พรุ่งนี้วัน Labour Day ... เย้! ... วันนี้ตื่นสายมากๆ ... ยังไม่ง่วงเลย ... เอา Skincare regimen มาแปะให้ดูกัน

ก่อนอื่น ... ผิวเรา OSPW แต่ว่า O ไม่มากนัก (เกือบๆ D) ... S ก็ไม่มากนัก ... P พอสมควร ... W ก็ไม่มากนักคาบเกี่ยวกับ T จ้า >_<

เริ่มต้นที่ Cleansing oil ก่อน ... ก็เอาไว้ใช้ตอนเย็น ... ตัวที่ใช้อยู่ก็เจ้านี่เลย ... จวนเจียนหมดเต็มแก่แล้ว .. ยังไม่รู้ว่าจะซื้อต่อดีรึเปล่า เพราะว่ามันดีมากๆๆ เลย แต่ติดที่ราคาแพงมาก ... ตั้ง 3x CAD (เป็นพันบาทแน่ะ) แพงไป ... แต่มันดีอ่ะ >_<



นวดอะไรก็ออกหมด ... นวดง่ายๆ เพราะมันเป็น balm ... ไม่ไหลเยิ้มเลอะเทอะ ... อะไรๆ ก็ออกหมาด ... ไม่มันแผลบ ล้างออกก็ง่ายแสนง่าย ... ดีสุดยอดแล้วค่ะ

ต่อมาก็ facial scurb ... จริงๆ แล้วเราชอบ นีเวียมากกว่า ... ตัวนั้นอ่อนโยนและละเอียดกว่ามาก ... ตัวนี้ก็งั้นๆ ค่ะ ... ไม่แย่ แต่ก็ไม่มีอะไรประทับใจนัก ... คงไม่ซื้อต่อแล้วล่ะ



ก็เอาไว้ใช้วันเว้นวัน

หลังจากนวดด้วย cleansing balm แล้ว ก็ล้างออกด้วย facial wash อีกที (ในตอนเย็น) ... สำหรับตอนเช้าก็ใช้ facial wash เดี่ยวๆ เลย ... ตอนนี้มี cleansers อยู่ 3 ตัว ... ใช้สลับกันไปแล้วแต่อารมณ์ ... ตัว shiseido จะใช้ไม่บ่อย เพราะมันทำให้หน้าแห้งไป ... เอาไว้ใช้ตอนนวด cleansing balm ซะส่วนมาก

ส่วน neutrogena ก็เอาไว้ใช้สลับกับ lancome

lancome ดูเหมือนจะ popular ที่สุด ^___^ เพราะมันหอมมาก ล้างหน้าสะอาด เลิศ ไม่แห้งตึง ไม่ทิ้งคราบลื่น

ต่อมาก็ตามด้วย toner ... ตอนนี้ก็มี 2 ตัว ... ole henriksen เพิ่งหมด ... เพิ่งเริ่มใช้ lancome ไม่นานนัก ... คุณภาพไม่ต้องพูดถึง (toner ตัวโปรดของเรา) ... อันนี้เป็นขวดย่อมลงมา (125ml) เพราะว่ามันขายคู่กับ ตัวล้างหน้าหลอดชมพู ... ในราคาที่ถูกใจมาก

แล้วก็มี spray toner อีกตัว ... อันนี้เอาไว้ฉีดหน้า เวลาทา vitamin c ช่วยให้มันซึมได้ง่ายขึ้น ... toner ตัวนี้เป็น Canadian ค่ะ ... ใช้แล้วก็โอเคดีค่ะ ส่วนผสมค่อนข้างดีทีเดียว

ต่อมาก็เป็น vitamin c ค่ะ (ขาดไม่ได้) ... ตอนนี้มีอยู่ 2 ตัว ... ตัวแรกคือ LRP redermic มี vitamin c อยู่ 5% แล้วก็ hyaluronic acid จริงๆ ก็อยากชอบตัวนี้มากเลย ... เพราะชอบที่มันหาซื้อง่าย แล้วก็มาในหลอดอลูมิเนียม (ทำให้ vitamin c สดดี) ... แต่ดูเหมือนว่า มันจะระคายผิวเรา T_T ปกติแล้ว ไม่ค่อยจะมีอะไรจะระคายผิวเราง่ายๆ ... ใช้ active c เราก็ไม่มีอาการนะ ... แต่หลังจากใช้ redermic แล้ว ผิวจะมีอาการเป็นผื่นๆ ... แต่ดูสภาพหลอดนะ ... ยังอุตส่าห์ใช้มาจนเกือบหมด ... ไม่อยากทิ้งน่ะค่ะ ... เสียดาย ... เพราะหน้ามันก็เป็นแบบ ผื่นๆ นิดๆ พอทนไหว (ยังไม่แหก) ... หมดแล้วคงไม่ซื้อต่ออีกแล้ว T_T



ไวตามินซีอีกตัวที่ใช้ เป็นของ NeoStrata ค่ะ ... แพงนรกจริงๆ (สำหรับเรา) ไม่ซื้อต่ออีกแล้ว ... ที่ซื้อมาคือ อยากลอง vitamin c ทุกตัวในโลกนี้ 555 ... จริงๆ จะสั่ง vitamin c online แต่ขี้เกียจ ... ส่วนผสมคือ silicone แล้วก็ 10% L-ascorbic acid แล้วส่วนผสมอื่นๆ ไม่กี่ตัว ... บรรจุใน capsule สีทองแดง ... ทำให้ไวตามินซีสดมากๆๆ ... บิดออกมา แล้วก็บีบใส่มือ ... ก่อนซื้อก็ไม่ได้สังเกตว่า capsule อันนึงมันเล็กโคดๆๆ ... กระปุกนึงมี 30 capsules ... ตกเม็ดละ $1 T_T ... ทาเช้าเย็น ... ได้แค่ 2 อาทิตย์ ... เอี้อก ... แถมนะ ... พอเอามาใช้ ... เม็ดนึง ทาได้แค่ครึ่งหน้าเองมั๊ง ... ปกตินะ ... ปริมาณแค่นี้ เราทาหน้าผากอย่างเดียว T_T ... เราเป็นพวกชอบโบกไวตามินซีเยอะ ... จะใช้ครั้งละสองเม็ดก็เกรงใจราคา ... เดี๋ยวสั่ง online ดีกว่า ... เพราะอันนี้ไม่กี่วันก็หมดแล้ว .. เซ็ง ... แล้วแล้วอารมณ์ประมาณ TBS เลย ... แต่ไม่ยุบยิบ ... ทาแล้วออกอุ่นๆ นิดๆ ... ใช้กระปุกนึงคงจะไม่เห็นผลอะไร ... มันมันมาในปริมาณที่น้อยยยยยยยยยยยยยย เกินแกง



เอาเป็นว่า หลังทา toner แล้วเราก็ทาไวตามินซีทั้งหน้าเลย ... รวมไปถึงรอบดวงตาด้วย ... จากนั้นก็ตามด้วย clinique eye cream ให้ความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตา ... eye cream ตัวนี้ก็มี shea butter เป็นส่วนผสมหลัก ... ซึมเข้าผิวเร็วมาก ทาง่าย อ่อนโยน ชุ่มชื้นมาก

ต่อมาก็เป็น day moisturizers ตอนนี้ก็มีอยู่ 3 ตัว ... ตัวแรก (ขวาสุด) เป็น Canadian ค่ะ (ใครมาแคนาดา ลองซื้อตัวนี้ดูค่ะ) ... ซื้อมาเพราะอยากเล่นพวก acetyl hexapeitide-3 (argireline) ... แล้วนอกจากนี้ มันก็ยังมีพวก ala, coq10 ในปริมาณสูงด้วย ... แล้วแล้วก็โอเคดีค่ะ ... ซึมเร็วมากๆๆๆๆ ... มีกันแดดผสมอยู่ด้วย (แต่กันได้แต่ uvb) ... เราก็ทาตัวนี้แล้วก็ทา lancome ทับอีกที เพราะ lancome ตัวนี้กันแดดได้ดีค่ะ (แถมมี ascorbyl glucoside เยอะพอสมควรทีเดียว) ... ปลื้ม lancome ตัวนี้พอสมควรเลยค่ะ ... แต่เจ้าตัวนี้จะหมดแล้วหล่ะ (เริ่มจะแคะขวด

ถ้าต้องออกแดดเยอะๆ ... ก็จะทา LRP hydraphase xl ตัวนี้ เพราะมันกันแดดได้ดีกว่าค่ะ ... ตัวนี้ติดมันนิดๆ แต่กันได้ดี (แต่ก็ยังมันน้อยกว่าตัวกันแดดธรรมดาของ LRP) ... ซึมได้ค่อนข้างเร็ว อ่อนโยนดีด้วยค่ะ

ส่วน night creams ตอนนี้ก็มีอยู่ 3 อัน ... เราใช้หลังจากที่ทา serum แล้ว ... night cream พวกนี้ เราเน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้น ซ่อมแซม และเคลือบผิวป้องกันการระเหยของน้ำในผิวหน้าระหว่างที่เรานอน (ไม่เน้นไปที่ anti-oxidants)

สำหรับเจ้า 3 ตัวนี้ ... เราจะทาสลับกันไปเรือยๆ แล้วแต่อารมณ์



เริ่มจากขวาสุด คือ clarins ก็โอเคดี ... เหมาะกับใช้ช่วงนี้ ... แต่ถ้าเป็น winter ตัวนี้ไม่พออ่ะ ... แอบหน้าแห้งค่ะ ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นพอประมาณ (มี alcohol ผสมด้วย แต่ในปริมาณไม่มาก) กลิ่นแรง ... ข้อดีของครีมตัวนี้คือว่า มันไม่อุดตันมากค่ะ ... ครีมส่วนมากจะข้นเพราะ thickener ค่ะ ... ซึ่ง thickeners ส่วนมากมักจะอุดตันสูง แต่ตัวนี้ไม่มากค่ะ ... ข้อเสียของอันนี้คือ กลิ่นแรงมาก แต่เราทนได้



ตัวซ้ายๆ เป็น neutrogena ตัวที่มี copper peptide ค่ะ ซื้อมาลองใช้ดู เพราะอยากลอง copper peptide ดู แต่ก็ยังใช้ไม่นานพอ ... มันมีหลายตัวต้องเฉลี่ยๆ ใช้ ... เนื้อครีมสีน้ำเงิน (สีของ copper) ทาแล้วซึมค่อนข้างเร็ว ก็ให้ความชุ่มชื้นกับผิวดีค่ะ



ส่วนอีกตัว คือ evian affinity ... ตัวนี้ก็เป็นครีมประจำบ้านอีกตัวนึงที่เรามักจะมีติดไว้ ... ราคาถูก อ่อนโยน ชุ่มชื้น และไม่มันดี ... เราคิดว่ามันเหมาะกับเป็น night cream สำหรับคนผิวแบบเรา คือ ไม่แห้ง และไม่มัน จนเกินไปค่ะ ... เนื้อครีมสีชมพูอ่อนๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่โอเวอร์จนเกินไป

อ้อ ... แล้วช่วงนี้ก็ mask หน้ากับพวก vitamins ที่มี ... พวก vitamin c, aspirin, coq10, flax seed oil, aha อะไรพวกนี้น่ะค่ะ

ถามว่าพอใจกับ regimen อันนี้แค่ไหน ... ถือว่าโอเคค่ะ ... makeup remover ดี ... scurb ต้องเปลี่ยน ... facial wash ดีแล้ว ... vit c serum ต้องเปลี่ยน ... antioxidant serum หมด จะต้องซื้อเพิ่ม ... ส่วนตัวกันแดดก็ดีแล้ว ... night cream ดีแล้วค่ะ

ต้องหา vit c serum แล้วก็ antioxidant serum มาเพิ่มค่ะ ... ยังไม่รู้จะลองตัวไหนดีเลย