จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
<<
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 เมษายน 2548
 
All Blogs
 

วันวานที่ผ่านเลย

เช้านี้ตื่นมาก็พบว่าข้อความดีๆ หลายอันที่เราทยอยเขียนเก็บไว้ส่วนตัวได้สูญหายไป (แง)... เพราะ server ThaiMisc ที่เราไปทำเก็บเหมือน diary ไว้เกิดมีปัญหา (database พังอะไรประมาณนั้น) คุณ webmaster ใจดีก็ขอโทษขอโพยมาทางเมล์ใหญ่ เราก็เข้าใจตามประสาคนทำงานด้านคอมพ์ (Webmaster) ด้วยกัน ทำอะไรผิดพลาดกันได้... จริงๆ ก็ไม่เป็นไรนะ อะไรจะเกิดมันก็เกิด... แต่เราว่าเรื่องนี้มันทำให้เราได้คิดอะไรได้มากเลยหล่ะ

วันวาน ที่ผ่าน เลยล่วง
ยากทวง ไม่เปลี่ยน แปรผัน
หายไป สิ้นแล้ว แคล้วกัน
ผูกพันธ์ หวงหา ทำไม?


ตอนแรกก็เศร้านะ เพราะมีบทกลอนหลายๆ อันที่เขียนทิ้งไว้ที่นั่นเฉยๆ ไม่ได้ save อะไรไว้ที่ไหนก็คงหายไปไม่มีวันกลับ บางอันเคยส่งมา some_words หรือส่งตามกลุ่มอื่นๆ ก็ยังพอ save กลับมาได้หน่อย บางอันก็พอจำได้ว่าเคยเขียนส่งให้เพื่อนๆ สนิทๆ ก็ขอเค้าก๊อปคืนมาให้ได้... สรุปแล้วเกือบทั้งวันก็วุ่นวายขุดคุ้ยหา 'ของเก่า' ของเราอยู่ตั้งนาน ไม่เป็นอันทำการทำงาน... ตกบ่ายๆ พอนึกได้ก็ขำตัวเองแฮะ เราก็ว่า เจ้า Database แค่นี้เอง สร้างเองแท้ๆ สร้างเอาใหม่ก็ได้นี่นา... นี่แค่หายไปตามกระแสธรรมดาโลก (อนิจจัง) จะมานั่งเสียดายทำไมกัน?

รวบรวม 'ของเก่า' ขึ้นมา
สร้างค่า ดุจเป็น 'ของใหม่'
วุ่นวาย สลายลับ ดับไป
ไม่ใช่ ของเก่า ดังเดิม


ตอนนั่งๆ แต่งบ้านใหม่ให้มันอยู่ (แน่ะ เอาเวลาทำงานมานั่งทำอะไรไร้สาระต่ออีกงานจริงๆ ก็ไม่ค่อย work นะเนี่ย -- ไม่เข็ด)... ก็พลันไปค้นเจอกลอนเก่าๆ ที่เคยเขียนไว้ให้เพื่อนสนิทคนนึง บาทสุดท้ายได้เคยเขียนไปว่า (โชคดีที่อันนี้มีเก็บไว้ใน icq history อยู่)... "วายว่าง วางสลาย คลายใจลง"... เลยนึกได้ว่าตอนเขียนกลอนบทนั้นสภาวะจิตใจเราคิดอะไรแบบปล่อยวางมันเคยสบายยังไง แล้วตอนนี้มันกลับกำลังห่วงหาอะไรๆ กลับกลายเป็นวุ่นวายอยู่ยังไง

สังเกตุ ตัวเอง ขึ้นมา
ระอา ความเปลี่ยน เวียนเริ่ม
เคยปล่อย หวนจับ กลับเดิม
พูนเพิ่ม ความไม่รู้ อยู่ทุกวัน


นึกเลยๆ ไปยิ่งน่าขำ... ช่วงอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อน เราเองเพิ่งเขียนบอก some_words ไปว่าเรารู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ก็มีความเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมดา นึกถึงข้อความที่พี่เอกทักกลับมาที่กลุ่มประมาณว่ามันไม่น่ากลัวตราบใดที่มันไม่ ใช่การเปลี่ยนแปลงที่แย่ลง แต่เราเองเหมือนเห็นแต่ไม่เฉลียวใจ นี่หรือเปล่านะที่เค้าว่ากันว่าคือ 'ตัวไม่รู้'?

ไม่เที่ยง เพียงหลัก ธรรมดา
เวลา พาเปลี่ยน เวียนผัน
หากจับ ยึดลง คงมั่น
จะหวั่น ในยาม สูญไป


เพราะไม่รู้สิ่งที่เป็นธรรมชาติคือ อนิจจัง (ความไม่เที่ยง) หรือเปล่านะ? หรือว่ามันมีความหมายอะไรมากมายไปกว่านั้น? อนัตตา? ความไม่มีตัวตน เพราะไม่มีตัวตน สิ่งต่างๆ เลยไม่เที่ยง หรือ? (มีคนหลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่าเราพอรู้เรื่องศาสนา แต่จริงๆ แล้วแค่ไตรลักษณ์เรายังไม่รู้จริงเลย... เฮ้อ) อย่าว่าเรานะ ตอนได้เมล์ Brain Test จากที่นี่ เราทำแล้วได้ผลว่า เป็นพวกชอบคิดเรื่อยๆ ตาม input ที่เข้ามาและทำตาม input นั้น (+ แสวงหา input ใหม่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นใครมีอะไรดีๆ ก็ส่งมา share กันที่ some_words นี่นะ เผื่อเราด้วย) ^.^

หากเปลี่ยน เป็นวาง ว่างลง
ไม่หลง คงปล่อย รู้ไว้
ไร้ตัว- ตนเบา เพียงใด
ผ่านไป ก็ให้เป็น เช่นวันวาน...


จบละคะ วันนี้ก็มาเพ้อเจ้ออีกเช่นเคยตามประสาคนเห็นอะไร/เจออะไร/คิดอะไร ก็ชอบเก็บมาเขียน เพื่อนๆ ก็อย่าเพิ่งเบื่อ ไล่เราออกจาก some_words ไปเสียนะคะ (ถ้าเมล์ยาวก็ขอโทษที) ส่วนพวกเพื่อนๆ ที่รู้จักตัวจริงด้วย (เพิ่งนึกได้ว่าจริงๆ มีคนรู้จักตัวจริงอยู่แถวนี้ก็หลายคน) เจอหน้าเราก็อย่าหัวเราะขำละกัน คนเรามันมีหลายหน้าค่ะ จะเป็นแบบเฮฮาติงต๊องอย่างที่เคยเห็นๆ กันหรือ บ้าๆ บอผิด mode เขียนอะไรไร้สาระแบบในนี้ก็ปล่อยๆ มัน (เรา) ไปเถอะค่ะ ;)

จากเด็กติงต๊องหลัง Database พัง -- อุ๊ ^.^




 

Create Date : 10 เมษายน 2548
9 comments
Last Update : 10 เมษายน 2548 19:39:45 น.
Counter : 1245 Pageviews.

 

"ดาวจ๋า วันนี้ฟ้าสวยดีนะ ดาวเห็นท้องฟ้าไหม?" วารินส่งเสียงไปตามสาย
"อือ เห็นนะ ท้องฟ้ามันก็เหมือนเดิมน่ะแหล่ะ เห็นฟ้าสวยแบบนี้ มีอะไรพิเศษเหรอ?" ดาวถาม
"รู้ทันอีกแล้ว วันนี้อารมณ์ดีน่ะ ก็เกรดที่ออกคะแนนมันดีมากเลย" วารินตอบ
"ก็เห็นรินเกรดดีทุกทีนี่นา" ดาวแซว...

วันเปลี่ยนเวียนวนหมุนมา
ท้องฟ้าที่เคยสวยใส
กลับต้องมืดหม่นลงไป
ดุจดังเช่นไฟชีวิต


"เย้... สอบวันสุดท้ายแล้ว พวกเราไปฉลองกันเถอะ" ดาวชวน
"ไม่ไหวน่ะดาว รินยังไม่ค่อยสบายอยู่เลย... แคก แค่ก... ก็หายใจไม่ค่อยออก เจ็บๆ ปวดๆ เหมือนเคยน่ะ คงไปเที่ยวกับดาวไม่ไหว" วารินตอบ
"รินกั๊กไว้รอสอบเสร็จมาตั้งหลายวัน เดี๋ยวเย็นนี้จะลองแวะไปหาสักหน่อย ฮะ ฮะ" "ไม่สบายมีกั๊กไว้รอสอบเสร็จได้ด้วย" ดาวแซวอีกเช่นเคย
... ... ...
"ทำไมคุณถึงอาการหนักอย่างนี้" อาจารย์หมอดูฟิลม์เอกซเรย์แล้วส่ายหัว
"คืนนี้คุณเข้านอนห้อง ER ไปก่อนเลยนะ ปล่อยให้น้ำท่วมไปตั้งกว่าครึ่งปอดแล้ว คุยหายใจมาได้ยังไงกัน วันนี้เราต้องเจาะเอาน้ำออกให้ก่อนเลย"

- รถเข็นเริ่มเข็นผมไป ร่างกายที่เพิ่งเดินไปเดินมาเมื่อเช้าถูกพันธนาการ ความรู้สึกของผมก็เหมือนกำลังหมดเรี่ยวแรง ผมมองเห็นแสงไฟเพดานของโรงพยาบาลค่อยๆ เลื่อนไปช้าๆ แสดงว่าผมกำลังจะไปที่ไหนซักแห่งสินะ? เสียงอาจารย์หมอยังดังก้องอยู่ในหัวผม "เราพบก้อนเนื้อในปอดของคุณ ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นอะไร แต่คงต้องบอกไว้ก่อนว่าไม่เป็นมะเร็งก็วัณโรค จะต้องตัดออกมาตรวจก่อน คุณใจเย็นๆ นะ สมัยนี้เครื่องไม้เครื่องมือดี ไม่ต้องกลัวหรอก"... ไม่ว่าสายตาของอาจารย์หมอจะใจดีแค่ไหน หัวใจของผมก็เย็นเฉียบด้วยความกลัวไปเสียแล้ว -

"รินๆ โชคดีแล้ว หมอบอกว่ารินเป็นแค่วัณโรค ไม่ใช่มะเร็ง รักษาหาย สองปีเอง ไม่ต้องกลัวนะลูก"

- วัณโรคก็โรคติดต่อสิครับคุณแม่... ผมไม่อยากเป็นเลย -

"ดาว... เราป่วยเป็นวัณโรค ไม่ต้องเจอกันบ่อยนะ เรากลัวดาวติด" วารินบอกดาวที่มหาลัยตอนแวะไปดูคะแนนสอบเทอมสุดท้าย
"ไม่เป็นไรหรอก ก็ไหนรินบอกว่าหมอให้กินยาทุกคืน ก็ไม่แพร่เชื้อแล้วไง เราไม่กลัวหรอก" ดาวให้กำลังใจ

- วันนี้แม้ท้องฟ้าจะดูมัวๆ หน่อย แต่ผมก็ยังเห็นมันยังคงสดใส -

== ครึ่งปีผ่านไป ==

"แคก แค่ก"...
"คุณแม่ คุณแม่เป็นอะไรครับ ทำไมอาเจียนเป็นเลือด? หายใจเจ็บไหมครับ?... ไปหาหมอกันนะ" วารินกระสับกระส่าย มือเย็นเฉียบ เพราะเขารู้...

- คุณแม่อาการเหมือนผม... ท่านติดผม เพราะแอบมานั่งสมาธิ เฝ้าผมนอนข้างเตียง ทุกคืนทำไมผมจะไม่รู้ -

"คุณแม่คุณป่วยก็เป็นวัณโรค ไม่ต้องห่วงหรอก ทานยาอีกสองปีก็หาย... คงต้องให้ยาแรงหน่อยเผื่อเชื้อตัวนี้มันดื้อยา"
"ผมรู้ว่าอาการมันหาย แต่กว่าจะเลิกหายใจแล้วเจ็บ แล้วทรมาน มันต้องทนตั้งเกือบครึ่งปีนะครับคุณหมอ ไม่มียาอะไรบรรเทาได้แล้วเหรอ?"...
อาจารย์หมอยิ้มให้แล้วส่ายหน้า "ขอโทษด้วยนะ"...

- ถ้าผมเลือกได้ ผมขอเป็นมะเร็งให้เรื่องมันจบตั้งแต่ตอนแรกจะดีกว่า วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีแดงผ่านม่านน้ำตาของผม -

== สามเดือนผ่านไป (ประเทศไทยปี 1997) ==

"ฮัลโหล คุณแม่ครับตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?" วารินโทรมาจากการไปฝึกงานต่างประเทศหลายเดือน
"สบายดีแล้วจะไม่เจ็บไม่ทรมาน... อืมแต่... ริน รินใจเย็นๆ นะ ค่อยๆ ฟัง ตอนนี้บริษัทคุณพ่อปิดแล้วน่ะลูกเศรษฐกิจเมืองไทยไม่ค่อยดี" คุณแม่พูดแล้วหยุดไปแค่นั้น...
"รายละเอียดเดี๋ยวแม่เล่าให้ฟังตอนลูกกลับมาเมืองไทย"

"บ้านไม่ใช่ของเราแล้วนะลูก... เงินที่เอาไปลงดาวน์เครื่องจักรจากเยอรมันถูกยึดไป เราไม่มีเงินซื้อต่อ ถ้าเราอยากได้บ้านคืน คงต้องผ่อนธนาคารออกมา"
"ปีนี้ผมทำงาน/ฝึกงานที่อเมริกาเก็บเงินมาได้แล้ว 2 แสน กับเงินเดือนอีกสองหมื่อนกว่าๆ ผมยกให้หมดเลยพอไหมครับ?" วารินถามอย่างซื่อๆ
"แล้วพ่อจะใช้ให้นะลูก... เงินนี้คงพอผ่อนเป็นค่าดอกเบี้ยไปได้"

- สมองผม อื้อ อึง... ไม่ต้องคืนผมหรอกครับพ่อ ทำไม ทำไมความสามารถผมถึงหาเงินทองมาให้ที่บ้านได้น้อยนัก ถ้าผมไม่ป่วย ถ้าผมมีความสามารถมากพอที่จะเลือกทำงานหรือทำอะไรๆ ได้มากกว่านี้ ทุกอย่างมันคงจะดีขึ้น ทำไมท้องฟ้าวันนี้ไม่มีดาวเลย -

= สามเดือนผ่านไป =

"รินๆ ดาวได้ทุนไปเรียนอเมริกา" ดาวบอก
"ดีใจด้วยนะ รินยังรอผลทุนอยู่เลย"
"ดาวว่า รินไม่ค่อยจริงจังเรื่องหาทุนนะ รินอยากเรียนจริงๆ หรือเปล่า เราไม่เข้าใจรินจะอยากเรียนไปทำไมถ้าไม่ได้คิดจะเป็นอาจารย์"
"รินก็ไม่รู้เหมือนกัน รินอยากเรียน อยากทำให้ชีวิตตอนนี้มันดีขึ้น ดาวเห็นว่ารินอยากเรียนไปตามกระแสเหมือนเพื่อนๆ เหรอ?" รินถาม...
"ดาวจะไปเรียนที่ไหนล่ะ เดี๋ยวรินตั้งใจสมัครแล้วตามไปดีไหม? รินว่าถ้ารินพยายาม รินก็ทำได้นะ"
"เออ... ดาวว่าเราไปกันคนละที่ดีกว่านะ เดี๋ยวก็ติดกันเป็นตังเมหรอก เรียนด้วยกันมาตั้งสี่ปี แถมทำงานก็เจอกันบ่อยๆ เป็นปีแล้ว ดาวว่าพวกเราต่างคนต่างออกไปมองหาประสบการณ์ชีวิต แล้วเอามาแชร์กันดีกว่านะ" ดาวแนะนำ
"ดาวว่างั้นเหรอ... ก็ดีนะ รินก็ว่าดี"

- สำหรับผมท้องฟ้าที่มีดาว แม้ริบหรี่เพียงใดก็ยังดูสวยอยู่เสมอ -

= ครึ่งปีผ่านไป =

"ริน ดาวได้ยูแล้ว นี่ไง" ดาวบอก
"ดีๆ ยูที่ดาวเคยบอกว่าอยากไปด้วย รินจำได้... ตอนนี้รินก็ได้ทุนแล้วนะ เดี๋ยวรินสมัครตามดาวไปเรียนเทอมหน้าแล้วกันนะ"
"เออ... เออ... อย่าเลยริน พวกเราต่างคนต่างเรียนดีกว่า"
"พูดแบบนี้อีกแล้ว ทำไมเหรอดาว? เราไปที่เดียวกัน แต่ต่างคนก็ต่างเรียนรู้ชิวิตก็ได้เหมือนกันนี่" วารินสงสัย
"ดาวว่า เราต่างคนต่างไปหาประสบการณ์ตัวเองกันก่อนจะดีกว่า บางทีรินกับดาวอาจมีเส้นทางเดินของชีวิตไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็มันก็จะพากลับมาพบกันได้อีกนะ"
"อืม... ก็จริง" วารินรับคำอย่าง งง งง

= ครึ่งปีผ่านไป =

"ดาวๆ รินหายป่วยแล้ว ไม่ต้องทานยาอีก ต่อไปจะไปเจอได้บ่อยๆ ขึ้นละนะ ไปกินข้าวกันเถอะดาว"
... ... ...
"ขอโทษนะผมไม่ได้คุยมานาน วันนี้เครียดเลยมัวแต่มาบ่นปัญหาเรื่องหนี้สินที่บ้านให้ดาวฟัง แย่จัง เดี๋ยวคราวหน้ารินจะมาเล่าเรื่องสนุกๆ ให้นะ"
"ไม่เป็นไรหรอก เออ... ดาวว่าพวกเราคบกันแบบเดิมก็ดีแล้วนะ จริงๆ หลังๆนี้ พวกเราคบกันเหมือนเพื่อนเลยนะ เจอกันจริงๆ เดือนละครั้งรินก็โอเคนี่นา อีกไม่กี่เดือนดาวก็ไปเรียนต่อแล้ว ดาวว่าพวกเราคบกันเป็นเพื่อนเฉยๆ กันดีกว่านะ ต่อไปดาวไม่อยู่ ถ้ารินเจอใครดีๆ รินคบได้เลยนะ ดาวว่าจริงๆ รินก็ไม่ได้รักดาวใช่ไหม?"...
"..." วารินอึ้งไป

- ถ้าผมเลือกได้... ผมอยากป่วยเป็นมะเร็งตั้งแต่สองปีก่อน ท้องฟ้าวันนี้... ไม่มี ดาว -

= ครึ่งปีผ่านไป =

"รินเป็นไงบ้าง? ได้ยูอะไร" ดาวโทรมาถามจากอเมริกา
"รินจะไปอังกฤษนะ ยูอันดับหนึ่งเลย ดาวว่าไง? หรือดาวอยากให้รินไปอเมริกา เดี๋ยวรินจะสละสิทธ์ตามไปเลย" วารินส่งเสียงไปตามสาย
"ไปอังกฤษเหอะ ยูดีขนาดนั้นไม่เอาก็บ้าแล้ว รินไม่ต้องมาคอยตามดาวสิ ดาวอยากเห็นรินมีเส้นทางชีวิตของตัวเองบ้าง"
"อื้อ พูดเล่น รินไปอังกฤษก็ได้แหล่ะ" วารินพูดทีเล่นทีจริง
"ไม่ต้องรักษาสัญญาด้วยนะ" ดาวย้ำ
"สัญญาอะไร?" วารินแกล้งทำลืม
"สัญญาที่ดาวเคยขอ ว่าให้รอดาว จนดาวเรียนจบเอกไง ดาวขอคืน ลืมไปซะนะ ดาวอยากให้รินใช้ชีวิตออกจากกรอบที่รินชอบล้อมเอาไว้"
"..."

= หนึ่งปีผ่านไป =

"ดาวเป็นไงบ้าง? รินจบโทคะแนนดีเลยได้ทุนต่อเอกฟรี เนี่ยเรียนสามปีเองรินก็จะกลับไปช่วยทางบ้านได้แล้ว" รินโทรไปหาดาวจากอังกฤษด้วยความดีใจ
"เหรอ.. ดาวดีใจกับรินด้วยนะ... อืมริน... รินไม่ต้องโทรมาหรอกนะ พวกเราเป็นเพื่อนกันเฉยๆ นะ"
"อืมใช่... รินลืมไป... รินดีใจเลยโทรมา... ดาวมีใครแล้วเหรอ?"
"..." ดาวเงียบไป
... ... ...
email message: "I have someone in my mind".

- ท้องฟ้าที่อังกฤษ ก็ปกติจะคล้ายๆ กับเมืองไทย มีสดใส มีมืดมัว แต่วันนี้ท้องฟ้าที่เห็นเป็นสีแดงผ่านม่านน้ำตาเหมือนวันที่ผมรู้ว่าคุณแม่ผมป่ว ยด้วยโรคร้ายเพราะติดผมไป ไม่มีผิด -

ท้องฟ้าสีแดงแรงจ้า
กรีดกล้าหยุดจิตปลิดฝัน
ใจตายกายคงลงมั่น
กัดฟันก้าวเดินต่อไป


"ริน แม่มีข่าวดีจะบอก ตอนนี้แม่หายแล้ว คุณพ่อได้งานทำ บ้านผ่อนได้แล้ว น้องยอมเข้ามหาลัยเรียน ทุกอย่างราบรื่นแล้วไม่ต้องห่วงทางบ้านนะ" คุณแม่เดินทางมาบอกถึงอังกฤษหลังจากครึ่งปีผ่านไป

ฟ้ามืดพลันเปิดอีกครา
น้ำตาล่วงหายไปไหน
ก็คงต้องปล่อยมันไป
คงไว้เป็นฝันวันวาน


= หนึ่งปีผ่านไป =

"เฮ้ย! รินไปเที่ยวกันเถอะ" กลุ่มเพื่อนซี้ที่มหาลัยใหม่ ชวนกันไปเที่ยว
"เมืองนี้มันไม่สวยเลย อุตส่าห์ขับรถมา" เพื่อนๆ บ่น
"เอาน่า... มันก็มีบางมุมที่สวยของมัน" วารินแก้ต่างให้กับเมือง
"เอาอีกละ ไอ้รินนี่ พูดอะไรก็ต้องมีข้อดีอยู่เรื่อยเลยนะ นิสัยนายสองอย่างที่แก้ไม่หายคือ ชอบยอมรับผิดเข้าตัวเองกับมองอะไรแง่ดีเกินจริง เช่นบอกว่าสาวๆ คนนั้นคนนี้สวย ไม่เห็นน่าเชื่อซักกะคน" เพื่อนบ่นอีก
"เออน่า มองอะไรๆ ในแง่ดีมันบ้าง จะผิดตรงไหนล่ะ?" วารินอธิบายเบื่อๆ เพราะขี้เกียจชวนเพื่อนทะเลาะ

- ก็ชีวิตผม มันผ่านอะไรร้ายๆ มามากพอแล้วนี่ อยากขอเห็นอะไรดีๆ บ้างจะได้ไหม? -

ท้องฟ้าก็คงเป็นท้องฟ้า
หลบหน้าเมฆหม่นไม่สดใส
หรือสว่างแสงสดสวยบาดใจ
จริงแล้วไซร้ขึ้นอยู่กับใจคน


-- Au

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 19:43:21 น.  

 

"อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา"

จากคุณ : Licht (Miran)




พอปีนถึง ซึ้งค่า ว่างามหรือ
เกิดยึดถือ คือมั่น พลันหลงไหล
เทิดค่าสูง จูงจิต ติดตรึงใจ
หากเสียไป ใจหาย คลายยากเย็น

แต่จริงแท้ แน่เพียง เสียงสะท้อน
ย้อนกำธร รอนใจ ให้แลเห็น
สร้างภาพร่าง กลางฟ้า ท้าเดือนเพ็ญ
วาดสวยเด่น เค้นก็ลับ ดับเพราะใจ

มองกลับกัน พลันแจ้ง แรงของจิต
มาลองคิด พิศผัน กันหน่อยไหม?
เห็นฟ้ามัว กลัวหรือ ซื่อไปใย
แค่เปิดใจ ก็ใสสาด วาดนภา

จากคุณ : ไร้นาม

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 19:43:57 น.  

 

สวัสดีค่ะ

ใกล้สงกรานต์แล้ว

ขอให้มีความสุขมากๆในช่วงสงกรานต์นะคะ

ถ้ามีการเดินทางก็ขอให้เดินทาง

โดยสวัสดิภาพ ทั้งไปและกลับค่ะ

อ่านกลอนแล้ว มีแง่คิดดีค่ะ

ของบางอย่าง หายไปแล้วก็แล้วกัน

เพราะไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ

คงเหลือไว้แค่ความทรงจำดีๆนะคะ

 

โดย: รักดี 10 เมษายน 2548 20:09:10 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณรักดี

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรดีๆ นะคะ
สุขสันต์วันสงกรานต์ล่วงหน้าเหมือนกันค่ะ

:)

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 21:38:24 น.  

 

 


แวะมาทักทาย และ สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ คุณไร้นาม .. (แอบติดตามอ่านมาตั้งแต่เว็บโน้นค่ะ .. ดีใจที่มาอัพบล็อกแล้ว จะแวะมาอ่านบ่อยๆ นะคะ ^^)

โดย: chirala (chirala ) 13 เมษายน 2548 5:30:20 น.  

 

อืม งดงามๆ

 

โดย: ปิงปองงง 15 เมษายน 2548 8:31:11 น.  

 

--- คุณ chirala ---

สวัสดีอีกครั้งค่ะ พอดีไปเที่ยวสงกรานต์มาเลยห่างหาย internet ไปนาน สวัสดีปีใหม่ไทยเหมือนกันค่ะ :)

--- คุณ ปิงปอง ---

ดีใจที่ชอบค่ะ @^_^@

 

โดย: ไร้นาม 20 เมษายน 2548 10:04:07 น.  

 

สวัสดีค่ะ กลอนเพาะดีนะค่ะ

 

โดย: pan IP: 203.172.162.243 31 สิงหาคม 2550 9:13:24 น.  

 

--- คุณ pan ---

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ไร้นาม 8 ตุลาคม 2550 22:32:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.