"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

ไก่ผัดเค็ม










อันที่จริงกับข้าว "ทำกินกันเอง" ชุดใหม่นี้ นั้นก็ไม่ใช่ของใหม่ เพราะทำกินกันอยู่ทุกวี่ทุกวันจนบางครั้งก็ลืมๆ ไปว่า ทำอะไรให้สมาชิกในบ้านรับประทานกันไปบ้าง

เพราะพอเช้าขึ้นมาก็จะต้องมีหน้าที่เป็นคนคิดเมนูอาหารประจำวันกันสองคนกับแม่บ้าน ว่าวันนี้เราจะทำอะไรกันดี

เช่นบางอย่างพ่อชอบ ลูกไม่ชอบ แล้วบางอย่างที่ลูกชอบ พ่อก็ไม่ชอบเสียอีก

เพราะฉะนั้น เราจะต้องช่วยกันคิดให้เมนูกระจายๆ กันออกไป อย่างน้อยๆ ก็ต้องให้มีสิ่งที่พอใจกันคนละสิ่ง นอกจากนั้นจึงจะพอหาของที่เป็นของกลางๆ มาเพิ่มเติมให้ครบสำรับ

เวลามีใครบ่นขึ้นมาสักคน เราก็จะชี้ให้ดูว่า "ก็นี่ไงจ๊ะของโปรดของเธอ แม่ทำให้แล้วไง"

แต่สำหรับลูกๆ แล้วไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ ถ้าเหลียวซ้ายแลขวาแล้วไม่ชอบใจก็จะเรียกหา "อาหารฮ่องเต้" ประจำตัวของพวกเขาที่รับประทานมาตั้งแต่เด็กยังไม่เคยเบื่อคือ "ไข่เจียว!" ค่ะ

ที่หนักหน่อยก็คือพ่อบ้านค่ะ เธอจะอารมณ์เสียทั้งๆ ที่ธรรมดาก็เป็นคนน่ารัก แต่จุดอ่อนของเธอคือเรื่องอาหารค่ะ

เวลาเข้าไปครัว จมูกของเธอจะเป็นเสมือนเครื่องตรวจจับกลิ่น และรสของเครื่องปรุงอาหารไปในทันที

เช่นพอโผล่เข้าไปปุ๊บ เธอก็จะกวาดสายตาไปทั่วแล้วร้องว่า

"นั่นทำอะไรอยู่นะ! ใส่ตะไคร้ด้วยใช่ไหม แก่ตะไคร้ไปนิดนะ ผมว่าเอาออกหน่อยดีกว่า" หรือบางทีก็

"เติมกระชายอีกหน่อย ยังอ่อนกระชายไปนะ แล้วน้ำพริกปลาร้านี่ล่ะ ตำผิวมะกรูดใส่ลงไปหรือยัง อย่าลืมบีบน้ำมะกรูดลงไปด้วยเยอะๆ นะผมชอบ"

ดิฉันว่าจมูกของเธอคงจะติดเรดาร์ไว้ค่ะ

แล้วอ้ายเครื่องปรุงที่เธอประกาศแบบผู้เชี่ยวชาญการครัว ออกมานั้น บางที (ส่วนใหญ่) มันก็แสนจะไม่เกี่ยวกับอาหาร ที่เรากำลังปรุงอยู่แม้แต่น้อยนิด และที่สำคัญก็คือ เธอทำกับข้าวไม่เป็นเลยค่ะ ดิฉันละเป็นงงจริงๆ

แล้วหลังจากนั้นกรณีปักปันชายแดนก็เริ่มเกิดขึ้น คุณๆ คงจะพอเดาได้นะคะว่า มันจะลงเอยได้อย่างไร ไม่ยากหรอกค่ะ ก็ปิดประตูครัวเสียเท่านั้นเพื่อไม่ให้กลิ่นลอดออกไปรบกวนจมูก ของเธอ

ทีนี้เราก็มาทำไก่ผัดเค็มของเราต่อดีกว่านะคะ

อันไก่ผัดเค็มนี้ บางคนเขาก็เรียกว่าไก่คั่วเค็มค่ะ ซึ่งอันที่จริงแล้วก็คือกับข้าวชนิดเดียวกัน แต่เรียกต่างกันออกไป แต่ชื่อนั้นสำคัญไฉน

ขอแต่ให้รสชาติถูกปาก ถูกใจเราก็เป็นอันใช้ได้ก็แล้วกันนะคะ

เราไปซื้อไก่มาสักหนึ่งตัวค่ะ นำมาล้างให้สะอาด แล้วผ่าออกเป็นชิ้นใหญ่สักสี่ชิ้นแล้วพักไว้ค่ะ

ต่อไปเอาน้ำใส่หม้อราวครึ่งหม้อค่ะ กะว่าพอใส่ไก่ลงไปแล้วให้น้ำท่วมชิ้นไก่

พอน้ำเดือดดีใส่ชิ้นไก่ลงไปจนหมด ที่บอกให้รอจนน้ำเดือดก่อนค่อยใส่ไก่ก็เพื่อให้ไก่ไม่เหม็นคาวไงคะ

ทีนี้คุณก็รอจนมีฟองลอยขึ้นมา จึงใช้ทัพพีตักฟองออกทิ้งไป หลังจากช้อนฟองออกสักพักแล้วก็ค่อยๆ หรี่ไฟลงเป็นไฟกลาง ค่อยๆ ช้อนไปจนหมดฟองน้ำเป็นสีใสสวย

หลังจากหมดฟองแล้วสักสิบห้านาทีก็ปิดไฟได้ค่ะ

ต่อไปค่อยๆ ตักชิ้นไก่ขึ้นใส่จานแบนหรือถาดจนหมด เวลาวางลงบนโต๊ะหาอะไรหนุนถาดให้สูงกว่าอีกด้านหนึ่งเล็กน้อย เพื่อให้น้ำที่ค้างอยู่ในชิ้นไก่ตกลงไปเสียบ้าง

ทิ้งไว้จนไก่เย็นและแห้งพอประมาณ ก็หยิบขึ้นมาเลาะเนื้อไก่ออกทีละชิ้นบนเขียงพอเลาะออกมาแล้ว คุณค่อยใช้มีดสับ สับไก่ให้เป็นชิ้นๆ หนาประมาณนิ้วมือจนหมดไก่

ทีนี้คุณก็จัดแจงเทน้ำมันพืชลงในกระทะราว 1/2 ถึง 3/4 ถ้วย แล้วแต่ไก่ของคุณจะตัวใหญ่ขนาดไหนค่ะ ถ้ามีเครื่องในด้วยก็ล้างให้สะอาดใส่ต้มลงไปด้วยกัน แล้วเอาขึ้นมาหั่นชิ้นใหญ่ๆ นะคะ

พอน้ำมันในกระทะร้อนดี คุณค่อยๆ เทชิ้นไก่ที่หั่นไว้ (รวมทั้งเครื่องใน) ใส่ลงไปนะคะ แล้วตอนนี้ถ้ามีเสื้อเกราะจะเอามาสวมเสียหน่อยก็ดีค่ะ

เพราะหนังไก่ก็ดี เศษน้ำต้มไก่ที่ยังตกค้างอยู่ตามเนื้อก็ดี (ก็ต้องมีอยู่บ้างเป็นธรรมดา) ล้วนแล้วแต่เครื่องจุดระเบิดทั้งนั้นค่ะ ประเดี๋ยวๆ ก็ "โป้ง" ขึ้นมาเสียที

แม่บ้านที่น่าสงสารของดิฉันทำสงคราม กับไก่พวกนี้เป็นประจำก็ยังอดบ่นเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ เวลาที่คุณผู้ชายเธอคอย พากย์ว่า

"เอาให้เหลืองกว่านี้อีก ทอดให้เหลือง มากๆ! นี่อะไรขาวซีดแหงแก๋ เหมือนไม่ได้ทอด!"

โธ่เอ๋ย! อยากให้แกไปเข้าสงครามแทนเรานัก บางทีดิฉันยังเคยคิดจะหาไม้อะไรมาต่อด้ามตะหลิวของเราให้ยาวออกไป สัก 2-3 เท่า แต่ก็เกรงไปว่าจะได้ไปลงใน กินเนสส์บุ๊กแข่งกับธูปที่จังหวัดนครปฐม ก็เลยต้องเลิกล้มความคิดไปเสีย

เอาเป็นว่าไก่ของคุณที่ทอดออกเป็นสีเหลืองสวยดีแล้ว คุณก็เทน้ำปลาลงไปผัดให้เข้ากันสักสามช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากันจนหอมฟุ้งไปทั้งบ้านแล้วจึงปิดไฟ ตักไก่ขึ้นใส่หม้อ

ต่อไปคุณค่อยๆ ใช้ทัพพีตักน้ำต้มไก่ที่เหลืออยู่ในหม้อใส่ลงไปในกระทะ เปิดไฟให้น้ำเดือด ใช้ตะหลิวคนก้นกระทะให้เศษไก่ที่ติดอยู่หลุดออกจนหมดแล้วจึงเทน้ำในกระทะใส่ลงไปในหม้อไก่ (คุณชาย ถนัดศรีเธอสอนว่า เขาเรียกกันว่าน้ำสะเออะค่ะ)

เติมน้ำซุปลงไปอีกให้ท่วมไก่ ใส่พริกไทยเม็ดลงไปสักยี่สิบเม็ด ปิดฝาหม้อ เคี่ยวไฟอ่อนรุมไปจนเนื้อไก่เปื่อยนุ่ม เหลือเพียงน้ำขลุกขลิก เป็นอันใช้ได้

อันไก่ผัดเค็มนี้ ให้รสออกเค็มสักนิด เพราะถ้าจืดเกินไปจะไม่อร่อยค่ะ

ถ้ารับประทานแบบไทยๆ จะคลุกกับข้าว แล้วแนมพริกขี้หนูนิดก็อร่อยไปอย่างหนึ่ง

หรือจะนำไปรับประทานกับขนม ปังปิ้งและผักดอง ก็ไม่เลวค่ะ จะใช้เป็นไส้แซนด์วิชก็ได้

ยิ่งถ้าเหลือค้างคืน นำไปอุ่นจนเกือบแห้งยิ่งอร่อยค่ะ แต่สำคัญอยู่ที่ว่าจะมีไก่เหลืออยู่พอที่คุณจะนำไปอุ่นหรือเปล่า นี่สิคะ

เกือบลืมบอกไปแน่ะค่ะ ว่าบางครั้งสามีของดิฉันเธอเกิดมีสมองพลุ่งโพล่งขึ้นมา เธอแนะให้นำเห็ดหอมแห้งดอกเล็กๆ มาแช่น้ำไว้จนนุ่มแล้วบีบน้ำออกจนแห้ง นำไปผัดรวมกับไก่ที่ผัดจนเหลืองดีแล้วค่อยนำไปเคี่ยวรวมกัน ออกมารสชาติไม่เลวค่ะ อร่อยไปอีกอย่างหนึ่งค่ะ

อันไก่ผัดเค็มชนิดนี้ ถ้าเราจะไม่รับประทานกับข้าวสวย เราจะนำไปทำข้าวต้มรับประทาน ก็จะกลายเป็นข้าวต้มไก่แสนอร่อยไปอีกแบบหนึ่งค่ะ

คือเราก็ไปจัดแจงต้มข้าวธรรมดาเข้าอีกหม้อหนึ่งค่ะ จะชอบให้เป็นข้าวต้มชนิดพอเมล็ดข้าวสุกสวยเรียงตัวเหมือนกับที่เขาทำขายกัน หรือชอบให้เมล็ดข้าวนุ่มสักนิดแบบคนมีอายุ (เช่นผู้เขียน) ชอบรับประทานก็สุดแท้แต่ใจของคุณ

คุณคงยังพอจำได้นะคะว่า เรายังคงมีน้ำซุปเหลืออยู่ เมื่อตอนต้มไก่อยู่อีกหม้อหนึ่ง จะให้ดี เราก็นำกระดูกไก่ที่เลาะเอาเนื้อไปผัดเค็มไว้ ใส่คืนลงไปในหม้อน้ำต้มไก่ ยกตั้งไฟเคี่ยวต่อไปอีกสักพักค่อยยกขึ้น เพราะเมื่อกี้นี้เราต้มไก่ไว้แต่พอ สุกเท่านั้น

ตอนนี้นำกระดูกมาเคี่ยวต่อให้น้ำหวานออกอีกสักนิด ก็คงไม่เสียหายอะไร

หลังจากนั้น ระหว่างรอน้ำเคี่ยวกระดูกอยู่ คุณก็จัดแจงนำกระเทียมมาปอกเปลือกสับให้ละเอียด แล้วเจียวให้เหลืองกรอบไว้สักถ้วยหนึ่ง

นำต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่ายมาล้างให้สะอาด ซอยหยาบๆ ไว้อีกถ้วยหนึ่ง

เวลาจะรับประทาน ตักข้าวต้มร้อนๆ ใส่ชามพอประมาณ ตักน้ำต้มกระดูก ร้อนๆ เติมลงไปตามชอบ (โปรดอย่าลืมคำ "ร้อน" เป็นอันขาด มิฉะนั้นสามีข้าพเจ้าจะโกรธมาก)

ต่อไปตักไก่ผัดเค็มใส่ลงไป โรยกระเทียมเจียว ตั้งฉ่าย และผักที่เตรียมไว้ เหยาะน้ำปลาดีอีกนิด แล้วทีนี้...ต้องเอาอะไรมาแลก คุณถึงจะยอมคะ?

หน้า 5


ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
คอลัมน์ ทำกินกันเอง
คุณสุคนธ์ จันทรางศุ

สิริสวัสดิ์อาทิตยวารค่ะ




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2555
0 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2555 15:26:26 น.
Counter : 3195 Pageviews.


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.