จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
ระบายเรื่องราว...

ด้วยเที่ยวไปทั่วถิ่น
เดินดินบินร่อนฟ้า
จนพบความจริงว่า
คุณค่าอยู่ที่ใจ...




ฉันเป็นคนที่ 'ผจญ' ชีวิตอยู่ในระดับหนึ่ง ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง หิ้วกระเป๋าเดินออกจากบ้านด้วยความมุ่งมั่นเพื่อไปทำโน่นทำนี่อย่างที่หลายๆ คนคิดไม่ถึง ทุกก้าวที่ฉันเลือกเดินออกไปเพื่อแสวงหา ก็ด้วยความเชื่อว่ามันจะให้อะไรๆ ได้ในชีวิตไม่มากก็น้อย ตั้งแต่เด็กๆ สิ่งที่ชอบทำก็คือ 'งานอาสา' มีกิจกรรม มีอะไรก็มักตั้งใจทำ จนกระทั่งได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนไปทำ ไปแข่งโน่นแข่งนี่ โดยสิ่งที่ท้าทายคือ การที่พยายามทำอะไรๆ มากขึ้นๆ ในขณะที่คอยดูแลว่าสิ่งที่รักษาอยู่ในมือไม่เสียไป

ตอนเด็กๆ นักเรียนเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายดายนัก... ฉันจำได้ว่าพยายามฟังอาจารย์ให้รู้เรื่องในชั้นเรียนจะได้สอบได้คะแนนดีๆ โดยไม่ต้องอ่านหนังสือ จะได้ไม่ต้องไปเรียนพิเศษ แล้วจะได้เอาเวลาว่าง ไปเรียนเปียโน ไปรำไทย ไปเป็นวงดุริยางค์ ไปตีขิม ไปดีดกีต้าร์ ไปปั้นลูกชุบ (เคยเอาจริงเอาจังขนาดพาโรงเรียนไปได้ที่หนึ่งของงานที่สภาสตรีจัด) ไปเป็นกองเชียร์ ไปเป็นสต๊าฟเชียร์ และ ไปเล่นกับเพื่อนๆ ในขณะที่ยังคงรักษาสถิติเป็นที่หนึ่ง จำได้ว่าเด็กๆ ภูมิใจนักหนาที่ชื่อไม่เคยตกจากบอร์ดว่าได้คะแนนทางคณิตศาสตร์อันดับหนึ่งทุกปีจนเป็นที่รู้จัก

แต่เพื่อนสนิทจะรู้ว่าฉันไม่ใช่เด็กเรียน ที่ใส่แว่นตาและอยู่ห้องสมุดบ่อยก็เพราะติดการ์ตูน & นิยายจีน (เป็นคนไม่อ่านหนังสือเรียน) ตอนไปแข่งฟิสิกส์โอลิมปิกเข้าได้ผ่านรอบกทมไปถึงระดับภาคกลาง คุณพ่อ คุณแม่ก็แปลกใจเพราะกลับบ้านก็เอาแต่เล่นเกมส์ ติดละคร ผลที่เห็นคือตอนเอนฯ ม.4 ไม่ติดอะไร และ ตอนเอนฯ ม.5 ที่ติดตรงกลาง (ช่วงนั้นเลือกเอนฯ แบบหลากหลายเพราะอยากสอบดูข้อสอบเยอะๆ คือ 1. แพทย์จุฬา 2. วิศวะจุฬา 3. วิศวะเกษตร 4. บริหารจุฬา 5. ถาปัตย์จุฬา)

ตอนเข้าวิศวะเกษตรก็กลับเป็นเด็กๆ อีกครั้งไม่มีความคิดที่จะเรียนดีอะไร วันๆ ก็เอาแต่ไปทำกิจกรรม รับน้อง เชียร์ ทำประกวด เดินพาเรด เข้าชมรม Robot เข้าชมรมบนเส้นทางวิศวกรรม เล่นๆ ในมหาลัยฯ กลับบ้านสองสามทุ่ม เสาร์อาทิตย์ก็มาเล่นกับเพื่อนๆ ที่คณะ ฯลฯ ไม่คิดตั้งใจเรียนเพราะคิดว่าตัวเองเป็นที่ท้ายๆ ของรุ่น ปรากฏว่า... ผลสอบเทอมแรกออกมา... กลับได้ที่หนึ่งของคณะ... วันเดินไปดูผลพี่ๆ คุมเชียร์ที่ซี้ๆ กัน (พี่ๆ มักจำน้องผู้หญิงได้ โดยเฉพาะ พวกกลุ่มสาวบ้าๆ ที่มาประชุมเชียร์ครบ และบ้าวิ่งตามธงได้ตั้งแต่ทุ่มนึงถึงเก้าโมงเช้าในวันรับน้องมหาโหดที่ขึ้นชื่อ) ก็ถามว่าเรียนไหวไหม แล้วเพื่อนก็บอกว่า เฮ้อน้องเค้าได้ที่หนึ่ง พี่เค้าก็งงกันเป็นแถว (ประมาณว่ามันไม่มีแววเก่งเลยนี่หว่า)

จริงๆ สิ่งที่พบคือ เป็นคนรักในสิ่งที่ทำเลยทำได้ดี ไร้นามมีความสุขกับการเรียนวิศวะมาก โดยเฉพาะการทำคอมพ์ และสิ่งแวดล้อมที่ดีที่ทำให้เราสนุกกับมัน กลับทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นเพราะเหมือนกับว่าตัวเองรู้ว่าแต่ละวันที่ทำโน่นทำนี่ เรากำลังทำอะไร สุดท้ายตอนเรียนจบ (พร้อมๆ กับที่ทำกิจกรรม และ อื่นๆ เสมอมา) ก็ได้พบความแปลกใจว่าตัวเองถูกเรียกให้ไปยืนพูดให้เพื่อนๆ ฟังหน้าหอประชุมในวันรับพระราชทานปริญญาบัตรเพราะเรียนจบด้วยคะแนนสูงสุดของมหาวิทยาลัยในปีนั้น

ทุกอย่างฟังดูเหมือนง่ายๆ แต่เพื่อนๆ เค้าจะรู้ไหมว่า... ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น... ไร้นามเรียนและเล่นกับเพื่อนเสร็จกลับบ้านก็มาทำงาน บางวันอดหลับอดนอนถึงตีสาม ตีสี่ ช่วงที่ทางบ้านไม่มั่นคง ไร้นามก็รับงานเขียนโปรแกรมไปเรียนไป ขณะเรียนสุขภาพย่ำแย่ ไปผ่าตัดหนึ่งครั้ง และทรุดจนต้องไปนอนห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลอีกหนึ่งครั้ง และก็สู้กับโรคร้ายอยู่เกือบสองปี แต่ไร้นามก็ไม่อยากทิ้งอะไรไปเลย อยากได้ทำทุกๆ อย่างที่ในเวลาที่พอมีชีวิตอยู่เท่าที่สองแรงจะทำได้ คติที่เชื่อและตั้งมั่นเสมอมาก็คือ

"Learn as you will live forever
Live as you will die tomorrow"

-- Gandhi

จบมาทำงานภาพพจน์เหมือนสวยงามได้เดินทางไปทำงานที่อเมริกา แต่ขณะเดียวกันที่บ้านกลับกำลังล้มละลาย ต่อมาบริษัทที่ทำงานก็จะปิดตัวลงมรสุมมากมาย เพื่อนๆ โดนให้ออก ฉันรับงานนอกไป ทำงานหลักแทนทุกคนที่ออกไป และพยายามดิ้นรนเรียนต่อไป เพราะรู้ว่าถ้าอยู่ตรงนั้นก็คงไม่ได้ไปไหน สิ่งที่ภูมิใจก็คือได้ทำทุกอย่างลงไปอย่างดี จำได้ว่าพี่ๆ ที่บริษัทจะเรียกว่า 7-11 คือเป็นคนที่ทำอะไรได้รวดเร็วดั่งใจบ้าง เจ้าน้องหัวแหลมบ้าง ฯลฯ เป็นเด็กๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะเรียกร้องเอาโน่นได้นี่จากใครๆ

แล้วก็ได้ทุนไปเรียนที่เคมบริดจ์เป็นทุนไม่เต็ม บอกกรรมการว่าพอช่วยตัวเองได้เพราะอยากไป (แต่จริงๆ แล้วไม่มีเงินขนาดนั้น แต่คิดว่าจำนวนนั้นน่าจะพอหาได้) ก็ไป... แพ็คกระเป๋าลาคุณพ่อ คุณแม่ บินไปอังกฤษ ไปถึงก็ตั้งใจเรียน และ ทำงาน *ทุกอย่าง* เสริฟอาหาร ตักอาหาร รับจ้างทำความสะอาด เลี้ยงเด็ก ขนาดไปเป็นหนูทดลองให้เพื่อนๆ ที่ทำวิจัยเรื่องจิตวิทยา และ ก็เลยไปเป็นหนูทดลองให้เพื่อนๆ ที่ทำวิจัยเรื่องการแพทย์เพื่อรับเงินเล็กๆ น้อยๆ ก็เคย เพราะตอนนั้นฐานะทางบ้านแย่มากๆ

แต่ฉันก็ไปทำกิจกรรม ออกไปช่วยงานใครๆ เค้าเป็นปกติ ในขณะที่พยายามเรียนให้ดี เพราะอยากเรียนต่อปริญญาเอกให้ได้ ชีวิตช่วงนั้น สุดๆ เลย ตื่นเช้าไปเรียน ทำ lab ไปทำกิจกรรม กลับบ้านออกไปทำงานสี่ห้าทุ่มงานเสร็จ เข้าห้องคอมพ์ ไปอ่านหนังสือทำ lab กลับห้องมาตีสองตีสาม นั่งนับเงินว่ามีเหลือเท่าไหร่? จะมีกินข้าวพรุ่งนี้ไหม?

พอว่างก็หาหนังสือ (จากห้องสมุด) มาอ่านเพื่อฝึกภาษาและพยายามค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม และในที่สุดก็เรียนจบเป็นที่หนึ่งของรุ่น ไม่ได้สมัครเรียนที่เคมบริดจ์ (เพราะไม่มีเงิน) แต่อาจารย์ก็มาเสนอทุนเต็มๆ แถมเงินเดือนอีกให้อยู่ต่อ (ในขณะที่มหาลัยอื่น หรือที่ทำงานอื่นรู้จักเราก็พยายามดึงตัวด้วยเงินมหาศาล) แต่เงินที่เหลือเฟื่อกลับไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ... ฉันเลือกสถานที่... จึงตัดสินใจอยู่ทำปริญญาเอกที่เคมบริดจ์ต่อไป

เริ่มปริญญาเอกฉันก็ได้ท่องเที่ยวไปเกือบทั่วโลก นำงานวิจัยไปเผยแพร่มั่ง ไปทำกิจกรรมมั่ง เคยติดโบว์แดงเป็น invited speaker ในงานประชุมที่ประเทศเยอรมัน เคยเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไปพูดบนโพเดียมปิดงานใหญ่ท่ามกลางนักวิจัยแนวหน้า 400 คนที่ประเทศญี่ปุ่น เคยไปโปแลนด์ในฐานะตัวแทนนักเรียนอังกฤษ (ทุนไร้นามเป็นทุนเด็กอังกฤษ) แล้วก็กล้าได้ที่ไปเป่าขลุ่ยใส่ชุดไทยกลางเวทีในงานประชุมนักเรียนยุโรปจนถูกเพื่อนๆ เชิญไปอีกปีโทษฐานทำแปลกเป็นที่ถูกใจ

ฉันไม่ค่อยกลัวอะไร บางทีก็จับรถไฟนั่งข้ามประเทศเป็น back pack ไปเดินเล่นในที่ๆ แผนที่น่าจะไปได้ หลงๆ ก็หาวิธีกลับ เรียก taxi หรือนอน(แบบมีสติ)ที่สถานี เจอคนข่มขู่เอาเงินก็ให้ๆ เค้าไป เจอคนล้วงกระเป๋า ก็ซ่อนไว้เยอะ ไม่เป็นไร พอคนพยายามพาไปมุมอับ (เจอที่อิสตั้นบูล ตุรกี) ก็ใช้ไหวพริบหนีมา เจอคนเอาเปรียบก็สู้ไม่ยอมแพ้ เจอย่านน่ากลัวก็วิ่ง แต่ไม่เคยมีอะไร... ที่จะทำให้หยุดเดินทาง

เรียนจบคนที่อังกฤษก็พยายามชวนให้อยู่ต่อ ก็เลยทำงานที่นั่นเพราะรู้สึกว่ารับเงินทุนจากประเทศเค้ามาเยอะมาก ก็น่าจะทำอะไรให้เค้าบ้าง แต่สุดท้ายก็คิดว่าพอแล้วและ *กลับบ้าน*... แม้เมืองไทยไม่ได้มีโอกาสให้เรามากนัก แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ต่างประเทศให้เราไม่ได้คือความรู้สึก *ภูมิใจ*

ผ่านวันที่ร้อนหนาว
ถึงคราวเริ่มต้นใหม่
ระบายเรื่องราวไป
ปันให้คืนแดนดิน...


ฉันมีความฝันหลายอย่าง แต่ทุกๆ อย่างก็มีเส้นทางของมัน ตอนนี้ก็พยายามทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ทำงานรับผิดชอบ เป็นนักเรียนลองเรียนกฏหมาย รับงานบรรยายในสถาบันการศึกษา ช่วยงานที่บ้านที่กำลังตั้งตัวกันขึ้นมาใหม่หลังจากล้มกันมาหลายปี

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ท้อใจคือเรื่อง *คน*... ฉันได้เรียนรู้ว่าคนที่พยายามทำงานหนักมาตลอด สุดท้ายก็พ่ายแพ้อย่างอยุติธรรมเพราะกระแสข่าวลือของฝ่ายตรงข้ามที่เล่นนอกกติกา... ฉันได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ช่วยได้ยากที่สุดก็คือใจคนอื่น เพราะสิ่งที่ทำได้คือลุ้นอยู่ข้างๆ ว่าเค้าจะตัดสินใจออกมาเป็นอย่างไร ดีกับตัวเองไหม หรือจะทำร้ายตัวเองไป? ฉันมีลูกน้องให้ดูแลหลายคน รบรากันมาจนเฮฮาซี้ปึ้กก็มาก มีต้องเข้าห้องประชุมปิดคุยกันตัวต่อตัว เคลียร์เรื่องคนนั้นให้เข้าใจกับคนนี้บ้าง โทรไปง้อคนที่โกรธอีกคนให้ดีกัน ดุๆ คนที่เกๆ เรื่องระเบียบวินัย และก็พยายามทำความเข้าใจปัญหาเค้า หรือว่าเป็นที่ปรึกษาช่วยหาทางออกให้หากท้อแท้ แต่ตัวฉันเองก็ทำอะไรมากไปกว่าขอบเขตบางอย่างไปไม่ได้

บางทีสิ่งที่คนนึงต้องการ หลายๆ คนก็ต้องการ สิ่งสำคัญคือการที่ต้องประสานน้ำใจทุกคน หรือคนส่วนใหญ่ แต่ปัญหาที่สำคัญคือต้องหาทางออกให้กับคนอีกส่วนในโอกาสอื่น และฉันก็พยายามที่จะหาโอกาสเหล่านั้น งานบางอย่างเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่ต้องใช้เวลาค่อยๆ ต่อ ในขณะที่ต่อจะไม่มีใครดูออกเลยว่าเรากำลังทำอะไร แต่กว่าจะเสร็จก็อาจจะเนิ่นนานไปจนบางคนรอไม่ไหว

ประสบการณ์ชีวิตสอนให้ฉันรู้ว่า มีเรื่องราวหลายอย่างที่ถ้าเราไม่อดทนรอ หรือไม่อดทนสู้มัน เพราะหวังเพียงผลเฉพาะหน้าทันตานั้นมันเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย หลายๆ อย่าง คุณค่าในตัวของมันมักซ่อนอยู่ในรูปแบบง่ายๆ และซึมซับจนคนหลงลืม แต่จะกลับมาให้นึกได้และเห็นมันเมื่อทิ้งมันไป แต่สิ่งเหล่านี้ถ่ายทอดจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งเพียงด้วยคำพูดอย่างเดียวก็คงไม่ได้ คงทำได้แต่ทำดีที่สุด และทุกอย่างก็อยู่ที่ใจของแต่ละคนที่จะไขว่คว้าไปตามสิ่งที่ตนเองค้นหา

มองตามกระแสไป
สิ่งใหม่มิหมดสิ้น
หมุนเปลี่ยนเวียนยลยิน
จนชินกับเรื่องราว

หนทางของชีวิต
มีสิทธิ์จะเลือกก้าว
หากฝันจะเอื้อมดาว
กลางหาวต้องมั่นคง

ปูทางทีละขั้น
หากมั่นจะเดินส่ง
ตั้งมั่นเจตจำนงค์
ที่หลงจักพ้นไป



Create Date : 19 เมษายน 2549
Last Update : 19 เมษายน 2549 22:32:31 น. 29 comments
Counter : 622 Pageviews.

 
แวะมาทักทายค่ะ คืนนี้นอนหลับฝันดีน่ะค่ะ


โดย: หนุอุ๋ม (tenno_jung ) วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:21:21:13 น.  

 
--- คุณ tenno_jung ---

หลับฝันดีเหมือนกันค่ะ


โดย: ไร้นาม วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:22:55:38 น.  

 
ชีวิตคนเรา ...ได้รสชาติอย่างนี้นี่เอง เราว่าหนูอุ๊ใช้ชีวิตคุ้มนะ คุ้มมาก ๆ

รักหนูอุ๊จัง


โดย: ชาบุ วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:22:34:47 น.  

 
--- ชาบุ ---

Thank you จ้า


โดย: ไร้นาม วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:0:02:56 น.  

 
อ่านแล้วคุณอุ๊บู้จริง ๆ

ความแกร่งซ่อนไว้ภายใน


โดย: ||| IP: 67.15.151.80 วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:2:45:06 น.  

 
เอาไก่ไปกิน 1 ตัว บำรุงสุขภาพ





โดย: ||| IP: 124.121.33.44 วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:3:00:40 น.  

 
อานแล้วเหมือนเห็นเศษเสี้ยวเงาของตัวเองในกระจกนิดๆ ค่ะ .. ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่วิ่งไปวิ่งมาในห้องเรียน ไม่เคยอ่านหนังสือ แต่ทำกิจกรรมเยอะมาก เป็นเด็กที่ไม่เรียนพิเศษ ไม่เรียนซัมเมอร์ โดดวิชาชีวะ ไปเล่น scrabble และเอ็นตอนมอห้าได้ที่อันดับที่สี่ ที่อุตส่าตั้งใจไว้สุดชีวิตว่าจะไม่เรียน เพราะเลือก 1. แพทย์ 2. วิดวะ 3.นิติ 4.วิดยา จำได้ว่าพ่อลากตัวไปสัมภาษณ์มหาลัย เราก็บอกอาจารย์ไปดื้อๆ ว่าหนูไม่อยากเรียน แต่ด้วยความที่คะแนนฟิสิกส์ดี และคะแนนภาษาอังกฤษได้อันดับสอง อาจารย์ให้ผ่านซะงั้ น.. แต่สุดท้ายก็ดื้อคุณพ่อไม่ยอมไปเรียนมหาลัย .. เำพราะอยากจบมอหก.. แต่ดีใจค่ะ ที่ไม่ไปเรียน .. เพราะวุฒิภาวะคงจะไม่พอแน่ๆ เพราะขนาดจบมอหก ..ฉันก็ยังอายุน้อยกว่าเพื่อนๆ ในห้องถึงสองสามปีเพราะเข้าเรียนประถมก่อนเกณฑ์ .. แต่ถามว่าจบมอหกได้เีรียนคณะอะไร ก็ได้โควต้าไอ้คณะที่มอห้าไม่ยอมไปเรียนนั่นแหละค่ะ .. แถมเกือบเป็นพี่รหัสตัวเองซะงั้น ..

"Learn as you will live forever
Live as you will die tomorrow" ชื่อนี้เคยเอาเป็นชื่อ msn อยู่พักใหญ่เลยล่ะ ..

"เป็นเด็กๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะเรียกร้องเอาโน่นได้นี่จากใครๆ" อันนี้เป็น something i am currently suffering with it อ่ะค่ะ .. คือไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยเรื่องมาก .. ทำงานเกินเงินที่ได้ (ทั้งๆที่ไม่ควร ตามกฏของ consultant) แต่ปรากฏว่าไอ้ความไม่เรื่องมากของเรา กลายเป็นจุดหาผลประโยชน์ของคนที่อยากได้มากกว่า และ มากขึ้นๆๆ

"แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ท้อใจคือเรื่อง *คน*... ฉันได้เรียนรู้ว่าคนที่พยายามทำงานหนักมาตลอด สุดท้ายก็พ่ายแพ้อย่างอยุติธรรมเพราะกระแสข่าวลือของฝ่ายตรงข้ามที่เล่นนอกกติกา.."
อันนี้คือสิ่งที่ตัดทอนกำลังใจมากจริงๆ ค่ะ .. แล้วตอนนี้ก็กำลังต่อสู้กับ attitude ตัวเองอยู่ พยายามบอกตัวเอง ว่าอย่าไปสนใจมัน .. เค้าจะโกยก็โกยไป เราพยายามของเราให้เต็มที่ .. ทำดีที่สุด ซักวันคงมีคนเห็นเอง ..

อ่านบทความของคุณไร้นามวันนี้ แล้วก็นึกย้อนมาถึงตัวเองตอนนี้จริงๆ ว่าสมัยก่อนๆ ที่ไม่ค่อยหลับไม่ค่อยนอน นอนตีสี่ตีห้า จนคุณพ่อต้องไปปรึกษาหมอว่าลูกไม่ยอมนอน .. ลูกอ่านหนังสือมากไป จนบางทีคุณพ่อกังวลไปถึงว่าเรากินยาบ้าหรือเปล่าโน่นแหน่ะ .. มันก็ช่วยให้เรามีวันนี้จริงๆ นะคะ

ยังไง เราก็ต้องสู้กันต่อ ..เนาะ :)

(ปล. เขียนซะยาวเลย )


โดย: chirala (chirala ) วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:3:47:19 น.  

 

อ่านประวัติแล้วรู้สึกทึ่งอ่ะคับ เผอิญผ่านเข้ามาจากเวบ
พันทิบคับ

อ้อ.. สงสัยนิดนึง เวลาเรียนที่รามนี่เร็วสุดๆ กี่ปีถึงจะจบได้อ่ะคับ


โดย: tarntana IP: 220.245.179.133 วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:20:11:46 น.  

 
--- คุณ ||| ---

ขอบคุณสำหรับอาหารบำรุงสุขภาพค่ะ
(แต่ดูๆ ไปก็น่าสงสารมากกว่าน่ากินนะคะเนี่ย)




--- คุณ chirala ---

อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่าเราคล้ายกันดีจังเลยค่ะ ยินดีที่ได้พบเพื่อนบน pantip ที่คอเดียวกัน มี background คล้ายกัน ชอบ quote ข้อความเดียวกัน

เรื่องไม่เรียกร้องอะไร ทำให้หลายๆ ครั้งโดนมองข้ามไปบ้าง... หลายๆ ครั้งก็ท้อบ้างไหมคะ ส่วนเรื่อง *คน* คงเป็นสิ่งที่เราไปเปลี่ยนอะไรใครไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือการพยายามทำดีที่สุด...




--- คุณ tarntana ---

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ เรียนรามเร็วสุด (ไม่นับโอน)
ประมาณสามปีก็จบได้ค่ะ (ลงทะเบียนเต็มรวม summer)
แต่ยากน่าดูเลยค่ะ...


โดย: ไร้นาม วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:23:02:27 น.  

 
เป็นสมาชิกใหม่ อ่านกระทู้ของคุณแล้วสนใจมาก พึ่งรู้ว่าจะรู้จักตัวจริงได้มากขึ้นก็ตรงนี้ ตัวเองก็เป็นแม่บ้านธรรมดาโชคดีได้คอมพิเตอร์เอื้ออาทรมาหนึ่งเครื่อง ถึงได้รู้ว่าโลกภายนอกเค้าไปกันถึงไหนแล้ว ได้เข้ามาอ่านพันทิปเพราะเบื่ออ่านหนังสือพิมพ์ เริ่มอ่านครั้งแรกก็ของคุณขนมต้มเลย ก็อยากprintเอาไปแจก พอดีเครื่องprintเสียก็อยากทำอะไรเพื่อตอบแทนนายกบ้าง เพราะตั้งแต่เกิดมาสี่สิบกว่าปี ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนทำอะไรที่จับต้องได้เลย ช่วงแรก ๆ ทำเอาเครียดจนลงกระเพาะตอนนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าสนธิ สุริยะใส ค่อยยังชั่วหน่อย เห็นหน้าพวกนี้ทีไรอาการกำเริบทุกที เอาหล่ะ รบกวนคุณไร้นามแค่นี้แหล่ะ อ้อ ว่าแต่คุณอยู่อังกฤษเมืองไหนคะ เพราะน้องสาวมีร้านอาหารไทยอยู่ ตัวเองก็เคยไป ตอนนี้อยากหนีไปอยู่ที่นั่นมาก เบื่อการเมืองที่สุด จบคะ ขอบคุณมากที่อ่านจนจบนะค่ะ


โดย: มาด้วยใจ IP: 61.47.98.125 วันที่: 23 เมษายน 2549 เวลา:8:01:08 น.  

 
--- คุณมาด้วยใจ ---

ดีใจที่ได้รู้จักค่ะ สมัยก่อนอยู่อังกฤษเมืองเคมบริดจ์ค่ะ อยู่ที่นั่นมาห้าปีคิดว่ารู้จักร้านอาหารไทยทุกร้านในเมืองนะคะ (เป็นเด็กตระเวณกิน อิอิ)


โดย: ไร้นาม วันที่: 23 เมษายน 2549 เวลา:20:59:07 น.  

 
เก่งจริงๆ ครับ นับถือๆ


โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:17:37:16 น.  

 
ประวัติพี่อุ๊นี่ช่างน่าทึ่งจริง ๆ มีอะไรหลาย ๆอย่างที่ได้รู้จากที่นี่ นับถือค่ะ จะพยายามทำตัวดี ๆ + ตั้งใจทำงาน นะคะ

สู้ ๆ ค่ะ



โดย: ส้ม (orangepuff ) วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:18:06:11 น.  

 
--- คุณ yuttipung ---

ขอบคุณค่ะ


--- น้อง orangpuff ---

มี blog ด้วย อิอิ อย่างนี้ต้องแอบไปเยี่ยมหน่อย
พี่อุ๊แม้จะดูดุๆเคี่ยวๆ เวลาอยู่ที่ทำงานนะ แต่ตัวจริงใจดีจ้า


โดย: ไร้นาม วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:22:32:58 น.  

 
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ... เพราะส้มค่อนข้างจะสับสนกับ Tense และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมาก โดยเฉพาะ present perfect ที่เค้าบอกว่าเป็นเรื่องของอดีต ที่ยังมีความสำคัญกับปัจจุบัน ตอนนี้อยากจะบอกว่ามีหนังสือ grammar อยู่ประมาณ 5-6 เล่มแล้ว (ทั้ง cambridge/ oxford) ยังเอาไม่อยู่
ถ้าเปิดสอนจริง ๆ ก็จะดีนะคะ


โดย: ส้ม (orangepuff ) วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:22:50:57 น.  

 
--- ส้ม ---

เล่ม oxford สีเหลืองๆ หน้าปกชื่อ How English Works ดีนะ แนะนำๆ


โดย: ไร้นาม วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:0:10:47 น.  

 
ได้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว รู้สึกว่า
คุณอุ๊เป็นคนที่เก่งและเข้มแข้งมากเลยค่ะ
ประทับใจจริงๆค่ะ
จะบอกว่าบีก้อเป็นลูกพ่อขุนด้วยเหมือนกันค่ะ
คืนนี้ฝันดีนะคะคุณอุ๊


โดย: Memorybee (Memorybee ) วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:1:19:51 น.  

 
--- คุณ Memorybee ---

ขอบคุณที่มาอ่านจนจบนะคะ (ดีใจที่เป็นลูกพ่อขุนเหมือนกัน)



โดย: ไร้นาม วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:8:27:16 น.  

 
มีแล้วค่ะพี่อุ๊
แต่พอไปเจอของ Cambridge (Advanced อะไรซักอย่างเนี่ยแหล่ะคะ) ก็ต้อง งงเป็นไก่เลยค่ะ


โดย: ส้ม IP: 203.107.217.61 วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:9:08:17 น.  

 
ของ Cambridge จะอ่านงงๆ ค่ะ (นินทามหาลัยตัวเอง) พี่อุ๊ว่าของหนังสือคู่มือภาษาของ Oxford อ่านง่ายกว่า (มองซ้ายมองขวา เพื่อนๆ เคมบริดจ์อย่าว่าอุ๊นะ)

กระซิบ: ตอนนี้กำลังแอบขอหัวหน้าใหญ่ เรื่องจัด class อยู่ ถ้าจัดในเวลาไม่ได้คงต้องจัดนอกเวลาะนะคะ แต่พี่อุ๊ก็ไม่ได้เก่งอะไรนะคะ :)


โดย: ไร้นาม วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:23:41:30 น.  

 
อ่านแล้วน้ำตาแทบไหลเลยอ่ะครับผมค่อนข้างแพ้เรื่องพวกนี้
ผมติดตามผลงานคุณไร้นามจากExteenมานานแล้วก็ประทับใจติดตามมาตลอดแต่เพิ่งได้อ่านประวัติของพี่เนี่ยแหละครับ
ผมชอบวิถีชีวิตของพี่มากเลยครับมันเหมือนชีวิตในแบบที่ผมอยากจะทำและอยากจะเป็น
มันทำให้ผมตัดสินใจอยากจะลองใช้ชีวิตอย่างที่อยากจะทำดูซักตั้ง
ขอบคุณครับ

ปล.ก่อนอื่นต้องทำสันหลังตัวเองให้สั้นลงหน่อยจะดีมาก


โดย: Help01 IP: 58.9.13.44 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:3:00:33 น.  

 
--- คุณ Help01 ---

ยินดีต้อนรับค่ะ ขอบคุณที่ตามอ่านงานที่รวมไว้ที่ exteen
อย่างสม่ำเสมอนะคะ พอดีนานๆ จะเอาอันที่ชอบๆ ไปรวม
ส่วนใหญ่เล่าเรื่องไปเรื่อยไร้สาระจะอยู่ที่นี่น่ะค่ะ

สู้ๆ นะคะ ไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไรในชีวิต
จะต้องมีก้าวแรกเสมอค่ะ

A thousand miles of journey starts with one step
- Lao Tzu




โดย: ไร้นาม วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:23:17:59 น.  

 
อ่านแล้วนับถือน้ำใจที่เป็นคนใจสู้ แพ้น้ำใจจริง ข้าน้อยขอคาระวะแม่นางด้วยยาดองหนึ่งจอก แล้วแถมยังทึ่งที่ทำอะไรหลายอย่างก็ดูเหมือนจะสำมะเหร็ดไปซะหมด หน้าตาก็น่ารัก ชาติก่อนทำบุญด้วยปลาร้ารึเปล่าน๊า ฮิฮิฮิ...แวะมาทักทายก่อน เก็บไว้ในกลุ่มเว๊ปสุดโปรดแย้ววว วันหลังจะแวะมาทักทายอีกนะฮ๊า ^___________^


โดย: ^__________^ IP: 24.9.141.224 วันที่: 1 พฤษภาคม 2549 เวลา:3:59:09 น.  

 
--- คุณ ^__________^ ---

อ่านแล้วต้องอมยิ้มขำๆ ยินดีต้อนรับค่ะ


โดย: ไร้นาม วันที่: 2 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:59:04 น.  

 
นานๆทีจะแอบมาอ่านค่ะ(ไม่รู้จะกลัวใครเห็นเลยต้องแอบ) blogนี้สนุกจัง


โดย: Dear IP: 124.121.136.251 วันที่: 3 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:01:38 น.  

 
นับถือ


โดย: Plin, :-p วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:29:33 น.  

 
--- คุณ Dear ---

เพิ่งมาเห็นค่ะ ดีใจที่แวะมาอ่านแล้วสนุก


--- คุณ Plin, :-p ---

Thank you ka


โดย: ไร้นาม วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:17:50 น.  

 
ประวัติคุณน่าสนใจมาก จะว่าดีก็ดีแต่บางคนอาจจะว่าดีมากเลยนะ ประวัติน่าทึ่งมากๆขอชม แต่ผมก็ชอบครับคุณเป็นคนเก่งมากๆขอยอมรับ น่าจะเป็นนักเขียนนะครับ ผมยอมรับมากกับคนเรียนดี ขยัน แต่ผมไม่รู้ว่าคุณจะคิดอย่างกับชีวิตนะ ผมขอให้คุณใช้ความรู้ของคุณไปในทางที่ดีที่ถูกต้องนะครับคงจะดีกับประเทศเราไม่ใช่น้อย ไม่มีไรมากครับแค่มาทักทายเฉยๆ


โดย: ไม่มีชื่อ IP: 124.120.164.95 วันที่: 15 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:21:13 น.  

 
--- สวัสดีค่ะคุณไม่มีชื่อ ---

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมนะคะ


โดย: ไร้นาม วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:23:44:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.