จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
<<
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 เมษายน 2548
 
All Blogs
 
Inspiration

ฉันกำลังเริ่มเดินออกจากบ้าน มีบางอย่างบอกฉันว่าฉันควรจะไป ไปไหนล่ะ?
ก็ไปค้นหาอะไรบางอย่างที่ฉันเองก็ยังไม่รู้

ก่อนออกเดินทางฉันเดินผ่านกระจกหน้าบ้าน
"หวัดดี" -- ฉันทัก -- "คงไม่ได้กลับมาเจอกันอีกนานนะ"

ภาพสะท้อนที่ฉันเห็นคือตัวฉัน หน้าตาสดใส
แต่งตัวทะมัดทะแมงพร้อมออกไปข้างนอก
บ่งบอกความพร้อมที่จะเผชิญอะไรก็ได้ในหนทางข้างหน้า

ประตูเปิดออก สายลมอ่อนๆ ท้องฟ้าสีคราม งดงามอะไรเช่นนี้
ฉันเดินออกไป ค้นหาอะไรบางอย่าง เดินต่อไป... ต่อไป
มองเงาตัวเองตามกระจกร้านขายของ เอฉันดูเป็นอย่างไรนะ? ใครๆ
เดินผ่านจะเห็นว่าฉันเป็นอย่างไร? ฉันควรจะแต่งตัวให้ดีกว่านี้ไหม?
เดินให้ท่าทางดีกว่านี้ไหม? คนอื่นๆ มองเห็นฉันเป็นแบบไหนนะ?

ในเมืองดูวุ่นวาย หลายครั้งก็มีคนเดินรวดเร็วตามติดมาด้านหลัง...
เอ ฉันจะให้เขาแซงไปดี หรือฉันรีบเดินเร็วจะได้เดินนำหน้าเค้าดีนะ?
เอ้า... ขี้เกียจตามหลังเค้า รีบเดินดีกว่า...
โอย... ไม่ไหวเหนื่อยแล้ว ให้เค้าแซงไปดีกว่า...
เราจะรีบเดินให้เหนื่อยไปทำไม งง งง ตัวเองอยู่เหมือนกัน
พอมองเห็นเงาตัวเองสะท้อนกระจกรถยนต์ ท่าทางเหนื่อล้า จะรีบไปทำไม?

อ้าว... เดินๆ ไปก็เจอคนข้างหน้าเดินช้าบ้าง เราจะทอดน่องตามไป หรือแซงเค้าดีนะ?
ถ้า... แซงเค้าไป เราก็ต้องรีบเดินอีก
แต่... เดินตามเค้า เราก็ต้องลดความเร็วเราลงมา และก็เห็นเงาตัวเอง
ค่อยๆ ทอดตามเค้าเรื่อยไปไม่เคยเลยไปข้างหน้า...

เอ... หรือใช้ทางอ้อมหน่อยแต่ผู้คนไม่พลุกพล่านดีหว่า
เบื่อละ การมาเดินให้คนมอง การเดินตามกระแสสังคม ปะปนกับผู้คนมากมาย
ระยะทางใหม่ดูยาวไกลเหลือเกิน ฉันเองก็ยังไม่รู้จะไปหยุดอยู่ที่ตรงไหน
ถ้าเหนื่อยนัก จะกลับเข้าเมืองขึ้นรถง่ายๆ กลับบ้านดีไหมนะ?
หรือจะเดินทางต่อไปดีล่ะ?

หยุดเดินก่อนดีไหมน้อ เฮ้อ... โลกนี้ไมีมีความพอดีกันเลยหรือไง!

ฉันถามตัวเอง แล้วมองธรรมชาติข้างทาง จึงได้เริ่มสังเกต
อืม... มันก็สวยดีนี่นา เราจะรีบทำไมนะ เราลองเดินพร้อมชื่นชมอะไรรอบๆตัวดีกว่าไหม?



มองเห็นเงาในแม่น้ำที่ทอดตามเส้นทาง ค่อยๆ เห็นความเปลี่ยนแปลง
แปลกนะ... ภาพของตัวฉันเองที่สะท้อนตามเส้นทางดูเปลี่ยนไป
บางจังหวะดูผ่องใส บางจังหวะดูเหนื่อยล้า สับสนค้นหาหนทางไม่เจอ
ภาพสะท้อนก็ดูเศร้าหมอง แต่ฉันก็เดินเรื่อยมา

ระยะทางและเวลาทำให้ภาพสะท้อนดูเติบโตขึ้น ทั้งจากสีหน้าและในแววตา
เหมือนได้เรียนรู้อะไรต่อมิอะไรมากมาย

สุดท้าย ฉันรู้สึกว่าการเป็นตัวของฉัน เดินแบบที่ฉันสบาย ใครจะเดินเร็วช้าอะไรก็ช่างเขา
ถนนชีวิตนี้ไม่ได้มีฉันคนเดียว มีผู้คนมากมายแต่เราก็มีเส้นทางที่จะเดินของเรา
ใครจะผ่านมาแล้วผ่านไป ก็ดีก็สุขใจที่ได้ผ่านมาพอปะเจอกัน

ฉันพอแล้วกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนแปลงการเดินของฉัน ตามกระแสผู้คน
นี่ไงสิ่งที่ได้เรียนรู้ตามเส้นทาง การค้นพบตัวตน ต้องอาศัยเวลา ทั้งๆ ที่มันอยู่เพียงตรงนี้

เงาสะท้อนที่ฉันเห็น จึงเป็นอะไรที่สบายๆ ถ้าเหนื่อยก็พัก
ถ้าจะกลับก็กลับ ถ้าจะไปก็ไป ไม่ต้องไปทำตามกระแสของสิ่งใด

แต่มันอาจเป็นเพียงภาพสะท้อนของวันนี้ ภาพสะท้อนในวันพรุ่งนี้อาจไม่ใช่
แต่ในช่วงขณะที่เราได้เห็นเงาของตนเอง รู้จักตัวเอง และความพอเหมาะพอดี
ก็ทำให้เราไม่ต้องไปค้นหาอะไรมากไป ตามทางของคนอื่นๆ

นั้นไงมองที่กระจกนั้นสิ จะเห็นเงาแห่งความสุขยิ้มแย้มของใบหน้า
สะท้อนกลับมา...



@}--,--'--- @}--,--'--- @}--,--'---

๏ จรเรื่อยไปไขว่ค้น...........หนใด
ทุกถิ่นยลเงาใคร...............สะท้อน
คงฤๅเปลี่ยนเวียนไย..........เห็นก่อน
พลันหยุดพิศภาพย้อน........จึ่งค้นพบตน ๚

@}--,--'--- @}--,--'--- @}--,--'---



-- ไร้นาม



Create Date : 10 เมษายน 2548
Last Update : 10 เมษายน 2548 15:40:05 น. 8 comments
Counter : 460 Pageviews.

 
สุดขอบฟ้าโลกหล้า................แดนไหน
จะพิชิตหนทางไกล...............ตราบสิ้น
ขีวิตเปี่ยมฝันไข.....................แสงส่อง
แม้นร่างสลายแดดิ้น..............บ่ร้างพยายาม

--วิญญาณอสัญญา




๏ จรดขอบฟ้าโลกนี้...........แดนเรา
เพียรมั่นฝันเอื้อมเอา..........จักได้
แม้นร่างฝากเพียงเงา..........หายจาก
ใจจะไม่หวนไห้ ................เพราะกล้าคว้าฝัน ๚

--ไร้นาม


โดย: ไร้นาม วันที่: 10 เมษายน 2548 เวลา:2:39:56 น.  

 
วันคืนกว่าผ่านพ้น.......................ยาวนาน นักแม่
คราพรากจากไกลสถาน..............สะทกสะท้อน
เชลงบทรจน์กวีขาน....................เพียงเพื่อน ปลอบแม่
เย็นพจน์ชื่นคลายร้อน.................อุ่นถ้อยยามหนาว

--จอมยุทธเมรัย




๏ คืนวันพลันผ่านพ้น............ไม่นาน
เพราะชื่นจากคำขาน.............ขับร้อย
โคลงศิษย์พี่พาสราญ............ปลอบจิต
แม้อยู่ไกลอุ่นถ้อย...............มิตรล้นมิหนาว ๚

--ไร้นาม


โดย: ไร้นาม วันที่: 10 เมษายน 2548 เวลา:2:40:49 น.  

 
น้ำมิตรมีมอบไว้...................ล้นริน
อบอุ่นเป็นอาจิณ...................เพื่อนรู้
คนเร่ร่อนตะลอนชิน.............ชื่นเปลี่ยว ก็ดี
ตามกอบฝันหาญสู้...............กอบกู้พลังใจ

--วิญญาณอสัญญา




๏ อบอุ่นน้ำมิตรเอื้อ..............ล้นริน
เร่ร่อนเป็นอาจิณ..................มิเศร้า
ตามฝันสุดแดนดิน...............อย่างอุ่น ใจเอย
เพราะเพื่อนยังเวียนเฝ้า.........ฝากร้อยแลกโคลง ๚

--ไร้นาม


โดย: ไร้นาม วันที่: 10 เมษายน 2548 เวลา:2:41:36 น.  

 
- ช่วง ๑ -

ถนนแทบทุกสายประกอบด้วยช่องคอนกรีตขนาดใหญ่หลายๆ ช่องที่มีเส้นเชื่อมแยก
เป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ว่าจะบนทางด่วนหรือในซอยเล็กๆ ตามหมู่บ้าน เด็กๆ มักจะ
ทึกทักเอาเส้นเหล่านี้มาเป็นเส้นเขตแดนในการละเล่นแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตีแบด
วิ่งแข่ง โยนห่วง ตี่จับ จรเข้สี ฯลฯ

น้องนัย โตขึ้นมาด้วยความเคยชินที่เห็นเส้นเหล่านี้เรียงรายรอให้เล่นอะไรๆ หลายๆ
แบบอยู่หน้าบ้านเสมอ ทุกเย็นหลังเลิกเรียนเขามักชวนพี่นกไปวิ่งเล่นซุกซนตามแต่
จินตนาการของวันนั้นๆ จะพาไป

วันหนึ่งทั้งคู่ลองเล่นเกมส์ใหม่ที่พึ่งคิดกันขึ้นมาได้... "แข่งข้ามเส้น" กติกาก็ง่ายๆ
คือให้วิ่งจากประตูรั้วลงตามทางลาดเข้าบ้านไปถึงเส้นกลางถนนแล้วกระโดดข้าม
ใครกระโดดข้ามได้ไกลที่สุด คนนั้นก็ชนะ

น้องนัยแพ้เสมอ แล้วก็พร่ำท้าให้พี่นกแข่งแล้วแข่งอีกเพราะอยากชนะบ้าง...
เอ้า... หนึ่งสองสาม วิ่ง.... กระโดด!

"เปรี้ยง!" เสียงที่น้องนัยไม่เคยลืมดังขึ้น... รถยนต์คันนั้นโผล่มาจากไหนกัน?
รถยนต์ที่ผ่านมาพร้อมกับเอาชีวิตพี่นกไปอย่างไม่มีวันกลับ...




- ช่วง ๒ -

"นิด นิด... เงียบอีกแล้วเป็นอะไร?" อารีย์เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักถามด้วยความเป็นห่วง
"เมื่อวานพ่อแม่ไม่อยู่นัยเลยไม่ไปโรงเรียน... นัยน้องเราที่เราเล่าให้ฟังเมื่อวานน่ะ
สิบกว่าปีแล้วนะ เค้ายังไม่หายเลย"
นิด... พี่สาวคนโตของน้องนัยเปรย

"โรคกลัวการข้ามเส้นน่ะหรือ? ทำไงได้หล่ะ เหตุการณ์มันฝังใจนะ
ยังดีนะที่นัยเลิกโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุของการตายน้องนกไปแล้ว"

"แต่ รีย์... เราอยากช่วยน้อง น้องเราคงไม่สามารถโตขึ้นอย่างปกติได้ถ้าเค้าไม่หาย
ไปไหนมาไหนก็ได้แต่นั่งหลับตาในรถ ถ้าปล่อยออกท้องถนนก็เดินอยู่แค่บริเวณ
เดียวไม่กล้าข้ามเส้นของถนนไปไหนจนพวกเราต้องรับขึ้นรถ พาไปหาจิตแพทย์
ก็มีรักษามาก็หลายแบบ แต่น้องนัยก็ยังไม่หายสักที"

"มันเป็น สัญญา... "

"อะไรนะรีย์ ใครไปสัญญาอะไรกับใครไว้?"

"ไม่ใช่ๆ เราหมายถึง สัญญา ของพุทธศาสนาน่ะ สัญญา ในขันธ์ห้าไงที่มี รูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ... สัญญาก็คือความจำได้หมายรู้ อย่างกรณีนี้จิตน้องนัยเค้าจำ
อารมณ์เสียใจตอนที่น้องนกเสียไปผูกไว้กับเส้นถนน พอเห็นเส้นถนนอีกเค้าก็เลย
หมายรู้อารมณ์เสียใจนั้นๆ ขึ้นมาทำให้ร่างกายเค้าไม่กล้าข้าม จิตแพทย์หรือคนอื่น
รักษาเค้าไม่ได้หรอกถ้าเค้ายังยอมแพ้ใจตัวเองอยู่น่ะ"

"อืมม... รีย์พูดถูก นัยเค้าเป็นแบบนั้นจริงๆ"

"มันไม่เที่ยงหรอกนะนิด ขันธ์ห้าน่ะ ไม่มีอะไรเที่ยงหรอก ยิ่งสัญญาน่ะมันเป็น
นามธรรมที่เกิดแล้วก็ดับได้ในทันที ปัญหาก็คือว่าจะทำยังไงให้น้องนัยเห็น
ความเป็นจริงนี้ และเชื่อตัวเองว่าใจเค้าสามารถชนะธรรมชาติอันนี้ได้เท่านั้น"




- ช่วง ๓ -

"กรี๊งงงง... กรี๊งงงง"

"สวัสดีครับนัยพูดครับ"

"น.. นัย.... น.. นี่... พี่.... นิดนะ... พี่ วิ่ง ห... หนี... คนมา... โร..ค หอบก...กำเริบ...
ต... ตอนนี้... หน้าซอย... ก.. กระเป๋า... หาย... ค... เครื่อง... หายใจ... อ... เอามา"

'ตุ๊บ'... เสียงเหมือนมือถือหล่นกระทบพื้น...

อาทิตย์นี้พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน... หน้าซอยจริงๆ แล้วก็ห่างออกไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
แต่ต้องเดินข้ามถนนเลี้ยวขวาตัดออกไป... นัยวิ่งไปรื้อเอาเครื่องหายใจสำรอง
ออกมา เปิดประตูบ้าน... มองเห็นเส้นถนนเส้นนั้นพลางกำมือแน่น...

ชีวิตพี่นก...
- หลับตา - ภาพทั้งหลายในอดีตวิ่งเข้ามา -
ชีวิตพี่นิด...
- ลืมตา - มองเห็นเส้นถนนและทางไปปากซอยชัดเจน -

แล้วเค้าก็ออกวิ่ง... กระโดด...



@}--,--'--- @}--,--'--- @}--,--'---
๏ อารมณ์เกิดจิตรู้................ทุกข์ทน
เขลาขลาดหวาดร้อนรน.........หม่นไหม้
สัญญาเก่าลวงตน................เพียงอนิจ- จังเฮย
หากเลือกว่างวางไว้ .............เงื่อนแก้ใจคลาย ๚
@}--,--'--- @}--,--'--- @}--,--'---


-- ไร้นาม


โดย: ไร้นาม วันที่: 10 เมษายน 2548 เวลา:12:55:02 น.  

 
เรื่องเดิม (+เบื้องหลัง, +เพื่อนแต่งต่อ, +ไร้สาระ, ฯลฯ) อยู่ที่: Pantip

อธิบาย

ลองแต่งเรื่องแนวสัญญลักษณ์อยู่ค่ะ (ใครเรียนมาทางภาษาเห็นอุ๊ปล่อยไก่ ก็ช่วยจับหน่อยนะคะ)

น้องนัย - คนทั่วๆ ไปที่เติบโตเรียนรู้ได้ตามกาลเวลา
เส้นถนน -เป็นนามธรรมในใจที่คนเรามักวางกรอบลงมาโดยไม่รู้ตัวและผูกสัญญาไปติดไว้
ชีวิตพี่นก - เป็นสิ่งกระตุ้นที่สร้างสัญญาขึ้น
ชีวิตพี่นิด - เป็นสิ่งกระตุ้นที่ทำให้หลุด (กล้าที่จะเอาชนะใจตัวเอง)

ขันธ์ห้า

ไม่ค่อยรู้เรื่องธรรมมะซักเท่าไหร่ แต่อุ๊เคยลองดำน้ำเขียนโคลง(เคลง)อธิบายเรื่องขันธ์ไว้ดังนี้
๏ อันว่าขันธ์แบ่งห้า-..........กลุ่มคือ
หนึ่งรูปขันธ์จับถือ.............พิศได้
เป็นกายธาตุคงหรือ...........รอดับ
เพียงสิ่งรับนามไว้.............เพื่อม้วยสักวัน ๚

๏ เวทนาขันธ์นั่นรู้............อารมณ์
เมื่อเหตุปัจจัยสม.............เกิดพร้อม
เฉยทุกข์สุขผ่านชม..........ทุกขณะ
ห้ามยากปลงจิตน้อม-.......รับแล้วดับไป ๚

๏ สัญญาขันธ์จำได้.........รู้หมาย
ร้อยสิ่งโยงเชื่อมสาย.......อดีตเข้า
หลอกจิตมั่นเฉกนาย.......งำครอบ
แรกพบรู้ด้วยเจ้า............ใช่สร้างใหม่เอง ๚

๏ สังขารขันธ์เพิ่มแต้ม.....แต่งเติม
ห้าสิบเจตสิกเสริม...........หวั่นได้
ธรรมชาติจิตนิ่งเดิม.........ไหวเปลี่ยน
กองแห่งปรุงแต่งไซร้.......หากพ้นวุ่นคลาย ๚

๏ วิญญาณขันธ์จิตแท้......รู้รับ
หกส่วนคอยร้อยสดับ.......อยู่เฝ้า
อารมณ์ทราบกวาดจับ......เก็บสะ- สมนา
บุญบาปติดจิตเข้า...........ดั่งสร้างสายกรรม ๚ะ๛



โดย: ไร้นาม วันที่: 10 เมษายน 2548 เวลา:13:00:40 น.  

 
สัญญาเหตุติดข้อง......................จดจำ
ยากหลุดแยกกระทำ...................ซึ่งแจ้ง
รู้ตัวส่งผลนำ..............................ความคิด
กำหนดรู้ใช่แสร้ง.......................สตินี้กรรมสลาย

--รสา รสา




๏ ขันธ์ห้านั้นยากแท้.............เกินเขียน
กลัวยิ่งอ่านปวดเศียร............ละไว้
สัญญานั่นพอเพียร..............แต่งเล่า
เอาง่ายให้อ่านได้................ไม่ทิ้งขว้างไป ๚

--ไร้นาม




ผ่านทะเลดั่งน้ำ....................น้อยความ หมายเฮย
ผ่านสิ่งยากผ่านยาม..............ยากได้
ผ่านฝนผ่านหนาวตาม............ชนโชค
ผ่านเพราะวิญญาณไร้............ละแล้วสัญญา

ผ่านทะเลกว้างใหญ่...............รักเปรียบ แม่เอย
น้ำบ่อน้อยใดเทียบ................ดุจได้
ผ่านมหาคลื่นระลอกเรียบ........เราห่อน กลัวนา
ลืมล่วงวิญญาณไร้.................เรื่องร้ายเรื่องดี

สมมติหมายให้สิ่ง.................สารพัน
สมดั่งใจจินต์อัน....................อคาธเค้า
โลกเหมือนเปลี่ยนหมดฝัน......รสชาติ ใดฤๅ
มีสุขเคียงทุกข์เจ้า.................จักเศร้าไปไย

ทะเลแสนลึกล้ำ.....................กว้างไกล
รองรับทุกธารใน.....................โลกหล้า
ลมแรงคลื่นร้ายใด...................ไป่หวั่น
ขวัญเปี่ยมใจกล้าท้า................เหล่าร้ายย่อมสลาย

--วิญญาณอสัญญา




๏ ผ่านทะเลนั่นน้ำ................น้อยฤๅ
ผ่านสิ่งยากฝีมือ..................เพื่อนแก้ว
ผ่านฝนรอดหนาวคือ.............หยุดหวั่น
ผ่านเช่นเฉกผู้แคล้ว..............ละแล้วใจสบาย ๚

๏ เรื่องดีแลเรื่องร้าย............ผ่านไป
ลืมล่วงวิญญาณไกล-...........ห่างเจ้า
มหาคลื่นระลอกไหว............ฤๅเรียบ
มิเทียบเปรียบใจเศร้า...........ตัดไร้สัญญา (ฤๅพี่?) ๚

๏ สมมติหมายสร้างสิ่ง..........สารพัน
สมดั่งใจร้อยฝัน..................วาดเข้า
สมหวังสิ่งใดกัน..................ฤๅหลอก
สมค่าเพียงจิตเฝ้า...............วาดหร้างวางลวง ๚

๏ มหาสมุทรสุดลึกล้ำ............กว้างไกล
ลมโกรกวารีไหว...................ดั่งท้า
แม้ผิวคลื่นหวั่นไป.................ในสงบ
ดังจิตฝึกจนกล้า....................สิ่งร้ายยากสลาย ๚

--ไร้นาม




ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ความเลื่อมอยู่ล้นหลากหลาย
ความรักเหือดแห้งกลับกลาย
ความเอื้ออาทร..มลายเลือน

--pee_lee




ความตายไม่ไกลแค่เอื้อม
ความเสื่อมแน่แท้แต่ไหน
ความรักผิดแบบสลายไป
ความเอื้อเกื้อไว้ไม่มลาย

เรื่องนอกนั้นยากกำหนด
เรื่องในเพียงจรดจิตหมาย
เรื่องยากอาจเปลี่ยนกลับกลาย
พลันง่ายเพียงชนะใจตน ๚

--ไร้นาม




ขันธ์ห้าแยกออกเพี้ยง...................เป็นสอง
คือหนึ่งตัวรูปรอง..........................จับได้
อีกสองซึ่งนามมอง........................นั่งนึก
ทุกสิ่งทุกอย่างไซร้........................ไม่พ้นแฝดสอง

ขันเดียวแม้นชะล้าง.....................ร่างกาย
กำจัดสิ่งรอบราย..........................ออกได้
แต่ตัวกิเลสแยบคาย.....................ยากออก หมดฤๅ
ต้องดับที่ขันธ์ไซร้........................จึ่งล้างตัณหา

จิตเจตสิกทั้งรูป..........................สามสาน
อีกหนึ่งคือนิพพาน......................สี่ถ้วน
รวมเป็นสิ่งตามกาล....................มีอยู่ จริงเอย
ปรมัตถธรรมล้วน.......................เร่งรู้ศึกษา

โคลงแต่งเลยแต่งเข้า..................แต่งเครง
โคลงเพราะเพียงเพราะเพลง........เพราะพร้อง
โคลงละเรื่อยละเลง.......................ละเล่น
โคลงร่วมขีดร่วมร้อง...................ร่วมสร้างร่วมสรรค์

--รสา รสา




ขันธ์ห้ารวมรูปแล้ว..................เวทนา
สัญญ์ส่งสังขารา....................แต่งแต้ม
วิญญาณก่อทุกขา..................เขตวัฏ ฏะนอ
หากดับขันธ์ห้าแย้ม................ย่างเข้านิพพาน

-- อกนิษฐ์




ขันธ์รวมกายจิตนี้.........ห้ากอง
ขันธ์หนึ่งคือที่ของ............รูปนั้น
สองเวทนาขันธ์จอง..........สามซึ่ง สัญญา
อันสี่สังขารหมั้น..............ที่ห้าวิญญาณ

"รูป"ขันธ์มั่นอยู่ด้วย.........สี่ธาตุ
ดินน้ำไฟลมมาด..............แม่นได้
ประชุมกลุ่มประกาศ..........กายก่อ เกิดแฮ
รวมจึ่งพึงเรียกไว้..............ว่าด้วยรูปขันธ์

"เวทนา"คือรู้ซึ่ง...............อารมณ์
สบายจิตสบายกายสม........ส่วนอ้าง
ไม่สบายจิตแลกายตรม.......ก็ก่อ เกิดเอย
เฉยก็นับจับสร้าง................ซึ่งเชื้อเวทนา

"สัญญา"คือจำได้.............ใจหมาย
รูปรสกลิ่นเสียงกราย..........ตระหนักรู้
โผฏฐัพพะจะฉาย..............สะท้อนจิต
สิ่งก่อจ่อใจจู้....................จึ่งหว้าสัญญา

"สังขาร"ท่านแบ่งไว้...........ว่าสาม
เจตสิกกุศลงาม.................ก่อเกื้อ
อกุศลส่วนชั่วทราม.............เกาะเกี่ยว
อัพยากฤตคิดกลางเอื้อ........เอ่ยอ้างสังขาร

"วิญญาณ"อย่าคิดหว้า.........วายปราณ
จงจำคำเรียกขาน...............สิ่งตั้ง
กระทบสบผัสสะพาน...........พึงบ่ง รู้นา
จึงว่าอารมณ์ฉั้ง..................หยั่งด้วยวิญญาณ

"นามรูป"เราย่อให้...........ห้าขันธ์
เป็นอนิจลักษณ์อัน..........ไม่เถี้ยง
โปรดพิศคิดครวญกัน........ก่อประโยชน์
สรรพสิ่งใดใดเพี้ยง..........เกิดแล้วดับไป

-- Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์)




@ ชนใดมิค่อยรู้........หลักธรรม
เขาย่อมถูกครอบงำ......ว่าแท้
ชนใดที่ตรากตรำ.........ดูก่อน
เขาย่อมไม่คิดแม้........ขั้นธห้า ของเรา ฯ

-- ขุนแผน ๛


โดย: ไร้นาม วันที่: 10 เมษายน 2548 เวลา:13:06:37 น.  

 
ส่องกระจกสะท้อน......ตัวเรา
พสุธาขุนเขา............เสียงก้อง
ยอกย้อนกลับสู่เจ้า....ผู้ใด
สำนึกตัวเรียกร้อง.......ผิดชอบชั่วดี


ปล. ไม่รู้แต่งถูกหลักหรืป่าว เพื่อปล่อยไก่ อ่านแล้วลองแต่งมั่งอ่ะครับ อารมณ์พาไป


โดย: noom_no1 IP: 202.5.88.128 วันที่: 5 พฤษภาคม 2548 เวลา:23:53:23 น.  

 
--- noom_no1 ---

ผิดนิดหน่อยค่ะแต่ความหมายดีมากๆ :)


โดย: ไร้นาม วันที่: 11 พฤษภาคม 2548 เวลา:0:12:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.