สมองของคนเรามีความมหัศจรรย์มาก
เมื่อก่อนเราอาจจะเชื่อกันว่า คนที่มีรอยหยักในสมองมาก หรือมีขนาดสมองใหญ่
จะเป็นคนฉลาด แต่จริงๆแล้ว ความฉลาดขึ้นอยู่กับเซลล์สมอง ใครมี
มากกว่ากัน และการมีมากกว่าเป็นตอนอยู่ในท้อง หรือ ตอนเกิดแล้ว
อย่างไอน์สไตน์ ก็มีเซลล์สมองเท่ากับคนทั่วไป คือ 100 ล้านล้านเซลล์
แต่ในจำนวน 100 ล้านล้านนั้น สิ่งที่ไอน์สไตน์มีมากกว่าคนอื่นก็คือ
เส้นใยสมอง ที่แตกออกจนเป็นพุ่มขนาดใหญ่
ตัวเซลล์นี้แหละคือ ตัวการรับรู้ข้อมูล คนไหนมีมากก็จะรับข้อมูลได้มาก
คนไหนมีน้อย ก็จะรับข้อมูลได้นิดเดียว เพราะฉะนั้น เราจะทำอย่างไร
ให้เซลล์สมองตรงนี้ที่เหลืออยู่ แตกขึ้นมาใหม่เยอะๆ เพราะถ้ามันแตก
มากๆ ก็จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก
สมองส่วนที่อยู่ข้างหน้า เป็นเรื่องของการจำ
การวิเคราะห์ข้อมูล การคำนวณข้อมูลทั้งหมด ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญ
เวลาที่คนจำไม่ได้....แสดงว่าส่วนหน้านี้มันไม่ทำงาน
● ส่วนด้านข้าง เป็นด้านของการรับรู้
มันจะเชื่อมต่อกับการวิเคราะห์ จะอยู่ตรงกัน เพราะเมื่อมองเห็นปุ๊บ
สมองสั่งให้จำ และได้ยินว่าอะไร มันก็จะนำมาประมวลผล
● ส่วนด้านบนบริเวณกลางศรีษะ จะเป็นเรื่องของกะระยะ
บางคนที่จะขึ้นบันได กะระยะไม่ได้ หรือคนที่เรียนหนังสือ
แล้วไม่รู้จักมิติความลึก ความหนา ความกว้าง มองภาพ
สามมิติ ไม่ออกนั้น เป็นเรื่องของความรู้สึก
ผู้สูงวัย ควรทำ 5 อ. คือ
-ออกกำลังกาย
- อาหาร
- อากาศ
- อุจจาระ
-และ อารมณ์
ถ้าไม่อยากให้สมองถูกทำลาย ก็ควรปฎิบัติ ดังต่อไปนี้
1. กินอาหารเช้า
เพราะถ้าไม่กินvจะขาดน้ำตาล แต่ถ้ากินมากไป
กระเพาะก็จะทำงานหนักมาก เพราะแทนที่เลือด
จะไปเลี้ยงสมอง ก็ต้องไปเลี้ยงกระเพาะแทน
2. หลีกเลี่ยงความเครียด
ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บมากมาย โดยเฉพาะความดัน
เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯ
3. หายใจให้ถูกวิธ๊ วิธีที่ถูกต้องคือ... หายใจลึกๆ ให้ลมเข้าจมูกผ่าน
ไปช่องท้องส่วนที่ลึกที่สุด การหายใจที่ถูกวิธี
จะไปเพิ่มออกซิเจนในสมองมากขึ้น
4. อย่าอดนอน เพราะสมองต้องการพักผ่อน เพื่อเซตข้อมูลต่างๆ
ที่รับเข้าไปในแต่ละวัน คนปกติควรนอนอย่างน้อยประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง
5. การใช้ความคิด เพราะคนที่ไม่คิดเลย นั่งนิ่งๆ เฉยๆ โรคอื่นๆ
ก็จะตามมา วิธีการฝึกสมองสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น
ขยันคิดค้นคว้า เป็นนักสะสมข้อมูลก็ได้ ใช้ความคิด
แปลกใหม่ คิดอย่างสร้างสรรค์
6. การพบปะสังสรรค์ มีประโยชน์มากในผู้สูงวัย เพราะจะทำให้
มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันบ่อยๆ
7. การใช้ศิลปะและดนตรี ร้องเพลง เต้นรำ ทำงานศิลปะ
หรืออ่านหนังสือก็ได้
8. อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีบรรยากาศครอบครัวที่อบอุ่น
9. โภชนาการที่ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง
โดยเฉพาะประเภทปลา เช่น ปลาทูน่า ปลาซาดีน ปลาทู ฯลฯ
10. ความรัก เป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนละเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นเด็ก
หนุ่มสาว หรือผู้สูงวัย ทุกวัยล้วนต้องการความรัก เป็นยาชูกำลังใจ
ให้รู้สึกว่า ตัวเองมีคุณค่าอยู่ตลอดเวลา หรือได้ทำงาน
ให้สังคม ให้ครอบครัว เท่าที่ยังสามารถทำประโยชน์ได้อยู่
☞ ตัวที่ขัดขวางอย่างมากที่ทำให้
เซลล์สมองไม่แตกตัวได้ มีอยู่ 2 อย่าง คือ
1. เรียนรู้ผิดวิธีคือได้รับข้อมูลมาผิดๆ แล้วนำไปปฎิบัติผิดๆ
2. ไม่เรียนรู้เลย อยู่เฉยๆ ซึ่ง 2 อย่างนี้ ถือว่า
" เป็นอันตรายมากต่อสมองของคนเรา"
≈ ขอบคุณข้อมูลนี้จากหนังสือ หญิงไทย
อาจารย์สุขพัชรา ซิ้มเจริญ...บรรยาย
คุณรัมภา - รษา ....เขียนเรื่อง