วันนี้มาประเดิมเปิดศักราชใหม่ด้วย รีวิว moisturizer ตัวใหม่หน่อยดีกว่า ... ช่วงที่ผ่านมา เครื่องบำรุงผิวนี่ปรุงเองทั้งนั้นเลยทั้ง ทั้งราคาถูก ทั้งใช้ดี ... คนที่บ้าน ตอนแรกบอกให้ใช้ไม่ค่อยจะยอมใช้ ... วันนึงไม่รู้นึกไง มาแย่งใช้น้ำวิเศษเรา ใช้แล้วติดใจใหญ่ บอกผิวเค้าดีขึ้นเยอะมากๆ ผิวแน่นๆ และ ไม่แห้งตึง (ก็บอกให้ใช้ซะตั้งนานแล้ว) ... ปล. สูตรตอนนี้คือ L-ascorbic acid + Thayers toner + glycerin + avocado oil ... ตอนนี้เปลี่ยนจาก squalane เป็น avocado oil คุณภาพยังคับขวดเหมือนเดิม

ถึงแม้ว่าเราจะชอบน้ำวิเศษตัวนี้แค่ไหน แต่มันก็ยังน่าเบื่ออยู่ดี T_T ... มันเซ็งๆ ไม่ตื่นเต้นยังไงบอกไม่ถูก ... ประกอบกับ Shoppers เป็นช่วงเอาแต้มไปแลกอีก เลยไปแลกมาให้หายอยากหน่อย ... เห็นเจ้า LRP Hydraphase ออกใหม่มา เรียกว่า Hydraphase Intense ขวดฟ้าดูเตะตาดี ดูส่วนผสมแล้ว ก็โอเค เอามาทาทับน้ำวิเศษได้ ... เอาตัวกันแดด Hydraphase มาด้วย ... แล้วด้วยความอยากลอง ก็เลยหยิบตัว Legere มาด้วย (แต่ดันหยิบผิดเป็นตัวเก่ามาซะงั้น T_T เพราะเค้าวางปนๆ กัน) อยากดูว่าตัวนี้มี alcohol ผสมอยู่ จะทำให้ผิวแห้งตึงมากน้อยแค่ไหน

โฉมเก่า vs. โฉมใหม่
Moisturizer ตัวนี้ เพิ่งเปลี่ยนโฉมใหม่ไปไม่นานนี้เอง ... แบบโฉมเก่าจะเป็นขวดสีขาว ฝาสีฟ้าใส มีชือว่า Hydraphase Riche Intensive Rehydrating Skincare Continuous Effect ... แต่แบบโฉมใหม่จะสลับกัน คือ ฝาสีขาวใส ขวดสีฟ้าใส มีชื่อว่า Hydraphase Intense Riche Intensive Rehydrating Care Long-Lasting Efficacy ... ไม่รู้เหมือนกันว่าแบบไหนสวยกว่า แต่แบบเก่ามันทึบแสงดี แต่แบบใหม่ก็ดีคือ มันใส มองเห็นว่าใช้หมดหรือยัง ... แต่ก็นั่นแหล่ะ เก็บไว้ในขวดทึบแสงก็ดีกว่าแบบโปร่งใส ... ขวดปั๊มสูญญากาศเหมือนเดิม (anti-contamination airless pump) ปั๊มง่าย หัวทิ่มลง ใช้ได้หมดจด จน(เกือบ)หยดสุดท้าย

ส่วนผสมเก่า vs. ส่วนผสมใหม่
ดูจากส่วนผสมทั้งสองตัวแล้ว ไม่ได้แตกต่างกันเลย ... โดยมีน้ำ, glycerin, shea butter เป็นส่วนผสมหลักคงเดิม ... ยังคงมี mineral oil เหมือนเดิม ... การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเห็นจะเป็น การเปลี่ยนซิลิโคนเป็นตัวยอดฮิต dimethicone ซึ่งดีกว่าตัวเดิม อ่อนโยนกว่าเดิมมาก ... เปลี่ยนปริมาณ cetyl alcohol มากกว่าเดิม (ตัวนี้ไม่ใช่ alcohol ที่ทำให้ผิวแห้งตึงนะคะ) ... แล้วก็มี urea ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเหมือนเดิม ... ปริมาณ vitamin E อาจจะลดลง (ไม่แน่ใจ) ... ตัวทีแตกต่างเห็นจะเป็น Hydrolyzed Hyaluronic Acid ตัวนี้ ซึ่งเป็นตัวที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว (ไม่แน่ใจว่ามากพอหรือเปล่า) ... โดยรวมแล้ว เราดูว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ระคายเคืองน้อยลงกว่าเดิม ให้ความชุ่มชื้นเท่าเดิม น่าจะเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนานกว่า

เนื้อครีม
เนื้อครีมสีขาว ค่อนข้างหนืด แต่ก็ไม่หนืดเหมือนกาว ... สองปั๊มก็ทาได้ทั่วหน้า

เกลี่ยได้ง่าย ลื่น ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้าเล็กน้อย ไม่ถึงกับเยิ้ม ต้องใช้แป้งปัดลบความมัน

สรุป
moisturizer ตัวนี้ เน้นที่การเติมน้ำและกักเก็บน้ำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน ... แต่นานถึง 24 ชั่วโมงหรือเปล่า (เราว่าไม่นะ) แต่ช่วงนี้อากาศหนาวจัดมากๆ พอให้อภัย ... ไม่เน้น anti-oxidant ไม่เน้น anti-aging ไม่กันแดด ... เหมาะกับคนที่ผิวไม่ต้องการแก้ไขอะไรมากมาย แค่บำรุงให้ชุ่มชื้นมีสุขภาพดีเฉยๆ ค่ะ ... หรือใครมีน้ำวิเศษ (serum ที่ชอบ) ทาลงไปก่อน แล้วก็ตามด้วยเจ้าตัวนี้ทับลงไป ก็น่าจะได้ผลที่น่าพอใจทีเดียวค่ะ ... จะให้ดีควรกำจัด Polyethylene ออกไปซะ จะทำให้ moisturizer อ่อนโยนกับผิวมากกว่านี้ ... โดยรวมแล้วเราถือว่าเราชอบนะคะ ชอบที่ขวด ชอบที่ส่วนผสมไม่มากตัว ชอบที่ขวดนึงทำหน้าที่อย่างนึงอย่างจริงๆ จังๆ ... เค้าโฆษณาไว้แบบไหน เราว่ามันทำหน้าที่ตามนั้นนะคะ (ถึงแม้จะไม่สัญยิงสัญญาอะไรมากมาย)

นี่เป็นคำโฆษณาของเค้านะคะ

โฆษณา: ช่วยให้ผิวชั้นนอกชุ่มชื้นเป็นเวลายาวนาน
คุณสมบัติ: มีส่วนผสมของ hyaluronic acid ที่ทำหน้าที่สองต่อ คือ ช่วยเติมน้ำให้กับผิว และช่วยกักเก็บน้ำไว้กับผิว
ผลลัพธ์: ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง และ รู้สึกนุ่ม สบายผิว
บรรจุภัณฑ์: ขวดปั๊มสูญญากาศ (anti-contamination airless pump)
ปริมาณ: 50ml
คะแนน: 3.5/5

ปีใหม่
ว่าแต่ปีใหม่นี้ไปเที่ยวไหน ทำอะไรกันบ้าง ... เราไม่ได้ไปไหนเลย ตอนแรกวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวกิน dim sum เมืองใกล้ๆ แต่ปรากฎว่าอากาศไม่เอื้ออำนวย หนาวสุดขั้วหัวใจ หิมะก็เยอะ เดินทางไม่ปลอดภัย ... ขนาดที่ว่าก่อนวันเดินทาง เค้าต้องปิดเส้นทาง trans Canada แล้วเอาเฮลิคอปเตอร์มารับคนออกไปเลย คิดดู ... นอกจากนี้เราก็วุ่นๆ กับเรื่องย้ายบ้านด้วย วุ่นวายไปหมด ยังไม่ได้เริ่ม pack ของเลยนะเนี่ย

ไม่ได้ไปเที่ยวแบบนี้ก็ยังไม่วายเพิ่มน้ำหนักด้วยของกินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโกโก้ปั่นทอปด้วยครีมแบบนี้

แล้วก็ triple layer dolce de leche cake ชื่อธรรมดาก็ประมาณ caramel sponge cake ทอปด้วย caramel cream, toffee, และ caramel ... และก็ขนมอื่นๆ ที่กินไปแล้วไม่เหลือหลักฐานอีกมากมาย

วันนี้ชั่งน้ำหนักแล้วตกกะใจมาก ... ต้องวางแผนออกกำลังกายเอาไขมันที่สะสมไว้ออกซักหน่อย T_T

สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคน