วันนี้อยากจะรีวิวเจ้า Murad Intensive Wrinkle Reducer เนื่องจากว่าเราตัวอย่างที่ได้มาพักนึงแล้วก็ได้ฤกษ์ใช้ซักที ตัวอย่างก็ไม่มากไม่มายอะไร ใช้ได้อาทิตย์กว่าเช้าเย็นก็หมดแล้ว ดังนั้นผลระยะยาวเราไม่พูดถึง
Product: Murad Intensive Wrinkle Reducer Product of: USA Size: 30ml Price: 150USD Package: ขวดปั๊ม (ตัวอย่างที่ใช้เป็นหลอด)
Ingredients: ส่วนผสมน่าใช้มากจริงๆ ถ้าเราเห็น moisturizer ที่มีส่วนผสม glycolic acid, sodium hyaluronate, glucosamine hcl, squalane, vitamin c, grapeseed extract, map, salicylic acid อะไรแนวๆ นี้ เราแบบเกิดอาการอยากใช้หงิงๆ เลย ... แล้วอันนี้ ลองดูกันเอาเอง ... มันประมาณว่าทุกอย่างที่เราคิดว่ามันดี มันอยู่ในขวดนี้หมดเลย นอกจากตัวผลัดผิวที่ดี ตัวกักน้ำที่ดี ตัวให้ความชุ่มชื้นที่ดี ตัวลดอาการอักเสบระคายเคือง ในปริมาณที่เหมาะสมใช้ได้เลยทีเดียว ... เราต้องบอกว่า ส่วนผสมเค้าเทพมาก ในสายตาของเรา ... ส่วนผสมให้ A+ เลยค่ะ
Water (Aqua), Glycolic Acid, Glycerin, Propylene Glycol Dicaprylate/Dicaprate, Stearyl Alcohol, Cetyl Alcohol, Sclerotium Gum, Stearic Acid, Sodium Hyaluronate, Glucosamine HCl, Algae Extract, Yeast Extract (Faex), Urea, Macrocystis Pyrifera Extract, Durio Zibethinus (Durian) Fruit Extract, Hydrolyzed Wheat Protein, PVP, Capryloyl Glycine, Sarcosine, Cinnamomum Zeylanicum Bark Extract, Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Squalane, Polysorbate 60, Rice Amino Acids, Zinc Acetate, Sucrose, Chitosan Ascorbate, Panthenol, Hydrogenated Lecithin, Palmitoyl Hydroxypropyltrimonium Amylopectin/Glycerin Crosspolymer, Lecithin, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Tocopherol, Dipotassium Glycyrrhizate, Lysine Lauroyl Methionate, Tocopheryl Acetate, Polydodecanamideaminium Triazadiphenylethenesulfonate, Polyvinylalcohol Crosspolymer, Salicylic Acid, Dimethicone, Cyclopentasiloxane, Cyclohexasiloxane, Linoleic Acid, Sodium Hydroxide, Phenoxyethanol, Disodium EDTA, Butylene Glycol, PEG-8, Xanthan Gum, Polyphosphorylcholine Glycol Acrylate, Methylparaben, Propylparaben, Citral, Benzyl Benzoate, Hexyl Cinnamal, Limonene, Linalool, Hydroxyisohexyl 3-Cyclohexene Carboxaldehyde, Fragrance (Parfum)
Texture: เนื้อครีมออกแนวๆ gel-cream ทาแล้วรู้สึกดีมากในทันที คือ เกลี่ยง่าย ลื่น แต่ไม่ลื่นแบบซิลิโคน คือลื่นนุ่มๆ เนียนๆ เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี แต่ไม่ถึงกับทันที ต้องใช้เวลาราวๆ 1 นาที จะซึมหายเข้าผิว ไม่ทิ้งความมัน ... ถึงแม้จะไม่ทิ้งความมัน แต่มันกลับให้ความชุ่มชื้นผิวอย่างดีเลย เราคิดว่าคนผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวมันไม่มาก น่าจะใช้ดีเลย (ไม่ต้องทาอะไรเพิ่มเติมเลยยังไหว ตัวเดียวอยู่เลยเรื่องความชุ่มชื้น) ... ใครได้ลองใช้แล้ว มีอย่างนึงต้องพูดถึงคือ กลิ่น ... ขอบอกว่า กลิ่นหอมมาาาาาาาาาาาาาาก (สำหรับเรานะ) หอมแบบส้มๆ อมมะนาว อ่อนๆ อย่างบอกไม่ถูก ... ปกติเราไม่ชอบกลิ่นส้ม (แบบ TBS Vitamin C) เท่าไหน่ คือ มันส้มเกินไป ... แต่กลิ่นเจ้าตัวนี้ หอมจริงๆ ... ทาแล้วมันจะแบบเคลิ้มๆ เชียว ... รวมๆ แล้วถือเป็นเนื้อครีมได้โล่ห์เลย เราไม่ค่อยเจอครีมที่ผสมได้ลงตัวเหมาะกับผิวเราแบบนี้บ่อยๆ เลย ... ส่วนใหญ่จะเหนอะไปบ้าง มันไปบ้าง แห้งไปบ้าง เหม็นไปบ้าง ซึมช้าไปบ้าง อะไรแบบนี้ ... ส่วนตัวนี้ เรายกให้เลย ให้ A+ เช่นกัน
Short Term Result: สิ่งแรกที่รู้สึกได้เลยคือ ผิวชุ่มชื้นมีสุขภาพดีมาก ตัว glycolic acid ที่ผสมอยู่ไม่ระคายเคืองผิว(เรา) และไม่น่าจะระคายเคืองผิวที่เพิ่งเริ่มใช้นะ (เราคิดว่า) ... แน่นอนว่าอาทิตย์เดียว เราไม่ทันจะได้ผลของการผลัดผิว ก็ไม่ขอพูดถึงจุดนี้ ... แต่ขอพูดถึงความชุ่มชื้น ต้องบอกว่า very impressive คือ น่าประทับใจมาก ... ทาแล้วรู้สึกได้ว่าผิวสุขภาพดีแนว คือ มันไม่ไช่แบบเคลือบๆ แต่มันซึมเข้าผิว (ชั้นบน) แล้วก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมาก ไม่ตึง ไม่หนัก ... ซึ่งก็ดูได้จากส่วนผสมที่เต็มไปด้วยพวก emollients และ water binders ที่น่าสนใจอีกหลายตัว ... ผลระยะสั้นต้องบอกว่าให้คะแนนเต็มเลย ... เอาไป A+ เลยค่ะ
Long Term Result: อย่างที่เราพูดไปคือ เรามีอยู่กระจึ๋งเดียว ใช้อาทิตย์เดียวก็หมดแล้วเลยบอกอะไรไมได้ ... ในเว็บไซด์ Dr. Murad บอกว่า ให้ผลในระยะ 8 weeks ซึ่งเราคิดว่ามันสมเหตุสมผล (ดูจากส่วนผสม) ซึ่งก็เป็นไปได้ที่มันจะให้ผลดีในระยะยาว
Buy It Again?: แต่ละคนคงเห็นเราชมยกย่องครีมตัวนี้ขนาดหนัก ... ดีโง้นดีงี้ .... ถามว่าซื้อต่อรึเปล่า ... ตอบเต็มปากเต็มคำแบบไม่ต้องคิดค่ะ ว่า .... ไม่ซื้อค่ะ เพราะราคาสูงมากจนน่ากลัว ... คิดดู 30ml ในราคา 150USD ... ถ้าเข้าไปในประเทศไทยเจอภาษีเข้าไป ขนาด lancome 78USD ขายที่ไทย 3,900 ตัวนี้ก็น่าจะราคา 3,900 x 2 ซึ่งก็อาจจะราคาเฉียด 8,000 บาท ... บ้าไปแล้ว ... คือ ถ้ามันราคา 8,000 บาท แล้วได้ครีมมา 30ml ... เดือนเดียวก็หมดแล้ว ... จะใช้ให้ได้ผล 2 เดือน ... ไม่อยากจะคิด ... อย่าไปใช้มันเลยดีกว่า ... แต่ถ้าใครรวยๆ แบบใช้ La Mer หรือ La Prairie หรือ พวก Sisley ประจำอยู่แล้วเนี่ย ... เราว่าตัวนี้น่าลองอ่ะ ... เราฝากลองด้วยนะ ฮาา
|
สวัสดีจ้าพี่ฟีบี้
ตัวนี้แพรเคยได้แถม แล้วให้แม่ใช้ค่ะ ปากหลอดแหลมเชียว
ส่วนผสมดีมากจริงๆ แต่ทำไม่ต้องขายแพงขนาดนั้นอะ
สงสารกันหน่อยนะด๊อกเต้อ
ชอบบิวตี้ ชิตเช้ตมากมายค่า