เรื่องสั้น สัมพันธภาพ (บทที่ 4)
บทที่สี่
"กลับมาแล้วค่ะแม่ หล่อนไหว้มารดาด้วยความเคารพสุดใจ พลางเข้าไปกอดและหอมดังที่ปกติเคยปฏิบัติเสมอมา แล้วคุณพ่อล่ะคะ หล่อนถามหลังเหลียวมองจนทั่วแล้วไม่พบ พ่อยังไม่กลับเลยลูก วันนี้ท่านมีนัดเลี้ยงลูกค้ารายสำคัญจากต่างประเทศ กว่าจะกลับคงดึกโน่นแหละ หนูมีอะไรหรือเปล่าล่ะลูก แม่ถามด้วยความห่วงใยเช่นเคย เปล่าหรอกค่ะ แค่ยังไม่ได้สวัสดีคุณพ่อแค่นั้นเองค่ะ ใจจริงหล่อนมีเรื่องคับข้องใจมากมายที่จะบอกพ่อและแม่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ไม่พูดดีกว่า ถ้าไม่มีอะไร ก็รีบไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายเนื้อสบายตัวซะ กลับมาเหนื่อยๆ หิวแย่แล้วล่ะ แม่ก็ยังคงห่วงใยทุกคนในบ้านเป็นกิจวัตร ดูแลทุกอย่างทั้งที่ทำงานและที่บ้านอย่างไม่เคยขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย สิ่งนี้แหละที่หล่อนตระหนักและชื่นชมในความสามารถของมารดาผู้เป็นที่รัก และหล่อนเองก็รู้ว่ามันเหนื่อยแสนสาหัสแค่ไหน แม้ผู้เป็นมารดาจะไม่เคยบ่นให้ได้ยินซักครั้ง แม้ทุกจุดบนใบหน้าของแม่จะมีแต่รอยยิ้มและความเอื้ออาทร หล่อนก็สามารถสัมผัสได้ด้วยหัวใจดวงน้อยนี้ด้วยจิตสำนึกของความเป็นลูก หล่อนจึงเป็นฝ่ายขอร้องมารดาให้หล่อนไปกลับมหาวิทยาลัยเอง เพื่อแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งนี้ออกไปบ้างหากไม่มากก็น้อยซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ชัดเจนที่หล่อนทำได้ นิศากรลงมาอีกครั้งบนโต๊ะอาหารก็ถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย พร้อมลงมือได้ทันที โต๊ะไม้สักเนื้อดีที่ถูกตกแต่งตัดส่วนเหลี่ยมมุมให้โค้งเว้าจนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขอบมน มีฐานรูปทรงกระบอกขนาดใหญ่กลึงให้เนียนรองรับส่วนบนอย่างมั่นคง ทั้งโต๊ะขัดมันและเคลือบเงาไว้ ตรงกลางโต๊ะมีแผ่นกระจกกลมขนาดเล็กกว่าโต๊ะเล็กน้อยสามารถหมุนไปมาได้วางอยู่ เหนือแผ่นกระจกอาหารหลากชนิดที่เป็นของโปรดของนิศากรถูกจัดวางไว้โดยรอบ จานข้าววันนี้มีเพียงสองใบสำหรับแม่และหล่อนเท่านั้น บรรยากาศวันนี้จึงดูแปลกไปเพราะที่หัวโต๊ะตำแหน่งประมุขของบ้านคุณพ่อยังไม่กลับมา แม่ว่า แม่ไปส่งลูกอย่างเคยดีกว่ามั้ยคะ คุณแม่เริ่มก่อนหลังสิ้นมื้ออาหาร ไม่ดีหรอกค่ะคุณแม่ แขอยากดูแลตัวเองบ้าง ปล่อยให้คุณแม่เหนื่อยมานานแล้ว และอีกอย่างขึ้นรถเมล์ก็สนุกดีด้วยค่ะ เหตุผลในข้อหลังขัดกับความคิดหล่อนโดยสิ้นเชิง ที่หล่อนปดออกไปเพียงเพื่อความสบายใจของผู้เป็นแม่เท่านั้น ก็ได้ค่ะลูก ถ้าลูกยังสนุกอยู่ แต่ถ้าไม่ไหวก็บอกแม่นะคะ อย่าทนดื้อดึงล่ะเดี๋ยวจะพลอยไม่สบายไป ควันพิษตั้งมากผู้คนแออัดขนาดนั้น เกิดลูกสาวคนสวยของแม่เป็นอะไรไปล่ะแย่เลย แม่รู้ทั้งรู้ว่าหล่อนโกหก แต่ก็ยังไม่อยากขัดใจลูกจึงเออออตามไปด้วย
ไม่มีทางหรอกค่ะคุณแม่ ลูกสาวคุณแม่น่ะเก่งอยู่แล้ว หล่อนมิวายอวดดีเพื่อให้มารดาสบายใจ
อะไรกันแม่ลูกคู่นี้ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวได้ยินถึงหน้าบ้านเลย ใครคนหนึ่งพูดขึ้นมา
คุณพ่อ สวัสดีค่ะ กลับซะดึกเลยนะคะ วันนี้คุณแม่ทำอาหารอร่อยๆ เยอะเลยล่ะค่ะ ฉลองที่นานๆ ที คุณพ่อจะไม่อยู่บ้าน หล่อนหันไปทักทาย พลางแหย่เล่นด้วยความสนิทสนม
น้อยๆ หน่อยนะเรา คุณแม่นะรักพ่อจะตาย ไม่งั้นพ่อไม่อ้วนขึ้นมากขนาดนี้หรอก จริงมั้ยจ๊ะแม่ เขาพูดกับลูกเสร็จ ก็หันไปอ้อนภรรยาอีกครั้ง คุณแม่ยิ้มแทนคำตอบ
ฉันรู้คุณพ่อก็ชื่นชมคุณแม่ไม่น้อยไปกว่าฉัน ท่านทั้งสองทำงานที่เดียวกันที่บริษัทของเรา คุณพ่อเป็นประธานบริษัท ส่วนคุณแม่ท่านเป็นรองประธานบริษัทล้วนงานหนักทั้งคู่ ฉันจึงภูมิใจที่เป็นลูกท่าน และคิดเสมอที่จะทำทุกสิ่งให้ท่านสบายใจ ดังนั้น เรื่องเมื่อคืนก็ยังคงเก็บเป็นความลับระหว่างฉันกับความฝันที่ใครหลายๆ คนคงเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น แต่สำหรับฉัน ฉันยังไม่แน่ใจ มันเหมือนจริงซะเหลือเกินนี่
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ นิศากรกล่าวออกมาเมื่อเห็นคุณพ่อคุณแม่เอาใจกันและกันอยู่
อ้าว !จะขึ้นแล้วหรือลูก เข้านอนแต่หัววันเชียว ยังไม่ทันได้คุยกับพ่อเลย คุณพ่อรีบท้วงขึ้น
ยังหรอกค่ะ หนูบอกไว้ก่อน เผื่อทำงานเพลินไม่ได้เข้ามาบอกกู๊ดไนท์คุณพ่อคุณแม่
ที่จริงหล่อนเพียงแต่ต้องการหลีกทางให้คุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยกันมากกว่า แต่ก็ถือเป็นการดี เพราะวันนี้หล่อนยังคงมีงานต้องทำอีก ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสนั่งเหงาแน่ หล่อนคิด
ถ้างั้นก็กู๊ดไนท์ลูก อย่าทำงานเพลินจนดึกล่ะ เดี๋ยวไปสายอีกพ่อไม่รู้ด้วยนา หล่อนยิ้มรับ รีบขึ้นไปจัดเตรียมร่างงานที่อาจารย์สั่ง พลางนึกถึงสิ่งหนึ่งโดยมิได้ตั้งใจ
รพี อินทรทิพากร" เสียงพรรษยังคงก้องให้ได้ยินอย่างชัดเจนทุกพยางค์อักษร ชื่อที่กินใจหล่อน จะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม หล่อนต้องรู้ความสัมพันธ์ของสิ่งนั้นให้ได้
สิ่งที่ยังเกาะกินในหัวใจ สร้างความฉงนให้กับหล่อนไม่น้อย และแล้วเป้าหมายที่วางไว้ก็ถูกพับเก็บลงดังเดิม ตอนนี้สมองหล่อนไม่มีพื้นที่ว่างพอสำหรับคิดงานเสียแล้ว ระยะเวลาการส่งยังอีกไกลตั้งสัปดาห์หน้า ณ ตอนนี้ เวลานี้สิ่งที่หล่อนปรารถนามากที่สุดคือ ค้นหาคำตอบอันจะไขข้อข้องใจเหล่านั้นให้ได้ คิดทบทวนวนไปเวียนมาหลายรอบ ก็ได้คำตอบดังเดิมคือกำลังพายเรือให้วนเล่นอยู่ในอ่างใบมหึมาอย่างหาจุดหมายไม่ได้ ยามกระทบขอบอ่างก็สะดุดที กลับมาเริ่มต้นเรื่องใหม่ที ครั้นจะทอดสมอจอดเรือก็ทำไม่ได้ เพราะสายน้ำนั้นหมุนวนไหลเชี่ยว และลึกเกินกว่าจะหยุดความคิดลงได้ สับสนไปหมดทุกด้าน ทางเดียวที่ทำได้ขณะนี้คือยอมแพ้และขึ้นสู่ฝั่ง ยืนอยู่บนขอบอ่างรอคอยที่จะหาลู่ทางที่ดีกว่าต่อไป ดังนั้นหล่อนจึงล้มตัวลงนอนไปพร้อมกับความอ่อนเพลีย และล้าในการเดินทาง
Create Date : 12 เมษายน 2553 |
Last Update : 12 เมษายน 2553 16:08:53 น. |
|
1 comments
|
Counter : 353 Pageviews. |
|
|
|