเมืองซีอาน ผ่านเมืองหลายเมืองและด่านจยาอวี้กวนแล้ว เดินทางต่อไปก็จะถึงเมืองซีอาน จากเมืองนี้เส้นทางสายแพรไหมสมัยราชวงศ์ถึงจะแยกเป็น ๓ เส้นทาง ทางแรก เป็นเส้นทางเหนือของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานเป่ยลู่) ทางที่สอง เป็นเส้นทางใต้ของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานหนานลู่) และ ทางที่สาม เป็นเส้นทางเหนือภูเขาคุนหลุน (คุนหลุนเป่ยลู่ หรือ กู่หนานเต้า)

นอกจากนั้น ซือบทนี้ยังมีชื่ออื่น ๆ อีก คือหยังกวนฉวี่ (เพลงด่านหยังกวน) หยังกวนซานเตี๋ย (ซ้ำคำว่า หยังกวน ๓ ครั้ง) ในสมััยราชวงศ์ถังได้นำซือบทนี้ไปใส่ทำนอง และเพิ่มเนื้อร้องเป็นเพลง ชื่อว่า เว่ยเฉิงฉวี่ (เพลงเมืองเว่ย) นอกจากเป็นชื่อเพลงแล้ว ได้กลายมาเป็นชื่อบทของซือด้วย เมืองเว่ยตั้้งอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่นำ้เว่ย (เว่ยเหอ) ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สมัยราชวงศ์ฉินเรียกว่า เมืองเสียนหยัง สุสานของจักรพรรดิ์ฉินสือหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) อยู่ในเมืองนี้ ปัจจุบันกลับมาเรียกว่า เสียนหยังอีก มิได้เรียกว่า เว่ยเฉิง ในสมัยราชวงศ์ถัง มักจะเลี้ยงอำลาผู้ที่จะเดินทางจากซีอาน มุ่งไปทางทิศตะวันตกที่เมืองเว่ย

หวังเหว่ย (ค.ศ.๗o๑-๗๖๑) เป็นผู้ประพันธ์ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ มีอีกชื่อหนึ่งว่า หวังมั่วจี้ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ฉีโจว ปัจจุบันคือ อำเภอฉี มณฑลซานซี ต่อมาย้ายติดตามบิดาไปอยู่ที่ฝูโจว ปัจจุบันคือ อำเภอหย่งจี้ มณฑลซานซี ในค.ศ.๗๒๑ อายุ ๒o ปี สอบได้จิ้นซื่อ ได้เข้ารับราชการเป็นขุนนาง ต่อมา (ค.ศ.๗๕๕) เกิดกบฏอานลู่ซาน หวังเหวงรับราชการกับฝ่ายกบฏ เมืองเจ้าชายรัชทายาทซึ่งตั้งตนขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ์ซู่จงปราบกบฏได้ (ค.ศ.๗๕๗) หวังเหวยจึงถูกลดตำแหน่่ง แต่ในภายหลังก็ได้กลับมาดำรงตำแหน่งสูงอีกในบั้นปลายชีวิต ใช้ชีวิตอย่างสงบ เรียบง่าย แต่งบทกวีต่าง ๆ

ในด้านการประพันธ์บทกลอน หวังเหวยได้รับยกย่องว่าแต่งดีเทียบเท่าเมิ่งเฮ่าหราน เป็น หวัง-เมิ่ง แห่งราชวงศ์ถัง ผลงานในระยะต้นมักนำเรื่องชายแดนมาเป็นแก่นในการประพันธ์ แต่งานส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับทิวทัศน์ ภูเขา แม่นำ้ นาสวน ธรรมชาติ รวมทั้งได้แทรกคติธรรมของศาสนาพุทธมหายาน นิกายธยาน (ฌาณ) ไว้ด้วย นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า งานของหวังเหวยพรรณนาดี และมีความละเอียดอ่อน หวังเหวยนอกจากเป็นกวีแล้วยังเก่งด้านดนตรี การเขียนตัวอักษรและการวาดภาพ จึงสามารถนำหลักการวาดภาพและการเล่นดนตรีมาใส่ในบทกวี ซูตงปัวชมงานของหวังเหว่ยว่า ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี (ซือจงโหย่วฮว่า ฮว่าจงโหย่วซือ) ผู้คนชมว่า ซูตงปัวสรุปลีลางานศิลป์ของหวังเหว่ยได้อย่างดี

ส่วนภูมิหลังการประพันธ์ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ นั้น หวังเหวยเขียนส่งเพื่อนที่จะเดินทางจากซีอานไปทางทิศตะวันตก เพื่อนออกเดินทางในฤดูใบไม้ผลิ หวังเหวยและเพื่อนอำลากันที่เมืองเว่ย ซือบทนี้สื่อถึงอารมณ์อาลับอาวรณ์ระหว่างพื่อนในยามจากกัน หวังเหวยเขียนพรรณนาได้ดี สื่อความได้แจ่่มชัด ทั้ง ๆ ที่ใช้ซือเพียง ๔ บาทเท่านั้น กวีสมัยราชวงศ์ถังเขียนซือเกี่ยวกับการอำลาไว้หมื่น ๆ บท ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ ได้รับการยกย่องว่า เป็นซือส่งเพื่อนที่แต่งได้สุดยอดบทหนึ่ง

ในด้านบทกลอน บาทที่ ๑ สื่อความว่า ในตอนเช้าที่เมืองเว่ยฝนตกไม่มาก แต่ก็ทำให้ฝุ่นเปียกชื้น ไม่ปลิวขึ้นมา

บาทที่ ๒ ke she (เค่อเซ่อ) หมายถึง ที่พักแรมของทางราชการตามทางหลวงต่าง ๆ จะอยู่ห่างกันเป็นช่วง ๆ ในสมัยก่อนใช้เป็นที่พักม้าและที่พักแรมของคนส่งสาร ขุนนางที่ไปปฏิบัติราชการต่างเมืองก็แวะพักที่เค่อเซ่อระหว่างการเดินทาง นอกจากนั้นใช้เป็นที่เลี้ยงส่งอำลากันด้วย เค่อเซ่อแต่ละแห่งมักปลูกต้นหลิวรายรอบ สมัยก่อนมีการคำณวนไว้เลยว่าจากเมืองนี้ไปเมืองโน้นใช้เวลากี่วัน ตามรายทางมีเค่อเซ่อที่ไหนบ้าง การมีเค่อเซ่อช่วยให้เดินทางส่งสารได้รวดเร็ว เป็นทางหนึ่งในการช่วยควบคุมหัวเมืองรวมอำนาจเข้าสู่ศูยน์กลาง

บาทที่ ๔ ด่านหยังกวงเป็นด่านที่อยู่เลยเมืองอานซีออกไปบนเส้นทางแพรไหมสายคุนหลุนเป่ยลู่ เป็นด่านเกือบสุดท้ายในเส้นทางนี้ อยู่แถบเมืองตุนหวง พ้นจากนี้ก็เป็นเขตเวิ้งว้างไกลสุดตาของทะเลทรายมีผู้คนอยู่น้อย เส้นทางแพรไหมทางตะวันตกของจีนมีชนกลุ่มน้อยเผ่าต่าง ๆ อาศัยอยู่หลายเผ่า

นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า ซือบทนี้เด่นต่างจากซืออำลาทั่ว ๆ ไปที่เขียนถึงอารมณ์บีบคั้น ความเศร้าสลด แต่ซือบทนี้ไม่เขียนเช่นนั้น ไม่มีสักคำที่พูดว่าเสียใจ กวีเขียนในแนวสบาย ๆ สองทางแรกสื่อถึงภาพยามเช้าและต้นหลิวเขียวขจี สองบาทหลัง ชวนดื่มเหล้า คุยกันอย่างจริงใจด้วยนำ้มิตร และยำ้ความอาลัยอาวรณ์ว่า พ้นจากด่านหยังกวนแล้วไม่มีผู้คุ้นเคย

ข้อความในบล๊อคนี้นำมาจากหนังสือ​ "หยกใสร่ายคำ"
บทพระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


บีจีและไลน์จากคุณญามี่



  • Comment
    *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
  • เมื่อครู่เข้ามาเม้นท์ไม่ได้
    ไม่รู้จะไปแจ้งใครเลยนั่งรอ

    ถ้ามีเพลงบรรเลง ขฃุ่ยจีน ประกอบบลอกนี้คง เพลินไปเลย
    โดย: ลุงแอ๊ด 27 ตุลาคม 2551 22:29:51 น.
  • สวัสดีครับคุณไฮกุ

    อุตส่าห์มาโฆษณาไว้เสียดิบดี
    ปรากฏว่าวันนี้งานยุ่งมากมายจนอัพบล็อกไม่ไหวครับ 5555

    ต้องขออภัยด้วยนะครับ




    รูปทำเสร็จแล้วล่ะครับ
    แต่ไม่มีแรงเหลือพอที่จะอัพบล็อกเลยครับ 55555


    ขอพลัดไปอีกพลัดเป็นเย็นพรุ่งนี้นะครับ




    ราชวงศ์ถังเป็นยุคทองของศาสนาพุทธและบทกวีจริงๆนะครับ
    มีพระอริยะ และกวีอัจฉริยะหลายท่านมากมาย

    เป็นยุคที่ผมคิดว่าเจริญและเสื่อมที่สุดในประวัติศาสตร์จีนเลยครับ

    เป็นสัจธรรมที่เตือนใจเราได้ดีครับ
    ว่าบ้านเราก็อาจมีชะตากรรมแบบนี้
    ถ้าเราไม่ระวังให้ดี





    โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 27 ตุลาคม 2551 22:45:04 น.


  • มาบอกว่าปายนองกางริ้ว...ดึกแย้ววว...

    และมาบอกว่าคิดถึงโด้ยยยละ...

    ป้าหู้เอ่านก็ช้าพิมพ์ก็ช้าเลยมาทักทายช้าปายด้วย

    กว่าจะผ่านด่านต่างๆมาถึงอ่ะจ่ะ...อย่าเคืองป้าเลยน้า มารอฟังเพลงด้วยจ่ะ

    โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 28 ตุลาคม 2551 0:21:43 น.
  • อรุณสวัสดิ์ครับคุณไฮกุ
    วันนี้วันพระ ลุงกล้วยขอให้คุณไฮกุมีจิตใจแจ่มใสและมีความสุขนะครับ
    โดย: ลุงกล้วย 28 ตุลาคม 2551 7:03:03 น.
  • ชอบนกตัวที่เกาะอยู่มุมซ้ายจังค่ะ ..แล้วก็อยากจะหาต้นเหมยไปปลูกที่ไร่ซัก 4-5 ต้น จะหาพันธ์ที่ไหนได้ฮ่ะคุณไฮกุ..

    ปล.คุณไฮกุได้รับสินค้ายังค่ะ ลืมถามอ่ะ อิชั้นส่งไปนานแล้วฮ่ะ
    โดย: pukpui IP: 124.121.106.183 28 ตุลาคม 2551 8:01:47 น.
  • อ่านบล็อกวันนี้แล้วทำให้คิดถึงหนังที่เราดูๆ กันสมัยก่อน
    จังเลยอ่ะค่ะคุณไฮกุ แบบว่าอ่านไปแล้วเหมือนว่าภาพมันค่อยๆ
    ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนที่เราเคยดูทีวีผ่านตา ...

    เราพยยามอ่านกลอน หรือว่าบทกวีให้เหมือนกับ
    ที่เคยดูหนังจีนน่ะค่ะ แต่เอ ดูท่าว่าท่าทางเหมือน
    แต่ว่าอารมณ์ยังไม่ค่อยได้เลยค่ะ
    โดย: JewNid 28 ตุลาคม 2551 12:59:20 น.
  • สวัสดีครับคุณไฮกุ


    รีบมาบอกว่าอัพบล้อกภาพเขียนของชาโจ้แล้วครับ
    หุหุหุ

    อัพแต่หัววัน
    เพราะกลัวเย็นนี้มาดามจะชวนไปเดินห้างก่อนครับ 555555


    เห็นหมึกกับกระดาษแล้วไม่อยากใช้
    แต่ชาโจ้ย้ำแล้วย้ำอีกครับว่า
    ซื้อมาให้ใช้ ว่าแล้วแกก็ฝนหมึกโชว์ซะเลย
    หมึกแหว่งไปเลยครับ




    สมุดพอผมบอกว่าจะเก็บไว้
    แกก็เอามาแล้วก็เขียนโชว์ซะเลย 555555



    คงได้เอามาใช้แน่ๆครับ
    แต่เดี๋ยวขอตั้งสมาธิให้ดีดีสักหน่อยครับ

    ช่วงนี้มัวแต่มุ่งไปที่เรื่องการทำบุญของเด็กนักเรียนครับ
    ต้นเดือนหน้าคงเรียบร้อยแล้ว
    จะมานั่งวาดพู่กันเดียวสักชุดครับ









    โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 28 ตุลาคม 2551 14:44:50 น.
  • เมื่อคืนแวะเข้ามาหนหนึ่งแล้วค่ะ

    แต่เข้าบ้านไม่ได้



    อ่านภาษษจีนสักน้อย เผื่อความจำจะฟื้นมาบ้าง
    โดย: หยุ่ยยุ้ย 28 ตุลาคม 2551 20:00:56 น.



  • คุณไฮกุคะ น่าทึ่งนะคะภาษาแปล ที่แปลออกมาออกมา
    เพราะคนไม่รู้ ก็จะไม่รู้ เชื่อตามคนแปล แปลออกมายังไง คนอ่านก็ซึมซับเอาตามนั้นเลย คำแปลสี่วรรคเท่านั้นที่แปลออกมาได้ความรู้สึกจริงๆ

    คนไทยอ่านภาษาไทยบางทีไม่รู้ว่าเข้าใจถูกไหม
    ตัวหนังสือจีนคุณไฮกุเป็นคนเขียน
    หมายเหตุมาจากบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

    ส่วนกวีบทนี้
    ฝนเมืองเว่ยยามเข้า ฝุ่นเปียกชื้น
    ที่พักแรม ต้นหลิวสีสันใหม่เขียวขจี
    ขอเชิญท่านดื่นสุราให้หมดอีกสักถ้วย
    ออกจากด่านหยังกวนไปทางตะวันตก ไร้ผู้คุ้นเคย

    สมเด็จพระเทพแปลหรือว่าคุณไฮกุแปลด้วยตัวเองอีทีค่ะ

    กวีสี่วรรคของคุณไฮกุอ่านแล้วนึกถึงตัวเองคะ เป็นคนที่ต้องตะลอนๆ
    บางที่เราเจอที่ที่ชอบ เพื่อนร่วมทางที่ดีๆ ได้พูดคุยกัน
    ตอนจากกันจะรู้สึกแบบกลอนบทนี้ ยังไงไม่รู้ค่ะ รู้สึกถึงความห่วงใย
    แม้มันจะไม่เท่ากับที่เพื่อนจริงๆ ของเราจะมี
    แต่ก็ทำให้การเดินทางเพียงลำพัง รู้สึกดีขึ้นค่ะ

    บทกวีของบทที่ไปฝากไว้ที่บ้านไก่ ชอบมากๆค่ะ
    ขอบคุณนะคะ มีบทไหนถูกใจคุณไฮกุเอาไปแปะไว้ที่บ้านไก่บ้างนะคะ จะได้อ่านไปด้วยกัน

    โดย: Sweety-around-the-world 29 ตุลาคม 2551 0:05:37 น.
  • บล็อกวันนี้ กลิ่นชาจีน-หมั่นโถวลอยคลุ้งเลยค่ะ
    โดย: angy_11 29 ตุลาคม 2551 9:51:35 น.
  • ลุงแอ๊ด...สงสัยลุงแอ๊ดจะเข้ามาตอนกะลังแก้บล๊อคอยู่เลยเม้นท์ไม่ได้

    อืม คุณลุงแนะนำเข้าท่าดี เดี๋ยวจะลองหาเพลงมาแปะให้ฟังค่ะ

    คุณก๋า...ขอบคุณที่อัพรูปคุณซาโจ้ให้ดูนะคะ เดี๋ยวแวะไปดูที่บล๊อคค่ะ

    ถ้าได้อุปกรณ์ดีๆก็ช่วยให้เขียนภาพได้สวยขึ้นนะ ทั้งหมึกทั้งกระดาษที่คุณซาโจ้ให้มา เห็นแล้วเสียดาย เป็นเราคงเก็บเข้าตู้แหงมๆ ไว้จะรอดูภาพพู่กันเดียวบนกระดาษญี่ปุ่นของคุณก๋าค่ะ

    หนังสือเล่มนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับบทกวีจีนเยอะเลยค่ะ นอกจากจะได้อ่านบทกวีที่เพราะๆแล้ว สมเด็จพระเทพฯยังทรงอธิบายความหมายอย่างถูกต้อง และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับบทกวีด้วย อ่านแล้วเพลินมากเลยค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณก๋าด้วยนะคะ

    ป้าหู้...มาช้าดีกว่าไม่มา ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ สาวน้อยที่ป้าหูพามาด้วยทั้งสวยทั้งเซะซี่เลย

    ลุงกล้วย...ขอบคุณที่แวะมาอวยพรแต่เช้าเลย ลุงกล้วยรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

    คุณปุย...เอ ต้นเหมยเหรอ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ เคยเห็นแต่ในรูปวาดจีน ต้นจริงๆยังไม่เคยเห็น สงสัยถ้าคุณปุยอยากปลูกจริงๆคงต้องถ่อไปขอพันธุ์ที่เมืองจีนละมั้ง

    ปล. ขอบคุณมากนะคะที่ส่งดีวีดีให้ ยังไม่ได้รับเลยค่ะ รออยู่นานแต่เกรงใจไม่กล้าทวงฮ่ะ สงสัยว่าจะตกหล่นกลางทางซะแว้ววว

    คุณนิด...หนังที่นึกถึงคงเป็นฉากห้องเรียนสอนบทกวีแหงมๆถ้าจะอ่านให้ได้อารมณ์ คุณนิดต้องเลียนแบบในหนัง เวลาอ่านกลอนไปต้องส่ายหัวไปด้วย

    ถ้าคุณนิดอ่านคำแปล อารมณ์อาจจะไม่ค่อยได้ เพราะไม่มีคำคล้องจองอย่างเวลาอ่านกลอนไทย เคยฟังเหล่าซือที่สอนแต่งโคลง รู้สึกว่าจะมีคำคล้องจอง มีเสียงหนัก-เบาของคำที่ใช้ เวลาฟังท่านอ่านแล้ว ถึงจะฟังไม่รู้ความหมายแต่ก็รู้สึกว่าเพราะค่ะ

    คุณยุ้ย...สงสัยคุณยุ้ยจะเข้ามาเวลาเดียวกะลุงแอ๊ดแน่เลย เพราะกะลังอัพบล๊อคอยู่ อาจจะกดผิดกดถูก คุณยุ้ยเลยเข้าบ้านอิฉันไม่ได้

    คุณไก่...แฮะ แฮะ พิมพ์ตกไปคำนึง คุณไก่ตาดีจัง ที่จริงต้องเป็นบทพระราชนิพนธ์แปลค่ะ ขอบคุณที่ถามนะคะ นอกจากตัวอักษรจีนแล้ว ทั้งหมดก็นำมาจากหนังสือ "หยกใสร่ายคำ" ที่สมเด็จพระเทพฯทรงแปลไว้ บทกวีในเล่มแต่ละบทเพราะทั้งนั้นเลยค่ะ พระองค์ท่านทรงศึกษาภาษาจีนอย่างลึกซึ้งและแตกฉาน ทำให้ทรงแปลบทกวีจีนได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งและความหมายไม่เพี้ยน

    เราเคยเรียนภาษาจีนมาหลายปีแต่เลิกไปนานแล้ว ตอนที่เรียนก็ยังแปลบทความหรือเพลงได้บ้าง แต่บทกวีจีนนี่ฝีมือยังไม่เข้าขั้นหรอกจ๊ะ

    อิจฉาคุณไก่อ่ะ มีโอกาสเดินทางไปในโลกกว้าง ได้เปิดหูเปิดตาและเห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆ ขอบคุณที่ทำบล๊อคเผื่อแผ่ประสบการณ์การเดินทางให้เพื่อนๆนะคะ

    ดีใจที่ชอบไฮกุที่เอาไปฝากนะคะ

    จี้...พูดถึงก็ต้องรีบคว้ามาเสิร์ฟให้เลยเทียว


    โดย: haiku 29 ตุลาคม 2551 11:00:13 น.
  • ผมว่าคุณไฮกุเขียนได้สบายเลยครับ
    เพราะลายมือคัดกับลายมือหวัด
    คงจะแตกต่างกันในเรื่องของ "จังหวะ" เท่านั้นเอง

    อันนี้วัดจากตัวเองนะครับ
    เพราะผมเขียนลายมือได้หลายแบบครับ
    หวัดก็ได้ แบบทางการก็ได้ครับ




    โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 29 ตุลาคม 2551 11:44:40 น.
  • ฮ้าจริงเหรอฮ๋ะ อิชั้น ส่งไปประมาณเกือบ / เดือนแล้วน่ะค่ะ เดี๊ยนต้องตามแล้วล่ะฮ่ะ
    ต้องขอโทษจริงๆ ไม่ได้ถามคุณไฮกุว่าส่งไปนานแล้วได้รับล่ะยัง งั้น เด่วเผาส่งให้ใหม่ น่ะฮ่ะ โด่ ทำให้คุณไฮกุรอแย่เลย ขอโทษด้วยฮ๋ะ เด่วจะตามให้ค่ะ

    โดย: pukpui_s 29 ตุลาคม 2551 13:32:24 น.
  • คุณก๋า...ที่จริงตัวหวัดหรือบรรจงอิฉันก็เขียนได้โลดค่ะ แต่ติดตรงตัวหวัดต้องมีตัวอย่างมาถึงจะเขียนได้ เพราะขีดในตัวอักษรมันจะน้อยกว่าเดิม มันไปไม่ค่อยถูกว่าต้องลดขีดหรือจุดไหนมั่ง

    คุณปุย...ขอบคุณอีกครั้งค่า คุณปุยเลยต้องเสียเวลาตามพัสดุให้อีก Many thanks from the bottom of my heartนะจ๊ะ
    โดย: haiku 29 ตุลาคม 2551 15:35:09 น.
  • อืมม์..ลึกซึ้งดีนะคะ

    อยากอ่านภาษาจีนเก่งๆ ได้มั่งจังนะนี่


    ชอบทานของหวานเหมือนกันเหรอคะ? เหมือนกันเลยอ้ะ
    โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 29 ตุลาคม 2551 17:12:25 น.

  • โดย: big-lor 29 ตุลาคม 2551 17:15:42 น.
  • ค่ำสวัสดิ์ครับคุณไฮกุ
    ขอบคุณมากครับ ขอบคุณในกุศลเจตนาที่จะร่วมบุญ แค่นี้บุญก็ส่งเสริมมากแล้วครับ จิตเป็นกุศล ลุงกล้วยขอให้มีความสุขมากๆครับ สาธุ
    โดย: ลุงกล้วย 29 ตุลาคม 2551 18:36:30 น.




  • ตาดีแต่ตอนอ่านค่ะ เพราะอ่านทีไรจะผิดไม่ค่อยได้
    เพราะผิดที ต้อรือ้งานทดลองใหม่ที่นี้แหละยาวววว เลยล่ะคะ
    ว่ากันไปน่ะค่ะคุณไฮกุ งานบังคับน่ะคะ

    งานที่ทำ ทำให้ต้องตะลอนๆค่ะ ไม่รู้สุขไหม สุขๆทุกข์ค่ะ
    ตอนนี้ยังโอเคมากๆ ก็ทำไปเรื่อยๆ
    มันอาจจะอยู่ตัวด้วยเพราะตะลอนมานานแล้ว
    ตั้งแต่สมัยเรียนน่ะคะ ไปตามวาระ และบุญ กรรมค่ะ

    ภาษาจีนเรียนได้ ก็เยี่ยมแล้วล่ะคะ

    รูปนี้อะไรค่ะ

    จะว่ามันโถก็เล็กจัง
    จะว่าซาลาเปาก็ดูผิดรูป เฉลยด่วนค้า
    ถ้าไม่เกรงใจจะให้ส่งpost ของน่ากินให้นะคะนี่
    เกรงใจค้าว่าจะเน่าซะก่อน





    โดย: Sweety-around-the-world 29 ตุลาคม 2551 19:46:47 น.
  • สงสัยเหมือนกันค่ะว่าเป็นอะไร

    หมั่นโถวเล็กหรือเปล่าเอ่ย

    ไม่ใช่อะไร

    นึกถึงขาหมู ถ้ามีด้วย

    ก็เหมาะเจาะเลยค่ะ
    โดย: หยุ่ยยุ้ย 29 ตุลาคม 2551 20:10:40 น.


  • ไปฟังเพลงกันค่ะ...

    คืนนี้ฝันดีน้า...

    โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 29 ตุลาคม 2551 21:02:22 น.
  • มาดูว่ามีเพลงฟังหรือยัง
    โดย: ลุงแอ๊ด 29 ตุลาคม 2551 21:28:24 น.
  • คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

    ตาลายค่ะสีตัวหนังสือกลืนไปกับภาพ
    เลยไม่รู้ว่าเราพิมพ์ผิดไปไหม
    ว่าแต่ว่าจะแวะมาบอกว่า
    อ่านเพลินเจ้าค่ะ
    แต่ที่ชอบมากๆ
    ว่าจะแวะมาขอหมั่นโถวและชาจีนซดให้คล่องคอ
    ได้ไหมค่ะ
    อิอิอิ

    โดย: อุ้มสี 29 ตุลาคม 2551 21:33:38 น.
  • สาวไกด์...ชอบหม่ำของหวานค่ะ โดยเฉพาะของหวานไทยๆจะยิ่งชอบใหญ่ ขนมหวานของการบินไทยในบล๊อคสาวไกด์ทำออกมาได้น่ากินมากเลยค่ะ

    นายบิ๊ก...

    ลุงกล้วย...ขอบคุณที่แวะมานะคะ

    คุณไก่...เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เรียนภาษาจีนอีก ไม่ได้เรียนแถมไม่ได้ใช้ สุดท้ายก็ลืมโม้ด ดีที่ยังได้ทำบล๊อคเกี่ยวกับภาษาจีน ได้เรียกความจำคืนมามั่ง

    รูปที่ถามนั่นเป็นหมั่นโถวไม่ใช่ซาลาเปาค่ะ แต่รูปที่แปะข้างๆโหลดไม่ขึ้นเลยไม่เห็นหน้าตาขนมว่าเป็นยังไง แต่อย่าส่งของกินเลยฮ่ะ กลัวจะเน่าก่อนอย่างคุณไก่ว่า แค่นึกถึงกันก็ซึ้งใจแล้วค่า

    คุณยุ้ย...เสิร์ชรูปเองก๊ะมือ หมั่นโถวแน่นอนจ๊ะ เมืองไทยเห็นทำหมั่นโถวเป็นแบบนี้ทั้งนั้น

    คุณยุ้ยเจ้าขา ของที่นึกถึงนั่น เหมาะเจาะก็จริงแต่เพิ่มนำ้หนักอย่างแรงเลยนะฮ้า

    ป้้าหู้...ดีจัง คุณป้าอัพเพลงให้ฟังอีกแล้ว ไว้จะตามไปฟังค่า

    ลุงแอ๊ด...เพิ่งแปะเพลงตะกี้เองค่ะ ไม่รู้ว่าลุงแอ๊ดชอบหรือเปล่า ที่จริงอยากได้เพลงบรรเลงขลุ่ยแบบเก๋ากึ๋ก แต่หาไม่เจออ่ะ

    คุณอุ้ม...คุณอุ้มทักเลยเปลี่ยนรูปในกล่องเม้นท์ใหม่แล้วค่ะ

    นอกจากหมั่นโถวแล้วก็ขอนำเสนอปาท่องโก๋กะขนมเปียะ ชอบอย่างไหนก็ลุยเลยจ้า


    โดย: haiku 29 ตุลาคม 2551 23:22:15 น.
  • เรานึกถึงสารคดีทางสายไหม
    ที่ทางไทยพีบีเอส เอามาฉายน่ะ
    โดย: ณ มน 30 ตุลาคม 2551 11:05:58 น.
  • เขียนตัวอักษรจีนสวยมากเลยค่ะ เก่งจัง
    เพลงประกอบบล็อกก็เพราะ อ่านเนื้อหาก็ได้ความรู้อีก

    ขอบคุณมากค่ะ ที่เล่าเรื่องเมืองเว่ยผ่านบทกวีให้อ่าน

    มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ
    โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 30 ตุลาคม 2551 12:08:57 น.
  • ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี .....เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเหมือนกัน

    มันคงเป็นอารมณ์ว่า อ่านบทกวีแล้ว มันทำให้เกิดมโนภาพขึ้นมา และพอดูภาพแล้ว มันทำให้สร้างบทกวีขึ้นมาได้เช่นกัน

    คิดๆ แล้วก็อยากลองไปอยู่ยุคแบบนั้นบ้างจังเลยอ่ะ นั่งจิบชา ชมความงามธรรมชาติ ท่องบทกลอน คงสุขสงบดีพิลึก พอเทียบกับชีวิตที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายทุกวันนี้



    โดย: กวางตุ้งหวาน 30 ตุลาคม 2551 21:58:36 น.
  • เอ่อ.... เห็นไฮกุบอกว่าเปลี่ยนรูปในกล่องเม้นท์ ไม่รู้เรามาตอนเปลี่ยนแล้วรึยังอ่ะ เพราะตัวหนังสือสีขาว กับพื้นหลังขาวๆ อันนี้ มันยิ่งกลืนกันใหญ่เลยอ่ะไฮกุ (แอบมึนด้วยคน)
    โดย: กวางตุ้งหวาน 30 ตุลาคม 2551 22:00:34 น.


  • From...Pahu and Pamaew karrr!!!...
    โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 31 ตุลาคม 2551 14:34:50 น.



  • คุณไฮกุค่ะ มาส่งสารค่ะ
    ทำไม่ได้งอนค่ะ


    อันนี้ ย้ำ ย้ำ และ ย้ำ
    อันนี้แถมมาน้า นอกเรื่องค่ะ แบบไม่มีว่ากันนะคะ
    มาชวนเล่าเรื่องความฝันน่ะคะ
    (ความใฝ่ฝัน ฝันที่เป็นจริง ไม่รวมที่ฝันเมื่อคืนนะ)
    ถ้าส่วนตัวมากไปก็ไม่เป็นไรนะคะ เว้นไปได้ค่ะ
    มาชวนเผื่อจะไดเเชร์กันค่ะ ไม่มีงอนถ้าไมมาแชร์ค่ะ
    ย้ำมากหน่อย กลัวว่า จะว่ากันน่ะคะ

    แต่ถ้าโอเค แล้วก็ถ้ามีหลายฝันไม่ว่ากันคะ
    จะได้รู้จักกันมากขั้นนะ นะ นะคะ


    โดย: Sweety-around-the-world 31 ตุลาคม 2551 23:31:02 น.
  • ย่องๆ มาหาสาระความรู้นิสนึง

    สบายดีนะคับ
    โดย: canx 1 พฤศจิกายน 2551 1:01:25 น.
  • ภาพนี้เป้น ภาพที่สวยงามมากเลยครับ
    โดย: everything on 2 พฤศจิกายน 2551 20:35:20 น.
  • ณ มน...สารคดีสายไหมนี่เก่ามากเลยนะ เราเคยดูตอนที่เอามาฉายครั้งแรก ลืมไปแล้วว่าฉายทางช่องไหน แต่จำได้แม่นอยู่อย่างคือ ดนตรีประกอบนี่แหละ ได้ยินทีไรก็นึกถึงสารคดีชุดนี้ทุกที

    ฝากเธอ...ขอบคุณสำหรับคำชมค่า อ่านเม้นท์แล้วอะฮั้นยิ้มแป้นเลยฮ่ะ

    ตุ้ง...สองวรรคนี่เป็นคำพูดอมตะเลยนะเนี่ย เราได้ยินครั้งแรกจากหนังจีนเมื่อน๊านนานมาแล้ว ตุ้งพูดได้ถูก ภาพวาดและบทกวีของจีนประสานเป็นหนึี่งเดียว ภาพวาดงดงามเหมือนบทกวี บทกวีให้ภาพงดงามดั่งภาพวาด

    นั่งจิบน้ำ ชมธรรมชาติ ตามด้วยท่องบทกลอน...อืมม สุนทรีย์สุดๆเลยนะจ๊ะ ที่จริงไม่ต้องย้อนยุคก็ทำได้น้า ชงชาสักถ้วย หาหนังสือบทกวีสักเล่มมาอ่านแล้วนั่งชมธรรมชาติเงียบๆก็แสนจะสุขีสุโขแว้ววว แต่อยู่กทม.คงหาวิวงามๆได้ยากหน่อยอ่ะนะ

    เปลี่ยนสีตัวหนังสือให้แล้ว ลืมดูไป ขอบคุณที่บอกนะจ๊ะ

    ป้าหู้...ขอบคุณคุณป้าที่แวะมาอวยพรวันปล่อยผีค่า

    คุณไก่...เราคนกันเอง ไม่ว่ากันหรอกจ๊ะ แล้วจะตามไปแจมที่บล๊อคค่า

    canxกะคุณแมท...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่า


    โดย: haiku 2 พฤศจิกายน 2551 21:02:04 น.









  • คุณไฮกุ เราใจเดียวแต่ตรงกันหลายอย่างเลย
    บางทีไก่ก็เที่ยวแบบhispeed ไปหน่อย
    ก็ได้แต่บันทึกความทรงจำไว้ด้วยรุป เท่าที่จะทำได้ พอแก่แล้วมันจะเลือน

    แต่ไปที่ไหนก็ไม่เคยลืมจะเข้าmuseumค่ะ หลงรักเหลือเกิน
    โดยเฉพาะภาพเขียน อันนี้แยกกันไม่ได้เลย
    มีครั้งหนึงไปLondon ห้าวันเข้าmuseum ฟรีไปสี่วัน
    เพื่อนที่นั่นยังถามเลยว่าไปทำอะไรนักหนา
    ที่อังกฤษดีค่ะ museum เขาฟรีตลอด
    แต่เขาห้ามถ่ายรูป

    โดย: Sweety-around-the-world 3 พฤศจิกายน 2551 1:50:55 น.
  • สวัสดีครับคุณไฮกุ


    รูปวัดโลกโมฬี
    แต่งภาพนิดหน่อยแต่ไม่มากครับ
    แค่ปรับแสงให้สว่างขึ้นนิด
    และใส่ความคมชัดเท่านั้นเอง

    ส่วนใหญ่ทุกภาพทำเสร็จในกล้องแล้วครับ

    วัดนี้เค้าใส่ไฟเยอะครับ
    เลยถ่ายออกมาแล้วสีทอง
    ถ้าไปดูตอนกลางวันก็ไม่ใช่สีทองนะครับ หุหุหุ








    โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 3 พฤศจิกายน 2551 7:10:09 น.
  • ไฮกุจ๋าไปเที่ยวเมืองเท่กันเหอะ
    โดย: ณ มน 3 พฤศจิกายน 2551 11:34:32 น.
  • เข้ามาเยี่ยม จขบ. จ้า ขอบคุณที่ไปเยี่ยมกันนะคะ
    ไม่ได้อัพบล๊อกมาจะ 2 ปีละ เพิ่งอัพอ่ะ ไงก้ไปเยี่ยมกันบ่อยๆนะคะ

    ปล.เพลงเพราะจัง ชอบเสียงอ่ะ มันคือเครื่องดนตรีอะรหรอคะ
    โดย: สวนลอยแห่งบาบิโลน 3 พฤศจิกายน 2551 11:37:33 น.


  • ขอให้มีความสุขในวันจันทร์นะคะ

    โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 3 พฤศจิกายน 2551 14:01:42 น.
  • แวะมาเยี่ยมตอนบ่าย ๆวันจันทร์ค่ะ
    ขอบคุณมากนะคะที่ไปฟังเพลงด้วยกัน
    มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ

    โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 3 พฤศจิกายน 2551 15:35:23 น.
  • ขาหมูหมั่นโถว นานๆที น้ำหนักไม่เพิ่มมากหรอกนะคะ

    กินเสร็จค่อยลดก็ยังทัน 555
    โดย: หยุ่ยยุ้ย 3 พฤศจิกายน 2551 17:38:13 น.
  • สวัสดียามเช้าครับ


    มาพร้อมหนุ่มหล่ออีกแล้วครับ อิอิอิ


    โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 4 พฤศจิกายน 2551 6:31:31 น.
  • คุณไก่...แบบนี้ก็คอเที่ยวคอเดียวกันเลยนะคะเนี่ย เราก็ชอบดูงานศิลปะวัฒนธรรมมากกว่าชอปปิ้ง เมืองนอกมีพิพิธภัณฑ์เยอะแยะไปหมด แบบนี้คงถูกใจคุณไก่สุดๆ คุณไก่บอกว่าเข้าmuseumสี่วันซ้อนแล้วนึกถึงอาจารย์ท่านนึง ท่านออกทีวีบ่อยๆ เราจำชื่อไม่ได้แล้ว ท่านเล่าว่าไปฝรั่งเศสกี่รอบก็จะเข้าลูฟว์ทุกที มีหนนึงท่านไปสี่วันติดๆกัน จนผอ.พิพิธภัณฑ์มาเชิญไปทานข้าวด้วยเลย

    คุณก๋า...วัดโลกโมฬีงามดีจังค่ะ สงสัยจะใช้สปอร์ตไลท์แบบแรง สีทองออกมาแจ่มมั่กๆ

    หลานหมิงของอิฉันหน้าตาสดใสเชียว น่ารักจริงๆเลย

    ณ มน...แล้วจะตามไปเที่ยวจ้า

    สวนลอยฯ...โห หายหน้าไปนานจริงๆ welcome back to bloggangค่า

    ปล. เป็นเพลงจีนบรรเลงด้วยขลุ่ยจีนค่ะ

    ป้าหู้...ขอบคุณคุณป้ามากที่แวะมาเยี่ยมนะคะ

    เราสองคน...แล้วจะแวะไปฟังเพลงเพราะๆค่า

    คุณยุ้ย...อย่าลืมตัวหม่ำหลายรอบละกัน เดี๋ยวลดไม่ลง จะหาว่าดั๊นไม่เตือนนะฮ้า
    โดย: haiku 4 พฤศจิกายน 2551 9:57:26 น.
  • อ่านแล้วคุ้นๆ เหมือนอ่านแล้ว อ่อ ที่แท้ก้อ่านแล้ว(สงสัย มันจะบ้าแร้น อิจี้)
    โดย: angy_11 14 พฤศจิกายน 2551 14:29:03 น.
  • สวัสดีครับคุณไฮกุ

    แวะมาทักทายยามเช้า
    พร้อมหนุ่มหล่อครับ อิอิอิ




    โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 15 พฤศจิกายน 2551 7:30:03 น.