ภาพจากเวบ travel.sina.com
หอกระเรียนเหลือง
ชุยเฮ่า
เซียนขี่นกกระเรียนเหลืองบินลับไป
ที่นี่เหลือแต่หอกระเรียนเหลือง
กระเรียนเหลืองบินลับไม่กลับมา
มีแต่เมฆขาวลอย ลอย ชั่วพันปี
ฟ้าโปร่ง แม่นำ้ ต้นไม้เมืองฮั่นหยังแจ่มชัด
ที่เกาะนกแก้ว หญ้าหอม เขียวเขียว
อาทิตย์จะลับฟ้า ประตูเมืองถิ่นเกิดอยู่หนใด
หมอกและคลื่นในลำน้ำ ทำให้ใจคนเศร้า
หมายเหตุบทกวีนี้ได้รับการยกย่องว่าแต่งได้ดีและเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมาพันกว่าปีแล้ว ผู้แต่งคือ ชุยเฮ่า (崔颢) เป็นชาวเปี้ยนโจว (汴州) ปัจจุบันคือเมืองไคเฟิง มณฑลเหอหนาน ไม่มีหลักฐานว่าเกิดเมื่อไร แต่ตายปี ค.ศ.๗๕๔ ใน ค.ศ.๗๒๓ สอบได้จิ้นซื่อ ผู้ที่สอบจิ้นซื่อได้ที่ ๑ เรียกว่า จ้วงหยวน (จอหงวน) ตอนอายุมากชุยเฮ่ามาเที่ยวที่อู่ซัง ได้มาเยือนหอกระเรียนเหลือง ประทับใจความงดงามของหอและทิวทัศน์ของแม่นำ้ฉังเจียงในบริเวณนี้ จึงเขียนบทกวี หอกระเรียนเหลือง หลี่ไป๋ยังชมและยอมรับว่า ชุยเฮ่าแต่งได้ดีมาก ส่วนเหยียนอวี้ กวีสมัยราชวงศ์ซ่งยกย่องว่าเป็นซือ ๗ บทที่ดีเด่นที่สุดของราชวงศ์ถัง
เซียนในบทกวีนี้หมายถึง เซียนที่ชื่อ จื่ออาน ซึ่งเชื่อกันว่าขี่นกกระเรียนเหลือง ส่วนเกาะนกแก้ว หรือ อิงอู่โจวในภาษาจีนนั้น เป็นเกากลางแม่นำ้ฉังเจียงที่เมืองอู่ซัง มีประวัติความเป็นมาว่า ในปลายราชวงศ์อั่นตะวันออก (ค.ศ.๒๕ - ๒๒o) เจ้าเมืองชื่อ หวงจวี่จัดงานเลี้ยงที่เกาะนี้ กวีชื่อ หนี่เหิง (ค.ศ.๑๗๓ - ๑๙๘) มาร่วมงานเลี้ยง ได้แต่งบทกวีชื่อ อิงอู่โจว เพราะมีแขกเอานกแก้วมาให้หวงจวี่ ต่อมาเจ้าเมืองขัดแย้งกับกวีผู้นี้จึงฆ่ากวีตาย หนึ่เหิงเป็นคนเก่ง มีวาทศิลป์ดี แต่หยิ่งยะโสและขาดมนุษยสัมพันธ์ ในเวลาต่อมาผู้คนได้เรียกเกาะนี้ว่า อิงอู่โจว (แปลว่า เกาะนกแก้ว) ตามชื่อบทกวีของหนี่เหิง
บทกวี หอกระเรียนเหลือง มีการเล่นคำซ้ำในบาทที่ ๔ - ๖
บาทที่ ๔ ใช้ว่า kong you you (คง โยว โยว) สื่อความว่า เมฆขาวลอยรอคอยอย่างไม่มีหวังเป็นเวลานาน ในบทแปลภาษาไทยใช้ว่า ลอย ลอย
บาทที่ ๕ ใช้ว่า li li (ลี่ ลี่) แปลตามศัพท์ว่า ชัด ๆ ภาษาไทยใช้ว่า แจ่มชัด กลอนบาทนี้สื่อความว่า ทอ้งฟ้าเมืองฮั่นหยังไปร่ง ใส ทำให้เห็นแม่นำ้และต้นไม้เมืองฮั่นหยังแจ่มชัด
บาท ๖ ใช้ว่า qi qi (ชี่ ชี่) แปลตามศัพท์ว่า เขียว ๆ ภาษาไทยแปลรักษาอรรถรสเดิมว่า หญ้าหอม เขียว เขียว
ข้อมูลจากหนังสือ "หยกใสร่ายคำ"
บทพระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับท่านชุยเฮ่าเพิ่มเติมแต่ไม่ค่อยจะมี เจอแต่ข้อมูลของหอกระเรียนเหลืองตรึม อย่างในเวบไทยสามก๊ก พูดถึงสามหอแห่งเจียงหนาน หนึ่งในนั้นคือหอกระเรียนเหลือง ปัจจุบันหอนี้เป็นสถานที่จัดแสดงภาพเขียนอักษรจีนและภาพวาดจิตรกรรมที่มีชื่อหลายยุคหลายสมัย รวมถึงบทกวีอันโด่งดังของหลี่ไป๋ และยังเป็นอาคารสูงประจำเมืองอู่ฮั่นที่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเมือง เมื่อมองออกไปจากบริเวณหอกระเรียนเหลืองจะเห็นสะพานฉางต้าเฉียวที่เชื่อมทางทิศเหนือใต้ ข้ามผ่านแม่น้ำฉางเจียงที่ยาวถึง ๑,๑๕๖ เมตร เพื่อรองรับทั้งเส้นทางเดินรถและเส้นทางรถไฟ
เคยได้ยินชื่อหอกระเรียนเหลืองอยู่เหมือนกัน เพิ่งจะเห็นภาพหอตัวจริง ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่ามีอายุเป็นพันปีแล้ว สร้างได้งดงามและสภาพยังสมบูรณ์มาก ถ้าอยากเห็นหอทั้งสามแบบเต็มตาก็กดที่รูปนะคะ มีอีกหลายเวบที่เขียนถึงหอกระเรียนเหลือง ถ้าอยากอ่านก็จิ้มที่ลิงค์ตามไปอ่านได้เลยค่า
posttoday.com
teetwo.blogspot.com
bangkokbiznews.com
สามหอแห่งแดนกังหนำในสมัยโบราณชาวจีนเห็นว่าตึกหรือหอสูงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นโดยมากหอโบราณของจีนจึงสร้างขึ้นโดยเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางชั้นสูงเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป อาทิ เพื่อประโยชน์ทางการทหาร ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญ หรือเพื่อประกาศคุณงามความดี หรือแม้แต่เพื่อใช้เป็นการปราบอาถรรพณ์ปีศาจชั่วร้าย บ้างก็สร้างอุทิศให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพนับถือแห่งตน แต่ในชีวิตประจำวันโดยมากกลายเป็นจุดชมทิวทัศน์ธรรมชาติไป
สถาปัตยกรรมลักษณะนี้โดยมากเป็นที่นิยมและแพร่หลายในแดนกังหนำหรือเจียงหนันของจีน (ดินแดนทางตอนล่างของแม่น้ำแยงซีเกียง) หอโบราณซึ่งเป็นที่รู้จักเลื่องลือกันในแดนกังหนำ ได้แก่ หอเถิงหวัง (มณฑลเจียงซี) หอกระเรียนเหลือง (มณฑลหูเป่ย) และหอเยี่ยว์หยัง (มณฑลหูหนัน) จนได้ชื่อว่าเป็น สามหอแห่งแดนกังหนำ (江南三大名楼)
หอเถิงหวัง (滕王阁)
ภาพจากเวบ williamlong.infoแรกสร้างสมัยต้นราชวงศ์ถัง ปี ค.ศ. ๖๕๓ ในรัชกาลถังเกาจงหลี่ยวน โดยเถิงหวังหลี่หยวนอิง (น้องชายของหลี่ซื่อหมิน) ได้สร้างหอเถิงหวังขึ้นระหว่างที่มาดำรงตำแหน่งแม่ทัพรักษาเมือง ด้วยจุดประสงค์ให้เป็นหอระวังไฟ และเป็นสถานที่พักผ่อนชมทิวทัศน์ในฤดูกาลต่างๆ ต่อมาในปี ค.ศ. ๖๗๕ หวังป๋อ (ค.ศ. ๖๕o ๖๗๕) หนึ่งในสี่กวีอัจฉริยะแห่งราชวงศ์ถังตอนต้น ได้เดินทางมาเยือนหอเถิงหวัง และได้ประพันธ์บทกวีชื่นชมความงามเอาไว้ เนื่องจากบทกวีดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายในเวลาต่อมา จึงทำให้ชื่อเสียงความงามของหอเถิงหวังเป็นที่รู้จักทั่วไปในแผ่นดิน ปราชญ์กวีเลื่องชื่ออีกจำนวนไม่น้อยต่างเคยเดินทางมาเยี่ยมเยือนสถานที่นี้
หอเถิงหวังผ่านศึกสงครามทำลายล้างและสร้างใหม่ถึง ๒๙ ครั้ง ซึ่งไม่เพียงรักษาต้นแบบอย่างโบราณเอาไว้ การซ่อมสร้างแต่ละครั้งยังมีขนาดขยายใหญ่ขึ้น โดยครั้งสุดท้ายถูกเผาทำลายระหว่างสงครามปฏิวัติในปี ๑๙๒๖ จวบถึงปี ๑๙๘๓ เริ่มงานซ่อมสร้างครั้งใหญ่ แล้วเสร็จในปี ๑๙๘๙ หอเถิงหวังใหม่มีอาณาบริเวณกว่า ๔๗,ooo ตารางเมตร สูง ๕๗.๕ เมตร ๙ ชั้น โดยเลียนแบบสถาปัตยกรรมสมัยซ่ง มีขนาดและความสูงที่สุดในสามหอแห่งแดนกังหนำ
ที่ตั้ง ริมฝั่งแม่น้ำกั้นเจียง เมืองหนันชาง มณฑลเจียงซี
หอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼)
ภาพจากเวบ nipic.comหอกระเรียนเหลืองแรกสร้างสมัยสามก๊ก ใน ค.ศ. ๒๒๓ ภายหลังก๊กอู๋ยึดได้เมืองจิงโจวหรือเกงจิ๋ว โดยก๊กอู๋สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นหอสังเกตการณ์ ป้องกันการโจมตีจากก๊กสูของเล่าปี่
แต่เรื่องเล่าขานเกี่ยวกับที่มาของหอกระเรียนเหลืองซึ่งเป็นที่แพร่หลาย กล่าวกันว่าสถานที่ตั้งเดิมของหอกระเรียนเหลืองเป็นร้านเหล้าเล็ก ๆ ที่เปิดเป็นที่พักคนแรมทาง ครั้งหนึ่งเจ้าของร้านได้ให้อาหารและที่พักแก่นักพรตที่แต่งกายซ่อมซ่อท่าน หนึ่งโดยไม่คิดเงิน นักพรตนั้นจึงใช้เปลือกส้มวาดเป็นรูปกระเรียนสีเหลืองที่ผนังร้าน เมื่อปรบมือขึ้นครั้งหนึ่ง ภาพกระเรียนบนฝาผนังก็จะออกมาร่ายรำอย่างงดงาม นักพรตได้มอบกระเรียนเหลืองนี้ไว้เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจเจ้าของร้าน นับแต่นั้นก็มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนทางร้านกันคับคั่ง เพื่อมาดูการแสดงของกระเรียนเหลือง กิจการของร้านเฟื่องฟูร่ำรวยขึ้น สิบปีต่อมานักพรตนั้นกลับมาอีกครั้ง และเมื่อกระเรียนเหลืองออกมาจากผนัง นักพรตก็ขึ้นขี่กระเรียนบินจากไป เจ้าของร้านจึงสร้างหอกระเรียนเหลืองขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงบุญคุณของนักพรตนั้น
หอกระเรียนเหลืองเป็นแหล่งรวมของบรรดาปราชญ์กวีและปัญญาชนจากทั่วทุกสารทิศ ซึ่งก็ได้ฝากผลงานบทกวีที่มีชื่อไว้ไม่น้อย ในจำนวนนี้มีผลงานของชุยเฮ่า (崔颢) ปราชญ์สมัยถัง ได้แต่งบทกวีเกี่ยวกับความงามสง่าของหอแห่งนี้ รวมทั้งคำเล่าขานของหอกระเรียนเหลืองนี้เอาไว้อย่างละเอียด จนกลายเป็นต้นแบบให้กวีในรุ่นหลังได้ศึกษาต่อมา จวบจนปี ๑๘๘๔ รัชสมัยจักรพรรดิกวงสูแห่งราชวงศ์ชิง เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ หอกระเรียนเหลืองถูกเผาทำลายลง
ในปี ๑๙๕๗ เนื่องจากได้มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีที่ผากระเรียนเหลือง ณ ที่ตั้งเดิมของหอกระเรียนเหลืองไปแล้ว ดังนั้น ในปี ๑๙๘๔ เมื่อรัฐบาลจีนใหม่ประจำอู่ฮั่น มีโครงการสร้างหอกระเรียนเหลืองขึ้นใหม่ เนื่องในโอกาสครบรอบร้อยปีที่หอกระเรียนเหลืองถูกเผาทำลายไปเมื่อครั้งสมัยจักรพรรดิกวงสูแห่งราชวงศ์ชิง จึงต้องย้ายหอกระเรียนเหลืองไปปลูกสร้างยังที่ตั้งใหม่บนยอดเขาเสอซัน
หอกระเรียนเหลืองในปัจจุบัน สร้างขึ้นด้วยปูนและเหล็กเลียนแบบโครงสร้างแบบไม้ที่เป็นของเดิม เป็นหอห้าชั้น สูง ๕๑ เมตร ระหว่างชั้นยังมีชั้นแทรก รวมทั้งสิ้นเป็นสิบชั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองอู่ฮั่น
ที่ตั้ง (เดิม) ผากระเรียนเหลือง (ใหม่) เขาเสอซัน เขตอู่ชางเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
หอเยี่ยว์หยัง (岳阳楼)
ภาพจากเวบ williamlong.infoแรกสร้างในสมัยสามก๊ก (ค.ศ. ๒๑๕) ในดินแดนของก๊กอู๋ ภายใต้การนำของซุนกวน ได้สร้างหอนี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นหอสังเกตการณ์ป้องกันการโจมตีของกวนอูจาก เมืองจิงโจว (เมืองเกงจิ๋ว) ก๊กสู มีชื่อว่า หอส่องทัพ สมัยจิ้นตะวันตกได้ชื่อว่าเป็น หอเมืองปาหลิง เมื่อถึงสมัยถัง ภายหลังงานประพันธ์ของหลี่ไป๋เป็นที่แพร่หลายก็รู้จักกันในนาม หอเยี่ยว์หยัง จัดเป็นหอโบราณที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในสามหอแห่งแดนกังหนำ
หอเยี่ยว์หยังเป็นสถานที่ชมธรรมชาติยอดนิยมของบรรดาปราชญ์กวีมีชื่อในสมัยถัง อาทิ ตู้ผู่ หานอี้ว์ ไป๋จีว์อวี้ หลี่ซังอิ่น เป็นต้น เมื่อถึงปี ๑o๔๕ ขุนนางเถิงจื่อจิงแห่งราชวงศ์ซ่งเหนือได้ทำการซ่อมสร้างครั้งใหญ่ และขอให้ฟ่านจงเยียนที่เป็นปราชญ์และนักปกครองแห่งยุคได้เขียน บันทึกหอเยี่ยว์หยัง เอาไว้ ชื่อเสียงของหอเยี่ยว์หยังจึงขจรขจายเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
เมื่อกล่าวถึง บันทึกหอเยี่ยว์หยัง ที่ชั้นที่หนึ่งและสองของหอเยี่ยว์หยัง ยังประดับด้วยบทกวีดังกล่าวที่สลักบนไม้จันทน์ ด้วยข้อความและลายมือที่เหมือนกันราวฝาแฝด แต่ชิ้นหนึ่งจัดทำขึ้นในราวศตวรรษที่ ๑๘ อีกชิ้นหนึ่งจัดทำขึ้นในศตวรรษที่ ๑๙ กล่าวกันว่าชิ้นหนึ่งเป็นลายมือของจางเจ้า ปราชญ์ราชเลขาฯ สมัยจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง ภายหลังมีขุนนางท้องถิ่นคนหนึ่งต้องการแสดงความสามารถเชิงอักษรของตน จึงเลียนแบบลายมือของจางเจ้า จัดทำ บันทึกหอเยี่ยว์หยัง ขึ้น แต่นายช่างที่แกะสลักงานชิ้นนี้ไม่พอใจการกระทำของขุนนางนั้น จึงแกะสลักอักษรตัวหนึ่งให้ผอมบางเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถแยกจากต้นฉบับได้ ขุนนางนั้นได้ปลดผลงานของจางเจ้าลงมา เปลี่ยนเป็นผลงานของตนเอง จากนั้นนำใส่เรือเพื่อขนย้ายไปที่อื่น แต่เรือก็มาล่มจมลงเสียก่อน ขุนนางที่ไปกับเรือจมน้ำเสียชีวิต ผลงานของจางเจ้าถูกงมขึ้นมาจากก้นทะเลสาบต้งถิง และถูกนำกลับมาประดับไว้ที่หอเยี่ยว์หยังอีกครั้ง ดังนั้นหอแห่งนี้จึงประดับด้วยผลงานแกะสลักที่เหมือนกันสองชิ้น
ปัจจุบัน หอเยี่ยว์หยังถือเป็นสถาปัตยกรรมเพียงหนึ่งเดียวในสามหอแดนกังหนำที่ยังมีโครงสร้างเป็นไม้ตามแบบสถาปัตยกรรมแบบเก่า (หลังการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยชิงแล้วร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ผ่านศึกสงครามหลายครั้งแต่ไม่เสียหาย) บูรณะครั้งหลังสุดในปี ๑๙๘๔ แม้ว่าหอมีความสูงเพียงสามชั้น มีขนาดเล็กกว่าหอเถิงหวังและหอกระเรียนเหลือง แต่ถือได้ว่าเป็นหอที่ยังคงรักษาสภาพบรรยากาศแบบเก่าเอาไว้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ที่สุด
ที่ตั้ง ริมฝั่งทะเลสาบต้งถิง* เมืองเยี่ยว์หยัง มณฑลหูหนัน
*ทะเลสาบต้งถิงหู เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นที่สองในประเทศจีน (เดิมมีขนาด ๖,ooo ตร.กม. เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด ภายหลังเนื่องจากนโยบายขยายพื้นที่เพาะปลูกของภาครัฐ อีกทั้งการสะสมของตะกอนดิน เมื่อถึงปี ๑๙๘๖ พื้นที่ทะเลสาบหดเล็กลงเหลือเพียง ๒,๖๒๕ ตร.กม. เป็นรองจากทะเลสาบพานหยังในมณฑลเจียงซีซึ่งมีขนาด ๓,๙๑๔ ตร.กม.)
ข้อมูลจากเวบ ไทยสามก๊ก
บีจีและไลน์จากคุณญามี่
Free TextEditor
แวะมาเจิมบอกค่ะว่าชอบ
โดย: อุ้มสี 29 มิถุนายน 2552 22:13:29 น.
แต่หอกระเรียนเหลืองไม่น่าจะได้ไปครับคุณไฮกุ
ถ้าจะเคยไปน่าจะเป็นหอเถิงหวังนี่ล่ะครับ
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 29 มิถุนายน 2552 22:31:20 น.
เอาหาดสวยๆและยังสะอาด..เพราะเป็นด้านหน้า
ของหมู่บ้านชาวประมงเกาะนาคาใหญ่ จ.ภูเก็ต
โดย: เริงฤดีนะ 29 มิถุนายน 2552 22:53:16 น.
ชื่อ ดร. ภญ.กฤษณา ไกรสินธุ์ ครับผม
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ แวะมาบร๊อกคุณ haiku ทีไรมีเรื่องดีๆให้อ่านตลอดเลยนะครับ จะมาติดตามดูบ่อยๆครับ
โดย: Wo long 30 มิถุนายน 2552 0:03:57 น.
โดย: ม้าสว่าง 30 มิถุนายน 2552 0:48:24 น.
เวลาอ่านทีไร ช่างนับถือคนแปลทุกที ถ้อยคำที่หยิบมาใช้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาสามารถแน่ๆ
หอกระเรียนเหลืองสวยจังเลยค่ะ แต่ไม่เคยเห็นกระเรียนเหลืองซักที เอ หรือว่านกกระเรียนมีแต่สีเหลืองนะ ต้องไปค้นดูก่อนค่ะ ชักสงสัย
โดย: KOok_k 30 มิถุนายน 2552 4:23:14 น.
โดย: กะว่าก๋า 30 มิถุนายน 2552 6:41:48 น.
สวัสดีค่ะคุณไฮกุ กวีไฮกุงดงาม เอื้อมถึงเหมือนเข้าใจง่าย
แต่จริงอาจยากนะคะ
ชอบที่หยิบอะไรในวิถีการดำเนินชีวิตจริงๆ มาใช้ด้วยค่ะ คนเห็นไปด้วยอ่านกลอนไปด้วย
เลยรู้สึกใกล้ไปอีก
Residence ความหมายตรงตัวเลยค่ะ เป็นบ้าน เป็นปรสาท เป็นที่อยู่แต่พอเอามาใช้เฉพาะกับปราสาท Würzburg ก็เลยดูแปลกๆ
คนเลยงงๆ ว่าทำไมไม่ตั้งชื่อไปเลย ทำไมมาเรียกว่า Würzburg Residence
ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นที่อยู่แน่นอน แต่ที่นี่เป็นที่อยู่พิเศษของking ค่ะ
โดย: Sweety-around-the-world 30 มิถุนายน 2552 15:04:02 น.
โดย: Sweety-around-the-world 30 มิถุนายน 2552 15:21:01 น.
ระยะนี้ ข้อมือใช้การได้เหมือนปกติแล้วใช่มั๊ยคะ
โดย: หยุ่ยยุ้ย 30 มิถุนายน 2552 20:09:47 น.
สวยงามมากๆ
โดย: ลุงแอ๊ด 30 มิถุนายน 2552 21:24:18 น.
ผลตอบแทนที่ได้รับ ย่อมจะเป็นความสุขเช่นกัน
แวะมาเยี่ยมจ้าาาาาาา
ออกนอกชายคาระวังฝน อย่าให้ต้องล้มหมอนนอนเตียง
เป็นห่วงค่ะ
บ้านป้าฝนกำลังมา ที่นี่เป็นไงบ้าง
ภาพคนป่วยที่เอามาแปะเมื่อวันก่อน หากกลัวก็ลบได้ค่ะ ไม่ว่ากัน
และหากทำให้กลัวก็ต้องขอโทษด้วย
รักษาสุขภาพ และมีความสุขกับทุกทุกวันนะคะ
คมคำ : คนที่อยากได้ไปเสียทุกอย่าง
สุดท้ายจะเสียทุกอย่างที่อยู่ในมือ
โดย: ร่มไม้เย็น 30 มิถุนายน 2552 22:09:12 น.
โดย: กะว่าก๋า 1 กรกฎาคม 2552 12:51:30 น.
คุณก๋า...เห็นคุณก๋าไปเที่ยวจีนบ่อยเลยนึกว่าอาจจะไปเห็นมาแล้ว เทียบสามหอแล้ว เราชอบหอกระเรียนเหลืองที่สุด เส้นโครงตึกดูอ่อนหวานดี ไม่รู้ว่าเพิ่งบูรณะหรือเปล่า เพราะสีเหลืองดูสดมาก ส่วนหอเถิงหวัง ดูไปแล้วเหมือนหมวกซ้อนกันสามใบ
แวะมาสามวันสามเวลาเลย ตอนเขียนเม้นท์ที่เจ็ดคงยังงัวเงียอยู่ เลยแปะอีโมรูปนี้ สามหน อ่านได้ความว่า "สามหาว" อิ อิ
คุณเริงฤดี...ขอบคุณค่า นำ้ทะเลใสดีจัง เสียดายรูปเล็กไปนี๊ดดด เลยมองได้ไม่เต็มตา
คุณWo long...ใช่ ๆ ท่านชื่อดร. กฤษณา ขอบคุณที่บอกนะคะ ชื่นชมท่านมากเลยค่ะ ยารักษาเอดส์ที่ท่านคิดช่วยคนแอฟริกันได้เป็นล้าน ๆ คน แถมราคาถูกด้วย น่าเสียดายที่คนเก่งขนาดนี้ไม่ได้ทำงานให้เป็นประโยชน์กับคนไทยอ่ะนะ
คุณม้าสว่าง...ถามแบบนี้ อิฉัันจนด้วยคำตอบฮ่ะ เพิ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรกนี่แหละ
คุณกิ๊ก...แม่นแล้วค่า บทกวีนี้มีอายุเป็นพันปีแล้ว โชคดีที่เมืองจีนคิดค้นวิธีเขียนได้ เลยมีบทกวีและงานเขียนอันทรงคุณค่าและเป็นอมตะมากมายตกทอดมาให้คนรุ่นเราได้อ่านกัน
คุณกิ๊กไม่ต้องแปลกใจค่ะ ที่คำแปลเพราะขนาดนี้ก็เพราะสมเด็จพระเทพฯทรงแปลเองค่ะ แถมยังทรงเขียนเกร็ดของบทกวีและนักประพันธ์ของแต่ละบทไว้ด้วย ก็เพราะแบบนี้แหละ เราถึงอยากเอาหนังสือมาทำบล๊อคมากและทำด้วยความสุขจริง ๆ ค่ะ
อยากเห็นนกกระเรียนเหลืองอยู่เหมือนกัน ตอนที่อ่านบทกวีนี้ก็นึกสงสัยอยู่ เพราะเคยเห็นแต่นกกระเรียนสีขาว
คุณไก่...เราว่าบทกวีไฮกุเพราะตรงความเรียบง่ายนี่แหละค่ะ (แต่เขียนไม่ค่อยง่ายเลยอ่ะ ) เริ่มอ่านแรก ๆ บางทีอาจไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของไฮกุเท่าไหร่ อาจรู้สึกว่าไม่เพราะ เพราะไม่มีคำคล้องจองอย่างคำประพันธ์ของไทย แต่เราอ่านครั้งแรกก็ชอบเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำอธิบายนะคะ แสดงว่า ชื่อเป็นภาษาเยอรมัน แต่คำว่าบ้านใช้ภาษาปะกิต ที่จริงน่าจะเรียกว่าpalace เพราะเป็นที่ประทับของกษัตริย์อ่ะนะ
ถ้างั้นอีกไม่กี่วันคุณไก่ก็ต้องแพคกระเป๋าแล้ว ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ
คุณยุ้ย...ตอนนี้ใช้มือได้เกือบปกติแล้วค่ะ แต่ถ้าหมุนมือผิดท่าก็ยังออกอาการเจ็บอยู่ ไม่ถึงกะเจ็บมากแต่รำคาญที่ไม่หายขาดซะที กระดูกตรงปุ่มข้อมือข้างที่เจ็บมันโย้ออกมาไม่ยอมเข้าที่ เทียบกับกับมือข้างซ้ายแล้วดูต่างกัน นี่ก็เข้าเดือนที่ห้าแล้วยังเจ็บไม่่หายเลยไปรพ.เช็คดูอีกรอบ คุณหมอบอกว่า ตอนที่ล้ม มือกระแทกพื้นแรง เลยอัดกระดูกให้ผิดรูป จะแก้ไขก็ต้องผ่าตัด แต่คุณหมอไม่แนะนำให้ทำ เราก็ปล่อยเลยตามเลย เพราะถ้าไม่สังเกตก็ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ เรื่องเจ็บไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แต่ถ้าผ่าตัดคงอดใช้มืออีก เซ็งแย่เลยค่ะ
ลุงแอ๊ด...อืมม รู้สึกเหมือนลุงแอ๊ดเลยค่ะ เราว่าคงมีหนังหรือละครหลายเรื่องใช้หอทั้งสามมาเป็นสถานที่ถ่ายทำอ่ะนะ
คุณป้ากุ๊กไก่...ช่วงนี้ฝนคงตกทั่วฟ้า ที่บ้านก็ฝนลงแทบทุกวันเลยค่ะ แถมตกหนักซะด้วย หน้าฝนก็ชอบที่อากาศเย็นดี แต่เบื่อรถติด แถมเวลาซักผ้า หาแดดจัด ๆ ยาก ผ้าไม่ค่อยหอมแดดเลยค่ะ
โดย: haiku 1 กรกฎาคม 2552 21:09:24 น.
อิตาลีเป็นเมืองที่คงมีหลายเรื่องมาทำ เลยหลงหูตาไปค่ะ
ไฮกุสำหรับไก่สวยตรงใกล้ตัว สัมผัสง่าย เอื้อมถึง
แต่ไม่รู้จะหาอ่านยังไงเพราะไม่ถนัดเลยค่ะ อาศัยอ่านที่บ้านคุณไฮกุดีที่สุดค่ะ
ฝันดีค่ะวันนี้
โดย: Sweety-around-the-world 2 กรกฎาคม 2552 3:33:27 น.
ถ้าได้ไปเที่ยวจีนอีก
ก็อยากไปเที่ยวชมพวกหอต่างๆที่ตั้งอยู่บนยอดเขานะครับ
งวดก่อนไปหวงซานก็เดินไม่ทั่วครับ
เพระาเวลาน้อย
ไปเที่ยวเมืองจีนต้องมีเวลาเยอะๆ
ทัวร์ 3 วัน 8 วัน
ดูไม่ทั่วแน่นอนครับ
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 2 กรกฎาคม 2552 6:23:55 น.
หอกระเรียนก็สวย
อะ
โดย: angy_11 2 กรกฎาคม 2552 13:06:40 น.
หลังผ่านพ้นมรสุมชีวิต
ท้องฟ้าก็เริ่มเปิดกว้างขึ้น มีเวลาขยับตัว กลับมาทักทายกันครับ
แขนเป็นอย่างไรแล้วบ้างครับ
กลับมาขีดเขียนวาดลวดลายได้ดีเหมือนแต่ก่อนรึยัง
โดย: นางาเสะ ไลท์ 2 กรกฎาคม 2552 14:35:02 น.
การบรรลุถึง นิพพาน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินวิสัย
ชวนไปดูหัวบล็อกบ้านร่มไม้เย็นค่ะ (จะลบก่อนเที่ยงคืน)
รักษาสุขภาพ และอยู่กับสุขที่สงบ เย็นนะคะ
คมคำ : ถืออยู่ แบกอยู่ให้หนักทำไม
ไม่วางเมื่อไหร่จะว่าง
โดย: ร่มไม้เย็น 2 กรกฎาคม 2552 21:17:40 น.
คุณก๋า...เราว่า ถ้าจะเที่ยวเมืองจีนให้ทั่วคงต้องใช้เวลาเป็นเดือน อาจจะหลายเดือนอ่ะนะ ถ้าได้ไปนะ อยากไปเดินถนนหลิวลี่ฉ่าง ถนนสายวัฒนธรรม เห็นว่าตลอดสองข้างทางมีแต่ร้านขายของโบราณแล้วก็อุปกรณ์เขียนพู่กันจีนทั้งนั้น แค่ไปเดินชมถนนก็คงมีความสุขน่าดู
จี้...ขอบคุณหลานจี้ที่แวะมาอ่านบทกวีเพราะ ๆ กะชมหอกระเรียนเหลืองจ๊ะ
น้องไลท์...หวัดดีคับพ้ม ไม่เห็นหน้าซะนานเลย ดีใจที่มีเวลาเล่นบล๊อค(ได้ซะที )
ข้อมืออาการค่อยยังชั่วแล้วแต่ยังไม่หายขาดซักทีค่ะ เขียนหนังสือหรือทำงานเบา ๆ ได้ แต่ถ้าออกแรงหนัก ๆ ก็ยังเจ็บตลอด เวลากำมือก็ยังรู้สึกตึง ๆ อยู่ น้องชายบอกว่ามีคุณหมออีกท่านนึงเก่งเรื่องกระดูกมาก ก็เลยจะไปหาหมออีกรอบค่ะ
คุณป้ากุ๊กไก่...ห้าทุ่มกว่าแล้ว ต้องรีบตามไปดูหัวบล๊อคอันใหม่อย่างด่วนเลย
โดย: haiku 2 กรกฎาคม 2552 23:17:23 น.
ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า
เห็นภาพหอต่างๆๆแล้วคิดถึงหนังจีนเรื่อง นางพญางูขาว จังเลยอะจ้า
โดย: จอมแก่นแสนซน 2 กรกฎาคม 2552 23:53:21 น.
ผมใช้อยู่ 2 ตัวครับ
คือ แคนนอน D 40 กับพานาโซนิคตัวเก่า
ส่วนใหญ่หลังๆใช้แคนนอนแล้วล่ะครับ
ราคาเลนส์แพงกว่ากล้องครับ 555
โดย: กะว่าก๋า 3 กรกฎาคม 2552 7:17:13 น.
วิดิโอในบล็อกนั่นเล่นเองค่ะ
จนป่านนี้ยังหาชื่อเพลงไม่ได้เลย
สู้ต่อไป ไฟ้ท์ติ้ง โย่วๆๆ
หยุดยาวไปเที่ยวไหนหรือเปล่าคะ
โดย: Charlotte Russe 3 กรกฎาคม 2552 10:42:58 น.
โดย: กะว่าก๋า 4 กรกฎาคม 2552 7:19:00 น.
มาแจ้งข่าวว่า อัพบล็อกแล้วครับ
วันนี้เสนอตอน "สัญจรตะลอนไพร"
อยู่ป่าทั้งที จะไปไหนมาไหนก็ต้องเดินสถานเดียว
แต่ละคนจะต้องเตรียมอะไรติดตัวไปบ้าง
คงต้องลองเข้าไปอ่านเสียแล้วครับ....
โดย: ลุงแว่น 4 กรกฎาคม 2552 21:49:41 น.
โดย: บี๋ (Yushi ) 4 กรกฎาคม 2552 23:38:53 น.
หวัดดีค่ะคุณไฮ
อาทิตย์ที่ผ่านมา มินก็งานเข้าแบบพายุหมุนเลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เมื่อวานนี้เลยนอนทั้งวัน เหมือนคนป่วยเลย
นอนแบบไม่ได้ดูหนังซะด้วย เพราะถ้าขืนใจอ่อนเอาซีรี่ส์มาดู ก็ไม่ต้องได้พักผ่อนอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
แต่ วันนี้ตั้งใจเอา ซินเดอเลล่าแมน ที่กวอนซังวูเล่น มาดูค่ะ เรื่องนี้เล่นเป็นแบบฝาแฝดด้วยนะคะ อิอิ
ดูกันซะให้หายคิดถึงเลยนะ ฮ่า ๆ ๆ
จีซบอูป้า ได้รางวัลที่นิวยอร์คด้วยนะคะ คุณไฮรู้ยังเอ่ย อิอิ
ปล.มีความสุขมาก ๆ กับ วันหยุดยาว ๆ นะคะ
โดย: มินทิวา 5 กรกฎาคม 2552 7:00:14 น.
โดย: กะว่าก๋า 5 กรกฎาคม 2552 7:11:36 น.
ตอนนี้สุขภาพก็พยายามรักษาอยู่ แต่ว่างานก็ยังหนักอยู่ครับ ใครๆก็มาตรวจ กลัวเป็นไข้หวัด2009 นี่เมื่อคืนก็อยู่เวร กำลังจะออกเวรแล้วครับ เย็นนี้มีสอบเทควันโด้.. อิอิ
โดย: นางาเสะ ไลท์ 5 กรกฎาคม 2552 8:06:41 น.
ขอโทดทีค่ะหายหน้าหายตาไปหลายวันเลย ช่วงนี้งานรุ้งยุ่งมั่กๆ เลยค่ะ
เสาร์อาทิตย์ถึงได้แวบมาเล่นบล็อก
แวะมาชมพู่กันจีนสวยๆ ของคุณไฮกุต่อ
หอกระเรียนเหลืองสวยจังค่ะ
โดย: arcoiris 5 กรกฎาคม 2552 13:20:14 น.
ไปเที่ยวไหนหรือเปล่าครับ
โดย: ลุงแอ๊ด 5 กรกฎาคม 2552 20:44:41 น.
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 6 กรกฎาคม 2552 6:32:08 น.
ได้รับความรู้บทกวีหอกระเรียนเหลือง
และความหมายของผู้แต่ง
รวมทั้งพัฒนาการของสถาปัตยกรรมจีน น่าสนใจมากครับ
ทำให้อยากไปจีนและชมสถานที่จริงครับ
โดย: Insignia_Museum 6 กรกฎาคม 2552 10:22:02 น.
แชมป์เทนนิสเยาวชนหญิงเดี่ยวและหญิงคู่
Wimbledon 2009
ถ้วยรางวัลจุ๋มจิ๋มน่ารักไหมคะ!!!
น้องนก "นพวรรณ เลิศชีวกานต์"
หอบเอาถ้วย 2 ใบมา ฝากค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ 6 กรกฎาคม 2552 13:29:58 น.
โดย: กะว่าก๋า 7 กรกฎาคม 2552 11:38:43 น.
สุดยอดครับ..
สองบทนั่นน่ะ..
ฮู่ววววว..
โดย: อิสระชน..ตัวโตเต็มวัย..ไม่ใช่ใคร.มันคือ.. (อสัญแดหวา ) 8 กรกฎาคม 2552 0:35:59 น.
โดย: a_music 8 กรกฎาคม 2552 8:19:08 น.
ทุกหลับตา ทุกลืมตา
ยังจะประมาทกันอีกหรือ ?????
อนุโมทนาบุญกับวันพระใหญ่ค่ะ
ช่วงนี้ป้าเข้าบล็อกแบบผลุบๆโผล่ๆเต็มที หากมาเยี่ยมน้อยไปไม่ว่ากันนะคะ
ถึงอย่างไรก็ยังระลึกถึงเสมอค่ะ
คมคำ : รู้สารพัดรู้ แต่ไม่รู้จักตัวเอง ก็ไม่เรียกว่ารู้จริง
โดย: ร่มไม้เย็น 8 กรกฎาคม 2552 16:03:34 น.
หมิงหมิงกลับมาแล้วครับ
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 9 กรกฎาคม 2552 6:11:21 น.
คุณก๋า...แฮะ ๆ คุณก๋าบอกยี่ห้อกล้องก็ไม่รู้ว่าคุณภาพเป็นไงอยู่ดี แต่กล้องของน้องชายที่เราใช้อยู่ก็แคนนอนเหมือนกัน ปกติจะถนัดแต่ใช้กล้องปัญญาอ่อน แต่เจ้ากล้องตัวนี้ใช้ค่อนข้างง่ายดี ขนาดโฟกัสห่วยแตกแต่ภาพก็ออกมาใช้ได้เลยฮ่ะ
เร็วจริง ๆ เพิ่งเห็นหลานหมิงนอนแบเบาะอยู่เลย ตอนนี้เดินได้แล้ว
คุณCharlotte...เก่งจัง เล่นเปียโนได้เพราะเชียวค่ะ อยากรู้ชื่อเพลงเหมือนกัน ถ้าหาเจอก็อย่าลืมแวะมาบอกด้วยนะคะ
หยุดยาวไม่ได้ไปไหน แต่ยุ่ง ๆ ก็เลยไม่ได้เล่นบล๊อคเลยค่ะ
ลุงแว่น...ขอบคุณที่แวะมาบอกข่าวอัพบล๊อคใหม่นะคะ ดอกกล้วยไม้สวยแปลกตาจัง ดูแล้วเหมือนตัวแมลงเลย
คุณมิน...คุณมินหายหน้าไปเพราะโดนงานรุมนี่เอง คนอื่นได้หยุดยาวแต่เรายังต้องทำงานเลยทิ้งบล๊อคไปหลายวัน ไม่ได้แวะไปเยี่ยมเพื่อน ๆ เลย
อยากดูเรื่อง Cinderella Man เหมือนกันเพราะชอบซังวูค่ะ เนื้อเรื่องน่าสนใจ เห็นรูปจากละครแล้ว นางเอกสวยดีแต่ดูเด็กจัง รู้สึกว่าจะเป็นนักร้องด้วยใช่ไหมคะ ถ้าดูแล้วอย่าลืมแวะมาเม้าท์ให้ฟังด้วยนะจ๊ะ
เพิ่งรู้ว่าจีซอพได้รางวัล เจ๋งอ่ะ ได้รางวัลจากเมกะซะด้วย อ่านข่าวบันเทิงเกาหลี บริษัทจัดหาคู่ทำผลสำรวจเรื่องคนบันเทิงที่อยากให้แต่งงานด้วยกันมากที่สุด ผลออกมาว่าหนุ่มจีซอพนี่แหละได้อันดับหนึ่ง ฝ่ายหญิงคือนางเอกเรื่องF4เวอร์ชั่นเกาหลี
น้องชายจีซอพถูกจับคู่แล้ว พี่ชายซึงฮอนก็มีคนจับคู่ให้เหมือนกันนะ พ่อสื่อไม่ใช่ใครอื่น ก็คนที่เล่นเป็นประธานกุ๊ก พ่อนางเอกไง แกไปร่วมรายการ talk show แล้วให้สัมภาษณ์ว่า กะลังจับคู่ให้พี่ชายกะยอนฮีเพราะเห็นว่าสองคนเหมาะกันมาก มีข่าวว่าออกเดทกันแล้ว ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าเพราะทั้งคู่ออกมาปฏิเสธ เราว่าสองคนก็เหมาะกันนะ (แอบเชียร์เพราะติดใจกุ๊กจากะดงชอล อิ อิ ) ตอนนี้กะลังติดเรื่อง EOE เนื้อเรื่องกะลังสนุกเลยค่ะ เรื่องนี้ทำให้พี่ชายมีแฟนเพิ่มขึ้นเยอะเลย เรียกว่าผู้หญิงดูได้ ผู้ชายก็น่าจะชอบดูด้วย ทีแรกก็ลุ้นอยู่ว่าเสียงพากย์จะแย่ แต่ฟังแล้วก็โอเคมาก ได้ยินเสียงนักพากย์จากช่องสามหลายคน คนที่พากย์ดงชอลก็ใช่ เราชอบมากซะด้วย พากย์เก่ง พากย์ได้ทั้งพระเอกทั้งตัวโกง
คุณหมอไลท์...ยังรอนัดคุณหมออยู่ค่ะ กะลังลุ้นอยู่ว่าจะไม่เป็นอะไรมาก น้องไลท์ทำงานหนักแต่ยังดีที่มีเวลาออกกำลังกาย พี่ก็พยายามหาเวลาออกกำลังเหมือนกัน แต่ไม่ทันไรก็หอบแฮ่กแว้วววว
คุณรุ้ง...ต่างคนต่างหายหน้าเนาะ ช่วงนี้เข้าโหมดดองบล๊อคอีกรอบฮ่ะ ถ้าไงก็ทนกลิ่นตุ่ย ๆ ไปอีกนิ๊ดดดดน้า
คุณInsignia_Museum...ตะก่อนเวลาดูหนังกะละครจีนแล้วอยากไปเที่ยวเมืองจีนมั่กๆ พอมาทำบล๊อคเกี่ยวกับเรื่องจีน ๆ ได้รู้ข้อมูลเยอะขึ้นยิ่งอยากตามรอยไปเที่ยวให้ครบทุกที่เลย อ่านประวัติสามหอแห่งเจียงหนานแล้วประทับใจ ถ้ามีโอกาสก็ต้องไปให้เห็นกะตาสักหนค่ะ
คุณเริงฤดี...ขอบคุณที่เอาภาพน้องนกคนเก่งมาฝากนะะ น้องเค้าเก่งสุดยอดเลยเนอะ นำความภาคภูมิใจมาให้คนไทยทั้งประเทศ คิดว่าถ้าได้เป็นมืออาชีพคงไต่อันดับได้เร็วแน่
คุณแดหวา...งานของกวีรุ่นใหญ่ก็ต้องเยี่ยมแบบนี้แหละคับพ้ม บทนี้คลับคล้ายคลับคลาว่าตอนที่เรียนภาษาจีน เหล่าซือเคยเอามาสอนในชั้น ในหนังจีนก็มีเอ่ยถึงหลายเรื่องเลยค่ะ
คุณป้ากุ๊กไก่...ขอบพระคุณคุณป้ามากที่เอาบุญมาฝากช่วงวันพระใหญ่ หยุดยาวหลายวัน ถนนกทม.โล่งไปเยอะ ช่วงนี้นู๋ก็เลียนแบบคุณป้า เล่นบล๊อคแบบผลุบ ๆ โผล่ ๆ เหมียนกัลลลฮ่ะ
นัท & คุณบี๋ & ลุงแอ๊ด & คุณa_music...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
โดย: haiku 9 กรกฎาคม 2552 14:45:53 น.
แต่ข้อมูลและงานของผมยังอยู่ครบถ้วนครับคุณไฮกุี หุหุหุ
โดย: กะว่าก๋า 9 กรกฎาคม 2552 15:59:23 น.
จริงๆแล้วผมว่า การพุดกันตัวต่อตัว
นี่แหละครับ..
ดีที่สุดแล้ว..
ข้อเสียของมือถือ มันก็ตรงนี้แหละครับ..
มันทำให้เราพูดกันจริงๆ..
น้อยลง..
มาคุยกันเถอะนะครับ..
ลา ลั้ล ลา..
โดย: สามัญชน (อสัญแดหวา ) 10 กรกฎาคม 2552 1:04:10 น.
โดย: กะว่าก๋า 10 กรกฎาคม 2552 7:58:04 น.
หม่อมป้า ก็ดองบล็อก
โดย: angy_11 10 กรกฎาคม 2552 11:42:51 น.
โดย: พลังชีวิต 10 กรกฎาคม 2552 15:03:44 น.
จิตใจที่นิ่งที่สุดจะมีความสุขที่สุด
วันนี้ป้ามีความจำเป็นต้องไปเตร็ดเตร่ที่โรงพยาบาล
เพื่อตรวจเลือด หาโคเลสเตอรอลตามนัด
หลายเดือนก่อนไปตรวจสุขภาพไว้ เจ้าตัวนี้เผ่นไปถึง 272 หมอเลยให้ยามาทานวันละเม็ด
พอไปเช็ครอบสอง ลดลงเหลือ 220
วันนี้เป็นงวดที่สาม ไชโย ไชโย ไชโย ลดลงเหลือ 151
ตั้งใจจะเล่าว่าวันนี้เจอมนุษย์หน้ากากเยอะแยะเลย
ดูไปก็แอบขำๆ
แต่ที่ขำมากก็คือ ขนาดสวมหน้ากากแล้วก็ยังคุยกับมือถือจ้อยๆๆๆๆ
สงสัยจังปลายทางเขาจะฟังเสียงอู้อี้รู้เรื่องมั๊ยเนี่ย
.
ส่งคุณไฮกุเข้านอนค่ะ
คมคำ : ถอยหลังสักก้าว จะเห็นหนทางกว้างขึ้น
โดย: ร่มไม้เย็น 10 กรกฎาคม 2552 21:54:57 น.
โดย: กะว่าก๋า 11 กรกฎาคม 2552 7:16:03 น.
โดย: พี่รี่+ต๊อก 11 กรกฎาคม 2552 10:19:19 น.
โดย: บี๋ (Yushi ) 11 กรกฎาคม 2552 15:23:28 น.
โดย: กะว่าก๋า 12 กรกฎาคม 2552 6:16:52 น.
ส่งข่าวว่า วันนี้อัพบล็อกแล้วครับ
วันนี้เสนอตอน "จังเกิ้ลสตูดิโอ"
บทเพลงจากป่าเขา เขามีวิธีการผลิตกันอย่างไร แต่ละขั้นตอนยากเย็นชุลมุนกันอย่างไร
ลองไปติดตามอ่านดูนะครับ....
โดย: ลุงแว่น 12 กรกฎาคม 2552 11:02:44 น.
โดย: Jakaey 12 กรกฎาคม 2552 13:38:00 น.
โดย: d_regen 13 กรกฎาคม 2552 20:26:54 น.
ไก่กลับมาแล้วค่ะตอนอาทิตย์บ่ายแก่ๆค่ะ การเดินทางครั้งนี้ราบรื่นผิดกับครั้งที่ผ่านมามากๆ
ไม่เหมือนตอนที่ไปFlorence ติดที่สนามบินหลายชั่วโมงเลยค่ะ
แถมงานยังเป็นใจให้ได้เที่ยวต่ออีกสองวันด้วยค่ะ
คุณไฮกุสบายดีนะคะช่วงนี้
โดย: Sweety-around-the-world 13 กรกฎาคม 2552 21:29:20 น.
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 14 กรกฎาคม 2552 5:57:34 น.
หลานหมิงจับกีตาร์ ท่าทางเป็นนักดนตรีเต็มตัวเชียว อีกหน่อยคงเล่นดนตรีกะป่าป๊าได้สบาย
คุณแดหวา...ก็คงเป็นไปตามยุคแหละค่ะ ยุคนี้เป็นยุคมือถือกะดิจิตอล โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอวัยวะที่สามสิบสามไปแล้ว อย่างเรานี่ถือว่าตกยุคฮ่ะ ไม่มีมือถือเพราะไม่ค่อยชอบใช้เท่าไหร่
จี้...ต้องเรียกว่านิสัยเก่ากำเริบฮ่ะ เพราะตะก่อนดองบล๊อคประจำอยู่แล้ว
คุณป้ากุ๊กไก่...อายุมากขึ้น สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ดีใจด้วยที่คุณหมอตรวจแล้วไม่เป็นอะไรมาก แถมโคเลสเตอรอลก็ลดลงด้วย ถ้าระวังเรื่องอาหารจะช่วยได้เยอะเลยค่ะ
ทีแรกอ่านแล้วงงว่ามนุษย์หน้ากากคือใคร พอนึกไปนึกมาก็ร้องอ๋อ ที่แท้ก็คนใส่ผ้าปิดปากน่ะเอง ช่วงนี้ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ระบาดหนัก ไม่รู้ว่าจะสกัดให้ชะงัดได้ไง คุณป้าก็ต้องระวังสุขภาพด้วยนะคะ
ลุงแว่น...ท่าทางบล๊อคใหม่จะออกแนวบันเทิงแหงม ๆ จูงมือคุณหงามาเยี่ยมด้วย ชอบแกค่ะ เป็นคนเก่งแถมมีความคิดดีด้วย
คุณJakaey...ยินดีต้อนรับเพื่อนบล๊อคคนใหม่ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
คุณไก่...งวดนี้หายไปนานเชียว Welcome backค่า คุณไก่เดินทางบ่อย ๆ แบบนี้ เหนื่อยเอาการเหมือนกันนะคะ ดีใจที่การเดินทางราบรื่นแถมมีเวลาได้เที่ยวต่ออีก แบบนี้คงมีรูปถ่ายงาม ๆ มาฝากเพื่อนเยอะแน่เลย
คุณโจ & พี่รี่+ต๊อก & คุณบี๋ & น้องแฟง...ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันจ้า
โดย: haiku 14 กรกฎาคม 2552 10:31:51 น.
แต่ในเวลาต่ำต้อยอาจมีน้อยไม่ถึงหนึ่ง
หอบความระลึกถึงมาฝากมากมาย เก็บเข้าบ้านด้วยเน้อ
อย่าเผลอลืมทิ้งไว้นอกบ้านจะโดนฝนจ้าาาาาาาาาาาาา
คมคำ : เบื้องหลังอุปสรรค อาจมีความสำเร็จรออยู่
โดย: ร่มไม้เย็น 14 กรกฎาคม 2552 13:00:18 น.
โดย: ว่าจะไม่แล้วนะ 11 เมษายน 2553 1:17:21 น.