สืบเนื่องมาจาก เรื่อง อินซูลิน ความแก่ และน้ำหนัก ... เราก็เลยฮึดขึ้นมา ... จะต้องทดสอบกับตัวเองอย่างจริงๆ จัง ... ทดสอบกับตัวเองไม่พอ บังคับให้คนอื่นทดสอบด้วยกัน

เกริ่นเรื่องอินซูลินนิดนึง คือ ง่ายๆ คือ เราจะปลุกอินซูลินให้ตื่นช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าใครอยากลดน้ำหนัก ก็ไม่ต้องปลุกมันซะเลย

เราลองกินและสังเกตุดู ก็แบ่งเป็นสามกลุ่ม คือ ตื่นมาแล้วกิน (1) แป้งน้ำตาล, (2) ผักอย่างเดียว, (3) ไขมันและโปรตีน

กลุ่มแรก กินแป้งและน้ำตาลตอนเช้า



1. ซีเรียลไฟเบอร์สูง นมไขมัน 1% กาแฟดำ
(หลังจากกินแล้ว ไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ต้องหาอะไรกิน)

2. ซีเรียลไฟเบอร์สูง นมไขมัน 3.25% (นมทั่วไป) กาแฟดำ
(ถือว่าหนักท้องใช้ได้ อยู่ได้นานกว่าหน่อย แต่ 3 ชม ก็ต้องหาอะไรโซ้ย)

3. ขนมปัง 100% whole wheat 2 แผ่น ทาเนย นมไขมัน 1% กาแฟดำ
(ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็รู้สึกหิว ในหัวคิดถึงแต่ของหวานๆ)

4. ข้าวสวย (ไม่กี่ช้อน) กับกะเพราหมูสับ กาแฟดำ
(อันนี้อยู่ท้องนานหน่อย แต่ระหว่างวันก็อยากกินของหวานบ่อยๆ)

5. ราดหน้าผักเยอะๆ เส้นน้อยๆ กาแฟดำ
(อันนี้อาการหนักมาก มันอยู่ท้องก็จริง ... แต่ก็จะอยากกินโน่นกินนี่ระหว่างวันตลอด)
6. ขนมปังทอดสองแผ่นชุบไข่ กาแฟดำ
(นี่ก็พอๆ กัน แต่จะหนักกว่า toast อยู่ได้ราวๆ 3 ชม แล้วก็ต้องหาอะไรหนักๆ หรือหวานๆ กิน)

จากการที่เราลองๆ มา และสังเกตุดู ... ถ้ากินแป้งหรือน้ำตาลตอนเช้า แม้กระทั่งกาแฟใส่น้ำตาล หรือโอวัลติน แก้วเดียว ... ทั้งวันพล่าน อยากกินโน่นกินนี่ไปหมด ... มีวันนึงวิ่งไปซื้อพวกทาร์ดมาโหลนึง ยังไม่ทันออกจากร้าน จับยัดปาก แล้วก็นึกถึงพวกกาแฟเย็น ไอติม สาระพัด หิวได้ทั้งวัน ... วันนึงกินราดหน้าตอน branch (มื้อเช้ากลางวันรวบ) ตอนกินเสร็จเนี่ย โคตรอิ่มเลยนะ บ่ายๆ แวะไปซื้อพวกเค้กขนมปัง ซัดไปกี่ชิ้นก็ไม่รู้ เห็นพวกขนมพวกนี้แล้วมือสั่นงั่กๆๆ พอได้กินแล้วรู้สึก high ขึ้นมาเลย

กินแบบนี้ น้ำหนักจะขึ้นๆ ลงๆ ไม่คงที่

ปล สำหรับกาแฟดำ (ไม่ใส่น้ำตาล) นี่ไม่เกี่ยวนะ เราติดเองแหล่ะ วันไหนไม่ดื่มก็จะลงแดงเอา

กลุ่มสอง ผักล้วน



1. ยำคะน้า

2. ก๋วยเตี๋ยวคะน้าไม่ใส่เส้น

3. ส้มตำแครอทใส่ถั่ว

4. สลัดผักพวก lettuce + spinach

ถ้าตื่นมาแล้วกินพวกนี้ ไม่ไหว มื่อสั่น ในหัวคิดแต่ว่า เมือไหร่จะถึงเวลากินสำหรับมือต่อไป ... เราทนไม่ไหวอ่ะ มันทรมาน ไม่เวิร์คสำหรับเราเลย ... พอความอดทนถึงขีดสุด ตะบะแตก กินแหลกอีก น้ำหนักพุ่งพรวด

กลุ่มสาม ไขมันและโปรตีน



1. นมไขมัน 3.25% กาแฟดำ
(อันนี้มันอยู่ท้องไม่เท่าไหร่)

2. ไข่ดาวสองฟองเหยาะแมกกี้ นมไขมัน 3.25% กาแฟดำ
(อันนี้อยู่ท้องได้ 3-4 ชม เห็นจะได้)

3. ไส้กรอกเนื้อสองอัน (ไม่ใช่ไส้กรอกแป้งแบบพวกศรีไทยนะคะ) เอามาอบ กาแฟดำ
(อันนี้ก็อยู่ท้องได้ราวๆ 3-4 ชม เหมือนกัน)

4. เชดด้าร์ชีสสองแผ่น นมไขมัน 3.25%
(อันนี้อยู่ท้องนานมากๆ เลย 4-5 ชม ไม่กินอะไรยังไหวเลย แต่ไม่ดีต่อสุขภาพ ต้องกินอะไรหน่อย)

จากการที่กินแบบกินไขมันตอนเช้า เรารู้สึกได้ว่า พอกินแล้วมันก็อิ่ม นอกจากอิ่มแล้วยังทำให้รู้ส้ึกไม่หิวจุกๆ จิก ไม่อยากกินไอติม ไม่อยากกินพวกเค้ก เครื่องดื่มหวาน แม้กระทั่งผลไม้หวานๆ ยังไม่นึกถึงเลย ... ที่สำคัญคือ น้ำหนักไม่ขึ้นเลย

หลังๆ เราก็เลยกินเชดด้าร์สองแผ่น แล้วก็นม ... มันกินง่ายดี เตรียมหั่นชีสไว้ ตื่นมาปุ๊บ เทนมใส่แก้ว กิน fish oil (รวดเดียวเลย) แล้วก็เอาชีสมาเคี้ยวๆ ดื่มนม (อร่อยสุดยอด) ... พอหมดสองแผ่น ... อิ่มแปร้เลย ... แล้ววันนั้นทั้งวันจะไม่หิวอะไรเลย



แต่เราก็จะหาอะไรกินเพิ่มเติม (ทั้งๆ ที่ก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่) เราก็กินพวก ยำผัก ลาบผักเยอะๆ แกงส้ม รึไม่ก็พวกไก่ย่าง เนื้อย่าง อะไรพวกนี้ ... คือพอกินชีสแล้ว มันไม่นึกอยากกินอะไรมันๆ อีก ทั้งวันเลย (แค่คิดก็รู้สึกเลี่ยนแล้ว) ... ในหัวจะนึกถึงพวกแกงส้ม ผักต้มอะไรทำนองนี้ แล้วไม่ค่อยอยากกินข้าวด้วย ... พวกขนมหวานเนี่ย ไม่รู้สึกอยากแตะเลย ไอตงไอติม ไม่อยู่ในหัวเลย



ที่สำคัญแบบนี้เนี่ย น้ำหนักลดลงไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ดูผอมลงนะคะ -_-" ... แต่มันก็ไม่ลดไปถึงไหนนะคะ เพราะเราไม่ชอบออกกำลังกาย คือ หลังจากมือหนัก ก็จะออกไปเดินย่อยอาหาร แค่นี้เอง

ตอนนี้ก็เลยกินชีสกับนมเป็นอาหารเช้าแบบนี้ติดๆ กันมาพักนึงแล้ว วันๆ ไม่หิวอะไรเท่าไหร่ ... รู้สึกผิวพรรณมันเปล่งปลั่งดีด้วย ... ชอบ ^_^

อันนี้เป็นนมที่เรากิน แบบไขมันเต็มๆ เลย ... แก้วนึงก็ราวๆ 160 calories ... นมที่นี่ใส่ไวตามินดีด้วย เพราะไม่ค่อยได้ตากแดดกัน เลยต้องเอาไวตามินดีเสริมในนม (เหมือนเมืองไทยเอาไอโอโดีใส่ในเกลืออ่ะ)



ส่วนอันนี้เป็นชีสที่เรากินๆ อยู่



อันนี้ซื้อแบบ 2 ปีมาลองกินดู



ความหนา 1cm ก็ได้รับประมาณ 120 calories
ก้อนนึงก็ 1,200 calories ... ก้อนนึงเรากินมากกว่า 10 ครั้งอีก (ครั้งนึงก็ไม่เกิน 120 calories)

ใครอยากลองก็ไม่ว่ากันนะ ... แต่จำไว้ว่า ... กินไขมันแล้วกินพวกแป้งน้ำตาลมากก็ยังจะทำให้อ้วนได้อยู่ดี

ข้อดีของมันคือ เวลากินแล้ว มันช่วยให้เราไม่ค่อยอยากอาหาร ไม่อยากพวกของหวาน พวกแป้ง น้ำตาลทั้งหลาย ... ก็เลยทำให้น้ำหนักไม่ขึ้น (เพราะพวกไขมันพวกนี้ เรากินมากเกินไปไม่ได้อยู่แล้ว พอมันมากมันก็จะรู้สึกเอียนอิ่มไปเอง ทำให้เรามักจะไม่กินมากเกินไป) ... นอกจากจะกินไขมันแล้วก็ต้องลดแป้งและน้ำตาลด้วย

ยังไง science มันคือ science ก็จริง ... แต่คนเราก็มี life style และ กรรมพันธุ์ ที่แตกต่างกันออกไปนะคะ ก็คงต้องปรับหากันเอาเองด้วย ว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเอง

อย่างเมืองไทย ชีสอาจจะแพง หรือหายาก (รึเปล่า) ... ก็ลองปรับเปลียนดู ... อย่างเช่น ไข่คน กับนมซักแก้ว



หรือถ้าขี้เกียจ อาจจะลองพวก ไก่ย่าง ... สำหรับเรา มันมีไก่อบเป็นตัวขาย ก็ซื้อมาไว้ในตู้เย็น เอามาฉีกๆ เช้ามาก็โยนเข้าไมโครเวฟ ก็กินได้เลย ประหยัดเวลามาก



หรือจะเหมากินสองอย่างเลยก็ยังไหว ^___^ (อันนี้เรากินเช้านี้)



เอาเป็นว่า เราเห็นด้วยกับทฤษฎีอินซูลินหล่ะ ^_^ ว่าถ้าเราไม่ปลุกให้มันตื่นเร็วเกินไป เราก็จะไม่ค่อยหิวอะไรบ่อยๆ ค่ะ

Cellulite

แวะเข้ามาเพิ่มเติมนะคะ (เห็นกลัวกันจัง)

จริงๆ cellulite มันไม่ได้เกี่ยวกับการกินไขมันในในระดับนี้เลยนะคะ

มาลองดูไขมันทีี่เรากิน

ไขมัน 12% จากนม
ไขมัน 14% จากชีส

ซึ่งในนั้นแบ่งเป็น

ไขมันอ่ิมตัว 31% จากนม
ไขมันอิ่มตัว 32% จากชีส

% ที่เห็นเนี่ย คือปริมาณที่เค้าแนะนำให้เรากินต่อวัน ... คือวันนึงควรกิน 100% แต่ไขมันจากมือเช้าที่เรากิน มันแค่ 26% เองค่ะ ... ซึ่งในนันเป็นไขมันอิ่มตัว 62% ค่ะ (อย่าเอามาบวกกันนะคะ) ... ไม่ว่าจะดูยังไงก็ยังไม่เกินปริมาณที่แนะนำให้กินในแต่ละวันนะคะ

แล้วอีกอย่าง มันไม่ได้มีหลักฐานใดๆ บ่งชัดว่า การกินเป็นสาเหตุของ cellulite นะคะ ... นอกจากว่า เราจะอ้วน แล้วผิวแตกลาย ... ตราบใดที่เราไม่ได้เป็นกรรมพันธ์ุ และก็ไม่ได้อ้วนจนผิวแตก การกินไขมันเท่านี้ ไม่ได้ทำให้อ้วนนะคะ

แล้วอีกอย่าง บางคนก็เข้าใจผิดว่า หากลดน้ำหนัก แล้ว cellulite จะหด กินดีๆ แล้วจะจางหาย นั่นก็ไม่ได้เกี่ยวเช่นกัน มันแค่ทำให้มองเห็นไม่ชัดแค่นั้นเอง

เราว่ากินไขมันจากนมแล้วเกิด cellulite มันเป็น stereotype มากกว่า ... สาเหตุหลักของ cellulite ส่วนมากจะมาจากกรรมพันธ์ุแล้วก็การกินอาหารที่มี fibre ต่ำ ทำให้ระบบการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายไม่ดีค่ะ ... ซึ่งเราก็กิน fibre ครบถ้วน (เกินด้วยซ้ำ)

นมมีประโยชน์ออกค่ะ ... ชีสมันก็นมอ่ะนะคะ ... บรรพบุรุษ (ของฝรั่ง) เค้าก็กินนมกินชีส มาแต่ไหนแต่ไร มนุษย์เราถึงได้พัฒนามาจนถึงทุกวันนี้

อย่าไปกลัวกันเลยค่ะ