ทำบล๊อควาดไผ่แล้วนึกอยากเขียนตัวอักษร เขียนไม่นานก็เสร็จเพราะเป็นบทกวีสั้น ๆ งวดนี้อัพให้อ่านสองบท แต่ ๆ ละบทมีคำอธิบายยาวทั้งคู่เลยแยกเป็นสองบล๊อคเหมียนเดิม อ่านคำอธิบายท้ายบทกวีบทนี้ที่ได้ยินมานานแล้วแต่เพิ่งจะรู้ว่าเป็นคำพูดของท่านซูตงปัว
"ซูตงปัวชมงานของหวังเหว่ยว่า ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี
诗中有画 画中有诗 (ซือจงโหย่วฮว่า ฮว่าจงโหย่วซือ)"
ภาพจากเวบ //downloads.zdnet.com/abstract.aspx?docid=303080
เพลงเมืองเว่ย
หวังเหวย
ฝนเมืองเว่ยยามเข้า ฝุ่นเปียกชื้น
ที่พักแรม ต้นหลิวสีสันใหม่เขียวขจี
ขอเชิญท่านดื่นสุราให้หมดอีกสักถ้วย
ออกจากด่านหยังกวนไปทางตะวันตก ไร้ผู้คุ้นเคย
หมายเหตุเว่ยเฉิงฉวี่เหรือเพลงเมืองเว่ย เป็นซือในสมัยราชวงศ์ถัง (เว่ยเฉิง = เมืองเว่ย ฉวี่ = เพลง) มีชื่อเดิมว่า ซ่งหยวนเอ้อร์สื่ออานซี แปลว่า ส่งหยวนเอ่อร์ไปทำราชการที่เมืองอานซี เมืองอานซีเป็นเมืองบทเส้นทางสายแพรไหม อยู่เลยด่านจยาอวี้กวนออกไป เมืองอานซีเป็นเมืองชุมทางของเส้นทางแพรไหมสายต่าง ๆ กล่าวคือ เมื่อออกเดินทางจากเมืองซีอาน ผ่านเมืองหลายเมืองและด่านจยาอวี้กวนแล้ว เดินทางต่อไปก็จะถึงเมืองซีอาน จากเมืองนี้เส้นทางสายแพรไหมสมัยราชวงศ์ถึงจะแยกเป็น ๓ เส้นทาง
ทางแรก เป็นเส้นทางเหนือของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานเป่ยลู่)
ทางที่สอง เป็นเส้นทางใต้ของเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซานหนานลู่) และ
ทางที่สาม เป็นเส้นทางเหนือภูเขาคุนหลุน (คุนหลุนเป่ยลู่ หรือ กู่หนานเต้า)
นอกจากนั้น ซือบทนี้ยังมีชื่ออื่น ๆ อีก คือหยังกวนฉวี่ (เพลงด่านหยังกวน) หยังกวนซานเตี๋ย (ซ้ำคำว่า หยังกวน ๓ ครั้ง) ในสมััยราชวงศ์ถังได้นำซือบทนี้ไปใส่ทำนอง และเพิ่มเนื้อร้องเป็นเพลง ชื่อว่า เว่ยเฉิงฉวี่ (เพลงเมืองเว่ย) นอกจากเป็นชื่อเพลงแล้ว ได้กลายมาเป็นชื่อบทของซือด้วย เมืองเว่ยตั้้งอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่นำ้เว่ย (เว่ยเหอ) ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซีอาน มณฑลส่านซี สมัยราชวงศ์ฉินเรียกว่า เมืองเสียนหยัง สุสานของจักรพรรดิ์ฉินสือหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) อยู่ในเมืองนี้ ปัจจุบันกลับมาเรียกว่า เสียนหยังอีก มิได้เรียกว่า เว่ยเฉิง ในสมัยราชวงศ์ถัง มักจะเลี้ยงอำลาผู้ที่จะเดินทางจากซีอาน มุ่งไปทางทิศตะวันตกที่เมืองเว่ย
หวังเหว่ย (ค.ศ.๗o๑-๗๖๑) เป็นผู้ประพันธ์ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ มีอีกชื่อหนึ่งว่า หวังมั่วจี้ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ฉีโจว ปัจจุบันคือ อำเภอฉี มณฑลซานซี ต่อมาย้ายติดตามบิดาไปอยู่ที่ฝูโจว ปัจจุบันคือ อำเภอหย่งจี้ มณฑลซานซี ในค.ศ.๗๒๑ อายุ ๒o ปี สอบได้จิ้นซื่อ ได้เข้ารับราชการเป็นขุนนาง ต่อมา (ค.ศ.๗๕๕) เกิดกบฏอานลู่ซาน หวังเหวงรับราชการกับฝ่ายกบฏ เมืองเจ้าชายรัชทายาทซึ่งตั้งตนขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ์ซู่จงปราบกบฏได้ (ค.ศ.๗๕๗) หวังเหวยจึงถูกลดตำแหน่่ง แต่ในภายหลังก็ได้กลับมาดำรงตำแหน่งสูงอีกในบั้นปลายชีวิต ใช้ชีวิตอย่างสงบ เรียบง่าย แต่งบทกวีต่าง ๆ
ในด้านการประพันธ์บทกลอน หวังเหวยได้รับยกย่องว่าแต่งดีเทียบเท่าเมิ่งเฮ่าหราน เป็น หวัง-เมิ่ง แห่งราชวงศ์ถัง ผลงานในระยะต้นมักนำเรื่องชายแดนมาเป็นแก่นในการประพันธ์ แต่งานส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับทิวทัศน์ ภูเขา แม่นำ้ นาสวน ธรรมชาติ รวมทั้งได้แทรกคติธรรมของศาสนาพุทธมหายาน นิกายธยาน (ฌาณ) ไว้ด้วย นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า งานของหวังเหวยพรรณนาดี และมีความละเอียดอ่อน หวังเหวยนอกจากเป็นกวีแล้วยังเก่งด้านดนตรี การเขียนตัวอักษรและการวาดภาพ จึงสามารถนำหลักการวาดภาพและการเล่นดนตรีมาใส่ในบทกวี ซูตงปัวชมงานของหวังเหว่ยว่า ในบทกวีมีภาพวาด ในภาพวาดมีบทกวี (ซือจงโหย่วฮว่า ฮว่าจงโหย่วซือ) ผู้คนชมว่า ซูตงปัวสรุปลีลางานศิลป์ของหวังเหว่ยได้อย่างดี
ส่วนภูมิหลังการประพันธ์ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ นั้น หวังเหวยเขียนส่งเพื่อนที่จะเดินทางจากซีอานไปทางทิศตะวันตก เพื่อนออกเดินทางในฤดูใบไม้ผลิ หวังเหวยและเพื่อนอำลากันที่เมืองเว่ย ซือบทนี้สื่อถึงอารมณ์อาลับอาวรณ์ระหว่างพื่อนในยามจากกัน หวังเหวยเขียนพรรณนาได้ดี สื่อความได้แจ่่มชัด ทั้ง ๆ ที่ใช้ซือเพียง ๔ บาทเท่านั้น กวีสมัยราชวงศ์ถังเขียนซือเกี่ยวกับการอำลาไว้หมื่น ๆ บท ซือ เว่ยเฉิงฉวี่ ได้รับการยกย่องว่า เป็นซือส่งเพื่อนที่แต่งได้สุดยอดบทหนึ่ง
ในด้านบทกลอน บาทที่ ๑ สื่อความว่า ในตอนเช้าที่เมืองเว่ยฝนตกไม่มาก แต่ก็ทำให้ฝุ่นเปียกชื้น ไม่ปลิวขึ้นมา
บาทที่ ๒ ke she (เค่อเซ่อ) หมายถึง ที่พักแรมของทางราชการตามทางหลวงต่าง ๆ จะอยู่ห่างกันเป็นช่วง ๆ ในสมัยก่อนใช้เป็นที่พักม้าและที่พักแรมของคนส่งสาร ขุนนางที่ไปปฏิบัติราชการต่างเมืองก็แวะพักที่เค่อเซ่อระหว่างการเดินทาง นอกจากนั้นใช้เป็นที่เลี้ยงส่งอำลากันด้วย เค่อเซ่อแต่ละแห่งมักปลูกต้นหลิวรายรอบ สมัยก่อนมีการคำณวนไว้เลยว่าจากเมืองนี้ไปเมืองโน้นใช้เวลากี่วัน ตามรายทางมีเค่อเซ่อที่ไหนบ้าง การมีเค่อเซ่อช่วยให้เดินทางส่งสารได้รวดเร็ว เป็นทางหนึ่งในการช่วยควบคุมหัวเมืองรวมอำนาจเข้าสู่ศูยน์กลาง
บาทที่ ๔ ด่านหยังกวงเป็นด่านที่อยู่เลยเมืองอานซีออกไปบนเส้นทางแพรไหมสายคุนหลุนเป่ยลู่ เป็นด่านเกือบสุดท้ายในเส้นทางนี้ อยู่แถบเมืองตุนหวง พ้นจากนี้ก็เป็นเขตเวิ้งว้างไกลสุดตาของทะเลทรายมีผู้คนอยู่น้อย เส้นทางแพรไหมทางตะวันตกของจีนมีชนกลุ่มน้อยเผ่าต่าง ๆ อาศัยอยู่หลายเผ่า
นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า ซือบทนี้เด่นต่างจากซืออำลาทั่ว ๆ ไปที่เขียนถึงอารมณ์บีบคั้น ความเศร้าสลด แต่ซือบทนี้ไม่เขียนเช่นนั้น ไม่มีสักคำที่พูดว่าเสียใจ กวีเขียนในแนวสบาย ๆ สองทางแรกสื่อถึงภาพยามเช้าและต้นหลิวเขียวขจี สองบาทหลัง ชวนดื่มเหล้า คุยกันอย่างจริงใจด้วยนำ้มิตร และยำ้ความอาลัยอาวรณ์ว่า พ้นจากด่านหยังกวนแล้วไม่มีผู้คุ้นเคย
ข้อความในบล๊อคนี้นำมาจากหนังสือ "หยกใสร่ายคำ"
บทพระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
บีจีและไลน์จากคุณญามี่
ไม่รู้จะไปแจ้งใครเลยนั่งรอ
ถ้ามีเพลงบรรเลง ขฃุ่ยจีน ประกอบบลอกนี้คง เพลินไปเลย
โดย: ลุงแอ๊ด 27 ตุลาคม 2551 22:29:51 น.
อุตส่าห์มาโฆษณาไว้เสียดิบดี
ปรากฏว่าวันนี้งานยุ่งมากมายจนอัพบล็อกไม่ไหวครับ 5555
ต้องขออภัยด้วยนะครับ
รูปทำเสร็จแล้วล่ะครับ
แต่ไม่มีแรงเหลือพอที่จะอัพบล็อกเลยครับ 55555
ขอพลัดไปอีกพลัดเป็นเย็นพรุ่งนี้นะครับ
ราชวงศ์ถังเป็นยุคทองของศาสนาพุทธและบทกวีจริงๆนะครับ
มีพระอริยะ และกวีอัจฉริยะหลายท่านมากมาย
เป็นยุคที่ผมคิดว่าเจริญและเสื่อมที่สุดในประวัติศาสตร์จีนเลยครับ
เป็นสัจธรรมที่เตือนใจเราได้ดีครับ
ว่าบ้านเราก็อาจมีชะตากรรมแบบนี้
ถ้าเราไม่ระวังให้ดี
โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 27 ตุลาคม 2551 22:45:04 น.
มาบอกว่าปายนองกางริ้ว...ดึกแย้ววว...
และมาบอกว่าคิดถึงโด้ยยยละ...
ป้าหู้เอ่านก็ช้าพิมพ์ก็ช้าเลยมาทักทายช้าปายด้วย
กว่าจะผ่านด่านต่างๆมาถึงอ่ะจ่ะ...อย่าเคืองป้าเลยน้า มารอฟังเพลงด้วยจ่ะ
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 28 ตุลาคม 2551 0:21:43 น.
วันนี้วันพระ ลุงกล้วยขอให้คุณไฮกุมีจิตใจแจ่มใสและมีความสุขนะครับ
โดย: ลุงกล้วย 28 ตุลาคม 2551 7:03:03 น.
ปล.คุณไฮกุได้รับสินค้ายังค่ะ ลืมถามอ่ะ อิชั้นส่งไปนานแล้วฮ่ะ
โดย: pukpui IP: 124.121.106.183 28 ตุลาคม 2551 8:01:47 น.
จังเลยอ่ะค่ะคุณไฮกุ แบบว่าอ่านไปแล้วเหมือนว่าภาพมันค่อยๆ
ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนที่เราเคยดูทีวีผ่านตา ...
เราพยยามอ่านกลอน หรือว่าบทกวีให้เหมือนกับ
ที่เคยดูหนังจีนน่ะค่ะ แต่เอ ดูท่าว่าท่าทางเหมือน
แต่ว่าอารมณ์ยังไม่ค่อยได้เลยค่ะ
โดย: JewNid 28 ตุลาคม 2551 12:59:20 น.
รีบมาบอกว่าอัพบล้อกภาพเขียนของชาโจ้แล้วครับ
หุหุหุ
อัพแต่หัววัน
เพราะกลัวเย็นนี้มาดามจะชวนไปเดินห้างก่อนครับ 555555
เห็นหมึกกับกระดาษแล้วไม่อยากใช้
แต่ชาโจ้ย้ำแล้วย้ำอีกครับว่า
ซื้อมาให้ใช้ ว่าแล้วแกก็ฝนหมึกโชว์ซะเลย
หมึกแหว่งไปเลยครับ
สมุดพอผมบอกว่าจะเก็บไว้
แกก็เอามาแล้วก็เขียนโชว์ซะเลย 555555
คงได้เอามาใช้แน่ๆครับ
แต่เดี๋ยวขอตั้งสมาธิให้ดีดีสักหน่อยครับ
ช่วงนี้มัวแต่มุ่งไปที่เรื่องการทำบุญของเด็กนักเรียนครับ
ต้นเดือนหน้าคงเรียบร้อยแล้ว
จะมานั่งวาดพู่กันเดียวสักชุดครับ
โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 28 ตุลาคม 2551 14:44:50 น.
แต่เข้าบ้านไม่ได้
อ่านภาษษจีนสักน้อย เผื่อความจำจะฟื้นมาบ้าง
โดย: หยุ่ยยุ้ย 28 ตุลาคม 2551 20:00:56 น.
คุณไฮกุคะ น่าทึ่งนะคะภาษาแปล ที่แปลออกมาออกมา
เพราะคนไม่รู้ ก็จะไม่รู้ เชื่อตามคนแปล แปลออกมายังไง คนอ่านก็ซึมซับเอาตามนั้นเลย คำแปลสี่วรรคเท่านั้นที่แปลออกมาได้ความรู้สึกจริงๆ
คนไทยอ่านภาษาไทยบางทีไม่รู้ว่าเข้าใจถูกไหม
ตัวหนังสือจีนคุณไฮกุเป็นคนเขียน
หมายเหตุมาจากบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ส่วนกวีบทนี้
ฝนเมืองเว่ยยามเข้า ฝุ่นเปียกชื้น
ที่พักแรม ต้นหลิวสีสันใหม่เขียวขจี
ขอเชิญท่านดื่นสุราให้หมดอีกสักถ้วย
ออกจากด่านหยังกวนไปทางตะวันตก ไร้ผู้คุ้นเคย
สมเด็จพระเทพแปลหรือว่าคุณไฮกุแปลด้วยตัวเองอีทีค่ะ
กวีสี่วรรคของคุณไฮกุอ่านแล้วนึกถึงตัวเองคะ เป็นคนที่ต้องตะลอนๆ
บางที่เราเจอที่ที่ชอบ เพื่อนร่วมทางที่ดีๆ ได้พูดคุยกัน
ตอนจากกันจะรู้สึกแบบกลอนบทนี้ ยังไงไม่รู้ค่ะ รู้สึกถึงความห่วงใย
แม้มันจะไม่เท่ากับที่เพื่อนจริงๆ ของเราจะมี
แต่ก็ทำให้การเดินทางเพียงลำพัง รู้สึกดีขึ้นค่ะ
บทกวีของบทที่ไปฝากไว้ที่บ้านไก่ ชอบมากๆค่ะ
ขอบคุณนะคะ มีบทไหนถูกใจคุณไฮกุเอาไปแปะไว้ที่บ้านไก่บ้างนะคะ จะได้อ่านไปด้วยกัน
โดย: Sweety-around-the-world 29 ตุลาคม 2551 0:05:37 น.
โดย: angy_11 29 ตุลาคม 2551 9:51:35 น.
อืม คุณลุงแนะนำเข้าท่าดี เดี๋ยวจะลองหาเพลงมาแปะให้ฟังค่ะ
คุณก๋า...ขอบคุณที่อัพรูปคุณซาโจ้ให้ดูนะคะ เดี๋ยวแวะไปดูที่บล๊อคค่ะ
ถ้าได้อุปกรณ์ดีๆก็ช่วยให้เขียนภาพได้สวยขึ้นนะ ทั้งหมึกทั้งกระดาษที่คุณซาโจ้ให้มา เห็นแล้วเสียดาย เป็นเราคงเก็บเข้าตู้แหงมๆ ไว้จะรอดูภาพพู่กันเดียวบนกระดาษญี่ปุ่นของคุณก๋าค่ะ
หนังสือเล่มนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับบทกวีจีนเยอะเลยค่ะ นอกจากจะได้อ่านบทกวีที่เพราะๆแล้ว สมเด็จพระเทพฯยังทรงอธิบายความหมายอย่างถูกต้อง และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับบทกวีด้วย อ่านแล้วเพลินมากเลยค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกับคุณก๋าด้วยนะคะ
ป้าหู้...มาช้าดีกว่าไม่มา ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ สาวน้อยที่ป้าหูพามาด้วยทั้งสวยทั้งเซะซี่เลย
ลุงกล้วย...ขอบคุณที่แวะมาอวยพรแต่เช้าเลย ลุงกล้วยรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
คุณปุย...เอ ต้นเหมยเหรอ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ เคยเห็นแต่ในรูปวาดจีน ต้นจริงๆยังไม่เคยเห็น สงสัยถ้าคุณปุยอยากปลูกจริงๆคงต้องถ่อไปขอพันธุ์ที่เมืองจีนละมั้ง
ปล. ขอบคุณมากนะคะที่ส่งดีวีดีให้ ยังไม่ได้รับเลยค่ะ รออยู่นานแต่เกรงใจไม่กล้าทวงฮ่ะ สงสัยว่าจะตกหล่นกลางทางซะแว้ววว
คุณนิด...หนังที่นึกถึงคงเป็นฉากห้องเรียนสอนบทกวีแหงมๆถ้าจะอ่านให้ได้อารมณ์ คุณนิดต้องเลียนแบบในหนัง เวลาอ่านกลอนไปต้องส่ายหัวไปด้วย
ถ้าคุณนิดอ่านคำแปล อารมณ์อาจจะไม่ค่อยได้ เพราะไม่มีคำคล้องจองอย่างเวลาอ่านกลอนไทย เคยฟังเหล่าซือที่สอนแต่งโคลง รู้สึกว่าจะมีคำคล้องจอง มีเสียงหนัก-เบาของคำที่ใช้ เวลาฟังท่านอ่านแล้ว ถึงจะฟังไม่รู้ความหมายแต่ก็รู้สึกว่าเพราะค่ะ
คุณยุ้ย...สงสัยคุณยุ้ยจะเข้ามาเวลาเดียวกะลุงแอ๊ดแน่เลย เพราะกะลังอัพบล๊อคอยู่ อาจจะกดผิดกดถูก คุณยุ้ยเลยเข้าบ้านอิฉันไม่ได้
คุณไก่...แฮะ แฮะ พิมพ์ตกไปคำนึง คุณไก่ตาดีจัง ที่จริงต้องเป็นบทพระราชนิพนธ์แปลค่ะ ขอบคุณที่ถามนะคะ นอกจากตัวอักษรจีนแล้ว ทั้งหมดก็นำมาจากหนังสือ "หยกใสร่ายคำ" ที่สมเด็จพระเทพฯทรงแปลไว้ บทกวีในเล่มแต่ละบทเพราะทั้งนั้นเลยค่ะ พระองค์ท่านทรงศึกษาภาษาจีนอย่างลึกซึ้งและแตกฉาน ทำให้ทรงแปลบทกวีจีนได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งและความหมายไม่เพี้ยน
เราเคยเรียนภาษาจีนมาหลายปีแต่เลิกไปนานแล้ว ตอนที่เรียนก็ยังแปลบทความหรือเพลงได้บ้าง แต่บทกวีจีนนี่ฝีมือยังไม่เข้าขั้นหรอกจ๊ะ
อิจฉาคุณไก่อ่ะ มีโอกาสเดินทางไปในโลกกว้าง ได้เปิดหูเปิดตาและเห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆ ขอบคุณที่ทำบล๊อคเผื่อแผ่ประสบการณ์การเดินทางให้เพื่อนๆนะคะ
ดีใจที่ชอบไฮกุที่เอาไปฝากนะคะ
จี้...พูดถึงก็ต้องรีบคว้ามาเสิร์ฟให้เลยเทียว
โดย: haiku 29 ตุลาคม 2551 11:00:13 น.
เพราะลายมือคัดกับลายมือหวัด
คงจะแตกต่างกันในเรื่องของ "จังหวะ" เท่านั้นเอง
อันนี้วัดจากตัวเองนะครับ
เพราะผมเขียนลายมือได้หลายแบบครับ
หวัดก็ได้ แบบทางการก็ได้ครับ
โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 29 ตุลาคม 2551 11:44:40 น.
ต้องขอโทษจริงๆ ไม่ได้ถามคุณไฮกุว่าส่งไปนานแล้วได้รับล่ะยัง งั้น เด่วเผาส่งให้ใหม่ น่ะฮ่ะ โด่ ทำให้คุณไฮกุรอแย่เลย ขอโทษด้วยฮ๋ะ เด่วจะตามให้ค่ะ
โดย: pukpui_s 29 ตุลาคม 2551 13:32:24 น.
คุณปุย...ขอบคุณอีกครั้งค่า คุณปุยเลยต้องเสียเวลาตามพัสดุให้อีก Many thanks from the bottom of my heartนะจ๊ะ
โดย: haiku 29 ตุลาคม 2551 15:35:09 น.
อยากอ่านภาษาจีนเก่งๆ ได้มั่งจังนะนี่
ชอบทานของหวานเหมือนกันเหรอคะ? เหมือนกันเลยอ้ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 29 ตุลาคม 2551 17:12:25 น.
โดย: big-lor 29 ตุลาคม 2551 17:15:42 น.
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณในกุศลเจตนาที่จะร่วมบุญ แค่นี้บุญก็ส่งเสริมมากแล้วครับ จิตเป็นกุศล ลุงกล้วยขอให้มีความสุขมากๆครับ สาธุ
โดย: ลุงกล้วย 29 ตุลาคม 2551 18:36:30 น.
ตาดีแต่ตอนอ่านค่ะ เพราะอ่านทีไรจะผิดไม่ค่อยได้
เพราะผิดที ต้อรือ้งานทดลองใหม่ที่นี้แหละยาวววว เลยล่ะคะ
ว่ากันไปน่ะค่ะคุณไฮกุ งานบังคับน่ะคะ
งานที่ทำ ทำให้ต้องตะลอนๆค่ะ ไม่รู้สุขไหม สุขๆทุกข์ค่ะ
ตอนนี้ยังโอเคมากๆ ก็ทำไปเรื่อยๆ
มันอาจจะอยู่ตัวด้วยเพราะตะลอนมานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยเรียนน่ะคะ ไปตามวาระ และบุญ กรรมค่ะ
ภาษาจีนเรียนได้ ก็เยี่ยมแล้วล่ะคะ
รูปนี้อะไรค่ะ
จะว่ามันโถก็เล็กจัง
จะว่าซาลาเปาก็ดูผิดรูป เฉลยด่วนค้า
ถ้าไม่เกรงใจจะให้ส่งpost ของน่ากินให้นะคะนี่
เกรงใจค้าว่าจะเน่าซะก่อน
โดย: Sweety-around-the-world 29 ตุลาคม 2551 19:46:47 น.
หมั่นโถวเล็กหรือเปล่าเอ่ย
ไม่ใช่อะไร
นึกถึงขาหมู ถ้ามีด้วย
ก็เหมาะเจาะเลยค่ะ
โดย: หยุ่ยยุ้ย 29 ตุลาคม 2551 20:10:40 น.
ไปฟังเพลงกันค่ะ...
คืนนี้ฝันดีน้า...
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 29 ตุลาคม 2551 21:02:22 น.
โดย: ลุงแอ๊ด 29 ตุลาคม 2551 21:28:24 น.
เลยไม่รู้ว่าเราพิมพ์ผิดไปไหม
ว่าแต่ว่าจะแวะมาบอกว่า
อ่านเพลินเจ้าค่ะ
แต่ที่ชอบมากๆ
ว่าจะแวะมาขอหมั่นโถวและชาจีนซดให้คล่องคอ
ได้ไหมค่ะ
อิอิอิ
โดย: อุ้มสี 29 ตุลาคม 2551 21:33:38 น.
นายบิ๊ก...
ลุงกล้วย...ขอบคุณที่แวะมานะคะ
คุณไก่...เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เรียนภาษาจีนอีก ไม่ได้เรียนแถมไม่ได้ใช้ สุดท้ายก็ลืมโม้ด ดีที่ยังได้ทำบล๊อคเกี่ยวกับภาษาจีน ได้เรียกความจำคืนมามั่ง
รูปที่ถามนั่นเป็นหมั่นโถวไม่ใช่ซาลาเปาค่ะ แต่รูปที่แปะข้างๆโหลดไม่ขึ้นเลยไม่เห็นหน้าตาขนมว่าเป็นยังไง แต่อย่าส่งของกินเลยฮ่ะ กลัวจะเน่าก่อนอย่างคุณไก่ว่า แค่นึกถึงกันก็ซึ้งใจแล้วค่า
คุณยุ้ย...เสิร์ชรูปเองก๊ะมือ หมั่นโถวแน่นอนจ๊ะ เมืองไทยเห็นทำหมั่นโถวเป็นแบบนี้ทั้งนั้น
คุณยุ้ยเจ้าขา ของที่นึกถึงนั่น เหมาะเจาะก็จริงแต่เพิ่มนำ้หนักอย่างแรงเลยนะฮ้า
ป้้าหู้...ดีจัง คุณป้าอัพเพลงให้ฟังอีกแล้ว ไว้จะตามไปฟังค่า
ลุงแอ๊ด...เพิ่งแปะเพลงตะกี้เองค่ะ ไม่รู้ว่าลุงแอ๊ดชอบหรือเปล่า ที่จริงอยากได้เพลงบรรเลงขลุ่ยแบบเก๋ากึ๋ก แต่หาไม่เจออ่ะ
คุณอุ้ม...คุณอุ้มทักเลยเปลี่ยนรูปในกล่องเม้นท์ใหม่แล้วค่ะ
นอกจากหมั่นโถวแล้วก็ขอนำเสนอปาท่องโก๋กะขนมเปียะ ชอบอย่างไหนก็ลุยเลยจ้า
โดย: haiku 29 ตุลาคม 2551 23:22:15 น.
ที่ทางไทยพีบีเอส เอามาฉายน่ะ
โดย: ณ มน 30 ตุลาคม 2551 11:05:58 น.
เพลงประกอบบล็อกก็เพราะ อ่านเนื้อหาก็ได้ความรู้อีก
ขอบคุณมากค่ะ ที่เล่าเรื่องเมืองเว่ยผ่านบทกวีให้อ่าน
มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ
โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 30 ตุลาคม 2551 12:08:57 น.
มันคงเป็นอารมณ์ว่า อ่านบทกวีแล้ว มันทำให้เกิดมโนภาพขึ้นมา และพอดูภาพแล้ว มันทำให้สร้างบทกวีขึ้นมาได้เช่นกัน
คิดๆ แล้วก็อยากลองไปอยู่ยุคแบบนั้นบ้างจังเลยอ่ะ นั่งจิบชา ชมความงามธรรมชาติ ท่องบทกลอน คงสุขสงบดีพิลึก พอเทียบกับชีวิตที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายทุกวันนี้
โดย: กวางตุ้งหวาน 30 ตุลาคม 2551 21:58:36 น.
โดย: กวางตุ้งหวาน 30 ตุลาคม 2551 22:00:34 น.
From...Pahu and Pamaew karrr!!!...
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 31 ตุลาคม 2551 14:34:50 น.
คุณไฮกุค่ะ มาส่งสารค่ะ
ทำไม่ได้งอนค่ะ
อันนี้ ย้ำ ย้ำ และ ย้ำ
อันนี้แถมมาน้า นอกเรื่องค่ะ แบบไม่มีว่ากันนะคะ
มาชวนเล่าเรื่องความฝันน่ะคะ
(ความใฝ่ฝัน ฝันที่เป็นจริง ไม่รวมที่ฝันเมื่อคืนนะ)
ถ้าส่วนตัวมากไปก็ไม่เป็นไรนะคะ เว้นไปได้ค่ะ
มาชวนเผื่อจะไดเเชร์กันค่ะ ไม่มีงอนถ้าไมมาแชร์ค่ะ
ย้ำมากหน่อย กลัวว่า จะว่ากันน่ะคะ
แต่ถ้าโอเค แล้วก็ถ้ามีหลายฝันไม่ว่ากันคะ
จะได้รู้จักกันมากขั้นนะ นะ นะคะ
โดย: Sweety-around-the-world 31 ตุลาคม 2551 23:31:02 น.
สบายดีนะคับ
โดย: canx 1 พฤศจิกายน 2551 1:01:25 น.
โดย: everything on 2 พฤศจิกายน 2551 20:35:20 น.
ฝากเธอ...ขอบคุณสำหรับคำชมค่า อ่านเม้นท์แล้วอะฮั้นยิ้มแป้นเลยฮ่ะ
ตุ้ง...สองวรรคนี่เป็นคำพูดอมตะเลยนะเนี่ย เราได้ยินครั้งแรกจากหนังจีนเมื่อน๊านนานมาแล้ว ตุ้งพูดได้ถูก ภาพวาดและบทกวีของจีนประสานเป็นหนึี่งเดียว ภาพวาดงดงามเหมือนบทกวี บทกวีให้ภาพงดงามดั่งภาพวาด
นั่งจิบน้ำ ชมธรรมชาติ ตามด้วยท่องบทกลอน...อืมม สุนทรีย์สุดๆเลยนะจ๊ะ ที่จริงไม่ต้องย้อนยุคก็ทำได้น้า ชงชาสักถ้วย หาหนังสือบทกวีสักเล่มมาอ่านแล้วนั่งชมธรรมชาติเงียบๆก็แสนจะสุขีสุโขแว้ววว แต่อยู่กทม.คงหาวิวงามๆได้ยากหน่อยอ่ะนะ
เปลี่ยนสีตัวหนังสือให้แล้ว ลืมดูไป ขอบคุณที่บอกนะจ๊ะ
ป้าหู้...ขอบคุณคุณป้าที่แวะมาอวยพรวันปล่อยผีค่า
คุณไก่...เราคนกันเอง ไม่ว่ากันหรอกจ๊ะ แล้วจะตามไปแจมที่บล๊อคค่า
canxกะคุณแมท...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่า
โดย: haiku 2 พฤศจิกายน 2551 21:02:04 น.
คุณไฮกุ เราใจเดียวแต่ตรงกันหลายอย่างเลย
บางทีไก่ก็เที่ยวแบบhispeed ไปหน่อย
ก็ได้แต่บันทึกความทรงจำไว้ด้วยรุป เท่าที่จะทำได้ พอแก่แล้วมันจะเลือน
แต่ไปที่ไหนก็ไม่เคยลืมจะเข้าmuseumค่ะ หลงรักเหลือเกิน
โดยเฉพาะภาพเขียน อันนี้แยกกันไม่ได้เลย
มีครั้งหนึงไปLondon ห้าวันเข้าmuseum ฟรีไปสี่วัน
เพื่อนที่นั่นยังถามเลยว่าไปทำอะไรนักหนา
ที่อังกฤษดีค่ะ museum เขาฟรีตลอด
แต่เขาห้ามถ่ายรูป
โดย: Sweety-around-the-world 3 พฤศจิกายน 2551 1:50:55 น.
รูปวัดโลกโมฬี
แต่งภาพนิดหน่อยแต่ไม่มากครับ
แค่ปรับแสงให้สว่างขึ้นนิด
และใส่ความคมชัดเท่านั้นเอง
ส่วนใหญ่ทุกภาพทำเสร็จในกล้องแล้วครับ
วัดนี้เค้าใส่ไฟเยอะครับ
เลยถ่ายออกมาแล้วสีทอง
ถ้าไปดูตอนกลางวันก็ไม่ใช่สีทองนะครับ หุหุหุ
โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 3 พฤศจิกายน 2551 7:10:09 น.
โดย: ณ มน 3 พฤศจิกายน 2551 11:34:32 น.
ไม่ได้อัพบล๊อกมาจะ 2 ปีละ เพิ่งอัพอ่ะ ไงก้ไปเยี่ยมกันบ่อยๆนะคะ
ปล.เพลงเพราะจัง ชอบเสียงอ่ะ มันคือเครื่องดนตรีอะรหรอคะ
โดย: สวนลอยแห่งบาบิโลน 3 พฤศจิกายน 2551 11:37:33 น.
ขอให้มีความสุขในวันจันทร์นะคะ
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 3 พฤศจิกายน 2551 14:01:42 น.
ขอบคุณมากนะคะที่ไปฟังเพลงด้วยกัน
มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ
โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 3 พฤศจิกายน 2551 15:35:23 น.
กินเสร็จค่อยลดก็ยังทัน 555
โดย: หยุ่ยยุ้ย 3 พฤศจิกายน 2551 17:38:13 น.
มาพร้อมหนุ่มหล่ออีกแล้วครับ อิอิอิ
โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) 4 พฤศจิกายน 2551 6:31:31 น.
คุณก๋า...วัดโลกโมฬีงามดีจังค่ะ สงสัยจะใช้สปอร์ตไลท์แบบแรง สีทองออกมาแจ่มมั่กๆ
หลานหมิงของอิฉันหน้าตาสดใสเชียว น่ารักจริงๆเลย
ณ มน...แล้วจะตามไปเที่ยวจ้า
สวนลอยฯ...โห หายหน้าไปนานจริงๆ welcome back to bloggangค่า
ปล. เป็นเพลงจีนบรรเลงด้วยขลุ่ยจีนค่ะ
ป้าหู้...ขอบคุณคุณป้ามากที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
เราสองคน...แล้วจะแวะไปฟังเพลงเพราะๆค่า
คุณยุ้ย...อย่าลืมตัวหม่ำหลายรอบละกัน เดี๋ยวลดไม่ลง จะหาว่าดั๊นไม่เตือนนะฮ้า
โดย: haiku 4 พฤศจิกายน 2551 9:57:26 น.
โดย: angy_11 14 พฤศจิกายน 2551 14:29:03 น.
แวะมาทักทายยามเช้า
พร้อมหนุ่มหล่อครับ อิอิอิ
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 15 พฤศจิกายน 2551 7:30:03 น.