Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
My Japanese Creams


วันนี้เป็นวันพักผ่อน ... เอาครีมยุ่น 3 ตัวนี้มารีวิวหน่อยดีกว่า ... จริงๆยังใช้ไม่หมดซักกะตัวหรอก แต่ก็เอามารีวิวแล้วหล่ะ (เพราะคงใช้ไม่หมดง่าย ๆ T_T) ... ตัวแรกนี่พื้นๆ ราคาไม่แพง ส่วนอีกสองตัวนี้ชื่อเสียงเค้าโด่งดัง (รึเปล่า?) และเราก็คั่นเนื้อคั่นตัวอยากลองใช้มานาาาาาาาาาาาานมาาาาาาาาาาาาาาาาก ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ลองซักที





Hadalabo Hyaluronic Cream



ตัวแรกมีชื่อเสียงเรียงนามว่า Hadalabo Hyaluronic Cream (หรืออะไรทำนองนี้แหล่ะ) ... เป็นครีมราคามิตรภาพ เน้นให้ความชุ่มชื้นและกักเก็บความชุ่มชื้นอย่างเดียว ... เนื้อครีมสีขาว เหลวๆ ยังไงบอกไม่ถูก เหลวเกินกว่าจะเอามาใส่กระปุก เอานิ้วจกลงไปแล้วมันไม่ค่อยติดขึ้นมา ไม่มีน้ำหอม ... เราซื้อตอนไปญี่ปุ่นวันแรกเลย เพราะหน้าแห้งมากๆๆๆๆ ราคาเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว แต่ว่าไม่แพงเลย ... ตอนนี้ก็ยังใช้ไม่หมดซักที จริงๆ ใช้แล้วผิวหน้าหายแห้งตึงดี แต่ไม่ชอบความรู้สึกเวลาทาหน้าเลย ... เวลาทารู้สึกลื่นๆ ดีอยู่ แต่เราเดาว่าเค้าคงใส่ glycerin มากไปหน่อย ทาแล้วเหมือนเอา glycerin หรือ น้ำเชื่อม ทาหน้า คือ มันจะเหนอะๆ แต่ไม่รู้สึกว่ามันหนา ... ทำให้ทาแล้วแต่งหน้าไม่ได้อ่ะ ใช้ได้แต่กลางคืน ... อีกอย่างเราก็ไม่แน่ใจว่ามันซึมได้ดีแค่ไหน คือ ทาแล้วมันไม่ได้รู้สึกว่า หน้าแห้งทะเลทรายกลับกลายเป็นนุ่มชุ่มชื้น ... เพียงแต่รู้สึกว่าหน้าไม่แห้ง เวลายิ้มไม่รู้สึกตึงๆ เท่านั้นเอง ... ถ้าผิวแห้งนิดหน่อยน่าจะเหมาะกว่า

ถ้าใครไม่ติดว่ามันเหนอะๆ อยากหาอะไรราคาถูกประเป๋า ที่ให้ความชุ่มชื้นผิว อ่อนโยนกับผิว ไม่ระคายเคือง ตัวนี้ก็ถือว่าโอเคค่ะ แต่ถ้าต้องการมากกว่านี้ คงต้องมองหาตัวอื่นค่ะ

Water, Glycerin, Dipropylene Glycol, Diglycerin, Squalane, Caprylic/Capric Triglyceride, Sodium Acetylated Hyaluronate, Hyaluronic Acid, Phytosteryl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate, Carbomer, Stearyl Alcohol, Behenyl Alcohol, Peg-20 Sorbitan Isostearate, Glyceryl Stearate, Tea, Disodium Edta, Dimethicone, Methylparaben, Propylparaben

ข้อดี: อ่อนโยน ให้ความชุ่มชื้น กักเก็บความชุ่มชื้น ไม่อุดตัน
ข้อเสีย: เหนียวเหนอะหนะแบบน้ำเชื่อม ไม่ใช่ครีมครอบจักรวาล
เหมาะกับ: ผิวธรรมดา ผิวแห้ง
ราคา: ถูก
คะแนน: 3.0/5
ซื้อต่อ: ไม่ (เพราะหาซื้อยาก)



Kanebo Blanchir Whitening Night Conditioner Moisture



ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างของครีมตัวนี้มานาาาาาน นานจนจำไม่ได้ อยากลิ้มอยากลองมานาน แต่ก็ไม่ได้ซื้อซักที จนในที่สุดก็ซื้อมาจนได้ ซื้อมาก็ไม่รอลิงรอเรือ เปิดใช้เลย ... ราคาจำไม่ได้แฮะ ... กระปุกสีแดง ฝาขาวแดง ความรู้สึกพลาสติก กิ๊กก๊อกมาก ... มีช้อนมาให้ตักด้วย เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เค้าให้ช้อนมาทำไม (และครีมไฮโซอื่นๆ) ... คือเรารู้สึกว่ามันเป็นภาระ ต้องมาล้างช้อนทุกครั้งที่ตัก ล้างก็ไม่รู้ว่าสะอาดรึเปล่า แถมช้อนคันเล็ก เกะกะมากๆ ... มือนี่แหล่ะสะอาดสะอ้านที่สุดแล้ว ล้างหน้าล้างมือเสร็จก็จิ้มลงไป ไม่ต้องเสียเวลาล้างช้อน

มาถึงตัวครีมกันดีกว่า ตัวครีมสีตุ่นๆ ออกแนวครีมน้ำตาลอ่อนมากๆ คือไม่ขาวแต่ก็ไม่ถึงกับน้ำตาลอะไรมากมาย ก่อนที่ได้ลอง เห็นส่วนผสมแล้วก็ไม่ได้คิดว่าเราจะชอบครีมตัวนี้นะ คือ มันออกแนวๆ typical japanese cream มากๆ เลย คือ น้ำ + glycol + alcohol + thickener + ascorbyl glycoside + licorice extract เราว่ามันเซ็งอ่ะ แนวนี้อีกแระ ประมาณนั้น ... จริงๆเราไม่ได้สนใจจะทำให้หน้าขาวขึ้นแต่อย่างใด (ไม่รู้จะซื้อมาทำไม) คือ ซื้อมาเพราะอยากลองไปงั้นเอง เห็นเค้าว่าเด้งกัน ... ใช้แล้วระยะนึง ต้องบอกว่า เราไม่ได้ผิดหวัง คือ เราไม่ได้คาดหวังอะไร ก็เลยไม่ผิดหวัง ... แต่มันเป็นไปตามคาดเลย คือ ทำให้หน้าเราแห้งกระจายไปเลย แห้งชนิดที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็น ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย นี่ยังไม่เข้าหน้าหนาวเลยนะเนี่ย ... ทั้งแห้งทั้งตึง (แต่ไม่เป็นขุยนะคะ) ไม่สบายผิวหน้าแม้แต่น้อยเลย ... ทาแล้วรึสึกว่ามันไปเคลือบผิวไว้ (ครีมที่ผสม wheat germ มักจะเป็นแบบนี้ ไม่เป็นไร) คือ กระชับผิวในทันที ... แต่ยิ่งใช้หน้ายิ่งแห้งระแหงหมดเลย ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้ว ต้องพักไว้ก่อน ... นอกจากผิวแห้งกระจายแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ตินะคะ กะว่าเดี๋ยวจะหยด squalane ทุกครั้งที่ใช้ จะได้ช่วยให้ความชุ่มชื้นผิวหน่อย

ข้อดี: นึกไม่ออก คงเป็นความรู้สึกที่มันกระชับผิวทันทีที่ทามั๊งคะ (แต่ล้างออกก็หมดไป)
ข้อเสีย: ทำให้ผิวแห้งกระจาย แห้งตึงไม่สบายผิวเลย
เหมาะกับ: ผิวมัน ถึงมันมาก ผิวผสม (มั๊ง)
ราคา: จำไม่ได้ แต่น่าจะค่อนข้างแพง
คะแนน: 2.8/5
ซื้อต่อ: ไม่

Ascorbyl Glucoside 2%
Water, Butylene Glycol, Alcohol, Dipropylene Glycol, Glycerin, Cyclomethicone, Octyldodecyl Myristate, Potassium Hydroxide, Carbomer, Polyacrylamide, Hydrogenated Lecithin, C13-14 Isoparaffin, Xanthan Gum, Cholesterol, Wheat (Triticum Vulgare) Germ Extract, Dipotassium Glycyrrhizate (Licorice Extract), Rehmannia Chinensis (Rehmannia Glutinosa) Extract, Laureth-7, Methylparaben, Disodium Edta, Methylserine (Amino Acid), Pyracantha Fortuneana Fruit Extract, Saxifraga Sarmentosa Extract, Phenoxyethanol, Licorice (Glycyrrhiza Glabra) Extract, Honysuckle (Lonicera Caprifolium) Extract, Cinnamomum Cassia Bark Extract, Diisopropanolamine, Sambucus Nigra Extract (Black Elderberry), Jobs Tears Extract, Butylparaben, Ethylparaben, Propylparaben



Kose Sekkisei Cream Excellent



ตระกูลนี้ก็เคยได้ยินคนพูดถึงเยอะมากๆ (แต่เดาว่าคงไม่ใช่ตัวนี้แน่นอน น่าจะเป็นน้ำโสม) ... แต่ก็อยากลองใช้ครีมตัวนี้ดู ... ถ้าจำไม่ผิด ครีมตัวนี้แพงกว่าตัว Kanebo Blanchir มั๊งคะ แต่ก็จำราคาไม่ได้ ... กระปุกสีน้ำเงิน หนักเหมือนกัน ฝาสีน้ำเงิน ด้านบนสีทองวาวใส ขนาดใช้ส่องกระจกได้เลยทีเดียวค่ะ เนื้อครีมสีขาวจั๊ว กลิ่นออกแนวกาวอ่อนๆ แต่รู้สึกจะมีกลิ่นหอมๆ อ่อนๆ ของอะไรซักอย่างปนๆ กันไปด้วย อาจจะเป็น menthol ผสมน้ำหอมอ่อนๆ แต่ก็น้อยมากๆ ทาแล้วไม่รู้สึกเย็นผิว หรือ ระคายเคืองอะไรเลย

เนื้อครีมค่อนข้างจะหนืดแน่นๆ ไม่เหลว ออกแนว butter นิดๆด้วยมั๊ง บอกไม่ถูก ... จริงๆ เราเห็นว่าครีมตัวนี้มีส่วนผสมที่น่าสนใจกว่าตัวกระปุกแดงนิดนึง แต่ก็ออกแนวเดียวกันคือ whitening + anti-inflammatory agents แต่ตัวนี้จะใส่ alcohol น้อยกว่า ให้ความชุ่มชื้นผิวดีกว่า (มี squalane ของชอบเราด้วย) ... ทาแล้วก็คือ ตามคาด ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเหมือนกับกระปุกแดง แต่ก็ยังไม่ชุ่มชื้นเท่าที่ควร แต่ก็รู้สึกดีกว่าเวลาทากระปุกแดงเยอะ (หมายความว่าความรู้สึกทันทีที่ทานะคะ) ... ส่วนจะทำให้ผิวขาวรึเปล่า เราก็ไม่รู้ได้ แต่ตัวนี้เราคิดว่าสอบผ่าน แต่ก็ไม่ถึงกว่าว่าน่าประทับใจอะไรมากมาย ขนาดที่ต้องไปขวนขวายกระปุกที่สองมาใช้ค่ะ และเราก็ไม่ใช่แฟนของ Job's Tears ด้วยซิ

Water, Butylene Glycol, Limnanthes Alba Seed Oil (Meadowfoam), Glycerin, Squalane, Alcohol, Cetearyl Alcohol, Cholesteryl Hydroxystearate, Ascorbyl Glucoside, Cetyl Palmitate, Angelica Acutiloba Root Extract, Cnidium Officinale Root Extract, Coix Lacryma Jobi Seed Extract (Jobs Tears), Cordyceps Sinensis Extract, Gynostemma Pentaphyllum Leaf Extract, Melothria Heterophylla Extract, Panax Ginseng Root Extract, Citric Acid, Dimethicone, Disodium Phosphate, Hydrogenated Lecithin, Menthol, Sodium Hydroxide, Sodium Methyl Stearoyl Taurate, Xanthan Gum, Ethylparaben, Methylparaben, Propylparaben, Fragrance

ข้อดี: anti-inflammatory มั๊งคะ แล้วก็ให้ความชุ่มชื้นนิดหน่อย ไม่ระคายเคือง
ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับคนผิวแห้งมากๆ
เหมาะกับ: ผิวธรรมดา
ราคา: แพง
คะแนน: 3.2/5
ซื้อต่อ: ไม่



Shiseido Sun Protection Compact Foundation SPF35 (in SP30)

ไปซื้อแป้งตัวนี้มาเพราะว่าอยากได้แป้งที่กันแดดติดกระเป๋าถือไปเติมง่ายๆ อ่านในเน็ทเค้าว่าใช้ดี เนียนเด้ง เลยไปลองสอยมาบ้าง ... ไปยืนเลือกสี พนักงานช่วยเลือกด้วย แต่สีมีให้เลือกไม่มากเลย มีแต่โทนสีชมพู ตัวนี้ออกเหลืองสุดแล้ว เลยตกลงได้สี SP30 มา ... ตัวแป้งขายแยกกับตลับตามสไตล์ Shiseido ตลับสีฟ้าแปร้น ออกแนวกิ๊กก๊อกหน่อย เวลาเขย่าแล้วมีเสียงคล่อกแคล่กนิดหน่อย แต่ว่าดีกับการใช้งาน คือ ไม่ใหญ่เกินไป มีชั้นวางฟองน้ำ แยก เปิดมาใต้ชั้นวางฟองน้ำเป็นกระจก ทำให้กระจกไม่เลอะ ใสตลอดเวลา (ความใสของกระจกก็ขึ้นอยู่กับหน้าของคนส่องด้วย ... มุกป้าเนอะ) ... ฟองน้ำดีนะ นุ่มหยุ่นดีล่ะ แต่เราชอบใช้แปรงปัดก่อน แล้วใช้ฟองน้ำกดๆ ทีหลัง จะดูเนียนกว่า ... ส่วนเนื้อแป้ง ส่วนผสมหลักเป็นวาสลีน ผสมแป้ง ผสมสี ... มีแวกซ์สังเคราะห์ด้วย คนผิวบอบบางมากๆ ควรของ sample มาลองก่อนค่ะ



พูดถึงความเนียน ... เราว่าเนียนใช้ได้เลยนะ ติดทนนานทั้งวันเลย ทาแล้วไม่แห้งจนเกินไป แต่ก็ยังดูแป้งๆ หน่อย จะให้ดีฉีดน้ำลงไปบนหน้าเพื่อเซ็ตแป้งหน่อยจะดูธรรมชาติมากขึ้น ... ส่วนสี SP30 ทาแล้วหน้าวอกมาาาาาาาก ขาวจั๊วเลย เราน่าจะประมาณ NC20 นะ ทาแล้ววอกอ่ะ ... เราก็เลยต้องใช้ bronzer ปัดลบความขาวออก ... หรือไม่ก็เอาไว้ใช้ตบๆ ระหว่างวันเฉยๆ ... ใครคิดจะซื้อแป้งอันนี้ ต้องดูให้ดีนะคะ เลือกตัวที่มันดูคล้ำๆ กว่าสีผิวมากๆ หน่อย



Medical Ingredients: Titanium Dioxide 15.3%, Octinoxate 6.9%
Non-Medical Ingredients: Petrolatum, Talc, Polymethyl Methacrylate, Nylon-12, Silica, Hydrogenated C6-14 Olefin Polymers, Synthetic Wax, Sorbitan Sequiisostearate, Phytosteryl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate, Zinc Myristate, Stearyl Glycyrrhetinate, Thiotaurine, Dimethicone, Methicone, Glycerin, Tocopherol, BHT, Ethylparaben, Fragrance, Mica, Iron Oxides



ข้อดี: SPF35 แต่ทาจริงๆ คงได้ไม่มากมายขนาดนี้หรอก สะดวก เนียนพอสมควร
ข้อเสีย: มีสีให้เลือกไม่มาก
เหมาะกับ: ทุกสภาพผิว
ราคา: แพง
คะแนน: 3.4/5
ซื้อต่อ: ถ้าหาสีที่เข้ากับผิวได้ ก็จะซื้อต่อค่ะ



Shiseido Luminizing Lip Gloss (in PK303 Bellini)

ได้มาตอนไปซื้อแป้งตัวบน เค้าดันมีโปรโมชั่นว่าซื้อครบจำนวนนึงจะได้ลด $10 ... เอาก็เอาวะ เดินวนไปวนมา เลยไปได้ lip gloss ตัวนี้มา ... สีมีให้เลือกไม่มากนัก ที่เราคิดว่าน่าสนใจคือ BE201 ออกแนวนู้ด, RD404 ออกแดงๆ, PK406 ออกแนวชมพูหวานใส แต่กลัวจะเลยวัยไปหน่อย เลยไม่ได้สอยมา ... ก็เลยเอา PK303 มาแทน ทาแล้ว



หน้าตาก็เหมือน lip gloss ทั่วไป ที่ทาเป็นแปรง (ซึ่งเราชอบมากกว่าที่ไม่ใช่แปรง เราว่ามันทาได้เนียนกว่า) ... pigment ค่อนข้างสวย ทาติดทนค่อนข้างนาน ทาแล้วปากหุ่มชื้นดี ไม่แห้ง สบายปากดี แต่สีที่เลือกมามันดันสีเหมือนสีปากธรรมดาเราไปหน่อย ดูไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจ แต่ก็เรียบๆ ดีหล่ะ



ข้อดี: สีจัด ติดทน ชุ่มชื้น
ข้อเสีย: แพง
เหมาะกับ: ทุกสภาพผิว
ราคา: แพงมาก
คะแนน: 3.5/5
ซื้อต่อ: บ้าๆ อาจจะ (ติว่าราคาสูงเกิน)



พวกนี้เป็นของแถมค่ะ ยังไม่ได้แกะใช้ซักอันเลย ... ที่ได้มาก็มี Perfect Smoothing Compact Foundation, Dual Balancing Foundation, แล้วก็ white lucent ตัว emulsion, eye cream, แล้วก็ cleanser ค่ะ ขนาดใหญ่ใช้ได้เลยเชียวหล่ะ โฟมนี่คงใช้ได้นานเลย





เดินไปเดินมาซักพัก แวะเข้าไปใน Aldo หน่อย ดันไปเจอรองเท้าคู่นี้ ถูกใจ ราคาก็ถูกกระเป๋า $35 ถ้าจำไม่ผิด ก็เลยสอยมาซักกะหน่อย



ใส่แล้วเป็นเยี่ยงนี้



ออกความเห็นหน่อย เป็นไงบ้างคะ



แค่นี้ก่อนละกันเนาะ ช่วงนี้ยุ่งมากเลย ... มีสอนแต่เช้า และหลายวันด้วย เลยต้องตื่นแต่เช้าตรู่เลย กลับบ้าน กินข้าว อาบน้ำนอน ... แถมวิชาใหม่ด้วย ว่างก็ต้องเตรียมตัวตลอดเลย ... แถมไปลองเล่น FB กับเค้าด้วย ... เอาไว้เราว่างๆ จะหาเวลามาเม้าท์ใหม่ค่ะ ... สวัสดีวันสุดสัปดาห์นะคะ




Create Date : 17 กรกฎาคม 2553
Last Update : 17 กรกฎาคม 2553 13:02:03 น. 16 comments
Counter : 8037 Pageviews.

 
รองเท้าน่ารักดีค่ะ ชอบตรงที่ส้นรองเท้าค่ะ แวะเข้ามาอ่านบ่อยๆ แต่ไม่เคยเม้นท์เลยค่ะ จะติดตามต่อไปนะคะ ได้ความรู้มากๆเลย ขอบคุณค่ะ


โดย: ninew IP: 222.123.65.211 วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:13:38 น.  

 
รองเท้าสีมันกลืนไปสีผิวคุณ phoebe มากไปหน่อย แต่ก็ดูสุภาพ จะขัดๆตาหน่อยก็ตรงสาย และเห็นสายพวกนี้ทีไรพาลนึกถึง croc ทุกที

ปล. ความเห็นจากคนที่ได้ชื่อว่าแต่งตัวได้แย่นะครับ อย่าคิดมากล่ะ


โดย: คุณไก่ วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:08:31 น.  

 
รองเท้าน่ารักมากเลยค่ะ ^^


โดย: ModMizi IP: 58.8.65.121 วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:35:26 น.  

 
เห็นกระปุกแดงดังมานาน คิดว่าถ้ามีโอาสก็อยากลองบ้าง แต่คุณฟีบี้บอกว่าทาแล้วแห้งตึงแบบนี้ Lilac คงไม่ลองดีดว่าค่ะ แฮะๆๆ


โดย: copo de nieve วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:28:42 น.  

 
มาลงชื่อว่าเป็นแฟนประจำคุณฟีบี้ค่ะ ติดตามทุกบล๊อกเลย

รองเท้าน่ารักดีค่ะ เห็นว่าตอนนี้สีนู๊ดกำลังมา น่าจะอินเลยค่ะ


โดย: กระต่ายลอยคอ วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:30:48 น.  

 
รองเท้าน่ารัก & เก๋ ค่ะ
เข้าไปอ่านเรื่อง สิว ว่างๆ คุณ phoebe ช่วยมาเล่าเรือ่ง สิวอีก 2 ประเภทนะค่ะ
skintest เข้าไปอ่านแล้วไม่เห็นอะไรเลย ต้องเปิดจาก ubuntu รึเปล่าคะ
ส่วนเรื่องภาษาไทย เราว่าคนอ่านคุณเยอะมาก นานาจิตตังค่ะ สำหรับเรา อ่าน เข้าใจ เขียนง่าย สื่อสารตรงประเด็น ก็โอเคค่ะ โลกใบเดียว อ่านเข้าใจก็ถือเป็นภาษาเดียวกันทั้งนั้นหละค่ะ
ขอบคุณที่ update นะค่ะ


โดย: tiny IP: 58.8.136.246 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:08:53 น.  

 
ในที่สุดก็ได้ลองครีมในตำนาน "กระปุกแดง" สักทีนะคะ ตัวนี้ทาก่อนนอนแล้วตื่นมาหน้าจะดุอิ่มเอิบ มีน้ำมีนวลประมาณ 5 นาที และก็แค่นั้นค่ะ ผลที่ได้มีแค่นี้จริงๆ

ตอนนี้อยากได้ whitening อ่ะค่ะ มีตัวไหนแนะนำมัียคะ


โดย: น้องใหม IP: 113.53.8.155 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:14:21 น.  

 
คุณ tiny .... สำหรับ skintest รู้สึกว่า pantip.com เค้าจะไม่ให้ใช้คำสั่ง iframe แล้ว ... ยังไงแวะไปทำได้โดยตรงที่หน้านี้นะคะ

//cosmetic-ingredients.net/pantip/questionnaire/skintest1.html



โดย: Phoebe Buffay วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:19:51 น.  

 
รองเท้าดูคุณหนูๆ สุภาพดีค่ะ เตี้ยดีด้วย น่าจะไม่เมื่อย

แต่รองเท้าสีนี้ดูแลยาก เคยมีรองเท้าสีเนื้อของ ecco ดูแลไม่ดี แถมใช้ครีมขัดเงาผิด เลยดูแย่ไปเลยค่ะ


โดย: tuinui IP: 113.53.10.127 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:14:07 น.  

 
ตัวเอง เล่น FB ด้วยเหรอ Add เค้าด้วยดิ่ หลังไมค์มานะจ๊ะ

ชอบรองเท้า Aldo นะใส่สบายดี ทรงสวยด้วย ของตัวเองดูเปรี้ยวดีนะ


โดย: Galilee วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:15:26 น.  

 
รองเท้าดูเรียบๆแต่เป็นแบบคลาสิคนะตัวเอง เราชอบรองเท้าทรงนี้อยู่เหมือนกันล่ะ ^___^


โดย: Cottony IP: 125.24.28.101 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:27:40 น.  

 
ยอมรับว่าอยากเล่น Blanchir line มากเลยคับ

แต่ผมอ่านรีวิวแล้วผมต้องกลับไปคิดอีกทีเลยล่ะ


โดย: เด็กโครงงาน วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:20:08 น.  

 
เราโครตจะเสี้ยนอยาก cream excellent เลยอ่ะ แม้อ่านรีวิว แล้วก็ยังอยาก 555 ตัวนี้แพงจิรง สามพันหนึ่งได้ที่ไทย

ปล เกิบงามมม


โดย: ชฎาแหลม วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:54:26 น.  

 
รองเท้าน่ารักถูกใจม๊ากกกกก เรามีรองเท้าคล้ายๆแบบนี้คู่ึนึง อยากได้ๆๆ

ครีมนี่คงผ่านไม่เหมาะกับหน้าเราชัวร์ๆ ลิปสีจ๋วยยน่าใช้


โดย: ningpotter IP: 122.154.17.2 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:14:09 น.  

 
เคยใช้แป้งตลับนี้แหละของเพื่อนขอมาตบเบา ๆ ตอนช่วงรับปริญญานานหลายสิบ ( ๆ ) ปีเหมือนกันนะ :-P
หน้าเนียนเด้งเลยล่ะ...ก็นะละอ่อนผิวก็งามตามวัย
ส่วน White Lucent ตอนกลับเมืองไทยเคยไปเหมามาชุดนึงทั้งคลีนซิง มอยส์เจอร์ฯ ครีมกันแดด โทนเนอร์ ...สรุปว่าแพ้ราบคราบ เสียดายตังค์ชมัด
อยากใช้ Kose + Kanebo
....สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์จ้า คิดถึงน๊าาาา...


โดย: pumorg วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:0:32:03 น.  

 

ตัวครีมตัวแรก คงให้อารมณ์ประมาณ Collagen Elastin Facial Moisturizer ของ St. Ives ค่ะ เราชอบมากเลย เพราะกระปุกใหญ่เว่อร์ 200g ได้ ราคาประมาณ US$5.00 ค่ะ ครีมพื้นๆ ทาแล้วเคลือบหน้า เหนอะๆ นิดๆ ใช้ตอนกลางวันไม่ได้ เราเอามาทาเป็นครีมตัวสุดท้าย ตอนกลางคืนค่ะ ทาหนาๆ แบบไม่กลัวเปลืองเลย 555+ ตื่นเช้ามา ต้องมี cleanser ล้างหน้า เพราะมันซึมไม่หมด เคลือบหน้าเป็น film ไว้บางๆ ค่ะ

ถ้านึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากใช้แนวตัวแรกอีก St. Ives ก็น่าสนใจนะคะ ^^


โดย: ploy IP: 172.16.34.104, 202.149.101.68 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:10:30:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Phoebe Buffay
Location :
ทุ่งหญ้า Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 173 คน [?]




"It's Phoebe! That's, P as in Phoebe; H as in hoebe, O as in oebe; E as in ebe; B as in bebe; and E as in ... Ello there mate." Friends

There is no copyright here, unless otherwise specifically mentioned. If you find it useful, just take it. Thanks!

CHAT BOX



LAST UPDATES
LOSEING WEIGHT (BBC)
SKINCARE MINI SERIES
FAVORITES

Friends' blogs
[Add Phoebe Buffay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.