Review ในวันว่าง
• Review ในวันว่าง • หลังจาก project ยักษ์ที่วุ่นวายได้หมดไป (ยังเหลือควันหลงให้ต้องตามล้างตามเช็ด) ... งานที่ล้นมือก็หายไป ก็ยังคงเหลือแต่งานประจำที่ยังต้องทำอยู่ ... จริงๆ เราก็ไม่ได้หนีไปเที่ยวไหนหรอกนะ ... ไปทำงานน่ะ ... เค้าให้ไปทำงานอาทิตย์นึง ... ก็แอบหนีเที่ยวหลังงานเสร็จอีกอาทิตย์นึง (ค่าเครื่องบินฟรี ค่าโรงแรมฟรีนิ)
• Review ในวันว่าง • เราก็ได้ไปเดินเตร็ดเตร่ที่นาริตะ ... ก็ว่าจะไม่ซื้ออะไรแล้วเชียว ... ในที่สุดก็อดไม่ได้ ... ไปซื้อพวกนี้มาจนได้ซิน่า ... ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิวเราไม่ถูกกับ sk-ii นะ ... แต่ก็แอบคิดไปว่า ... ตอนนั้นฝากเพื่อนซื้อที่ฮ่องกง มันอาจจะคนละเกรดกับที่ญี่ปุ่นก็ได้ (ว่าไปโน่น) ... ไปยิบๆ จับ ตัว essence มาดู ... มันไม่ค่อยเหลืองเหมือนตัวที่เราเคยใช้ ... ไหนๆ ก้ไหนๆ ก็ลองมันอีกซักตั้งละกัน ... ทีนี้ใจปล้ำหน่อย ... ลองแบบเป็น set เลย ... จริงๆ จะซื้อ set ที่มันมี facial cream ด้วย ... แตว่าเรามี cream หลายๆ ตัวแล้ว (ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะใช้หมด) แถมก็ยังทำใจไม่ได้ (เนื่องจากส่วนผสม) ... ก็เลยเอาแค่ตัว cleansing oil, cleanser, clear lotion, และ essence มา ... แต่ละตัวก็ขวดใหญ่อยู่ ซื้อมาแล้วก็ใช้แบบยกชุดเลย หน้าแหกเป็นแหก (เจ็บแล้วไม่จำ) ... ตัวกันแดด แป้งแต่งหน้าก็ใช้ปกติ ... ทำความสะอาดหน้า (เฉพาะตอนเย็น) ด้วย sk-ii cleansing oil ก่อน ... แล้วก็ล้างน้ำมันออกด้วย sk-ii cleanser ... จากนั้นก็ใช้ clear lotion เป็น toner (หยดใส่สำลีแล้วเช็ดๆ) ... จากนั้นก็หยดตัว essence ใส่มือ โบ๊ะๆ แปะๆๆ ตบๆ ทั้งหน้าเลย รอให้ซึมแล้วก็ทา vitamin c serum แล้วก็ตามด้วย facial moisturizer และ sunscreen ตัวเดิม เราก็เริ่มใช้มาซักพักแล้ว ... ตั้งแต่ก่อนหนีเที่ยว จนถึงตอนนี้ ... ก็พอจะเห็นผลบ้าง เอามาบอกเล่าสู่กันฟัง
• Review ในวันว่าง • = SK II Facial Treatment Cleansing Oil = นี่ว่างจัดเลย ... อุตส่าห์ลงทุนถ่ายรูปเอง ... แล้วก็นั่งตัด background ออกเองเลยนะเนี่ย ... แต่รูปมันเหลืองๆ หน่อย (ถ่ายกลางคืน) ... แถมมันดูเอียงๆ เบี้ยวๆ ... วันหลังแก้ตัวใหม่ Mineral Oil, Isopropyl Palmitate, PEG-20 Glyceryl Triisostearate, Water, Sorbeth-30 Tetraoleate, Phenoxyethanol, PEG-8 Diisostearate, Moringa Pterygosperma Seed Extract, Butylparaben, Propylparaben, Ethylparaben, Sodium Benzoate, BHT, Saccharomycopsis Ferment Filtrate, Pyrus Malus (Apple) Seed Extract, Phenethyl Alcohol, Rosa Canina Fruit Extract. ส่วนผสมหลักของ cleansing oil ตัวนี้ก็คือ mineral oil (หรือ baby oil) และตัว isopropyl palmitate ซึ่งเป็นตัว thickener และก็เป็น emillient ไปในตัวด้วย ซึ่งทำให้เกลี่ยได้ง่าย ได้ทั่วถึง ไม่เลอะเทอะเหลวจนเกินไป ส่วนผสมอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรนอกจากพวกตัว thickener และ preservatives ... ส่วนตัว pitera มีน้อยมากๆ ผิวเราคงจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากตัว pitera ... กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นขณะใช้นวดหน้า รวมๆ แล้ว cleansing oil ตัวนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษนอกจาก oil + thickener ... ใครใช้ oil เดี่ยวๆ อาจจะพบว่ามันมันเกินไป แล้วก็เกลี่ยยากกว่า ... แต่เมื่อเทียบราคาแล้ว ตัวนี้จะออก overprice ไปมาก ... ใครที่ผิวอุดตันง่าย รูขุมขนกว้าง ... isopropyl palmitate อุดตันรูขุมขนค่อนข้างมาก ... ดังนั้น นวดเสร็จแล้ว ต้องล้างหน้าให้สะอาดอีกทีจะดีกว่าแค่เอาสำลีเช็ดออก โดยรวมใช้แล้วโอเคมั๊ย ... ก็ถือว่าโอเคดี (ก็ baby oil ที่เกลี่ยได้ง่ายกว่า ละเลงทั่วหน้าได้ง่าย และลื่นดี) ... แต่ดูราคาแล้ว เราคงจะไม่ซื้ออีกแน่ เพราะรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเอาซะเลย
• Review ในวันว่าง • = SK II Facial Treatment Cleanser = Water, Sodium Lauroyl Glutamate, Propylene Glycol, Saccharomycopsis Ferment Filtrate, Cocamide DEA, PEG-140 Stearate, Sodium PCA, Glycol Stearate, Phenethyl Alcohol, Methylparaben, Rosa Centifolia Flower Extract, Propylparaben, Triclosan, Dipotassium Glycyrrhizate. ใช้โฟมล้างหน้าตัวนี้แล้วนึกถึงสมัยคุณแม่ยังสาว ... เฮสลีนสโนว์ ... ทั้งกลิ่นและ texture ... เนื่อโหมเป็นสีขาววาวๆ มุกๆ มีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ ส่วนผสมของโฟมตัวนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ... แต่ก็ถือเป็นโฟมล้างหน้าที่หน้าใช้ตัวนึงทีเดียว ... ตัว detergent ที่ใช้คือ Sodium Lauroyl Glutamate ซึ่งถือว่าเป็น cleansing agent ที่ค่อนข้างอ่อนโยน คนผิวแห้งและระคายเคืองง่ายก็ใช้ได้ ... นอกจากตัว detergent แล้ว ก็มีพวก fat และ napca ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ... แล้วก็พวก film foaming agent ด้วย ... ที่เหลือก็เป็น preservatives และกลิ่นกุหลาบ ... นอกจากนั้นแล้วก็ยังมี pitera ซึ่งเป็น signature ของ sk-ii ใส่เข้าไปด้วย ในปริมาณที่ไม่ขี้เหร่นัก ถึงแม้ว่าโฟมล้างหน้าตัวนี้จะน่าใช้พอสมควร ... แต่ก็มีที่ติตรงที่มีตัว triclosan ใส่ลงไปด้วย ... ถ้าใครฟังเราบ่นบ่อยๆ คงจะรู้ว่าเราไม่ชอบที่จะใช้สารกำจัดแบคทีเรียพร่ำเพรื่อ ... ยิ่งใช้ยิ่งทำให้มันดื้อยาเปล่าๆ ... หากเอาไว้ใช้เฉพาะตอนสิวตูมๆ ก็หยวนๆ
• Review ในวันว่าง • = SK II Facial Treatment Clear Lotion = Water, Saccharomycopsis Ferment Filtrate, Sodium Hyaluronate, Butylene Glycol, Cellulose Gum, Polysorbate 20, Glycerin, Methylparaben, Sodium Benzoate, Disodium EDTA, PEG-150, Sodium Citrate, Citric Acid, Malic Acid, Lactic Acid, Salicylic Acid. พอล้างหน้าด้วย sk-ii cleanser แล้ว ... หน้าไม่รู้สึกแห้งตึงเลยดี ... จากนั้นก็หยด clear lotion ตัวนี้ใส่สำลี ... แล้วก็เช็ดๆ หน้า ... รู้สึกว่าใช้แล้วหน้านุ่มชุ่มชื้นดีมากเลยก ... กลิ่น pitera ไม่แรงนัก ส่วนผสมของ clear lotion ตัวนี้ก็มีน้ำ แล้วก็ pitera เป็นส่วนผสมหลัก ... ตามด้วย sodium hyaluronate ซึ่งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวที่ดีตัวนึง ... นอกจากนี้ก็มี butylene glycol ซึ่งก็ช่วยให้ความชุ่มชื้นดี ... ส่วนผสมที่เหลือก็เป็น gum ทำให้เนื้อโลชั้นไม่ใสแจ๋วจนเกินไป แล้วก็เป็นพวกวัตถุกันเสีย ... พวก aha ที่มีใส่ลงไปนิดหน่อย ก็ไม่มากพอที่จะช่วย exfoliate ผิวได้ จริงๆ ถ้าใครชอบตัวนี้ ... แล้วก็ใช้ตัว essence อยู่ด้วย ... ลองมองหา sodium hyaluronate ที่เป็น serum มาแล้วก็ใช้ร่วมกับตัว essence ก็ควรจะให้ผลที่เหมือนกัน ... ประมาณว่า หยด ha serum ใส่มือ แล้วก็หยด essence ใส่มือนิดหน่อย ... ก็ใช้แทนตัว clear lotion ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เอาเป็นว่า ... ใช้ lotion ตัวนี้แล้วก็ถือว่าประทับใจระดับนึง ... ประทับใจที่มันทำให้ผิวชุ่มชื้นดี ... แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษมากไปกว่าน้น ... ใครคิดจะซื้อ lotion ตัวนี้มาใช้เป็น toner เพื่อทำความสะอาดผิว ... ตัวนี้คงจะไม่ทำหน้าที่แบบนั้น
• Review ในวันว่าง • = SK II Facial Treatment Essence = Saccharomycopsis Ferment Filtrate, Butylene Glycol, Pentylene Glycol, Water, Sodium Benzoate, Methylparaben, Sorbic Acid. หลังจากใช้ clear lotion แล้ว ... ก็โบ๊ะๆ ตบๆ หน้า ด้วย essence จนชุ่ม ... ตัวนี้รู้สึกว่าสีมันไม่ค่อยเข้มเหมือนตัวที่ซื้อจากฮ่องกง ... กลิ่นก็ไม่ค่อย disgusting มากเหมือนตัวก่อน ... รู้สึกว่ากลิ่นจะอ่อนๆ กว่าด้วย ... ส่วนผสมตัวนี้ก็อย่างที่รู้ๆ กันดีว่ามี pitera เป็นส่วนผสมหลัก ... แล้วก็ glycols น้ำ และสารกันบูด ... ใช้แล้วก็ยังไม่มีอะไรประทับใจมากไปกว่าเดิม T_T (อุตส่าห์เป็นแม่บุญทุ่มนะเนี่ย) ตั้งแต่บินจนถึงกลับมาแคนาดา มีสิวอักเสบติดตามกลับมา 3 เม็ด T_T ... แอบคิดเข้าข้าง sk-ii ว่า ... คงจะเป็นเพราะเดินทาง เหนื่อยๆ มั๊ง ... แต่แล้วมันก็เพิ่มมาเป็น 4 เม็ด (หน้าผาก 4 เม็ด) ... แก้ม 2 เม็ด .... ปากหนึ่งเม็ด T_T ... สิวอักเสบทั้งนั้นเลย ... ปกติ ... ตรงปาก และหน้าผากเนี่ย เราไม่ค่อยจะเป็นสิวเลยนะ ... นี่หน้าผากซัดไป 4 ... แถมมีวี่แววว่ามันจะผุดอันใหม่ออกมา ... อันกเก่ๆ ก็แห้งๆ ไปบ้างแล้ว ... แต่ก็ทิ้งร่องรอยไว้ให้เซ็งจิต แค่นั้นยังไม่พอ ... ช่วงนี้อากาศหนาวจัดแล้ว ... วันนี้ -23 C (wind chill -32 C) หน้าก็แห้ง ไม่รู้ทำไมมันแห้งแบบนี้ T_T ครีมที่เคยใช้มันก็ตัวเดิมๆ แต่ไหงหน้าแห้งมากเลย ... สงสัยจะต้องออกไปหา shea butter มาโบ๊ะหน้าก่อนนอนซะหน่อยแล้วล่ะ แต่เราก็ยังไม่ give up นะ ... ยังยืนหยัดใช้ sk-ii ต่อไป (ด้วยความงก) ... เพราะดันซื้อมาซะเยอะ ตอนนี้ก็ยังดันทุรังใช้ sk-ii ไปเรือยๆ ... และจะยังดันทุรังต่อไป ... ก็ไม่รู้ว่าจะทนได้ซักกี่น้ำ ... หากหน้าเหียกถึงขึ้นขีดสุด คงจะเลิก ... แต่ก็ได้ยินหลายๆ คนชอบกันนักหนา ก็เลยยังแอบอยากชอบอยู่
• Review ในวันว่าง • = Shiseido Elixir Superieur CE Emulsion II = แล้วก็ยังไปแอบซื้อ Shiseido Elixir Superieur CE Emulsion II มาอีก ... เห็นมันถูกดีก็เลยซื้อมาลองดู ... ส่วนผสมมันเป็นภาษาญี่ปุ่น (แต่ตอนซื้อก็คุ้นว่ามันเต็มไปด้วย alcohol ... ก็ยังซื้อมาอ่ะนะ ... คนเรา) ... ใช้แล้วก็แบบว่า เอ่อ ... ไม่ชอบเลย ... มันก็เกลี่ยง่ายดี ซึมง่าย แต่หน้าแห้งอ่ะ ... ตอนนี้ก็เลยเอาดองไว้ ... เอาไว้อากาศร้อนๆ หน่อยค่อยเอามาใช้ (อีกครึ่งปีเจอกันอีกที) ส่วนผสมตัวนี้ไม่แน่ใจว่ามีอะไรบ้าง ... เห็นส่วนผสมตัว Emulsion I มันมี alcohol อยู่ในลำดับที่สองเลย ... ตัวนี้ไม่ใช่ก็คงจะใกล้เคียง ... ส่วนผสมตัวอื่นๆ ก็มีพวกไขมัน ซิลิโคน แล้วก็น้ำมัน squalane ... ที่เหลือก็ไม่มีสาระอะไรอีก ... ไม่น่าใช้อย่างแรง ... เป็น emulsion ทีไม่มีสาะรอย่างยิ่ง ไม่มีอะไรน่าประทับใจ
• Review ในวันว่าง • = Shiseido Water in Lip = และก็อันนี้เป็น balm มี spf เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว (ทิ้ง package ไปแล้ว) ... ราคาไม่แพง จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ... สองสามร้อยเยนมั๊ง ถ้าจำไม่ผิด ... ส่วนผสมอะไรบ้างก็ไม่รู้ เพราะมันเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดเลย ... ใช้แล้วก็ค่อนข้างชอบนะ ... คือทาแล้วมันไม่ออกมาเป็นก้อนๆ แวกซ์ ป้ายปาก เหมือนบาล์มบางยี่ห้อ ... ทาแล้วมันออก shine เงาๆ นิดหน่อยด้วย ... ส่วนมากเราจะใช้ balm ที่มี spf ไม่ค่อยได้ (มักจะแพ้ ผื่นขี้นเสมอเลย) ... แต่ตัวนี้ใช้แล้วดีนะ ไม่มีผื่นขึ้น ... แต่ความชุ่มชื้นก็ไม่ได้มากขนาดที่ใช้ในที่อากาศหนาวๆ ติดลบยี่สิบได้ ... แต่ก็ไม่ได้ทำให้ปากเราแห้งหรือแตก package เค้าทำได้น่าใช้ดีนะ เราว่า ... เหมาะกับเป็นของฝากดี ... เราก็ซื้อมาฝากคนตั้งหลายคนแน่ะ ^_^ ... ใครมีโอกาสผ่านไปญี่ปุ่น ก็ลองซื้อติดไม้ติดมือมาก็ดีนะ
• Review ในวันว่าง • = Essencia Rose Hip Oil = แล้วเราก็ทนกระแสไม่ไหว ... เอากับเค้ามั่ง ... ก็ rosehip oil นั่นแหล่ะ ... ไปเดินหาตั้งนาน ในที่สุดก็หามาได้ ... ราคาค่อนข้างแพงทีเดียว ... 25ml รารา 17 CAD ... packaging ก็ดูน่าใช้ดี ... rosehip oil อันนี้เป็น 100% pure และ first-cold pressed ... คุณค่าต่างๆ คงจะเหลืออยู่ใช้ได้ ใครยังเชยอยู่ ... rosehip oil เนี่ย ... มี vitamin c ในปริมาณสูงทีเดียว ... มีมากกว่า acerola อีกด้วย ... แล้วก็ยังมี vitamin a อีกด้วย ... แถมยังอ่อนโยนกับผิวหน้าเรา ... rosehip ตัวนี้เป็นส่วนผสมสำคัญใน burt's bees eye serum (น้ำเหลืองๆ) ด้วย ... ใครอยากลองใช้ burt's bees ตัวนี้ แต่หาไม่ได้ ... ลอง rosehip oil ก็น่าจะให้ผลใกล้เคียงกัน ตัว oil นี้ที่เราได้มา ... เกือบจะไม่มีสี (ติดเหลืองนิดหน่อย ... นิดเดียวจริงๆ) ... ตัว oil ไม่ runny มากนัก ... แต่ก็ไม่หนืดจนเกินไป ... ถ้าใครเคยใช้ jojoba oil ... มันจะหนืดกว่า jojoba oil ... มันน้อยกว่า ... ไม่มีกลิ่นหอม แต่ก็ไม่เหม็นนะเราว่า ... กลิ่นคล้ายๆ castor oil (กลิ่นจืดๆ) ... หลังล้างหน้าแล้ว ... เราทาพวก toner, essence, vitamin c แล้ว รอให้ซึม ... จากนั้นก็หยด rosehip oil สองสามหยดใส่มือ ... แล้วก็เอาไปแตะๆ เน้น ใต้ตาก่อน ... จากนั้นที่หยดน้ำใส่มือนิดหน่อย ... ละเลงให้ทั่วมือ แล้วก็แปะๆ ให้ทั่วหน้า ... มันไม่ซึมในทันที แต่ก็ถือว่าซึมได้ดีใช้ได้ ... หลังจากนั้นก็ตามด้วย facial moisturizer อีกที ... ช่วงนี้ที่นี่อากาศหนาวและแห้งมาก ... เราจะโบ๊ะๆๆ ครีมหนักเป็นพิเศษ ... เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าอากาศร้อนๆ ทาแบบนี้หน้าจะมันเยิ้มรึเปล่า ใช้ได้ไม่นานนัก ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร ... แต่ก็ไม่มีอาการระคายเคืองอะไร
• Review ในวันว่าง • = Clinique Repairwear Deep Wrinkle Concentrate for Face and Eye = Water, Hdi/trimethylol Hexyllactone Crosspolymer, Dimethicone, Silica, Isododecane, Polysilicone-11, Glycerin, Butylene Glycol, Butyrospermum Parkii (Shea Butter) Extract, Hydrogenated Lecithin, Glycine Max (Soybean) Polypeptide, Acetyl Hexapeptide-3, Palmitoyl Oligopeptide, Hydrolyzed Fish (Pisces) Collagen, Algae Extract, Sucrose, Sigesbeckia Orientalis (St. Paul's Wort) Extract, Hordeum Vulgare (Barley) Extract\\extrait D'orge, Helianthus Annuus (Sunflower) Seedcake, Caffeine, Cucumis Melo (Melon) Fruit Extract, Cucumis Sativus (Cucumber) Fruit Extract, Artemia Extract, Polygonum Cuspidatum Root Extract, Camellia Sinensis (Yellow Tea) Leaf Extract, Fish (Pisces) Atelocollagen, Chamomilla Recutita (Matricaria), Aspalathus Linearis (Red Tea) Leaf Extract, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Extract, Saccharomyces Lysate Extract, Camellia Sinensis (White Tea) Leaf Extract, Serine, Ascorbyl Tocopheryl Maleate, Nordihydroguaiaretic Acid, Algin, Adenosine Phosphate, Tocopheryl Acetate, Aminopropyl Ascorbyl Phosphate, Cholesterol/potassium Sulfate, Anthemis Nobilis (Chamomile), Persea Gratissima (Avocado) Oil, Sodium Hyaluronate, Disodium Distyrylbiphenyl Disulfonate, Lecithin, Linolenic Acid, Linoleic Acid, Pentylene Glycol, Peg-11 Methyl Ether Dimethicone, Polyglyceryl-3 Disiloxane Dimethicone, Ammonium Acryloyldimethyltaurate/vp Copolymer, Propylene Glycol Dicaprate, Ethylhexylglycerin, Caprylyl Glycol, Phospholipids, Cyclopentasiloxane, Dimethicone Crosspolymer-3, Polysorbate 40, Glyceryl Polymethacrylate, Laureth-23, Sodium Citrate, Sodium Chloride, Propylene Glycol Dicaprylate, Hexylene Glycol, Laureth-12, Laureth-4, Peg-8, Tromethamine, Disodium Edta, Phenoxyethanol, Sodium Dehydroacetate, Chlorphenesin, Mica, Titanium Dioxide. แล้วเราก็ยังซื้อ Clinique Repairwear Deep Wrinkle Concentrate for Face and Eye มาอีก (เห็นแก่ของแถม) ... ดูส่วนผสมตัวนี้ก็ถือได้ว่า in-trend ไม่น้อยเลย ... คือ มี Acetyl Hexapeptide-3 และ Palmitoyl Oligopeptide ผสมอยู่ในปริมาณสูง ... ส่วนตัวอื่นๆ ก็ออกแนวๆ Clinique/Estee Lauder พื้นๆ (สูตรสำเร็จของเค้า) ... ตอนแรกคิดว่ามันจะออกแนวๆ ครีมข้นๆ หน่อย (เพราะว่า for face and eye) แต่พอลองใช้แล้ว มันกลับ runny มากทีเดียว ... เวลาบีบใช้ต้องระวัง แค่คว่ำหลอดก็แทบจะไหลทะลักออกมาแล้ว ... แต่เราก็ชอบนะ ... บรรจุในหลอดทึบแสง ทำให้มันสดสะอาดดี ... และบีบใช้ได้เกลี้ยงดีด้วย พอทาแล้ว รู้สึกว่ามันทำให้ดู matte ไปหน่อย (คิดว่าเพราะ silicone and silica) แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิวแห้งตึง ... ซึมได้ค่อนข้างดีทีเดียว (ประทับใจมากระดับนึงเลย) ... ซึมหายไม่ทิ้งคราบ ... แต่เราก็ยังใช้ไม่นานมากนัก เลยยังไม่เห็นผลอะไรเด่นชัด ... เราจะทาตัวนี้หลัง vitmain c ... ใช้ทั้งเช้าและเย็นเลย ผลในข้างต้นรู้สึกประทับใจค่อนข้างมาก แต่ก็คงต้องดูต่อไป ใครมองหา serum ที่อาจจะช่วยลดริ้วรอยให้จางลง และก็ให้ความชุ่มชื้นกับผิว (แบบไม่ทำให้หน้ามัน) และ antioxidant ... ตัวนี้ก็ถือว่าน่าลอง ... เราคิดว่าน่าจะใช้ได้กับทุกสภาพผิว ... คนผิวมันถึงผิวธรรมดาอาจจะไม่ต้องทา moisturizer เพิ่มเติม ... ส่วนคนผิวแห้งคงต้องโบ๊ะ moisturizer เพิ่มเติมอีก ... แล้ว serum ตัวนี้ก็ไม่อุดตันมากด้วย
• Review ในวันว่าง • = Q10 Skin SOlution Anti-Aging Multi Active = อันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อมาหรอก ... ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ ไปเดินเล่นๆ ... แล้วดันไปเจอตัวนี้เข้า ... เป็น Product of Italy ราคาไม่แพงเลย ... เห็นมี CoQ10 ในลำดับต้นๆ ... ก็เลยซื้อมา ... หายากมากที่จะมี CoQ10 ในปริมาณสูงๆ ขนาดนี้ และราคาแบบนี้ ... ก็เลยหยิบมา ... แต่ก็ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง (เพราะราคามันถูก T_T คนเรา) ก็เลยไม่รู้ว่ามันดีไม่ดียังไง
• Review ในวันว่าง • = Lancome Bienfait Multi-Vital High Potency Daily Moisturizer UVA/UVB SPF 30 Sunscreen = อันนี้ไม่มีอะไร ... ซื้อมาอีกแล้ว ... ก็เป็น sunscreen สุดโปรดของเราอีกตัวนึง ... เห็นมันมีของแถม ก็เลยซื้อมา T_T ... ช่วงนี้ของแถมเยอะแยะมากมาย ... เฮ้อ กระเป๋าฉีกแน่เรา ส่วน review ตัวนี้ ... ลองหาอ่านดูอันเก่าๆ นะคะ ... คำเดียวว่า ชอบ จ้า ^__^
• Review ในวันว่าง • ท้ายสุด ... เอารูปมาฝาก ... เป็นรูปที่ถ่ายตอนบินอยู่เหลือ Alaska (เดาเอาเอง) วันนั้น ... แดดกำลังสวย ... เมฆไม่มาก ... บินอยู่เหนือพื้นดินราวๆ 10 km ... มองลงมาที่หน้าต่าง ... เห็นภูเข้าทะเลน้ำแข็งหิมะคลุม ... สะท้อนกับแสงแดด ... ดูสวยมากๆ เลย ... เอามาแบ่งให้ดูกันนะ เอาไว้ว่างๆ จะเล่าเรื่องอะไรๆ ให้ฟังละกันนะคะ ... แล้วคุยกัน
Create Date : 09 ธันวาคม 2550
Last Update : 31 ธันวาคม 2550 0:59:03 น.
36 comments
Counter : 2934 Pageviews.
คิดถึงรีวิว คุณฟีบี้ ที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด