จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
 
มกราคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 มกราคม 2548
 
All Blogs
 

Poem

(ลองดัดแปลงจาก ดั่งดวงหฤทัย
ให้เป็นอีกแบบค่ะ ตลกๆ นิดนึง)

แม้มิใช่สายลม
แต่ห่อห่มอุ่นอยู่
แม้มิได้ในทุกฤดู
แต่ก็หรูเหลือเฟือ

ความรัก
ห่อหุ้มพักใจได้
อุ่นใดเล่าอุ่นใด
เทียบได้อุ่นอ้อมไอรัก

จรดลึกนึกอุ่นทุกครา
ห่มอุ่นหนาดั่งผ้าหนักหนัก
ผ้าห่มอื่นแม้อุ่นนัก
แต่รักนี้อุ่นกว่านั้น

-- ไร้นาม (9 เมษา 2005)




 

Create Date : 05 มกราคม 2548
69 comments
Last Update : 10 เมษายน 2548 1:08:20 น.
Counter : 4256 Pageviews.

 

"เพียงลูกเกิด ใต้หล้า มหากษัตริย์
ในแผ่นดิน ถิ่นรัฐ เปรียบดังฝัน
มีพ่อปก เหนือเกศา บุญอนันต์
น้อมชีวัน บังคมกราบ ทราบพระคุณ

ลูกจะขอ มุ่งเล่าเรียน เพียรศึกษา
นำวิชา กลับชาติไทย ช่วยเกื้อหนุน
เพราะรักถิ่น ดินแดนที่ ธ ค้ำจุน
ซึ้งการุณ ขอรับใช้ พ่อแผ่นดิน"

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยื่นนาน...



-- Panit Watcharawitch
University of Cambridge (1999)

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 1:13:17 น.  

 

หากจะเพียงยึดมั่น... ว่าตัวฉัน?
สิ่งนี้คือสิ่งนั้น... แน่จริงหรือ?
ลองมอง... ลองพินิจ พิจารณ์ดู...
ก็จะรู้ว่าตัวฉัน... ไม่มีอะไร...

มองว่าง แล้วผ่านพ้น... ให้วันล่วง...
ก็ดวงชีวานี้คงดับ... ต้องหลับไหล...
โลกนี้ ก็ยังคง... หมุนต่อไป...
แล้วจะยึดไปทำไม... กับตัวตน...

ผู้คนที่หลากหลาย... ชอบฝากชื่อ...
ก็เพื่อให้เขาเลื่องลือ... ทุกแห่งหน...
ถามหน่อย... ขอถามไถ่ ทุกชั้นชน...
ว่านี่หรือคือหน ทาง ที่ท่านเดิน?

ชื่อเสียง เมื่อผันผ่าน ก็ลาลับ...
หากสิ่งที่คงประดับ... รับสรรเสริญ...
คือผลงานที่ดีงาม... สร้างความเจริญ...
ขอชวนเชิญ... ฝากความดี... แทนตัวตน...


-- ไร้ตัวตน (2000)

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 1:19:18 น.  

 

o หากไร้ค่าวัดเพียงแค่ไร้คู่
เหมือนไร้รู้ถึงชีวิตที่ยิ่งใหญ่
เกิดเป็นคนไร้รักก็หักใจ
แต่มิใช่ไร้ตัวตนที่งดงาม...

o หากเราเห็นเราเองไร้ความหมาย
แล้วสุดท้ายใครนับถือ ฉันขอถาม?
แค่พิษรักปักใจ เพียงชั่วยาม
ไร้รูปนามแล้วหรือ ลองตรองดู ฯ


-- ไร้นาม

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 1:58:57 น.  

 

หงุดหงิดขุ่นข้องเรียก..........ปฏิฆะ
แปรเปลี่ยนเป็นโกธะ..........เริ่มแพ้
ปล่อยนานจักอุปนาหะ........อาฆาต
สามโกรธควรรีบแก้...........เริมด้วยเมตตา ๚

-- ไร้นาม (kindly corrected by K. Augustman)

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 2:11:28 น.  

 

ช่วง ๑

ถึงแคล้วคลาดอักขราต้องอาวุธ
ผู้เปรื่องยุทธยืนยงลงอักษร
สักหินผาท้าลมดั่งพรมพร
ไม่อาทรรอนร้าวก้าวเดินไป

ดับอารมณ์ทมเร้าเจ้าเริงรื่น
เป็นผู้ตื่นชื่นชมม์หาตรมไม่
ที่รายรอบร่างหายสลายไป
เหลือแต่ใจรู้รับจับก็วาง

สิ่งกระทบพบพาด้วยรอยยิ้ม
เพียงภาพพิมพ์พร้อมหายคลายค่าว่าง
เจอก่อจากพรากก่อพบครบเส้นทาง
พอตัดสายใยบางจางวังวน

จึงมุ่งวาดอักขราฆ่าความคิด
จะผูกจิตผิดแพ้แก้กี่หน
ร่าง 'สติ' สลักลงตรงกมล
ชนะตนหยุดอยู่ดูนิรันดร์

ช่วง ๒

สังคมคนสับสนเวียนวนว่าย
ช่างน่าหน่ายพ่ายแพ้ใจแปรผัน
สิ่งลุ่มหลงคงลวงล่วงคืนวัน
จิตไม่มั่นอาจพลันก้าวพลาดไป

ทั้งโลภะโมหะและโทสะ
ยากชนะละก็อยู่รู้หวั่นไหว
พาอารมณ์ตรมตรอมยอมกรีดใจ
ก็ถูก 'ไฟ' เผาผลาญกาฬโลกันต์

เฉกอาวุธฉุดประหารธารชีวิต
พาความคิดผิดลงหลง 'สุก' สันต์
จึงฝากเทียบเหล่าผู้กล้ามาร่วมกัน
เขียน 'สติ' ให้มั่น ณ. กลางใจ

ช่วง ๓

จิตใฝ่ดีนี้แน่แลประเสริฐ
เห็นเลอเลิศเกิดก็ดับมิจับไหว
สร้างสติรู้หลงตรงกลางใจ
ฟืนฟอนไฟไม่แท้ก็แพ้ลง

ทองคำเปลวเหลวหรือยังคือทอง
คงสาดแสงเรืองรองแม้ฝุ่นผง
เฉกเศษเสี้ยว 'สติ' มั่นพลันยืนยง
เจตจำนงคงค่ารักษาใจ

แม้แคล้วคลาดอักขราต้องอาวุธ
ก็รู้หยุดฉุดใจให้คงใหม่
คืนคุณค่าความเพียรเรียนด้วยใจ
จึงดับไฟ 'สุก' เผา เอา 'สุข' จริง


-- ไร้นาม

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 2:16:39 น.  

 

ทองคำเปลวเหลวหล่อก่อค่าทอง
เพชรเรืองรองแตกหรือคือคมเห็น
เจียรก็สวยด้วยความงามดั่งควรเป็น
เปรียบดั่งเช่นเน้นให้รู้ดูข้างใน

ตาเนื้อมิเอื้อให้ทะลุเนื้อ
จึงยากเชื่อเหลือหลงคงสงสัย
สิ่วสว่านพาลตีลงก่อนปลงใจ
ดั่งฟืนไฟไหม้หลอมย้อมค่าทอง

ให้แคล้วคลาดอักษราต้องอาวุธ
กลัับวิสุทธิ์ผุดวาดผาดผยอง
หนึ่งกระทบรบแล้วแนวครรลอง
หนึ่งหยุดมองตรองเห็นเป็นเข้าใจ

จะไฟเชื้อเนื้อเผาก็เข้าเชื้อ
แค่ก่อเกื้อเหนือหนุนจุลเข้าใส่
เพียงหยุดรับจับวางช่างปะไร
เพชรกลางใจยังคงใสเฉกควรเป็นฯ


-- ไร้นาม

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 2:18:30 น.  

 

สดชื่นรื่นรมย์ยิ่ง
มาพักพิงอิงอุ่นไอ
คำคมชมชอบใจ
ชื่นชมไว้ใจเดียวกัน

หลับตื่นคืนวันผ่าน
ใจเบิกบานแม้แปรผัน
เวียนเปลี่ยนยากยึดมั่น
ก็ปล่อยมันให้เป็นไป

สติมั่นกับตัว
รู้ถ้วนทั่วกลัวไปใย
สายกลางเดินก้าวไป
ระรื่นใจในบัดดล

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 2:19:01 น.  

 

หนึ่งคารมคมคำ จำนรรจา
หนึ่งคุณค่ายกมาพาความหมาย
หนึ่งอัตตาเห็นถึงซึ้งทำลาย
ชี้จึงหายคลายค่าว่างอย่างควรเป็น

อักษรารู้อารมณ์ชื่นชมโลก
จะสุขโศกโศรกหรือคือยังเห็น
คือยังคิดติดพันตัวชั่วเช้าเย็น
จะคาดเค้นเว้นไม่หายวายชีวี

จึงยืมหยิบกระบี่งามนาม 'สติ'
ฆาตตำหนิติตัวตนร่นศักดิ์ศรี
วางอัตตาค่าว่างไว้ใจพอดี
ไฟโลกีย์ที่ร้อนเร่าจะเผาใคร?

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 2:19:20 น.  

 

อันโพยภัยไฟฟอนรอนล้อทรวง
เปรียบเล่ห์ลวงบ่วงรัดมัดเข้าใส่
หากปล่อยจิตติดมั่น ก็บั่นใจ
จะโทษใครถ้าไม่ใช่ ที่ใจตน

เปลวอัคคีกรีฑา มาทำลาย
'สติ' สู้อยู่เดียวดาย มีใครสน
คอยกรีดเขตขีดขั้น กันปะปน
แต่ใจคนก็ร่นหาย สลายไป

จึงขอเถอะหยุดตรองกันสักนิด
ลองพักจิตคิดทวนให้ถ้วนใหม่
ณ. จุดนี้ใจหลง ลงเท่าใด
อย่าปล่อยให้ไฟแผดเผาเข้าตนเอง

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 2:19:39 น.  

 

สนามอักษรสุนทรสถิตย์
คือมิตรมิ่งเพื่อนคอยเตือนขวัญ
คือลานประยุกต์ปลุกชีวัน
คือนิรันดร์ปันค่าฆ่าอารมณ์

หากต้องอักขราคารมยุทธ
พาผุดผาดซึ้งถึงเย็นร่ม
มิอาจไม่เห็นจึ่งชื่นชม
คำคมนารีกวีสำคัญฯ

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 2:19:55 น.  

 

(ต้นฉบับแต่งแบบ แก้แล้วแก้อีกไว้ที่:
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1798584/W1798584.html )

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6

๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส
เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ
ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ
กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚

2. โคลง 5 พัฒนา

๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก
ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า
สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า
เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚

3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11

๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป
หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚

4. กาพย์ยานี 11

๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง
กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚

5. โคลง 4 สุภาพ

๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ
กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง
ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต
สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚

6. ร่ายสุภาพ

๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน
ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ
ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚

7. กลอน 7

๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ
ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม
หลบลี้หนีหายสลายไป
เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚

8. โคลงดั้นวิวิธมาลี

๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป
ใยห่อคลายคลี่กาง...........ออกไว้
กรายปีกร่างพริ้วไหว..........พริ้งเพริศ
งามเลิศเกินสร้างได้..........เกิดมา ๚

9. วสันตดิลกฉันท์ 14

๏ ผีเสื้อก็แย้มวรสล้าง..........ประสะสร้างประจักษ์ตา
เกลียดนั่นสลายมรณะนา.......เพราะมิเห็นมิเป็นหนอน ๚

10. กาพย์ฉบัง 16

๏ คนคัดวัดค่าตาหลอน..........ชังเปลือกเลือกรอน
รักเปลือกเลือกปรับกลับตน ๚

11. กาพย์สุรางคนางค์ 28

๏...................................ชีวิตหนอนเวียน
มั่นคงมิเปลี่ยน....................ใช่เหมือนใจคน
หม่ำเพื่อเติบโต...................เพียรเรื่อยอดทน
สุดท้ายงามจน....................คนต้องเปลี่ยนใจ ๚ะ๛

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 15:45:22 น.  

 

ตัวอย่าง (ไม่ค่อยดีเท่าไหร่) เพิ่งแต่งแจมกระทู้เรื่อง 'เพ้อ' เอาไว้:
(จาก: //www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1825101/W1825101.html )


เพียง เพ้อพร่ำคร่ำครวญหวนไห้หา
เพียง ภาพพร่าพราวตาพร่าน้ำใส
เพียง พรมหยาดหยดลงคงหายไป
เพียง พาใจให้หยุดฉุดขึ้นมา

ผ่าน เลยไปไม่รัก ปักใจหรือ?
ผ่าน พ้นมือคือหายง่ายหนักหนา
ผ่าน เพียงคนจนน้ำใจไม่เมตตา
ผ่าน เลิกลามารักษาค่าใจตน

ไป ปลดปล่อยรอยร่ำที่พร่ำเพ้อ
ไป เถิดเธอเจอฝันกันสักหน
ไป ตามทางอย่างเดิมเริ่มผจญ
ไป ตั้งต้นช่างคนเคียง เพียงผ่านไป ๚

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 15:46:45 น.  

 

อันนี้เป็นโคลงชุดโหดบังคับกระทู้คำ ทะลุ่มปุ่มปู ฯลฯ รายละเอียดอยู่ที่:
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1836417/W1836417.html

--- ๏ ๏ ๏ เงาจันทร์ ๏ ๏ ๏ ---

๏ ทะ เลงามยามภาพย้อน........เงาจันทร์
ลุ่ม ลุ่มดอนดอนอนันต์............ส่งสะท้อน
ปุ่ม ปมระลอกอัน....................อัปลักษณ์
ปู แผ่ผิวพรายซ้อน.................สงบสร้างมนตรา ๚

๏ ทุ เลาลงคงเพราะต้อง-........มนต์ธาร
สุ คติรมย์สราญ.....................แด่ข้า
มุ มุ่งเหนื่อยดวงมาน.............กลับว่าง
ดุ เดือดเลือดพล่านล้า............หลบเฝ้าเงาจันทร์ ๚

๏ อุ เบกขาจรัสแจ้ง...............จรุงใจ
สา มิภักดิ์สงบใน...................สุขล้ำ
นา บุญพิศเดือนไป...............เพ็ญภาพ
รี ราบอาบพื้นน้ำ...................ทราบซึ้งตรึงกมล ๚

๏ โก ลาหลหมดมล้าง.............จางลง
วา ยุพัดสะบัดคง...................คลาดแคล้ว
ปา สลัดทุกข์ปลดปลง.............จันทร์ส่อง
เปิด จิตคิคล่วงแล้ว...............จิตสล้างสว่างใน ๚

๏ จก เงาจันทร์ร่างร้อย.........บรรยาย
จี้ จุดที่แสงหมาย...................สื่อเน้น
รี้ ริกคลื่นหยุดกลาย..............กลับสงบ ได้นา
ไร เรื่อฉายเงาเร้น...............คติเข้าสติคน ๚ะ๛

-- ไร้นาม @ pantip

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 15:47:49 น.  

 

บทกวี หรืองานเขียน อยากให้เพราะไม่เพราะก็อยู่ที่อารมณ์เนื้อความและการใช้คำ
พอเปลี่ยนแนว อารมณ์กับน้ำเสียง โคลง/กลอน ก็จะเปลี่ยนไป เช่น:

แนวโหด

(โคลงวิจารณ์ข่าวหมอฆ่าหมอ แต่งไว้ที่ -
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1859873/W1859873.html )

๏ อำ มหิตจิตตกแล้ว..............กรรมมนุษย์
พราง พลาดสันดานผุด...........หยาบช้า
ยุค สมัยตกต่ำสุด...................แพทย์ฆ่า แพทย์เวย
เสื่อม สัตย์กิเลศกล้า..............กลบสิ้นคุณธรรม ๚


แนวปลุกใจ

(อันนี้แต่งไว้เตือนใจตัวเองใน diary สองปีที่แล้วตอนตั้งนามปากกาใหม่ๆ)

๏ จักเป็นปราชญ์เฉกฉลาดชาติวิญญู
อยู่เชิดชูคู่ไท้ไทยสยาม
พลีเหงื่อหยาดฆาตอัตตาค่านิยาม
ลบรอยนามงามหลังฝังปิดทอง ๚

-- ไร้นาม

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 15:49:20 น.  

 

แต่งโคลงกลบทกินนรเก็บบัว (e.g. เล่นคำซ้ำ 2/4 คำในบาท) มาให้อ่านเผื่อเพื่อนๆ คิดถึง

๏ ธรรมะเปรียบธรรมชาติชั้น.......ธรรมดา
หลากถิ่นหลากภาษา....................ตระหนักได้
ทุกหนทุกข์สุขพา.........................พานพบ ธรรมนา
เกิดทุกข์เกิดดับไซร้...................เกิดแล้วเกิดสลาย ๚

๏ จิตคนจิตมักพลั้ง.....................กิเลสลวง
เล่ห์เหลี่ยมเล่ห์หลอกหวง............ห่วงล้อม
ยึดเหนี่ยวยึดติดทรวง................ธรรมสะกิด คลายเฮย
สติมั่นสติกลับน้อม......................สติพร้อมสติคืน ๚

๏ เพียรฝึกใจฝึกไว้....................ให้ทัน กิเลสนา
พลั้งพลาดหลงพลาดพลัน............สติกู้
อารมณ์รื่นรมย์อัน......................ลวงหลอก
สุขหน่ายสุขสราญรู้.....................สุกไหม้สุกเกรียม ๚

๏ อริยสัจสี่สัตย์สล้าง....................สว่างกมล
เห็นทุกขังทุกข์ทน.......................สมุห์สร้าง
สายกลางสื่อกลางหน...................สู่นิโรธ รู้แล
มรรคแปดมรรคใช่อ้าง...............มรรคแท้มรรควิถี ๚ะ๛

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 15:51:26 น.  

 

กลโคลงแบบ: โคลงลิลิตพระลอ

1110 0100 1100 0011 1110 1001....

๏ เสียงสูงเสียงต่ำสร้าง.........สารใด เสียงเอย
เสียงส่งสืบสรรค์ไป.............สู่เจ้า
สองเสียงใส่ความนัย............ศูนย์หนึ่ง ใดฤๅ
สองค่าฤๅรหัสเข้า................สื่อร้อยพันความ ๚

.... 1011 1001 1101 0010 1100 0001

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 16:37:23 น.  

 

กลโคลงแบบ: โคลงสุนทรภู่

๏ รำลึกนึกย้อนเรื่อง...............ราวหา
แผลเก่าเขลารักษา................ศักดิ์สร้าง
อาเพศเหตุกันยา....................เหยียบย่ำ ใจฤๅ
จึงคิดจิตแค้นค้าง...................ฆ่าเค้นเข่นกัน ๚

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 16:37:40 น.  

 

กลอนธรรมดาๆ แต่งเล่นๆ ตอนอารมณ์ไม่ดี

๏ อัครตระการฟ้าท้าฤทธิ์โลก
ระเริงโศกจึงฟาดผ่าฤๅไฉน
ปุถุชนผลแผ่นดินถอดสิ้นใจ
ด้วยหมดไร้สิ้นแรงต้านพาลหวาดกลัว ๚

๏ จะทุกข์ทนก็ก้มหน้าว่าทนทุกข์
ที่เคยสุขกลับสุกร้อนจนถ้วนทั่ว
ผืนฟ้าแห้งผืนดินแล้งสายพันพัว
ความดีชั่วมั่วพันเกลียวเกี่ยวกังวล ๚

๏ เลยวาดน้ำลำนำวางสร้างสติ
เปิดปิติรู้ร้อนหายคลายสับสน
แม้ฟ้าร้ายก็ยากกรายทำลายชล
ด้วยไม่สนไม่หม่นว่างวางหมดไป ๚

๏ เปลวแห่งฟ้าส่งตรงมาเป็นอาวุธ
จักสิ้นสุดฤทธิ์แรงกล้าล้าหยุดได้
เพลิงแรงร้อนผลาญทำลายหมายสิ่งใด
กลับว่างไร้ไม่มีย้อนสะท้อนแรง... ๚๛ะ

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 16:38:01 น.  

 

อันนี้แต่งแบบ ไล่ตั้งแต่ อักษร ก. ถึง ฮ. อยู่ข้างหน้า เลยมั่วๆ หน่อย...

กาลผันเปลี่ยนเวียนสับสนฅนวุ่นวาย
เข้าขวนขวายหมายสิ่งใดใคร่จะถาม
ความสุขเศร้าเคล้าชีวิตจิตนิยาม
ฅนมิคร้ามหามแบกไว้ให้หนักใจ

งานการหนักพักผ่อนคลายหายได้หรือ
จิตยึดยื้อถือภาระจะวางไหน
"ฉัน"ฅนนี้มีตัวตนทุกฅนไป
ชั่วดีใดใจเข้าจับประทับตรา

โซ่ตรวนเอกเสกเข้าเคล้าเย้ามนุษย์
ฌานพิสุทธิ์หยุดได้ไหมใจกังขา
ญาติธรรมจำเพียงกฏจดท่องมา
ฐานคลอนล้า"ข้า"ติดถือคือตัวตน

ฑิตเรียนบวชสวดธรรมเกื้อเจือหนุนส่ง
เฒ่าปลดปลงคงภูมิรู้สู่ทุกหน
ดุจแสงทองส่องสว่างกลางกมล
เตือนตักตนให้ปล่อยว่างวางทุกข์คลาย

ถามเถิดเอยเคยหรือใครไม่อมทุกข์
ทั่วถิ่นคลุกสุขคละเคล้าเราอย่าหมาย
ธรรมชาติวาดให้เห็นเช่นเปล่าดาย
นิรันด์หายตายก็ลับดับวิญญา

บัณฑิตครวญชวนให้อยู่รู้สัจจะ
ปลดปล่อยละอบายลวงบ่วงหรรษา
ผ่านสุขเทียมเปี่ยมสุขแท้แน่นำพา
ฝึกฝนหาสาสุขสมรมย์รื่นทรวง

พระพายพรมก้มกระซิบหยิบดวงเนตร
ฟ้าเปิดเขตวิเศษทราบอาบเลอสรวง
ภาพเวียนวนพ้นทุกข์ได้ไร้เงาลวง
มล้างบ่วงห่วงยึดมั่นบั่นภัยพาล

ยับยั้งทุกข์สุขนิยมบ่มนิสัย
รักสิ่งใหม่ให้ใจพ้นมนต์สังสาร
ฤดีดวงห่วงอาลัยในวันวาน
ล่วงทิ้งผ่านพานพัดหายในบัดดล

วัตถุหนักมักถ่วงจิตติดไม่หาย
ศรัทธาวายร้ายเลศร้อยพลอยไม่สน
สัตว์ในคราบอาบเนื้อหนังวิญญูชน
เหตุให้หม่นจนสิ้นหายสายแห่งธรรม

โอ้วันใหม่ใครจักวางหาทางสุข
ฮึดพ้นทุกข์สุขไม่ขอพออิ่มหนำ
..ได้แต่ฝากผ่านกลกลอนให้สอนจำ
..ร้อยเรียงคำจำนรรไว้ในกวี ๚ะ๛

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 16:53:45 น.  

 

อันนี้มีน้องขอให้แต่ง โจทย์คือ "เครื่องบินบังคับ"

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 16:54:51 น.  

 










 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 17:19:07 น.  

 

"Wispering in the dream"

Imagine... you are near...
I'd like to whisper to your ear
Tell you how much I love you,
& always hold you as my dear

Take this time just to say
All the words from day by day
I'm sorry, please forgive me...
And thank you... I'm okay...

This poem specially for you...
All my words... all is true...
Just in cast if tomorrow never comes
May I use this line to say I love you.


-- Noname (Nov 12, 99)




"Walking..."

ทางเดิน ที่มาอาจสวยหรู
หากใจยังสู้ ต้องเดินหน้า
อุปสรรค แค่นี้ ทำเหนื่อยล้า
น้ำตา ริน ริน ไหลทำไม
มองไปข้างหน้าเจอขวากหนาม
หนทางที่เห็น ไม่สดใส
แต่ถ้า ท้อ จะถึง ได้อย่างไร
กำลังใจ ที่เหลือ ต้องอดทน
ไร้เพื่อน ไร้รัก ก็ต้องสู้
อดีตนั้นเป็นครู ที่ฝึกฝน
บทเรียน ขัดเกลา เราเป็นคน
ยากดีมีจน ก็ทนไป
เหนื่อยไหมหนักนักใจอยากท้อ
อยากรออยากหยุดขอหลับไหล
แต่มาคิด สักนิด หน่อยเป็นไร
เราเกิดมา เพื่ออะไร ถ้าไม่ทน
เอาล่ะ สู้ สู้ แค่ตอนนี้
เป็นตอนที่ ทดสอบ และฝึกฝน
เรายังมี ชีวิต มีตัวตน
ควรผจญ ฟันฝ่า อย่าท้อใจ
ลืมตา เชิดหน้า ก้าวเดินต่อ
ไม่รอ ไม่หยุด ไม่ร้องไห้
ปัญหา หนักหนา ที่ท่วมกาย
ยังไม่ตาย ก็ช่างเถอะ ทางยังมี


-- ผาณิต 22-2-2000




"For my dear friend..."

กำลังใจ... ให้ไปต่อ...
อย่ามัวท้อ... รอวันใหม่...
ยังมีขา... ควรก้าวไป...
เจ็บอย่างไร... ก็ต้องทน...

มีชีวิต... เพื่อเรียนรู้...
อดีตดั่งครู... ผู้ฝึกฝน...
ทุกข์สุขนั้น... มีเจือปน...
เกิดเป็นคน... ทนสู้ไป...

อนาคต... อยู่ข้างหน้า...
ไม่ไขว่คว้า... ก็ไม่ไหว...
เดินก้าวย่าง... อย่างมั่นใจ...
ทางแสนไกล... ไม่เกินจริง...


-- ผาณิต (Mar 28, 00)





"Friendship..."

นับดาว พร่างพราย ปลายฟ้า
ศิรหล้า อบห่ม ชุ่มชื้น
หลับฝัน กลับพลัน พื้นตื่น
วันคืน ผ่านผัน ปล่อยไป

ชีวิต เกิดมา ย่างก้าว
ร้อนหนาว ทุกข์สุข เวียนใหม่
เส้นทาง ข้างหน้า ยาวไกล
กระไร ไม่ยั่น ยังเดิน

น้ำมิตร พรมมา ชุ่มนัก
ประจักษ์ ไมตรี ไม่ห่างเหิน
อดทน พาก้าว มิขาดเกิน
ใช่หมางเมิน คงเพื่อนไว้ ใจขอบคุณ

มิ่งมิตร มีค่า เกินหักหาญ
ร้าวราญ พลันหาย กลายอบอุ่น
จะพรุ่งนี้ วันนี้ ยังการุณ
เจือจุน ปันเวลา มาปลอบใจ

ขอฝาก น้ำมิตร ปันกลับบ้าง
เดินทาง ได้แล้ว หาล้มไม่
อย่าห่วง เพื่อนกัน ไม่เป็นไร
วันใหม่ ฟ้าใส ยิ่งกว่าเดิม


-- ให้มะนาว จากอุ๊
แต่งที่เคมบริดจ์
สิบสามพฤศจิกายน
ปีสองพันห้าร้อยสี่สิบสาม




"Releasing..."

วันนี้ฉันจะเข้มแข็ง...
อ่อนแรง เพียงขอพักบ้าง...
ไม่หวั่นแม้ทางอ้างว้าง...
เส้นทาง ฉันเลือกมุ่งไป...

เก็บแรง สร้างความเชื่อมั่น...
สักวัน ฝันคง สดใส...
ก้าวเดิน ต่ออย่าง มั่นใจ...
ไม่ให้ใคร ต้องมา กังวล...

ความรัก ที่เคย เผาผลาญ...
ร้าวราน เพราะมุ่ง หวังผล...
เวียนว่าย เกิดดับ กับตัวตน...
วังวน พอ "วาง" เว้น ก็หายไป...


-- Panit (Feb 1, 01)




"Finally..."

๏ ม่านเมฆา ปกฟ้า พามืดหม่น
วายุฝน ตั้งเค้า แต่หนไหน?
อัศบาท พาดนภา แรงบาดใจ
เลื่องลั่นไป ลบลับ ดับตะวัน

๏ เสี้ยวชีวิต ร่ายร้อง ผวาหวาด
เฉกคนขลาด หลบลี้ หนีความฝัน
อสุชล ร่วงหล่น นับอนันต์
เพียงสิ้นแสงสุริยันพลันเปลี่ยนแปร

๏ แล้วเปิดตา ท้าฟ้า กล้ามองใหม่
มันหม่นไปหรือเราเองที่พ่ายแพ้?
แค่ใจตาย กายยังหยัด ใยอ่อนแอ?
ก็เพียงแต่ ปรับมุมมอง ที่ออกไป

๏ พลันแสงสาดวาดยาวให้ก้าวต่อ
แม้ยังท้อ จะขอฝัน สร้างวันใหม่
เก็บความรัก ภัคดี ในหัวใจ
ช่างกระไร รอยร่าง ทางน้ำตา ๚


-- ไร้นาม (นามปากกา)
May 15, 01




"มงคล ที่ 1 - 2"

o คบคนพาล พาลพา หาทางผิด
พลิกชีวิต ผกผันพลัน สับสน
จึงควรหลีก หาผู้รู้ ชูค่าตน
เป็นมงคล ผลก่อเกิด เลิศแก่ตัว ฯ


-- ไร้นาม [19 มิ.ย. 07:53:08]




"Realisation"

๏ กบน้อยออกมาจากกะลา
ช้าๆ เรียนรู้โลกกว้างใหญ่
ยอมรับ มันอย่างที่เป็นไป
ปล่อยวาง ทุกสิ่งไว้ อย่างมั่นคง ๚


-- Panit [9/9/2001]




"New life"

ผืนดิน ผืนน้อย แปลงหนึ่ง
ที่ซึ่ง สองคน ร่วมฝัน
ลงแปลง ดูแล ทุกคืนวัน
ไม่เกี่ยง เธอฉัน ปันกันไป

ต้นกล้า แห่งรัก จึงผลิออก
เริ่มงอก จากเล็กๆ จนเติบใหญ่
รับน้ำ ที่อบอุ่น จากสองใจ
แผ่กิ่ง ผลิใบ ให้ได้ชม

แล้วดอกสวย สื่อรัก ก็แย้มบาน
เมื่อวันผ่าน เนิ่นนาน จนเหมาะสม
เป็นฤกษ์งาม ยามสมรส สบอารมณ์
ขอพรพรหม พิทักษ์ไว้ ให้นิรันดร์


-- myself (23/10/2001)




"เอื้อม"

ฟากฟ้า ทะเล หรือ ภูเขา
ถามเรา คงเอื้อม ให้ไม่ไหว
เพราะมี เพียงแค่ หนึ่งดวงใจ
ที่ให้ ฝากไว้ ในวันวาน...

วันหนึ่ง ฟ้าเปลี่ยน เป็นสีหม่น
ทะเล เกลียววน ยากสมาน
ภูเขา ล้มแล้ว ไม่ยืนนาน
ชีวิต ผันผ่าน ก็เปลี่ยนไป

เคยถือ มาแล้ว จนที่สุด
เคยทน ถึงจุด ที่ไม่ไหว
เคยยื้อ นานพอ จนท้อใจ
จึงลอง ปล่อยไป ให้ควรเป็น

ความรัก ผลิบาน ที่หวานหอม
ยิ่งใหญ่ จนยอม ทนทุกข์เข็ญ
เคยเอื้อม คว้าฟ้า ทุกเช้าเย็น
ลืมตา มองเห็น ก็หายไป

ความเปลี่ยน เป็นธรรมดาโลก
ที่ท้อ ทุกข์โศก มาแค่ไหน
วันหนึ่ง ก็ต้อง วางว่างไป
จะยื้อ เอาไว้... ทำไมกัน?

ฟ้าจึง ถูกวาง เช่นวันก่อน
ภูเขา พักผ่อน นอนในฝัน
ทะเล หลับตา ก็พบพลัน
ที่แท้ สุขนั้น อยู่ไม่ไกล

เลยเอื้อม ถึงแล้ว แค่ตรงนี้
แม้เปลี่ยน ต่างที่ เดินหนไหน
ก็ฝาก ฟ้าสวย เป็นธารใจ
ส่งให้ เอาไว้ แล้วต่างเดิน...

-- อุ๊ (20/11/2001)




"Fly..."

วันนี้ อยากบิน ขึ้นฟ้า...
หลบหน้า สับสน หวั่นไหว...
ว้าวุ่น คุกกรุ่น แล้วใจ
แล้วใคร จะเข้า ใจตน?

เคยไหม สับสน เช่นนี้?
กี่ปี ที่ไม่ เคยสน...
ไม่รับ กลับต้อง ทุกข์ทน...
ยอมจน เป็นทาส กักกัน...

ไม่เคย เข้าใจ ความรัก...
ยึดนัก หรือเพียง ไหวหวั่น
อันไหน ลึกซึ้ง ควรมั่น
แล้วมัน ก็คง หายไป

ใจเอย ไม่ยอม หยุดนิ่ง
เที่ยววิ่ง พลุกพล่าน หนไหน
หยุดพัก เหนื่อยนัก หนักใจ
หาใคร พักใจ สักคน

เพื่อนเอย เธอเข้า ใจไหม
หวั่นใจ ในยาม สับสน
รู้รัก รู้วาง แพ้คน
แปรปน วกวน ร่ำไป...


-- A feeling of my friend
by Au~ (26/11/2001)




ผลัดทิ้ง

เปรียบกิ่งไม้ผลัดทิ้งสิ่งรู้สึก
สร้างค่าลึกคือผลอันยิ่งใหญ่
ใบเก่าคืนให้ปุ๋ยส่งกลับไป
แล้วใบใหม่ก็เริ่มผลิงอกมา

เปรียบเช่นคนหากรู้ทิ้งบางสิ่งบ้าง
พอมาสร้างเส้นทางที่ตามหา
ก่อเกิดเป็นประสบการณ์ผ่านเวลา
แล้วมุ่งหน้ากล้าฝันกันต่อไป


-- ไร้นาม [20 เม.ย. 45]




Good Luck
ขอ เทียนเพียรต่อไว้.......ครรโลง
ให้ หมั่นปันแสงโยง........เชื่อมหล้า
พูน วาดสาดส่องโพรง.....มืดดับ
สุข ว่างพลางวางค่า........สว่างแจ้ง สติคน


-- พี่อุ๊ (6 Aug 02)




มองโลก

มอง ชีวิตพิศดูรู้หลงใหล
โลก หมุนใจไร้หลักปักให้ถือ
แง่ มุมมองตรองใหม่สิ่งใดฤๅ
ดี ชั่วคือชื่อวัดจัดแยกวาง

จัก หยุดอยู่ดูว่างวางยึดเหนี่ยว
มี พันเกลี่ยวเกี่ยวก็หายคลายแตกต่าง
ความ สงบครบควรแล้วแผ้วเส้นทาง
สุข สายกลางสว่างสงบสบโลกดี


-- ไร้นาม (8 Aug 02




เมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพ

ขาดฝนทนรานร้าว
น้ำพร่างพราวหายไปไหน
อากาศหนาวร้าวใจ
แห้งแล้งไร้ซึ่งชีวี

หว่านผลพันธุ์ผิดถิ่น
โหยถวิลสิ้นศักดิ์ศรี
เคยเติบโตงามดี
มาถิ่นนี้กลับใกล้ตาย

้ขาดน้ำฤๅร้าวเอง
ร้องบรรเลงไร้ความหมาย
จริงแท้เลือกเดียวดาย
จึงแพ้พ่ายภัยแผ้วพาน...

ออกมาผลิใบงอก
กล้าออกดอกสู่แสงฉาน
ผลพืชจากวันวาน
จึงเบ่งบานด้วยแรงใจ...

พรมเอยน้ำมิตรเอื้อ
คอยกูลเกื้อแม้หนไหน
หล่อเลี้ยงให้หยัดไป
จนเติบใหญ่เป็นร่มเงา ๚

-- -- อุ๊ (11 Sep 2002)

 

โดย: ไร้นาม 10 เมษายน 2548 19:06:14 น.  

 

 

โดย: -*- IP: 221.128.104.128 7 กุมภาพันธ์ 2549 20:43:19 น.  

 

--- คุณ -*- ---

ยินดีต้อนรับค่ะ

 

โดย: ไร้นาม 4 มีนาคม 2549 17:40:32 น.  

 

แต่ละบทนั้นความหายดีมาก ผมขอยกย่อง

หนึ่งชาย หนึ่งหญิง อิงแอบ
ซบอก กายแนบ แปลบเสียว
โอบแขน อ้อมกาย ที่รักเดียว
มือเรียว น้องอร อุ่นใจ

รักวัน นานเข้า กลับแปลก
เริ่มรู้ เจ็บแสบ สงสัย
อิงอร น้องเจ้า ไหนเปลี่ยนไป
อยู่ไกล ห่างลับ มีกลับมา

เหงาหรือ ทำสิ่ง ใดได้
อดทน เก็บกด ทุกขา
รอหรือ? ให้หายเศร้า? ด้วยเวลา
แต่อย่างว่า รักมาก ลืมยากเอง


..ผมทำได้แค่นี้ครับ

 

โดย: e X o m e g A IP: 203.150.137.177 13 มิถุนายน 2549 20:38:36 น.  

 

กรรมพิมพ์ผิด แต่ละบท "ความหมาย" ดีมาก อุอุ ><"

 

โดย: e X o m e g A IP: 203.150.137.177 13 มิถุนายน 2549 20:39:48 น.  

 

กำผมลืมคล้องจอง จบครับ ลบให้ที ๕๕๕ โอ้ยอาย

 

โดย: e X o m e g A IP: 203.150.137.177 13 มิถุนายน 2549 20:42:14 น.  

 

ช่วยแต่ง ร่ายสุภาพ เกี่ยวกับการครองราชสมบัติครบ 60 ปีหน่อยคะ

 

โดย: 9134 IP: 58.136.145.77 19 มิถุนายน 2549 16:49:00 น.  

 

ชอบมากเลยค่ะ ยากมากที่จะแต่งให้ถูกฉันทลักษณ์ ไพเราะ และความหมายดี ข้าพเจ้าขอคารวะ

ปราชน์ รู้ดีจักเจ้า ทรงคุณ
ได้ แก่ผู้การุณ ยิ่งไซร้
ครู สิจักมีบุญ ได้ศิษย์ เจ้านา
ดี ศิษย์ส่งคุณให้ แกล่วกล้า อาจารย์

เกิดมา 12 ปี แต่งได้แค่นี้แหละค่ะ

 

โดย: นักปราชน์ฝึกหัด IP: 124.157.130.214 29 กันยายน 2549 21:30:54 น.  

 

--- คุณ e X o m e g A ---

ดีใจที่มาแจมค่ะ เพิ่งเห็นเขียนเพราะแล้วค่ะไม่ต้องอาย


--- คุณ 9134 ---

ว้า... มาสายเกินกว่างานพระราชพิธีไปซะแล้ว


--- คุณนักปราชน์ฝึกหัด ---

ขอบคุณค่ะที่มาแจม

 

โดย: ไร้นาม 31 ตุลาคม 2549 1:07:21 น.  

 

-- นิราศต้นยาง --
๐------------------- .. . .. .. . .. .. . .. .. คราเริ่มแล้ว/เพียรรอ/นั่งงอหาย
โอ้แสนเศร้า/เมารอ/นานเมื่อยกาย. .. .. . .. .. ดูละม้าย/ว่าต้องทน/อยู่ร่ำไป

๐แลเหลียวหลัง/เห็นล้ารั้ง/ลับหลังอยู่. .. .. ยังมิรู้/ว่าต้องไป/ถึงแห่งไหน
ฟ้าคือฟ้า/ดินคือดิน/ยังเป็นไป. .. .. แต่หากไย/คนฝืนให้/ได้สุขมา

๐เห็นข้างทาง/มีคนพลาง/อยู่สองฝั่ง. .. .. ต่างคนหวัง/ต่างหมายสุข/ล้วนโหยหา
ตั้งใจกาย/ให้ถึงฝั่ง/แม้นโรยรา. .. .. คงพะว้า/พะวัง/อยู่เนืองๆ

๐แออีดอัด/อัดอีด/อออดอั้น. .. .. ชิดกระชั้น/พลัดชัดชิด/คิดขุ่นเขื่อง
ใกล้เคียงคับ/ความคิด/ข่นข่นเคือง. .. .. มีแอบแล/ชำเลือง/ต่างๆคน

๐อาจสงสัย/ว่าเราพล่าม/อันใดเล่า. .. .. ฤาเราเมา/จึงผูกเรื่อง/ดูสับสน
มีความใกล้/ไกลบ้าง/มักปะปน. .. .. เราก็งง/เหลือล้น/ไม่ต่างกัน

๐แหงนต้นยาง/สูงชะลูด/เป็นสุดกู่. .. .. ว่าเหมือนดู/เป็นคู่แข่ง/แย่งสีสัน
อันใดแก่/เกินสู้/ก็หยุดพลัน. .. .. แข่งกันสูง/มิหยุดรั้น/ดั่งคนเรา

๐จึ่งหยิบยก/มาเปรียบเทียบ/กับคนบ้าง. .. .. เพียรมล้าง/กลับสร้างแสร้ง/ในสิ่งเขลา
มีสิ่งไหน/เข้าทางตัว/ก็หยิบเอา. .. .. คงยวนเย้า/เกินจะอด/ทนได้ฤา?

๐เพียรสร้างความ/สุขสม/มาดมดอม. .. .. เพียงกลิ่นหอม/ท่านหวัง/อันใดหรือ
หากตายสิ้น/ทุกอย่างล้วน/ต้องพ้นมือ. .. .. สุขแล้วหรือ/ที่ว่าสุข/ฤาปิดตา

๐ว่ากันว่า/นิราศต้อง/พันนาเพ้อ. .. .. คล้ายละเมอ/มีความรัก/ร่ำหนักหนา
มองทางใด/เป็นหญิงรัก/มักตรึงตา. .. .. แล้วบ่นใจ/โรยรา/เมื่อห่างกัน

๐เพราะว่ารัก/เรายากจะ/พรรณนา. .. .. ด้วยค่าค่า/เกินควรเอ่ย/พิถีพิถัน
โอ้บ่นมาก/เกินแล้ว/แทบครบวัน. .. .. ฉะนั้นพลัน/เราขอจบ/นิราศเอย

-----------

เปิดใจผู้แต่ง : หุหุ อาจดูแปลกๆไปหน่อยนะครับ สำหรับ "นิราศ" อันนี้ (ซึ่งผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นนิราศหรอกนะ เพราะสิ่งที่เรียกว่านิราศมันต้องพรรณนาถึงหญิงรักซะส่วนใหญ่มากกว่า ผมดันไปลงปรัชญาชีวิตซะส่วนใหญ่ ฮา..) อ่าฮ่า ก็ทำไงได้ นี่นิราศแรกในชีวิตเลยนะ(โห!!ฮู้!!) ก็เลยไม่เข้ากันสักเท่าไหร่ แต่ก็พยายามแล้วอ่า Y_Y อย่าติกันเลยนะ มันเป็นนิราศที่ผมแต่งขึ้นระหว่างทางที่กำลังจะไปเรียนพิเศษ โดยใช้ถนนสายต้นยางเป็นทางที่จะไป จึงได้ให้ชื่อว่าเป็นนิราศต้นยางอะนะครับ เอาล่ะ พอเข้าใจกันแล้วนี่ งั้นก้พอแย้วแหละ งุงุ โชคดีครับ

 

โดย: e X o m e g A IP: 203.150.135.49 13 พฤศจิกายน 2549 21:39:36 น.  

 

ท่านรู้ไหม/อัมพรไกล/มีปักษา
กลับงามตา/สู้ยุพิน/ได้ที่ไหน
บุษบา/ฤามาลี/ว่าเกินใคร
หาเปรียบได้/กับท่านไม่/จอมกัลยา

 

โดย: e X o m e g A IP: 203.150.135.49 13 พฤศจิกายน 2549 21:43:04 น.  

 

๐เพราะว่ารัก/เรายากจะ/พรรณนา. .. .. ด้วย"ควร"ค่า/เกินควรเอ่ย/พิถีพิถัน
โอ้บ่นมาก/เกินแล้ว/แทบครบวัน. .. .. ฉะนั้นพลัน/เราขอจบ/นิราศเอย


บทสุดท้ายผมพิมพ์ผิดนะครับ ค่าค่า ต้องเป็น ควรค่า นะครับ จุฟ

 

โดย: e X o m e g A IP: 203.150.135.49 13 พฤศจิกายน 2549 21:51:31 น.  

 

๏ เรียนความรู้ต่างกว้าง......แคบพ้อง
ใจติดอยู่ที่น้อง......สุดสู้
ศึกษาศึกร่ำร้อง......ใจพี่
จิตพี่เรียนมิรู้......แค่คิด ถึงนาง


อ่า เรียนพิเศษแล้วคิดถึงสาวครับ ฮ่าๆ แต่งมันซะเลย

 

โดย: - e X o m e g A - IP: 203.150.117.192 20 พฤศจิกายน 2549 22:14:37 น.  

 

แต่งดีมาก ๆ แต่งต่อไปนะค่ะ จะเป็นกำลังใจให้

 

โดย: แพร IP: 203.118.99.130 26 พฤศจิกายน 2549 4:15:00 น.  

 

"อันหน้าหนาว หนาวรัก สุดหักห้าม
ทุกโมงยามโรยเลห์เสน่ห์หา
อันหน้าร้อน ร้อนใจไปทุกครา
อยากจะหารักแท้แน่แนบกาย"

 

โดย: เปรมกวี IP: 203.188.38.133 26 พฤศจิกายน 2549 22:31:43 น.  

 

--- คุณ e X o m e g A ---

ขอบคุณที่มาแจมหลายบทเลยนะคะ


--- คุณแพร ---

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ


--- คุณเปรมกวี ---

นามปากกาไพเราะจังเลยค่ะ

 

โดย: ไร้นาม 26 ธันวาคม 2549 18:42:25 น.  

 

ไม่เป็นไรครับ ผมรักการแต่ง กาพย์กลอนมากเลย ถึงจะยังไม่เป็นเอ็กเพิร์ท ก็เถอะนะครับ แต่เวลาผมยังมีอีกมาก ผมว่ามันเป็นอาไรที่สวยงามอ่านะครับ แหม่ เด็กคิดได้ขนาดนี้ผมก็ภูมิใจแล้วนะ ><" ผมจะสานต่อให้เองนะครับ สมัยนี้อ่า มีแต่กลอนวัยรุ่น ผมก็ไม่ใช่ว่ามองมันไม่ดีหรอกนะครับ แต่ในเมื่อไหนๆเค้าอยากจะแต่งแล้ว ไม่ลองแต่งแบบสละสลวยตรงผังบ้าง ลองแต่งซักหน่อย เค้าจะได้รู้ว่า มันไพเราะกว่ากลอนวัยรุ่นอีกนะเอ้อ หุหุ

หวังว่ามันคงจะไม่สูญสลายใช่ไหม?




 

โดย: e X o m e g A IP: 203.150.117.82 26 ธันวาคม 2549 20:42:46 น.  

 

ช่วยแต่ง ร่ายสุภาพ เกี่ยวกับการครองราชสมบัติครบ 60 ปีหน่อยครับ

 

โดย: ZeLoM! IP: 203.113.37.7 1 กุมภาพันธ์ 2550 20:10:15 น.  

 

แต่งร่ายสุภาพให้หน่อยได้มั๊ยคะ เรื่องอะไรก้ได้ 30 วรรคนะคะ



ปล. ต้องส่งอาจารย์ แต่แต่งไม่เป็น

ด่วนๆ นะคะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: dapoda IP: 210.86.141.2 2 กุมภาพันธ์ 2550 22:13:55 น.  

 

แต่งร่ายสุภาพให้หน่อยดิ10กว่าวรรคเกี่ยวกับเมืองโบราณอ่ะนะ ด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: ตูมตาม IP: 58.10.170.242 4 กุมภาพันธ์ 2550 15:25:23 น.  

 

 

โดย: 555 IP: 161.246.1.33 15 กุมภาพันธ์ 2550 21:37:56 น.  

 

--- คุณ e X o m e g A ---

ดีค่ะ คนคอกลอนด้วยกัน


--- คุณ ZeLoM! ---

เป็นการบ้านหรือเปล่าคะ?


--- คุณ dapoda ---

คงต้องไปให้อาจารย์ช่วยสอนนะคะ

ไปหาอาจารย์นอกเวลาก็ได้ค่ะ อาจารย์น่าจะดีใจ
การเรียนคือการฝึกตัวเองให้มีความสามารถนะคะ


--- คุณ ตูมตาม ---

ทำไมต้องแต่งด่วนด้วยคะ?
บทกวีคืองานเขียนแห่งเสรีชนนะคะ


--- คุณ 555 ----

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมค่ะ

 

โดย: ไร้นาม 2 มิถุนายน 2550 0:41:33 น.  

 

พีคับ ช่วยผมแต่งร่ายทีได้ป่ะคับ ...ร่ายเกี่ยวกับต้นไม้อ่ะคับ อ.เค้าให้แต่งร่ายยาวเกี่ยวกับต้นไม้ที่ปลูกในสวนพฤษศาสตร์ผมปลูกต้นประดู่อ่ะคับไม่รู้จาเริ่มยังไงดี พี่ช่วยขึ้นให้หน่อยได้ไหมคับ แต่ถ้าจากรุณาจาแต่งให้เลยก้อไม่ว่ากัน อาจารย์แกเล่นให้แต่งที่ 30 บรรทัด ผมปวดหัวจาแย่อยู่แว้ว ยังไงก้อช่วยผมทีนะคับ

 

โดย: เด็กม.ปลายตาดำดำ IP: 125.25.5.96 2 มิถุนายน 2550 1:19:57 น.  

 

พี่ค่ะช่วยแต่งอินทรวิเชียรฉันท์11ให้หน่อยนะค่ะได้โปรดเถอะนะค่ะ ในหัวข้อเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง จะส่งวันจัทร์ ที่ 25 มิถุนายนนี้แล้วค่ะหนูแต่งยังไงก็แต่งไม่ได้พี่ๆๆช่วยแต่งให้หนูหน่อยนะค่ะขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: ear_miniminnie@hotmail.com IP: 203.113.51.103 17 มิถุนายน 2550 20:54:52 น.  

 

สวัดดี คับพี่ ที่ไร้นาม
ผมขอถาม อะไรหน่อย จะได้ไหม
ถ้าถามได้ ขอให้อ่าน บทต่อไป
ถ้าไม่ได้ ก็ขอให้ เลิกอ่านพลัน

คือจะถาม คณิตศาสตร์ สมการ
วิธีการ ทำอย่างไร โปรดช่วยฉัน
6หารX คูณ9 เท่าไหร่กัน ( โจทย์ ___6___ )
X(9)
โปรดตอบฉัน เป็นกลอนที คุณไร้นาม

^๐^

 

โดย: อุนจิ IP: 125.24.79.219 9 กรกฎาคม 2550 10:09:19 น.  

 

+++ คุณเด็ก ม.ปลายตาดำดำ +++

สู้ๆ นะคะ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น


+++ คุณ ear_miniminnie@hotmail.com +++

หวังว่าวันที่ 25 ที่ผ่านมาน้องคงแต่งได้สำเร็จลุล่วงนะคะ


+++ คุณอุนจิ +++

เพราะถามได้จึงตามอ่านบทต่อมา
ขอตอบว่า X นั้นแปรเปลี่ยนค่าผล
อาจเป็น 2 ส่วน (x3) ยามมองยล
หรือเป็นกลให้ไขขานผ่านตัวแปร?

 

โดย: ไร้นาม 31 กรกฎาคม 2550 16:58:19 น.  

 

Blogนี้คือแหล่งรวมยุวกวี เจ้าบ้านนี้ช่างเลิศวาทะศิลป์
ผู้ผ่านทางมาเยี่ยมเป็นอาจิณ ดั่งธารรินไหลสู่มหานที

 

โดย: alpha IP: 203.113.40.71 18 สิงหาคม 2550 17:25:29 น.  

 

ช่วยแต่งร่ายให้รสาหน่อยสิคะ อ. สั่งให้แต่งร่ยสุภาพจบด้วยโครงสองสุภาพแต่งเรื่องอะไรก็ได้

 

โดย: รสา IP: 61.7.161.18 26 สิงหาคม 2550 12:16:16 น.  

 

แต่งอินทรวิเชียรฉันท์11ให้หน่อยค่ะ

 

โดย: เจี๊ยบ IP: 203.113.17.171 1 กันยายน 2550 14:51:38 น.  

 

ช่วยแต่งร่ายเกี่ยวกับสมุนไพรให้หน่อยน๊าคร้า.............
ขอร้อง<ขอก่อนวันที่20กันยายน2550น๊า>
ขอบคุณคร้า

 

โดย: P!๐Y IP: 203.146.63.182 16 กันยายน 2550 1:26:57 น.  

 

ช่วยแต่งเกี่ยวกับ...ในหลวง .ให้หน่อย

 

โดย: มิล่า IP: 117.47.100.241 24 กันยายน 2550 11:55:34 น.  

 

กลอนเพราะมากค่ะ

 

โดย: แก้ว IP: 203.113.77.9 28 กันยายน 2550 12:15:33 น.  

 

--- คุณ alpha ---

ขอบคุณค่ะ


--- คุณเจี๊ยบ, คุณ P!๐Y, คุณ มิล่า ---

ปกติจะแต่งกลอนตามอารมณ์กวีค่ะ
มิค่อยแต่งตาม assignment เท่าใดนัก
ขออภัยนะคะ


--- คุณแก้ว ---

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ไร้นาม 8 ตุลาคม 2550 22:39:14 น.  

 

สุดยอดเลยโว้ย


palm น.ป.

 

โดย: palm IP: 58.136.193.70 16 ตุลาคม 2550 16:32:57 น.  

 


ดีมากๆเลยอะคะ

 

โดย: มีนา IP: 125.27.135.251 11 พฤศจิกายน 2550 20:51:50 น.  

 

แนวว่ะ เก่ง จัง

 

โดย: จากคนตกภาษาไทย IP: 222.123.102.39 14 พฤศจิกายน 2550 21:02:34 น.  

 

ช่วยแต่งโครงสองสุภาพ และโครงสามสุภาพ เกี่ยวกับพ่อของแผ่นดินให้แพนหน่อยสิค่ะ
จำนวนหนึ่งบท
ค่ะ

 

โดย: แพน IP: 203.146.63.189 18 พฤศจิกายน 2550 14:25:14 น.  

 

ปูชา จ ปูชนียนาฏ วรบาทบทบงส์
รังสรรค์พจีลิขิตผจง บ่งคนึงคุณคณา
กราบบาทอัญเชิญสถิตสถานณ พิมานดุสิตา
เสด็จสวรรคมรรคา บุปผชาติบำบวง
สรวงสรรค์สุคันธรวรส สนิทโสตเสนาะทรวง
รายล้อมสุคันธรวปวงณ แดนอมราวดี
สราญสถานอุตรทิพย์ สิปปพรรณมาลี
อมตสุราลัยวรรุจี พิสุทธิอันนิรันดร...


(ถวายความอาลัยแด่องค์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงฯค่ะ ลอกมาจาก //www.ttkschool.com/ )

 

โดย: นักเรียนตัวน้อย IP: 125.24.81.60 18 มกราคม 2551 9:48:38 น.  

 

ช่วยแต่งอินทรวิเชียรฉันท์11 เรื่อง เศรษฐกิจ ให้หน่อยคะ

 

โดย: น้อง ยุ่งยิ่ง IP: 125.26.81.208 3 กุมภาพันธ์ 2551 20:49:34 น.  

 

--- คุณ palm ---

ขอบคุณค่ะ


--- คุณ มีนา ---

Thanks...


--- คุณจากคนตกภาษาไทย ---

นานทีมีคนบอกว่าแนว เขินๆ


--- คุณแพน ---

คุณแพนแต่งมาให้ช่วยตรวจได้ค่ะ


--- คุณนักเรียนตัวน้อย ---

ขอบคุณที่เอาบทกวีมาฝากนะคะ


--- คุณน้อง ยุ่งยิ่ง ---

แต่งมาให้ช่วยตรวจได้ค่ะ

 

โดย: ไร้นาม 13 กุมภาพันธ์ 2551 21:28:16 น.  

 

ไพเราะมาก

 

โดย: นุ่น IP: 118.172.247.0 16 มกราคม 2552 15:31:00 น.  

 

ปล่อยกระบี่ออกไปจากใจหมาย
ปลดเรื่องร้ายคลายทุกข์สุขก็เห็น
ลิ้มรสธรรมดื่มด่ำทรวงปลดห่วงเป็น
รู้ตื่นเช่นเห็นไตรลักษณ์สลักใจ

ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงเรียงให้พบ
เพียงประสบพบทุกข์รุกจิตไหว
ที่แท้ธรรมย้ำแสดงส่งแจ้งใจ
ทราบรู้ไว้ไร้ตัวตนจักพ้นเอง

 

โดย: ไร้นาม 9 เมษายน 2553 21:32:39 น.  

 

แผ่นดินไทยอบอุ่นเพราะมีพ่อ
ธ. ทรงรอให้ไทยรู้รักษา
ความกลมเกลียวเกื้อหนุนแต่เดิมมา
ในธารา ข้าฯ ทุกคนชนอิ่มใจ
ทรงดำรัสตรัสให้รู้ดั่งครูสอน
เป็นดั่งพรที่ประเสริฐเลิศเพียงไหน
ลูกที่ถูกน้ำท่วม... ทรงห่วงไย
พร้อมตรัสให้กำลังใจกันและกัน
นี่แหล่ะหนา เหตุที่เรารักพ่อ
ไม่เคยท้อแม้จะมี คนหยามหยัน
แม้เลือดแดง จะถูกตราให้งงงัน
คนบางกลุ่มประชาทัณฑ์น่าหวั่นใจ
หารู้ไม่ ลูกสีแดง แสนรักพ่อ
และรักพอ ที่จะไม่ ไปหวั่นไหว
ยังรู้รัก สามัคคี น้อมใส่ใจ
และรู้ให้ กำลังใจ คนทำงาน
จึงทราบซึ้ง ถึงพระราชดำรัส
ประทานตรัสทราบอบอุ่นแผ่ไพศาล
ปกเหนือเกล้าด้วยพระองค์ทรงพระบริบาล
น้อมกราบกราน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

โดย: ไร้นาม 8 ธันวาคม 2554 18:11:13 น.  

 

๏ ทุกสิ่งเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
แต่ฟ้าสวรรค์ไซร้ยังอยู่เป็นนิจ
สรรพสิ่งเวียนวนตามพรหมลิขิต
ไม่หลงยึดติดคิดห่วงอาลัย ๚
๏ ปัจจุบันยังมีให้ก้าวเดินต่อ
หลายสิ่งยังรอให้สร้างฝันใหม่
สิ่งที่ผ่านมาเก็บลงในใจ
อนิจจังรู้ไว้ไม่หลงสิ่งลวง ๚

 

โดย: ไร้นาม 29 มีนาคม 2555 22:38:54 น.  

 

๏ สายน้ำเชี่ยวกินกลืนคลื่นชีวิต
แสนเศร้าจิตวีรชนหล่นลับหาย
ที่ผิดถูกแพ้ชนะก็จักคลาย
เหลือสุดท้ายเพียงความจริงสิ่งไม่ลวง ๚
๏ คลื่นมนุษย์มุ่งมั่นฝันคว้าไขว่
แย่งชิงไปให้ติดหลงคงยึดหวง
ถึงลาภยศสรรเสริญสิ่งทั้งปวง
ก็เพียงบ่วงผูกไว้ให้ลืมธรรม ๚
๏ หากหยุดอยู่รู้ธรรมต้านกระแส
แล้วทราบแน่แค่สิ่งลวงไม่ถลำ
จักปล่อยวางสิ่งผ่านเลยเพียงทรงจำ
แล้วรู้ทำสิ่งใหม่ใหม่ด้วยใจคลาย ๚

 

โดย: ไร้นาม 29 มีนาคม 2555 23:27:29 น.  

 

เพราะจิตวิญญาิณไ่ม่ยอมคุกเข่า
หัวใจเจ้าอาจถูกเชือดเฉีอน
แผ่นดินผืนฟ้าอาจสั่นสะเทือน
แต่ยังมีเพื่อนพร้อมอยู่ร่วมตาย

คนเป็นผู้กล้าท้าฟ้าท้าฝน
ยืนหยัดอดทนอย่างมีความหมาย
อยากจะบอกว่าใช่อยู่เดียวดาย
มองเถิดข้างกายมีคนเข้าใจ

ร่ำเถิดสุราข้าขอสังสรร
ให้ผ่านคืนวันไม่ต้องหวั่นไหว
ไม่ต้องคุกเข่าเพื่อสู้ต่อไป
ศรัทธาหัวใจไม่ขายวิญญา ๚

 

โดย: ไร้นาม 27 เมษายน 2555 1:04:11 น.  

 

งานหลวง-งานราษฏรล้วน... เป็นงาน
เพ้อพร่ำทำแสนนาน... ไม่เว้น
หลับตื่นรื่นสราญ... จับจิต
ลับดาบคมซ่อนเร้น... ซุ่มสร้างปัญญา ฯ

+++

เดินตามดาดาว
พร่างพราวภาพฝัน
ต้องรู้เท่าทัน
ไม่หวั่นไหวไป...

 

โดย: ไร้นาม 11 ธันวาคม 2555 18:40:01 น.  

 

(แต่ให้กำลังใจลูกศิษย์) เอามือกุมหัวใจ เต้นสั่นหวั่นไหว ให้รู้เอาไว้ ยังมีเราอยู่ น้ำตาจะพราว ร้อนหนาวก็รู้ ยังมีเราดู อาการหัวใจ จะเปลี่ยวจะเหงา จะเศร้าจะยิ้ม เพียงผัสสะพิมพ์ ประทับภาพให้ ในวันอ่อนล้า แม้คราใดใด อย่าลืมเลือนไป ว่ายังมีตน หากเราไม่ยอม ให้ใจเรามัว ก็ไม่ต้องกลัว ว่าจะหมองหม่น ปลดปล่อยเรื่องทุกข์ ที่เกินจะทน ให้ธรรมน้อมดล ข้ามพ้นเภทภัย แล้วก็กลับมา สดใสอีกครั้ง ปลดปล่อยสิ่งรั้ง ความหลังเปลี่ยนใหม่ แม้ภาพทรงจำ ฉายซ้ำคราใด เพียงปล่อยมันไป แล้วยิ้มอิ่มเอม

 

โดย: ไร้นาม 25 มิถุนายน 2556 23:22:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.