หนาวแล้วนะคะ หลังจากหายหน้าหายตาไปนานโข ชีวิตเราก็ยังดำเนินไปอย่างมีความสุขดีค่ะ แต่ก็ยุ่งหน้าดูไม่ว่าจะงานสอน (เทอมนี้ตกนักเรียนไป 19 คน และมีดรอปไป 10 คน หลังจากสอบกลางภาค) เรานี่ใจร้ายไปมั๊ยนะ ... เราว่าไม่นะ (จากนักเรียนเฉียด 200 คน ตกไม่ถึง 15%) ก็นักเรียนพวกนี้แทบจะส่งกระดาษปล่าวกัน และไม่เคยเข้าเรียน แล้วจะให้เราปล่อยผ่านไปได้ยังไง ชิมิ

นอกจากจะยุ่งกับงานแล้วก็ยัง มี fetus เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราแล้ว ^____^ ... ช่วงที่ผ่านมาก็เลยต้องทำตัวให้ดี กินให้ดี นอนให้หลับ มีเวลาก็งีบ แล้วก็ไปหาหมอ ... เรียกว่านิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นแดร็กกันเลยทีเดียว ^0^ ... พอว่าง แทนที่จะเอาเวลามาเขียนบล๊อกก็เลยเอาเวลาไปนอนแทนซะหมด :D ... แล้วเดี๋ยวคราวหน้าจะมาเขียนเล่าให้ฟังนะคะ วันนี้เอาเรื่องความงามกันก่อนเนาะ

วันนี้เราจะมาพูดถึงของบำรุงผิว 2 ชิ้นใหม่ ที่เรากำลังใช้อยู่ค่ะ ... ตัวแรกหลายๆ คนคงจะได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว มันคือ CeraVe ค่ะ ... CeraVe ผลิตโดย CORIA Laboratories ซึ่งทำออกมาไม่กี่ชิ้น และตัวที่เราจะพูดถึง คือ CeraVe Moisturizing Cream และ CeraVe Moisturizing Lotion (นอกจากตัวนี้แล้วเค้ายังมี cleanser ด้วย แต่เรายังไม่เคยใช้เลยค่ะ) ... CeraVe ตัวนี้ดูเหมือนจะออกมาแนวๆ Cetaphil ค่ะ ดูผิวเผินจะเหมือนแฝดกัน แต่ดูส่วนผสมแล้ว คนละเรื่องกันเลยค่ะ ... ในความคิดส่วนตัวเรา เราคิดว่า CeraVe ดีกว่า Cetaphil มากมายค่ะ

จุดขายของ CeraVe เห็นจะเป็นตัว MVE delivery technology ที่เค้าจดสิทธิบัตรไว้ ซึ่งเค้าเคลมว่า ช่วยควบคุมการปล่อย ceramides, hyaluronic acid และ emollients ให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างช้าๆ และมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้น และเนียนนุ่มนานถึง 24 ชั่วโมง ... ส่วนผสมสำคัญๆ ในผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้เห็นจะเป็น ceramides ซึ่งให้ผิวคงความชุ่มชื้น และยังช่วยซ่อมแซมผิวชั้นนอกให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย ... ส่วนตัวถัดมาก็คือ hyaluronic acid ซึ่งทำหน้าที่ดึงความชุ่มชื้นให้กับผิว ... ส่วน glycerin และ dimethicone ก็ช่วยเคลือผิวป้องกันการสูญเสียน้ำ ... และ emollients ช่วยให้ผิวนุ่มและชุ่มชื้น

ความแตกต่างระหว่างตัวครีมกับโลชั่น ที่เห็นได้ชัดคือ ปริมาณ Cetareth-20 และ Cetearyl Alcohol และ ก็เปลี่ยนจาก Petrolatum (วาสลีน หรือ ปริโตรเลียมเจล) เป็น Polyglyceryl-3-Diisosterate แค่นี้เอง ที่เหลือก็คงเป็นภาชนะบรรจุ, ปริมาณน้ำ, ขนาด, และราคา ซึ่งตัวครีมจะราคาแพงกว่าเล็กน้อย ... ตัว Cetareth-20 ก็คือ fatty alcohol ชนิดหนึ่ง ได้มาจาก cetyl alcohol กับ stearyl alcohol (น้ำมันมะพร้าว (coconut oil) กับ ethylene oxide) หน้าที่หลักของมันก็หนีไม่พ้น emollient และ emulsifier เป็นส่วนผสมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเครื่องสำอาง ... ส่วนอีกตัวนึงคือ Petrolatum เป็นตัวเคลือบผิว และปกป้องผิว กับ Polyglyceryl-3-Diisosterate ซึ่ง emollient อีกชนิด ... นั่นก็หมายความว่าตัวโลชั่นมีปริมาณ emollient ในปริมาณที่น้อยกว่าตัวครีมนั่นเอง ซึ่งหากใครผิวมันถึงผิวธรรมดา ตัวโลชั่นก็น่าจะใช้ดีกว่า แต่หากใครผิวแห้งมากๆ ก็น่าจะลองตัวครีมมากกว่า

โลชั่นและครีมตัวนี้ดูจะทำหน้าที่ในฤดูหนาวนี้ได้ดี เว้นแต่ขาด antioxidant ดีๆ ซักตัว ... แต่ก็นั่นแหล่ะ ก็ใช่ว่าครีมที่เราเห็น antioxidants ยาวเป็นหางว่าวจะมีประสิทธิภาพตามส่วนผสมที่เราเห็น (เพราะส่วนผสมพวกนี้ไม่เสถียร และแจกประจุได้ง่าย ทำให้เสื่อมเร็ว) ... หาก moisturizer อุดมไปด้วย antioxidants แต่ไร้ซึ่งส่วนผสมที่ทำให้ผิวนุ่มและคงความชุ่มชื้นให้กับผิว เราว่าผิวแห้งๆ กระด้างๆ จะเอา antioxidants ไปทำอะไรได้

สำหรับตัวเราเอง หนาวนี้ นอกจากจะยังคงใช้น้ำมันธรรมชาติบำรุงผิวหน้าแล้ว เราก็ยังหันมาใจเจ้า CeraVe Moisturizing Lotion ด้วยเหมือนกัน ถามว่าทำไมเลือกใช้ Lotion แทนที่จะใช้ Cream คำตอบแรก คงเป็นที่ว่ามันราคาถูกกว่านิดนึง (ผู้หญิงก็อย่างนี้แหล่ะนะ เห็นแก่ของถูก) อีกย่างคือเรา ชอบขวดปั๊มมากกว่ากระปุก ... แล้วถามว่าทำไมไม่ใช้น้ำมันอย่างเดียว (นวดหน้าตอนผิวหน้าเปียกๆ) คำตอบง่ายๆ ก็คือว่าน้ำมันซึมเข้าผิวได้ยากกกว่า ... แล้วเราก็ค้นพบว่า CeraVe เป็น moisturizer สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และรวดเร็ว (แต่อย่างที่พูดไปคือว่า ตัว lotion มี emollients ไม่เพียงพอสำหรับผิวเรา) ก็เลยเอามาผสมกับน้ำมันสุดโปรดของเรา ... ทาผิวหน้าแล้วรู้สึกว่า มันซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว แล้วผิวก็นุ่มชุ่มชื้นยาวนานมากทีเดียว แถมหน้าไม่มันอีกต่างหาก ... แต่ถ้าไม่ผสมน้ำมันเพิ่มเติม ทาแป๊บเดียวก็รู้สึกว่าผิวตึงๆ มากเลยทีเดียว

วิธีการผสมใช้ ไม่ต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากค่ะ แค่น้ำมันดีๆ ซักตัวที่เหมาะกับผิว เช่น squalane, argan oil, jojoba oil, olive oil หยดซัก 2-3 หยด ใส่มือ แล้วก็ปั๊มโลชั่นใส่มือ นวดๆ ผสมๆ น้ำมันกับโลชั่นในมือให้เข้ากัน แล้วก็ทาหน้าให้ทั่ว ที่เหลือยังทาคอต่อได้อีก ... ซึมเข้าผิวดีมาก ไม่ทิ้งความมัน ... ราคามิตรภาพมากๆ แต่คุณภาพเกินราคาจริงๆ ค่ะ ตอนนี้เราใช้ argan oil นะคะ เพราะ squalane หมด และ argan oil ใช้แทนกันได้ดีเลยทีเดียว (เว้นแต่ว่ามีกลิ่นหน่อย ต่างจาก squalane ซึ่งไม่มีสีไม่มีกลิ่น)

---

ไหนๆ พูดถึงผิวหน้าแล้ว ขอพูดถึงผิวกายกันบ้างสั้นๆ นะคะ ... แต่ว่าขอออกตัวก่อนว่า ถึงแม้อากาศจะหนาวเหน็บแค่ไหน ผิวเราก็ไม่แตกแห้งนะ อย่างมากก็รู้สึกตึงๆ แห้งๆ ที่มือ ไม่รู้ทำไม สงสัยพ่อแม่ให้มา หรือไม่ก็เพราะแม่ชอบให้กินกินผลไม้หลังอาหารทุกมื้อมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็เป็นคนดื่มน้ำเยอะอยู่แล้ว ... เราว่าสำคัญมากนะ อาหารการกินเนี่ย ... นอกจาก Vaseline ขวดโปรดที่หลายๆ คนคงจะรู้ว่ามันคือ HG body lotion ของเราแล้ว ... แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นใช้อย่างอื่นดูบ้าง นั่นก็คือ Aveeno Active Naturals Daily Moisturizing Lotion แต่ส่วนผสมหลักๆ ที่เราคิดว่าดีกับการทาผิวกาย เห็นจะเป็น glycerin กับ petrolatum (คือประมาณว่าเราให้ความชุ่มชื้นผิวจากข้างใน และก็เอา lotion เคลือบเอาไว้ ไม่ให้ความชุ่มชื้นระเหยออกเร็วจนเกินไป) ... เรารู้สึกว่า Aveeno มันช่วยห่อหุ้มผิวให้ความชุ่มชื้นอยู่กับผิวได้ดี และมันไม่เหนอะหนะดีด้วย ... เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง Vaseline ตัวโปรด กับ Aveeno ตัวนี้ เราคิดว่า พูดถึงการให้ความชุ่มชื้นแล้ว Vaseline เหนือกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับมากมาย ... แต่พูดถึงการติดทนนาน ดูเหมือนว่าตัว Aveeno จะเหนือกว่า เป็นต้นว่าเวลาทามือ ซึ่งเราใช้หยิบใช้จับอะไรบ่อยๆ เปียกน้ำบ้าง เรารู้สึกว่า Vaseline จะหลุดออกมาเลย (เมื่อมือถูกน้ำ) แต่ตัว Aveeno จะไม่หลุดออกมาง่ายเหมือน Vaseline ... แต่โดยรวมๆ แล้ว Aveeno ราคาสูงกว่าเท่าตัว ... ก็ถือว่าหยวนๆ กันไป ... เรียกว่าสูสีกัน

พูดถึง Aveeno นี่ ทำ facial skincare ออกมาเยอะแยะไปหมด แต่เราไม่เห็นจะมีอะไรดีซักชิ้นเลย ห่วยแตก ระคายเคือง และแพง ... เรียกว่าไม่ได้เรื่องซักอย่าง ... เราซื้อมาใช้แทบจะทุกชิ้น แต่ไม่เคยได้ใช้ถึง 1/4 ซักครั้งเลย เรียกว่าลงถังขยะหมด ... แต่พอมาถึง body lotion เค้าทำได้ดีทีเดียว คือซึมได้ดี ไม่มัน และชุ่มชื้น คงทนนาน

---

ต่อท้ายด้วย decleor ที่เพิ่งไปได้มาจาก winners ไม่กี่วันก่อนนี้ เพราะเห็นราคาแล้วอดใจไม่ไหวค่ะ ... บรรจุกล่องสวยงามน่าใช้มาก ... ราคาจริง $105 (value $156) แล้วเราได้มา $40 ใครจะอดใจไหว ... เราเลือกเซ็ต Hydrating skincare programme มา ในกล่องมี Aromessence Neroli Essential Serum (5ml) ตัวนี้เราผสมเองใช้ก็ได้ ราคาถูกกว่านี้ หลายสิบเท่าตัว, ตัวถัดมา Hydra Flora Anti-Pollution Flower Nectar Moisturising Cream (50ml) ตัวให้ความชุ่มชื้นก็เห็นจะเป็น glycerin, squalane, และ shea butter ของชอบของเราอยู่แล้ว ที่เหลือก็เป็นพวก plant extracts หลายตัว ยังไม่ได้ใช้เลยค่ะ ... ตัวถัดมาคือ Hydra Floral Anti-Pollution Flower Dew Moisturising Gel-Cream For Eyes (15ml) อันนี้เริ่มใช้ไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังบอกอะไรไม่ได้มาก ... ตัวต่อมาคือ Aroma Night Neroli Essential Night Balm (5ml) อันนี้เราผสมใช้เองได้สบายๆ เช่นกัน แค่ใช้ hazel oil, beeswax, avocado oil แค่นี้ก็ใช้ได้แล้วค่ะ

แล้ววันหลังจะมาเล่าสู่กันฟังว่า สูตรกวนเอง กับสูตรราคาแพงหูฉี่ เหมือนกัน ต่างกันอย่างไรนะคะ (ถ้าไม่ขี้เกียจซะก่อน) ... สำหรับวันนี้เอาแค่นี้ก่อนละกันนะคะ คงจะได้เจอกันอีกเร็วๆ นี้นะคะ ถ้าเราไม่หนีไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาวนี่ซะก่อน ... แล้วคุยกันอีกค่ะ

---

Ingredient Lists

CeraVe Moisturizing Cream (453 g, 16 oz)
Water, Glycerin, Cetareth-20 and Cetearyl Alcohol, Caprylic/Capric Triglyceride, Behentrimonium Methosulfate and Cetearyl Alcohol, Cetyl Alcohol, Petrolatum, Dimethicone, Hyaluronic Acid, Ceramide 1, Ceramide 3, Ceramide 6-II, Cholesterol, Phytosphingosine, Potassium Phosphate, Dipotassium Phosphate, Phenoxyethanol, Methylparaben, Propylparaben, Disodium EDTA, Sodium Lauroyl Lactylate, Carbomer, Xanthan Gum

CeraVe Moisturizing Lotion (355ml, 12 fl oz)
Water, Glycerin, Caprylic/Capric Triglyceride, Behentrimonium Methosulfate and Cetearyl Alcohol, Ceteareth-20 and Cetearyl Alcohol, Cetyl Alcohol, Polyglyceryl-3-Diisosterate, Dimethicone, Hyaluronic Acid, Ceramide 1, Ceramide 3, Ceramide 6-II, Cholesterol, Phytosphingosine, Potassium Phosphate, Dipotassium Phosphate, Methylparaben, Propylparaben, Disodium EDTA, Sodium Lauroyl Lactylate, Polysorbate 20, Carbomer, Xanthan Gum

Aveeno Active Naturals Daily Moisturizing Lotion (532 ml)
Water, Glycerin, Distearyldimonium Chloride, Petrolatum, Isopropyl Palmitate, Cetyl Alcohol, Dimethicone, Colloidal Oatmeal, Benzyl Alcohol, Sodium Chloride.