อากาศที่เมืองไทยคงจะร้อนน่าดู (แต่อากาศที่นี่กำลังเย็นสบายเลย ราวๆ 5 C ฝนตกนิดหน่อย)

... แต่ก็ดีนะคะ ได้หยุดยาวๆ กัน

ช่วงที่ผ่านมา เราก็ shop ไปไม่ใช่น้อย ... เอามา review ให้ฟังกัน ... แต่ ไม่ถ่ายรุปนะ ... ขี้เกียจ ... เอารูปใน net มาละกัน ... อยากมาเล่า เพราะว่า ได้ไปตกหลุมรักครีมเข้าตัวนึง (อีกแล้ว)

หลังจากที่ครีม SkinMedica หมดไป ... เราก็ใช้ Clarins (สีฟ้า) ต่อ ... ใช้ได้ซักพัก ... หน้าชักจะแห้งๆ ... คือครีมมันไม่ยอมซึม ... ไวตามิซีก็หมด ... ซักพัก ก็เริ่มทนไม่ไหว คันไม้คันมือ ... ก็เลย shop กระจายไปเลย

ตัวแรกที่ซือมาก็คือ Avene Clean-AC Anti-irritating Hydrating Treatment



ก็ซื้อมาลองเพราะมันลดราคา ... ก็ตั้งใจว่าจะเอาอะไรที่มันให้ความชุ่มชื้นผิวพอประมาณ ไม่เหนอะ ตัวนี้ก็โอเค ผ่าน ... บรรจุในหลอด น่าใช้ดี (มันสะอาดดี) ... นอกจากน้ำมัน safflower oil แล้วก็มี shea butter ผสมนิดหน่อย ... ก็แค่นั้น

เนื้อครีมค่อนข้างเหลวทีเดียว ... ตอนแรกใช้ ทาปุ๋บ โอ๊ย ... หน้ามันมากๆๆ ... มันแบบน้ำมันเคลือบหน้าเลย ... แต่พอไม่ถึงนาทีผ่านไป ... เอ๊ะ มันซึมหายไปเกือบหมดเลย ... ซักพัก ซึมหายเกลี้ยงเลย ไม่ทิ้งคราบมันให้เห็นเลย ... แต่อากาศที่นี่ยังเย็นๆ อยู่ ... ทากลางคืนเนีย ตื่นมาหน้ารู้สึกแห้งตึงอยู่บ้าง ... เราว่าน่าจะเหมาะกับใช้กลางวัน หรือว่าในสภาพอากาศที่ไม่แห้งแบบนี้

โดยรวม เป็นครีมที่อ่อนโยนมากทีเดียว ไม่อุดตัน ให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างเดียว ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ... แต่ว่าก็ยังขาดตัวที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิว คนผิวแห้งๆ อาจจะพบว่าใช้แล้วซักพักหน้าจะแห้งตึง

ใครที่ผิวมัน หรือผิวค่อนข้างมัน และผิวบอบบางแพ้ง่าย ... ตัวนี้น่าสนใจดีค่ะ

ตัวต่อมา จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อตัวนี้ ... คือกำลังมองหา night cream ดีๆ ซักตัว ที่เอามาทาทับ serum ... ไปเดินเล่นที่ Sears ก็ไปจ๊ะเอ๋เอา giftset อันนึง ราคาถูกใจมาก 38CAD ... ได้อะไรมาบ้าง ...

Lancome Nutrix Royal Intense Lipid Repair Cream For Dry To Very Dry Skin
Lancome Mousse Confort Delicate Creamy Foaming Cleanser
Lancome Tonique Confort Rehydrating Skincare Lotion
Lancome Hydra Intense Hydrating Gel Mask with Natural Water Captors

ก็โอเคอ่ะนะ ... ตัว Nutrix เอามาใช้เป็น night cream ได้เลย ... ส่วนตัว cleanser กับ toner เราก็ชอบอยู่แล้ว (ไม่มีอะไรตื่นเต้น) ... แล้วก็ยังได้ mask อีกตัวมาลองด้วย ... แล้วยังได้กระเป๋าสีชมพูน่ารักมาอีก 1 ใบ ... ขี้เกียจถ่ายรูป ... scanned กล่องมาให้ดูละกัน

พูดถึงตัว Lancome Hydra Intense Hydrating Gel Mask with Natural Water Captors ก่อนละกัน



ตัวนี้ ไม่ได้อยากได้ตั้งแต่แรก เพราะส่วนผสมมันมี alcohol เยอะมาก แล้วเราก็ไม่ถูกโรคกับ alcohol อยู่แล้วด้วย ... แต่ก็ชุดนี้มา (เพราะมันถูกดี) ... เป็น mask ที่ไร้สาระมาก ... อ่านชือ product แล้วเห็นส่วนผสม อยากจะร้องออกมาว่า what a f@#&! ... ส่วนผสมก็ลองหาดูใน phoebe.pnnp.ca ละกัน

พอบีบออกมา ... เนื้อเจลใส เหนียว (ประมาณกาว) ... หลังล้างหน้าแล้ว ... ซับหน้าให้เกือบแห้ง ... แล้วก็บีบกาวอันนี้ทาหน้า ... มันจะแบบเหนียวๆ กลิ่นน้ำหอมแรงๆ (แต่ก็หอมนะ) ... พอกหน้าแล้วเค้าบอกว่าให้ทิ้งไว้ 5 นาที ... ไม่ถึงนาทีแห้งเลย ... แต่ยังเหนียวๆ หนาๆ เคลือบผิวอยู่ ... พอ 5 นาทีผ่านไป ... จะไปล้างออก ... คิดว่ามันก็ประมาณ mask อืนๆ แบบที่ต้องล้างออกทั่วๆ ไป ... เอาน้ำลูบๆ ไม่ออกครับ ... ลองนึกภาพเอากาวมาทาหน้า พอมันแห้ง แล้วมันเอาไม่ออก ... สุดยอดแห่งความเหนียว ... ต้องเอาจอบเสียมมาขูดมาถากออก (ไม่ขนาดนั้น) ... เราก็เลยต้องเอา pond's wash cloth มาเช็ดออก (เช็ดเฉยๆ ไม่ยอมออก ซักเท่าไหร่ ... เหมือนเอาผ้าไปละเลงกับกาว เหนียวไปกันใหญ่) ต้องเอาชุบน้ำเยอะๆ แล้วเช็ดออก แล้วเอาผ้าล้างน้ำ เอาความเหนียวออก แล้วก็เอามาเช็ดหน้าเรื่อยๆ ... ซักพัก ก็หมด ... สรุปคือ หลังจากพอกหน้าเสร็จ ... แมร่งไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ... นอกจากความยากลำบากที่เราเพิ่งทารุนหน้า เพื่อจะเอาไอ้ mask ออกจากหน้า ... ยังคิดๆ อยู่เลยเนี่ย ... ตั้ง 60ml จะใช้อีกดีมั๊ยเนีย ... ส่วนผสมเองก็ไร้สาระสุดจะบรรยาย ... เฮ้อ

สรุปเลยละกัน ... ใครมองหา mask ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ... ตัวนี้ห่างไกลมาก

ตัวต่อมา Lancome Nutrix Royal Intense Lipid Repair Cream For Dry To Very Dry Skin



เป็นครีมที่หนักประมาณ หนึ่งแสนตัน ... คือว่ามันหนักมากๆ ... จริงๆ ก่อนซื้อเราก็รู้อยู่แล้วล่ะ ว่ามันหนักมาก ... กะจะเอามาใช้เป็น night cream ... ส่วนผสมก็เต็มไปด้วยตัวที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว แล้วมีส่วนผสมที่ช่วยเคลือบผิว กักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย ... ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นหลักๆ ก็คื squalane, glycerin, mineral oil, petrolatum, shea butter, beeswax ... คือ ยกขบวนกันมากันครบ ... ปกติผิวเราจะค่อนข้างชอบ squalane, petrolatum, shea butter ทีเดียว ... ก็เลยตัดสินใจซื้อ ... ก่อนที่จะซื้อตัวนี้มา ... ก่อนนอน เราทา vitmain c serum แล้วทา pure petrolatum (วาสลีน) ทับ ... จบ ... มันก็โอเคดี ตื่นมาหน้าชุ่มชื้นดี (แต่มันแอบน่าเบื่อไป) ... ใช้นานๆ ก็อาจจะไม่ดี เพราะว่ามันขาดพวก water binder ดีๆไป

ก็อย่างที่บอก ... เป็นครีมที่หนักมาก ... ใครผิวไม่แห้งจริงๆ ก็หลบไปได้เลย ... แต่สำหรับเรา ... มันก็โอเคนะ ... ทาแล้วหน้ามัน ... ตื่นมาก็หน้ามัน แต่หน้าก็ชุ่มชื้นดี

โดยรวมก็รู้สึกเฉยๆ ... คงไม่ซื้อต่ออีก ... เพราะมีตัวที่เราชอบมากกว่า (ที่ทำหน้าที่เดียวกัน) ... แล้วราคาถูกกว่า ... แล้วก็กลายเป็น HG cream ของเราไปอีกตัวนึงเรียบร้อยแล้ว

สำหรับ toner สีชมพู กับ cleanser สีชมพู ... คงไม่ต้องพุดถึง ... เราพล่ามไปมากแล้ว

ส่วนอีกตัวที่เราซื้อก็คือ Avalon Organics Vitamin C Serum (อีกแล้ว) ... ซื้อมานับไม่ถ้วนแล้วหล่ะ ... ใช้ทีไรก็ไม่เคยผิดหวังซักที ... แต่เราก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะว่าเป็นคนขี้เบื่อ

ต่อมา ... อันนี้ proudly present มากเลย

ชื่อของครีมตัวนี้คือ La Roche Posay Nutritic 5%



Nutritic มี 2 รุ่น คือ 2.5% กับ 5% แต่เราว่าตัว 5% น่าใช้กว่า อ่อนโยนกว่า

ดูจากส่วนผสมแล้ว ดูเรียบๆ ง่ายๆ พื้นๆ ... อย่างที่บอก ... เรามองหา night cream พื่นๆ ง่ายๆ ซักตัว ที่เหมาะกับผิวธรรมดาและผิวแห้ง ทาแล้วตื่นขึ้นมา หน้านุ่มชุ่มชื้น แต่ไม่มันแผลบ ล้างออกง่าย ไม่เหนียว ... ที่สำคัญ ราคามิตรภาพ ... จะให้ดีมาเป็นหลอด จะสุดยอดไปเลย

พอได้เจอะเจอกับ Nutritic 5% ... เจ้าตัวนี้แซงทางโค้งมาเลย กลายเป็น HG moisturizer เราไป รึเกือบ HG ก็ว่าได้ ... ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะชอบซักเท่าไหร่ (เดาว่ามันคงพื้นๆ) ... แต่ปรากฏว่า กลายเป็นตัวโปรดไปเลย ... ถือว่าชอบที่สุดใน LRP line เลยก็ว่าได้ ... พูดถึงส่วนผสม ก็โอเค คือ ให้ความชุ่มชื้น ไม่อุดตันมากเลย แต่แนะนำให้หา sample มาลองก่อน เพราะบางคนอาจจะแพ้ synthetic wax แต่สำหรับเราไม่มีปัญหา

พอเปิดฝาหลอดออกมา ... บีบใส่นิ้ว ... เนื้อครีมไม่เหนียวมาก แต่ก็ไม่เหลวมาก ... พอทาลงไปบนผิว ... กลิ่นหอมอ่อนๆ มันชั่งทำให้เคลิบเคลิ้มดีมากเลย ... กลิ่นห๊อมหอมล่ะ (ปกติเราไม่ค่อยหลงกลิ่นของครีมซักเท่าไหร่ ... รึเปล่า) ... แต่กลิ่นครีมตัวนี้ มันหอมๆ สะอาดๆ บอกไม่ถูก กลินอ่อนๆ ไม่แรง ... เอาเป็นว่าชอบละกัน ... ต่อ ... พอทาลงไปแล้ว ... ครีมไม่ทำให้หน้ามันแบบเยิ้มๆ เลย (ตอนแรกก็แปลกใจ และแอบดีใจอยู่เหมือนกัน) ... เนื่อครีมมันนุ่มๆ เนียนๆ ดี ... แล้วซักพักก็รู้สึกได้ว่ามันซึมเข้าผิวดีใช้ได้เลย ... ชอบความรู้สึกที่ทาครีมลงไปมาก

ทา serum ดีๆ ก่อน แล้วตามด้วยครีมตัวนี้ ก่อนนอน ... ตื่นมา ผิวหน้าชุ่มชื้นมาก หน้าไม่มันแผลบด้วย ... แถมล้างหน้าง่ายมากด้วย ... ไม่รู้เหมือนเรากับบ้างรึเปล่า ... night cream บางตัวล้างยากมาก ... ใช้ cleanser อ่อนๆ แล้วเหมือนจะล้างไม่ออกเท่าไหร่ (คือ night cream ที่ฉาบไว้มันยังอยู่) ... แต่ตัวนี้ไม่เหมือนใคร ... ล้างออกง่าย (น่าจะเป็นเพราะมันซึมเข้าผิว ไม่มีอะไรเหลือเคลือบผิวไว้มาก)

อยากให้หลายๆ คนลองใช้กัน (เพราะเราชอบ ... อิๆ) ... เราว่าตัว 5% ดูน่าใช้กว่า ... แล้วเราก็คิดว่าคนผิวมันน่าจะใช้ได้ด้วยนะ (แต่ใช้ได้แต่กลางคืนนะ) ... ส่วนคนผิวแห้งมากๆ ... อาจจะใช้กลางวันได้ด้วย ... ตอนนี้เทใจให้ไปเต็มๆ เลย

เกือบหมดแล้ว ... ตัวสุดท้าย ... ตอนแรกกะจะหาซื้อ eye cream มาใช้ ... ก็เดินไปเดินมาทั่ว drugstore แล้ว ... ก็ไปจบลงตรง Burt's Bees Radiance with Royal Jelly ซึ่งเพิ่งเคยเห็นใน store นี้... ก็หยิบ eye cream ขึ้นมา อ่านส่วนผสม ... มันก็โอเคนะ ... จะไปจ่ายเงินแล้วหล่ะ (15ml, 24CAD) ... แต่ดันไปหยิบตัว Day and night cream ของ line Royal Jelley มาอ่านๆ ดูด้วย ... ตัว night cream ก็งั้นๆ นะ ... ส่วนตัว day cream ... เอ๊ะ ส่วนผสมมันละม้ายคล้ายกับ eye cream มากๆ ... ยังกับตักออกมาจากหม้อเดียวกันเลย ... แต่ไอ้เจ้า day cream มัน 60ml ราคา 24CAD เหมือนกัน ... ปริมาณมากกว่าตั้ง 4 เท่า ... จะซือกระปุกเล็กทำด๋อยอะไร (ตอนนั้นในหัวเราคิดแบบนั้นอ่ะ) ... ก็เลย ... เอาก็เอาวะ ... จะจ่ายแพงกว่าทำไม ... ในที่สุดก็หยิบตัว day cream มา

Burt's Bees Radiance Day Creme with Royal Jelly



ส่วนผสมก็มีน้ำมันงา น้ำมันพืช น้ำมันระหุ่ง เป็นหลัก แล้วที่เหลือก็เป็นพวก thickener แล้วก็ plant extract ... แล้วก็มีพวก plant oils ที่ใช้เป็นน้ำหอมด้วย ... คนผิวระคายเคืองง่ายๆ อาจจะไม่ปลื้มซักเท่าไหร่ ... แล้วก็มี kaolin ที่เป็นตัวดูดความมันด้วย ... คนผิวแห้งมากๆ อาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ ... แต่ช่วงนี้ผิวเราก็ค่อนข้างแห้งนะ ... ใช้แล้วก็ไม่รู้สึกแห้งตึงอะไร ... ก็เราซื้อมาเพื่อจะใช้เป็น eye cream นิ ... พอเปิดกระปุกมา ... มันอลังกาลกว่า eye cream ที่เคยใช้มากนัก ... ก็เลยจกทาทั้งหน้าเลย ... กลิ่นหอมแต่เราไม่ชอบนะ ... มันหอมก็จริง แต่ไม่ใช่เสป็คเรา ... กลิ่นมันก็เลยกวนใจเราเล็กน้อย ... ทาใต้ตาได้ไม่มีปัญหา ไม่แสบตา ไม่ทำให้คอนแทคเลนเป็นเมือกๆ มัวๆ เหมือน eye cream บางตัว ... ซึ่มเร็ว (ไม่รู้ว่ามันซึมรึเพราะ kaolin) ... ทาแล้วไม่ทำให้หน้ามันแผลบเหมือน Burt's Bees ตัวอื่นๆ ... อ้อ เนื้อครีมค่อนข้างเหลวไม่ waxy เหมือนหลายๆ แต่ก็ไม่เหลวจนเกินไป ... โดยรวมถือว่าประทับใจระดับนึง ผลการใช้ระยะยาวก็คงจะไม่ได้หวังอะไร ... แค่ไม่ทำให้ผิวเราแห้งเหี่ยวก็พอ ... เราว่าคนผิวค่อนข้างมันหรือเป็นสิว อาจจะลองใช้ตัวนี้เป็น night cream ดูก็ได้ (น่าใช้กว่าตัว night cream อีก)

โดยรวม ก็ถือว่าเป็นครีมที่ค่อนข้างใช้ได้ ... ราคาไม่แพงนัก ... ใครรักธรรมชาติ ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวจาก Burt's Bees ที่น่าลอง


UPDATE: นิดหน่อยๆ ... เจ้าครีม burt's bees ตัวนี้ ... ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับแป้งฝุ่นเท่าไหร่ ... คือมันทาแล้วไม่ค่อยเนียนยังไงบอกไม่ถูก ... คงเป็นเพราะ wax มันทำให้อาการหนืดๆ แป้งก็ฝุ่นก็เลยไปเกาะกลุ่มกัน ... เหมาะกับเอาไว้ใช้ทาอยู่บ้านไม่ทาแป้งแต่งหน้ามากกว่า

หมดแล้วล่ะ ... shopping งวดนี้ ... พอหอมปากหอมคอ

อ้อ ... เรือง phoebe.pnnp.ca นิดหน่อย ... ใครที่แวะเข้าไปเยี่ยมเรา ... อาจจะสังเกตเห็น ธงชาติ อังกฤษกับไทย ตรงมุมขวาบน ... ลองเอา mouse ไปชี้ดู ... ง่ายๆ คือ เลือกภาษานั่นเอง ... ก็เน้นไปที่ส่วนของ review (ซึ่งทำไปไม่กี่อันเอง ... หวังว่าจะค่อยๆ เอาใส่ไปเรือยๆ ก็ลองเล่นกันดูนะคะ ... ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันอย่างล้นหลามนะคะ

คิดถึงสงกรานต์เมืองไทยจังเลย ... เมือก่อนตอนอยู่เมืองไทย ... ที่บ้านเราจะขับรถขึ้นไปเชียงใหม่กันประจำเลย ... ไปเล่นน้ำกัน (เพราะน้ำมันเยอะดี แล้วก็ไม่มีแป้งด้วย) ... ว้า อยากสาดน้ำจัง T_T

สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ