bloggang.com mainmenu search


ภาพจากเวบ blog.sina.com
























เตี๋ยเลี่ยนฮวา
โอวหยังซิว



ลานบ้านลึกลึก ลึกเท่าไหร่
ต้นหยังต้นหลิวแน่นดุจควัน
ม่านมิรู้กี่ชั้น นับไม่ถ้วน
ขี่ม้าบังเหียนอานประดับหยกสลัก เที่ยวสำราญ
หอสูงมองไม่เห็นถนนจังไถ

ฝนตกหนัก ลมพัดแรง ปลายเดือนสาม
ปิดประตูตอนพลบค่ำ
ไม่มีทางรั้งชุนเทียนให้อยู่ด้วย
น้ำตาคลอเบ้า ถามดอกไม้ ดอกไม้ก็ไม่ตอบ
กลีบสีแดง ปลิวว่อนผ่านชิงช้า



ภาพจากเวบ blog.readnovel.com


หมายเหตุ


เตี๋ยเลี่ยนฮวา เป็นฉือทำนองหนึ่ง แปลตามศัพท์ว่า ผีเสื้อมาหลงมาลี (เตี๋ย = ผีเสื้อ เลี่ยน = รัก, หลงใหล ฮวา = ดอกไม้) มีฉันทลักษณ์การแต่งแบ่งเป็น ๒ ท่อน รวมทั้งหมด ๖o ตัวอักษร สัมผัสนอกด้วยวรรณยุกต์เสียงที่ ๓ เสียงที่ ๔ และตัวสะกด โอวหยังซิว (ค.ศ.๙๖o - ๑๑๒๗) กวีเรืองนามคนหนึ่งในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (ค.ศ.๙๖o -๑๑๒๗) ได้นำฉือ เตี๋ยเลี่ยนฮวา มาประพันธ์บร้องที่ไพเราะ สื่ออารมณ์ความรู้สึกได้ดียิ่ง จนเป็นที่ชื่นชมและรู้จักกันดีในหมู่ผู้ศึกษากวีนิพธ์จีน



ภาพจากเวบ jxcn.cn


โอวหยังซิวเป็นคนจี๋โจว ปัจจุบันคือ อำเภอหย่งเฟิง มณฑลเจียงซี ในค.ศ.๑o๓o สอบได้จิ้นซื่อ ได้เข้ารับราชการ และทำงานต่อเนื่องมานานจนได้รับตำแหน่งสำคัญในด้านวรรณกรรม โอวหยังซิวเป็นผู้นำคนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแต่งกวีนิพนธ์ และความเรียงในสมัยซ่งเหนือ ได้รับการยกย่่องเป็น ๑ ใน ๘ นักเขียนสำคัญด้านความเรียงจากสมัยราชวงศ์ถังถึงราชวงศ์ซ่ง



ภาพจากเวบ world.eastday.com


ลีลาการเขียนความเรียงนั้น ภาษาไพเราะ ราบรื่น อ่านเข้าใจง่าย สื่ออารมณ์และพรรณนาดี นอกจากเป็นกวี นักเขียนความเรียงแล้ว โอวหยังซิวยังเป็นนักประวัติศาสตร์ ได้ร่วมกับ ซ่งฉี เขียนประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถังฉบับใหม่ ซึ่งเป็นฉบับหลวง มีเรื่องเล่าว่า เมื่อผลงานเสร็จแล้ว มีขุนนางผู้ใหญ่บอกให้ใส่ชื่อโอวหยังซิวเป็นชื่อแรก แล้วค่อยตามด้วยซ่งฉี แต่เขาไม่ยอม ให้ใส่ชื่อซ่งฉีเป็นผู้นำ โอวหยังซิวยังเขียนประวัติศาสตร์สมัยห้าราชวงศ์ฉบับหลวง เป็นผลงานที่เขาทำคนเดียว



ภาพจากเวบ zhy-xianger.blog.163.com


ในด้านการประพันธ์ ฉือ ก็แต่งได้ดีไม่แพ้เยี่ยนซู จนมีคำกล่าวว่า เป็นเยี่ยน - โอวแห่งราชวงศ์ซ่ง ลีลาการเขียนฉือของโอวหยังซิวคล้ายเยี่ยนซูเขียนเรื่องความคิดคำนึง ความรัก อารมณ์ความรู้สึก ชมนกชมไม้ ดื่มเหล้าร้องรำทำเพลง แต่โอวหยังซิวพรรณนาเรื่องอารมณ์ได้ลึกซึ้งและนิ่มนวลกว่าเยี่ยนซู โอวหยังซิวได้รับอิทธิพลจากเฝิงเหยี่ยนจี่ กวีราชวงศ์ถัง ภายหลังในสมัยห้าราชวงศ์เหมือนกับเยี่ยนซูซึ่งก็ได้รับอิทธิพลมาเช่นกัน



ภาพจากเวบ big5.cri.cn


ความชื่นชมและการได้รับอิทธิพลแนวการเขียน ฉือ จากเฝิงเหยียนจี่ ทำให้งานของกวี ๒ ท่านนี้ปนกันอยู่มากจนไม่รู้ว่าเป็นของใคร ฉือ เตี๋ยเลี่ยนฮวา บทนี้ก็มีปัญหา บางคนบอกว่าเป็นของเผิงเหยี่ยนจี่ บ้างบอกว่าเป็นของโอวหยังซิว หลี่ชิงเจ้า กวีหญิงเรืองนามในสมัยราชวงศ์ซ่งบอกว่าเป็นของโอวหยังซิว นักวรรณคดีวิจารณ์บอกว่าหลี่ชิงเจ้าเป็นคนร่วมสมัยกับโอวหยังซิว จึงเชื่อถือได้ว่า ฉือ บทนี้โอวหยังซิวเป็นผู้แต่ง



ภาพจากเวบ bbs.sogou.com


นักวรรณคดีวิจารณ์กล่าวว่า ฉือ เตี๋ยเลี่ยนฮวา บทนี้ โอวหยังซิวเขียนถึงผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ชีวิตของเธอวัน ๆ อยู่แต่ในบ้านใหญ่ ลึก ๆ มีแต่ความเงียบเหงา เธอเศร้าสลดกับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะจากไป พร้อม ๆ กับความคิดคำนึงถึงสามีที่ไปเที่ยวสำราญ ทิ้งให้เธออยู่คนเดียว ฉือบทนี้พรรณนาได้ดี ภาษาไพเราะ เขียนได้สวยนิ่มนวล สื่อให้ผู้อ่านจินตนาการถึงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังสะอึกสะอื้นร้องไห้ เศร้าระทมอยู่เดียวดาย กลอน ๒ บาทสุดท้ายนั้น ผู้อ่านจากอดิตถึงปัจจุบันต่างชื่นชมท่องจำเป็นวรรคทอง



ภาพจากเวบ cls.hs.yzu.edu.tw


กลอนบาทแรกกวีเล่นคำว่า shen (เซิน) แปลว่า ลึก กลอนในภาษาจีนแบ่งการอ่านเป็น ๒ ช่วงว่า ทิงย่วนเซินเซิน เซินจี่สวี่ (คำว่า สวี่ เสียง ส และ ว ต้องอ่านควบกัน) บทแปลภาษาไทยรักษาอรรถรสเดิมว่า "ลานบ้านลึกลึก ลึกเท่าไร"



ภาพจากเวบ club.pchome.net


บาทที่ ๔ บังเหียนและอานของม้าประดับด้วยหยกสลัก บาทนี้นางในบทกวีคิดถึงสามีที่ไปเที่ยวสำราญ

บาทที่ ๕ ถนนจังไถเป็นถนนเก่าแก่ในเมืองฉังอานหรือซีอาน มีความเป็นมาย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น เป็นถนนที่มีสถานเริงรมย์ของหนุ่มเจ้าสำราญ ทำนองถนนพัฒน์พงษ์ของไทย บาทนี้สื่อความว่า มีหอสูงเป็นหลัง ๆ บดบังจนไม่เห็นสถานเริงรมย์บนถนนจังไถ นางรู้ว่าสามีไปเที่ยวสำราญ แต่หอสูงบัง นางไม่เห็นภาพ



ภาพจากเวบ mypaper.pchome.com.tw


บาทที่ ๗ ปิดประตูตอนพลบค่ำ สื่อให้เห็นภาพผู้หญิงที่เศร้าสร้อยอยู่คนเดียว ปิดประตูใหญ่หน้าบ้านตอนพลบค่ำ

บาทที่ ๘ ฤดูใบไม้ผลิ (ชุนเทีียน) ทิวทัศน์สวยงาม แต่ไม่มีทางจะรั้งหรือเก็บรักษาไว้ได้ กวีสื่อความนัยไว้ว่า ชีวิตของนางและสามีที่เคยสุขร่วมกัน ผ่านไปแล้วรั้งไว้ไม่ได้



ภาพจากเวบ stnn.cc:82


บาทที่ ๑o สื่อความว่า ลมที่พัดแรงทำให้ดอกไม้ร่วง กลีบสีแดงปลวว่อนกระจัดกระจายผ่านชิงช้า ในบาทที่ ๖ กวีได้พรรณนาไว้แล้วว่า "ฝนตกหนัก ลมพัดแรง ปลายเดือนสาม" บาทที่ ๑o จึงเขียนสั้นกระชับว่า "กลีบแดง ปลิวว่อนผ่านชิงช้า"



ข้อมูลจากหนังสือ "หยกใสร่ายคำ"
บทพระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี







ลายมือของโอวหยังซิว
จากเวบ chinaonlinemuseum.com





















ภาพจากเวบ blog.ilc.edu.tw







ภาพจากเวบ spcnet.tv


กวีบทนี้เกี่ยวกับผีเสื้อ เลยแปะเพลงไตเติ้ลตอนจบของเรื่องเปาบุ้นจิ้น ชื่อเพลงมีคำว่าผีเสื้ออยู่ด้วย เพลงนี้เพราะมากกกก ได้ยินมานาน เพิ่งจะรู้ความหมาย อ่านแล้วเศร้าจัง ไปค้นรูปท่านเปา เจอกระทู้ที่คุณอรุณพุดตานโพสไว้ โหวตจั่นเจา - รำลึกเปากง บอกว่าเป็นเพลงที่อยู่ในตอน "รักวิปโยค" ท่านเปาสืบคดีแม่ทัพใหญ่ที่พลั้งมือทำความผิดเพราะหลงรักผู้หญิง ถูกเปาบุ้นจิ้นตัดสินประหารแต่เขาไม่ยอม สุดท้ายฆ่าตัวตายแล้วกลายเป็นผีเสื้อ โหลดเพลงร้องจากซีดีมาให้ฟังด้วยค่ะ








新鴛鴦蝴蝶夢
ซินเอวียนเอียงหูเตี๋ยเมิ่ง
ความฝันผีเสื้อ



**昨日像那東流水 離我遠去不可留
จั๋วรื่อเซี่ยงน่าตงหลิวสุ่ย หลีหว่อเอวี๋ยนชวี่ปู้เข่อหลิว
วันก่อนผันผ่านดังน้ำหลั่งไหล จากฉันห่างไปไม่หวนคืนกลับ

今日亂我心 多煩憂
จินรื่อร่วนหว่อซิน ตัวฝันโยว
วันนี้เป็นดั่งทุกข์เหลือคณานับ ย้อนจับผูกใจไม่อาจฝืนทน

抽刀斷水水更流 舉杯消愁愁更愁
โชวเตาต้วนสุ่ยสุ่ยเกิ้งหลิว จวี่เปยเซียวโฉวโฉวเกิ้งโฉว
ใช้ดาบฟาดน้ำน้ำยิ่งไหลโชก ยกแก้วดับโศกโศกยิ่งทุกข์หนัก

明朝清風四飄流
หมิงเจาชิงเฟิงซื่อเพียวหลิว
ตื่นมาเช้าพรุ่งลมโชยผ่านทัก แว่วเสียงประจักษ์ลาลับปลิวไป

由來只有新人笑 有誰聽到舊人哭
โหย่วไหลจื๋อโหย่วซินเหรินเซี่ยว โหยวเส่ยทิงเต้าจิ่วเหรินคู
มีเพียงเสียงหัวเราะของคนยุคนี้ ใครเลยใยดีคนเก่าร่ำไห้

愛情兩個字 好辛苦
อ้ายฉิงเหลี่ยงเก้อจื้อ ห่าวซินขู่
ความรักสองคำใครบ้างเข้าใจ น้ำตารินไหลร่ำไห้ทุกข์ทน

是要問一個明白 還是要裝作糊塗
ซื่อย่าวเวิ่นอี๋เก้อหมิงไป่ ไหซื่อย่าวจวงจั้วหูถู
เพียงแค่อยากถามไขความกระจ่าง หรือเพียงเพื่อหวังเสแสร้งสับสน

知多知少難知足
จือตัวจือเส่าหนันจือจู๋
รู้มากรู้น้อยรู้ด้อยรู้จน รู้แล้วไม่พ้นรู้ล่วงทันการณ์

看似個鴛鴦蝴蝶 不應該的年代
คั่นซื่อเก้อเอวียนเอียงหูเตี๋ย ปู้อิงไกเตอเหนียนไต้
เป็นดั่งผีเสื้อเอวียนเอียงบินว่อน ผิดที่พเนจรเร่ร่อนขับขาน

可是誰又能擺脫人世間的悲哀
เข่อซื่อเสยโย่วเหนิงไป่ทั่ว เหรินสือเจีย ติเปยไอ
แต่ใครไหนเลยหลีกพ้นทุกข์ทาน ในโลกที่สานด้วยทุกข์ตรอมใจ

花花世界 鴛鴦蝴蝶 在人間已是癲
ฮวาฮวาซื่อเจี้ย เอวียนเอียงหูเตี๋ย ไจ้เหรินเจียนอี่ซื่อเตียน
ดั่งผีเสื้อน้อยล่องลอยบนฟ้า ยังต้องคลั่งบ้าในโลกดอกไม้

何苦要上青天 不如溫柔同眠
เขอขู่เย่าซั่งชิงเทียน ปู้หรูเวินโหรวถงเหมียน
จะฝืนบินสู่ฟากฟ้าทำไม ฤๅสู้หลับไหลกับไออุ่นเธอ

**ร้องซ้ำ

(เนื้อร้องและคำแปลจากเวบ zhongtai.org)



ออทั่มตอนใหม่ ตามไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ
รักนี้ชั่วนิรันดร์ ๗


บีจีและไลน์จากคุณเนยสีฟ้าและคุณ N_BEE810

Free TextEditor


Create Date :10 เมษายน 2553 Last Update :17 เมษายน 2564 14:53:11 น. Counter : Pageviews. Comments :53