จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
 
เมษายน 2556
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
19 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
Pay it forward

ช่วงที่ผ่านมาได้กลับไปคุยกับเพื่อนๆ เคมบริดจ์กลุ่มสนิท (ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่พยายามตามตัวว่าฉันหายไปไหน - ให้ติดต่อเพื่อนๆ มั่ง หรือพยายามโทรมาจากอังกฤษ แหะ แหะ) แต่การได้คุยกับเพื่อน... ทำให้ภาพอะไรๆ หลายๆ อย่าง ย้อนกลับมาให้ฉันได้คิดถึงและประทับใจ

ฉันเป็นคนโชคดีที่มักจะมีเพื่อนๆ ที่ดีเสมอ เพื่อนสนิทมากๆ คนนึงของฉัน (เพื่อนเคมบริดจ์ที่ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ม. ธรรมศาสตร์อย่างตั้งอกตั้งใจ) เคยพูดกับฉันตอนที่พวกเราเรียนหนังสือด้วยกันที่เคมบริดจ์ว่า หลักการดำเนินชีวิตของเค้าคือ "Pay it forward" คือเริ่มทำดีให้คนอื่นก่อน แล้วคนนั้นก็จะทำต่อๆ กันไปจนกลายเป็นลูกโซ่ (แม้มันอาจจะไม่ได้กลับมาหาเรา) เค้าบอกว่ามันเป็นหลักการที่ได้มาจากหนังเรื่องหนึ่งที่เค้าชอบ และฉันก็ประทับใจกับหลักการนี้

กลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มนิสัยดี สมัยเรียนปริญญาเอกฉันมีเพื่อนซี้ทั้งหมดเป็นแก๊งส์ 4 คน (จริงๆ ก็มีเพื่อนหลายกลุ่ม แต่กลุ่มนี้สนิทสุด) พวกเราจะนัดกินข้าวและคุยโน่นคุยนี่กันแทบทุกอาทิตย์ โดยไปรวมตัวกันที่บ้านของเพื่อนที่มีหลักการ Pay it forward นี่แหล่ะ โดยหิ้วท้องอันหิวโหยโผล่หน้าไปหา แล้วก็พบอาหารร้อนๆ อร่อยๆ ไม่ซ้ำรูปแบบ รออยู่ เพื่อนคนนี้ทำอาหารเก่งมากๆ (แม้จะเป็นเพื่อนผู้ชาย - เออ จะว่าไปแก๊งส์ฉันก็ผู้ชายทั้งแก๊งส์น่ะนะยกเว้นฉัน) พอกินเสร็จพวกเราก็จ่ายค่ากับข้าวกัน ไปล้างจาน ทำความสะอาดห้อง แล้วก็นั่งดูหนัง หรือไม่ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ (บางทีมีเรื่องโน่นนี่ให้คุยเยอะ ก็คุยเพลินข้ามวันข้ามคืนถึงเช้าเป็นประจำ) ขนาดตอนปีท้ายๆ ที่เคมบริดจ์ ฉันมีแฟนเป็นคนนอกกลุ่ม พวกเราก็ยังรักษาประเพณีกินข้าวด้วยกันอย่างเหนียวแน่น คือฉันจะบอกแฟนว่าทุกอาทิตย์หนึ่งวันจะขอตัวนะ เพราะนัดกินข้าวกันกับแก๊งส์ แฟนฉันก็เข้าใจ

ความผูกพันของพวกเราคือการที่พวกเราทำอะไรให้กันตั้งแต่เรียนปริญญาเอกปีแรก คนนี้ช่วยคนนั้นเรื่องโน้น อีกคนช่วยคนนั้นเรื่องนี้ เพื่อนคนนึงทำอาหารเก่งก็ทำให้เพื่อนๆ กิน เพื่อนอีกคนนึงอยู่เมืองนอกมาตลอดตั้งแต่เด็กภาษาอังกฤษคล่องปรื๊ด ก็จะทำหน้าที่สอนภาษาอังกฤษให้พวกเรา ฉันจำได้ว่าตอนปีแรกต้องมี Present 1st year ตื่นเต้นมากๆ เพราะต้องไปพูดบนโพเดี้ยมและมีคนฟังหลายคน (ประมาณเป็น event เปิดใน Hall ใหญ่และคนจะมาฟังกันได้ทั้งคณะ โดยเฉพาะเด็ก PhD ปีหนึ่งด้วยกันที่เรียนสาขาต่างๆ) ฉันก็ซ้อม Presentation กับเพื่อนคนนี้แหล่ะ โดนดุ โดนให้แก้ การออกเสียง หลายคำตลอด ที่ฉันประทับใจ (แต่อาจจะไม่ได้พูดออกไปเพราะเป็นเพื่อน เรามักจะไม่ชมกันต่อหน้า) คือเพื่อนคนนี้แหล่ะ ด่าฉันไป แต่ก็อดทนฟัง ฉัน Present ติดๆ ขัดๆ หลายรอบมากๆ พอฉันพูดไม่ดี ก็บอกให้เริ่มใหม่ แล้วก็ตั้งใจฟังอีกรอบอย่างอดทน (ทั้งๆ ที่เค้าไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการ Present งาน PhD ของฉันเลย ที่ช่วยกันเพราะ พวกเราเป็นเพื่อนกัน)

เพื่อนอีกคนเป็นคนโตเมืองไทยนี่แหล่ะ แต่ภาษาอังกฤษดีมาก ก็อาสาช่วยตรวจวิทยานิพนธ์รอบแรกๆ ให้ฉัน (ก่อนที่ฉันจะส่งไปให้เพื่อนคนอเมริกัน และ คนอังกฤษอีกสองคนที่คณะช่วยตรวจ < สองคนนั้นตรวจไปแบบสลับบทกันอ่าน ก็ตีกันเล็กๆ ไป เพราะภาษาอังกฤษกับภาษาอเมริกันมันต่างกัน ฉันเลยได้ข้อสรุปว่า ให้คนอังกฤษตรวจคนสุดท้ายดีกว่า เพราะยังไงฉันก็เรียนประเทศอังกฤษและอาจารย์อังกฤษมหาลัยต่างๆ ที่จะมาสอบวิทยานิพนธ์ตอนสุดท้ายก็น่าจะชอบสำนวนอังกฤษ เพื่อนคนอเมริกันของฉันนิสัยแฟร์ๆ ก็บอกว่าได้เลย เค้าเห็นด้วยเหมือนกัน) กลับมาที่เพื่อนคนไทยที่ตรวจให้รอบแรกๆ เค้าไม่ได้เรียนวิศวะ หรือจะว่าไปก็คือไม่ได้เรียนสายวิทย์ด้วยซ้ำ (ทำปริญญาเอกด้านบริหาร) แต่ต้องมาอ่านงานวิทยานิพนธ์วิศวะ การออกแบบวงจร Hardware ก็อ่านอย่างตั้งใจ พยายามทำความเข้าใจ สิ่งเหล่านี้คือการ Pay it forward ที่ฉันได้รับรู้ด้วยตัวเอง

แล้วก็เพื่อนอีกคนเป็นคนที่ปกติไม่ค่อยพูดอะไรเยอะ แต่ในวันที่ฉันอกหักเลิกกับแฟนตอนที่อยู่เมืองไทยแล้ว พอ message บอกเพื่อนๆ ไปว่าเลิกกับแฟนแล้ว เพื่อนคนนี้ทำงานประจำอยู่ที่ญี่ปุ่นก็โทรมาฟังฉันดราม่า (อารมณ์คนอกหักน่ะนะ) หลายต่อหลายวันจนฉันอาการดี (ไม่มีเรื่องอะไรจะเล่า เอิ๊กๆ) ไม่รู้ว่าหมดค่าโทรศัพท์ไปเท่าไหร่ < คนนี้ที่ฉันเคยเขียน Note สั้นๆ เรื่อง My best friend wedding ให้นะเอง เพราะเป็นหนึ่งใน best friend จริงๆ (ฉันประทับใจพอๆ กับเพื่อนสนิท ม.เกษตรอีกคนที่โทรมาฟังฉันบ่นตอนอกหักกับเพื่อน ม.เกษตรด้วยกันครั้งแรก โดยโทรทางไกลจากอเมริกา มาหาฉันที่อยู่อังกฤษเกือบครึ่งปีเลย สามปีก่อนฉันบินไปแวะเยี่ยมหาเค้าที่อเมริกา ก็เลยได้คุยกัน เค้าก็บอกว่าตอนนั้นเค้าเป็นห่วงกลัวฉันจะเป็นอะไรไป แต่อยู่ไกลเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรมาปลอบ ปรากฏว่าพอฉันผ่านจุดนั้นไปได้ ฉันก็อยู่เคมบริดจ์เรียนจบโท-จบเอกประสบความสำเร็จทางการเรียนดีไม่มีผลกระทบอะไรเลย แถมมีแฟนใหม่ เที่ยวโน่นเที่ยวนี่ ลั้นลา ไม่เป็นไรเลยนี่หว่า แหะ แหะ /เพื่อนคนนี้ถ้าแต่งงานเมื่อไหร่ฉันก็กะว่าจะเขียน Note เรื่อง My best friend wedding ให้อีกคน - อิอิ)

คนเราในชีวิตก้าวเดินมา บางทีไม่ได้เดินมาได้ด้วยตัวคนเดียว แต่อาจมีคนสนับสนุนหลายคนอยู่ข้างๆ เป็นคนที่ทำอะไรให้เราโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร คนเหล่านี้ Pay it forward กันมาเรื่อยๆ จนสร้างเป็นสายใยบางๆ ที่สืบทอดต่อไปในความผูกพันของความเป็นเพื่อนที่ฉันเชื่อว่าความประทับใจที่ก่อเกิดขึ้นมานั้นก็อยู่ในความทรงจำและทำให้ฉันรู้สึกว่าอยากช่วยคนอื่นๆ ต่อๆ ไปเพราะได้รับการช่วยเหลือในชีวิตจากคนที่ทำดีกับเราโดยไม่หวังผลอะไรเลยมาอย่างดี

ปล. ไม่เขียนชื่อเพื่อนว่าใครเป็นใครกลัวจะเขิน ใครเป็นใครเผลอมาอ่านก็รู้ตัวเองเน๊อะ (เมื่อวานยังแอบขำ ว่าเพื่อนคนนึงที่เขียนถึงข้างบนนี่แหล่ะ มีโทรมาอธิบายด้วย ว่าที่ฉันโพสภาพเยอะแยะแล้วเค้าไม่กด like เลย ไม่ได้ไม่ชอบนะ แต่เค้าไม่เคยกด like ให้ใคร ก็บอกว่า ก็เข้าใจ ไม่กด like ไม่เป็นไร แค่ได้อ่านได้เห็นภาพที่เราเขียนเราก็ดีใจแล้ว ^^)

ปล2. เพื่อนๆ คนที่ไม่ได้เขียนถึง หลายๆ คนก็มีความทรงจำด้วยกันดีๆ อีก มากมาย แต่ยาวแล้วเขียนเท่านี้ละกันนะคะ ตีสองแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานอีก แหะ แหะ

@}---,---'------

เมื่อคนหนึ่งเริ่มช่วยคนอีกคนหนึ่ง
ก็สร้างซึ่งสายใยสู่วันใหม่
ให้อีกคนที่ได้รับซึ่งน้ำใจ
เรียนรู้ไว้ส่งต่อไปให้อีกคน

จากหนึ่งแรงน้ำใจใส่ให้เพื่อน
เปรียบเสมือนเริ่มกรุยทางสร้างถนน
เปิดความคิดปิดอัตตาจนพ้นตน
แล้วรู้ยลความอบอุ่นของการปัน

อยากขอบคุณน้ำใจของเพื่อนรัก
ได้รู้จักได้ช่วยเหลือกันมุ่งมั่น
ได้เรียนรู้จนศรัทธาสิ่งสำคัญ
ว่าการปันน้ำใจนั้นมันงดงาม

@}---,---'------


Create Date : 19 เมษายน 2556
Last Update : 19 เมษายน 2556 21:07:51 น. 0 comments
Counter : 733 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.