สรรพสิ่งล้วนอนิจจัง จะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าใดไม่มีใครบอกได้ พ่อจึงคิดว่าบางเรื่องพ่อน่าจะสั่งเสียไว้ แต่เนิ่น ๆ (1) คนที่ไม่ดีต่อเรา ไม่ต้องไปใส่ใจนัก ในชีวิตคนเราไม่มีใครมีหน้าที่ที่จะต้องมา ดีต่อเรา ยกเว้นพ่อกับแม่ของลูก
(2) ไม่มีคนที่ทดแทนกันไม่ได้ และไม่มีสิ่งใดที่ต้องมีให้ได้ ถ้าเข้าใจจุดนี้ หากวันใดคนข้างกายของลูกไม่ต้องการลูกอีกต่อไป หรือวันใดที่ลูกต้องเสียสิ่งที่รักที่สุดไป ลูกจะได้เข้าใจว่า นี่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรเลย
(3) ชีวิตนี้แสนสั้น หากลูกยังใช้ชีวิตอย่างไม่เห็นคุณค่า พรุ่งนี้ลูกจะพบว่าชีวิตจะหลุดลอยไปไกลยิ่งขึ้น ดังนั้นยิ่งรู้จักถนอมชีวิตเร็ว เท่าใดเวลาที่ลูกจะได้รับความสุขจากชีวิตก็ จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้นหาความสุขเสียแต่วันนี้ ดีกว่านั่งหวังให้มีอายุยืนนาน
(4) ในโลกนี้ไม่มีเรื่องรักนิรันดร์กาล ความรักเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบ โดยความรู้สึกนี้ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและอารมณ์ หากสิ่งที่ลูกรักมากที่สุดจากลูกไป ขอให้รอคอยอย่างอดทน ให้เวลาช่วยชะล้าง ให้จิตใจค่อย ๆ ตกตะกอน แล้วความทุกข์ของลูกจะค่อย ๆ จางหายไป
(5)แม้ว่าคนหลายคนที่ประสบความสำเร็จ ในโลกนี้ไม่ได้เรียนมาสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าหากไม่ขยันเรียนแล้วจะได้ดี ความรู้คืออาวุธ คนเราอาจสู้แล้วรวย แต่ไม่มีทางรวยได้ หากปราศจากอาวุธสู้
(6)พ่อจะไม่เลี้ยงดูครึ่งหลังของชีวิตลูก เมื่อลูกโตพอจนเป็นอิสระได้แล้ว พ่อก็หมดหน้าที่แล้ว หลังจากนั้นไป ลูกจะนั่งรถเมล์หรือจะนั่งรถเบ๊นซ์ จะกินหูฉลามหรือจะกินบะหมี่ข้างถนน ลูกต้องเลือกเอง
(7) ต้องทำดีต่อผู้อื่น แต่อย่าหวังว่าผู้อื่นต้องทำดีต่อเรา เราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร มิได้หมายความว่าผู้อื่นก็จะปฏิบัติตอบต่อเราในแบบเดียวกัน ลูกต้องเข้าใจในข้อนี้จะได้ไม่หาทุกข์ใส่ตัว โดยไม่จำเป็น
(8) พ่อซื้อล๊อตเตอรี่มาตลอดชีวิต ยังยากจนเหมือนเดิม แม้แต่รางวัลเลขท้ายยังไม่เคยถูกเลย นี่เป็นบทพิสูจน์ว่า คนเราจะเจริญก้าวหน้าได้ ต้องขยันขันแข็งอย่างเดียวเท่านั้น ในโลกนี้ไม่มีมื้อเที่ยงที่ไม่ต้องเสียตังค์ (No free lunch)
(9) ญาติ มิตร หรือสหาย ล้วนเป็นกันชาตินี้ชาติเดียว ฉะนั้นจงหวงแหนโอกาสที่ได้อยู่ด้วยกันและแสนมีค่านี้ เพราะในชาติหน้า ไม่ว่าท่านจะรักใครหรือชังใคร ท่านก็จะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก
สิ่งที่พ่อบันทึกไว้นี้ ล้วนเป็นประสบการณ์อันแสนเจ็บปวด ที่พ่อได้เรียนรู้มา มันจะทำให้ลูก ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนรู้มันอีกในชีวิต ของลูก ขอให้จำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไว้ให้ดี...(ขอขอบคุณข้อมูลข่าวรุ่นเคยู29 โดย sombhop prapurttitve)
เรียนรู้ชีวิตกับ John Nash...John Nash ในวัย 86 ปี และ Alicia ภรรยาในวัย 82 ปี เสียชีวิตทันทีเมื่อร่างของทั้งสองซึ่งมิได้รัดเข็มขัดนิรภัยถูกเหวี่ยงออกมานอกรถแท็กซี่ที่ทั้งสองโดยสารมาเมื่อตัวรถกระแทกอย่างแรงกับขอบถนนขณะชนกับรถคนอื่นบนทางด่วนในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ...