|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
- เห่อ Clarins Hydra-Care Tinted Moisturizer
- สัพเพเหระ
- หนาวแล้ว
- Skincare/Makeup Routine
- My Facial Cleansing Routine
- The Simpler, The Best for Me!
- Bourjois 10 Hour Sleep Effect
- L'Oreal Magic Smooth Souffle Makeup
- Red Lips vs. Pink Lips
- Hydraphase Intense Riche
- Beyond my limit?
- Cover FX
- Dr. Bronner's & Thayers
- Maybelline & Stila
- My Shopping Day
- Back to Nature!
- Oil Cleansing Method (OCM)
- My Japanese Creams
- Cosme The Best Toner 2009
- Cosme The Best Powder Foundation 2009
- Cleansers: Murad, Hadalabo, Pond's
- Shiseido Aqua Label & Integrate
- DUC น้องส้ม น้องฟ้า น้องชมพู
- ตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัว
- Nars Brightening Serum
- Hair and Underarm
- Nail Polish, Jeans, Parcel
- Review Feb 2010
- เรื่อยๆ เปื่อยๆ skincare
- Lancome (Ingredients Only)
- The Most Expensive Serums
- The Most Expensive Creams
- หมดเทอมก็ต้องช้อป
- Maybelline PureStay
- ลดแลกแจกแถม
- Regimen & Shopping
- Holy Grail From Head to Toe 2
- Life, Berries, Gin, Got2b, European
- Annabelle Le Gloss
- Free Stuff
- Redemption
- Loosen the Nut
- Murad Intensive Wrinkle Reducer
- Lancôme Génifique
- Avene & Jergens
- มากถึงซักที Amore Pacific และผองเพื่อน
- Garraud Paris and My Ordinary Day
- As a result
- My earrings
- Shopping นิดหน่อย
- Glycerin Eyeliner
- Get That Airbrush Look from Mineral Makeup
- How It's Made: Contact Lenses
- Blue Bubbles สบู่สวยๆ น่ากิน
- Holy Grail From Head to Toe
- ของฝาก
- Mineral Foundations
- To-Buy List
- ซ้อมเตรียมรับมือกับอากาศร้อน
- กระเป๋าสีขาว
- Vichy, เสื้อผ้า, รองเท้า, ทรงผม
- Oxy Acne Treatment and Glycerin in Rose Water
- My Skincare Regimen
- หนังสือน่าอ่าน: Textbook of Cosmetic Dermatology
- พอซักทีเถอะ
- Clearance!
- Auntie or what?
- Lipstain and Blush
- Eyeglasses, which ones?
- เปิดกล่องของขวัญ
- หมดขวดแล้ว
- หน้าใสด้วยไสย์
- เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวไปหน่อย
- คลายเครียดนิดหน่อย
- Lise Watier, Etude, Elizabeth Arden
- What am I up to?
- Handmade Soap จาก คุณ กะตุ้งนิ้ง
- ซื้อโน่นซื้อนี้นิดหน่อย
- Phoebe Toning Lotion
- Kiss My Face Soap
- สบู่ Vinasre และความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับสบู่
- คิ้ว ตา ปาก
- เปิดกล่องของที่สั่งไปหน่อย
- Shopping นิดหน่อย (จริงๆ)
- รองพื้น revlon กับ แป้ง physicians formula
- ไม่มีสาระอะไรซักอย่าง
- Estee Lauder Lucidity
- ทดสอบทฤฎีอินซูลิน
- Review: Exfoliator & Foundation
- เก็บกวาด จัดของรกๆ
- Skincare Regimen July 2008
- Shiseido and NeoStrata
- The Incredible Shine
- Skincare Regime Update
- All About Toners
- Shiseido Benefiance 123
- ConAir Ion Shine Hair Rollers
- Intensive Skin Corrective Program
- The Lip Balm Academy Award Winner
- Review เล็กๆ น้อยๆ
- Cleansers, Moisturizers et cetera
- Preview: HydraQuench
- SkinVitals Masks & Serum
- Clarins ก็เอากับเค้าด้วย
- Review: Pond's Duo & Neutrogena
- Two Cleansers and A Serum
- Review ในวันว่าง
- รักคุณเข้าแล้ว
- เก่า(ยังไม่ทัน)ไป แต่ใหม่ก็ดันมา
- ซื้ออีกแล้วอ่ะ
- อยากได้ๆๆๆๆ
- Serums ที่เคยใช้ (II)
- Serums ที่เคยใช้ (I)
- Skincare Regimen
- Masks, easy and cheap but effective!!
- Toners ที่เคยใช้ (II)
- Toners ที่เคยใช้ (I)
- Toner: Salicylic Acid & Castor Oil
- Masks ที่เคยใช้
- Facial Scrubs ที่เคยใช้
- Makeup Removers ที่เคยใช้
- Cleansers ที่เคยใช้ (II)
- Cleansers ที่เคยใช้ (I)
- Review - Foundations
- Sunscreen ที่เคยใช้
- Shopping ::: July 2007
- Loose Powders and Some Reviews
- อูล่า-อูล่า Ole Henriksen
- 60% off (the store is closing down!!)
- Soft Drinks & Ability to Switch Off DNA
- Moisturizers สามัญประจำบ้าน
- Shopping in April and May, 2007
- Clarins Face Powder
- Product Review: No7 (Boots)
- Bare Essentials Makeup
- Almay Makeup
- Mix them up (update)
- Product Review - Episode 2
- Shopping in February 2007
- Shopping in January 2007
- Cleansing Oils / Milks and Mineral Oil (Baby Oil)
- Mix them up!
- Product Review - Episode 1
- Active Skincare Products
- My Long Wish List T_T
- Shopping Madness
- Makeup I'm using
- Skincare I'm using
- My Wish List: MD Formulations Anti-Aging Kit
- Shea butter for eyes
- Cleanser Battle!
- My skincare
- My makeups
|
|
|
|
|
The Most Expensive Serums
วันนี้มาต่อดีกว่า ... มาดู serum ที่แพงหูดับตับไหม้กันบ้าง ... วันนี้ไม่พูดละกันนะคะ เพราะเราชักจะง่วงแล้วล่ะ ... เอาเป็นว่าดูราคา ปริมาตร และส่วนผสมกันเอาเองนะคะ แค่เห็นราคาก็หน้ามืด ... ถ้าไม่ขี้เกียจ พรุ่งนี้จะมาเพิ่มเติมละกัน แต่ถ้าขี้เกียจก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ 555
อ่านโฆษณาของเค้าแล้วเราก็สะดุดที่คำว่า มีส่วนผสมน้ำวนิลาจากดินแดนอันไกลโพ้น Madagascar (ถึงได้แพงงั้นเหรอ) ... งี้มี discount ให้คนแถวแอฟริกาซัก 90% มันคะป้า ^0^ ... สนนราคา serum ตัวนี้ อยู่ที่ลิตรละ 466,667 บาทเอง ... นอกจากน้ำวนิลาที่แสนแพงแล้ว เราก็ไม่เห็นจะมีอะไรโดดเด่นเลย นอกจากซิลิโคน glycerin ที่เป็นส่วนผสมหลัก แล้วก็มีพวกน้ำมันพืช และน้ำมันวนิลา ... หากใครมีเพื่อนญาติพี่น้องแถว Madacascar ลองฝากซื้อน้ำมันวนิลาดูนะคะ เราคิดว่าคงถูกกว่านี้จมเลย
Serum ตัวนี้ขายอยู่ที $410 (30ml) หรือตกลิตรละ 478,333 บาท โดยประมาณ ... เค้าบอกว่าเนี่ยใช้เวลาศึกษาค้นคว้ามานาน จากกล้วยไม้สามหมื่นกว่าชนิด ... จึงได้กล้วยไม้มา 4 ชนิด ผสมมาเป็น ยาอายุวัฒนะให้กับผิว ... เค้าบอก promoting DNA protection จริงอ่ะ ฟังแล้วเอ่อ ... ตายละ งี้ต้องไปหา serum ตัวนี้มาใช้ซะแล้ว เดี๋ยว DNA เราถูกทำลาย ... อ่านไปอ่านมา ... อ้อ มันช่วยปกป้อง UV rays นี่เอง ... เอ ... เราใช้สิ่งที่เรียกว่า ครีมกันแดด แทน จะได้มั๊ยนะ ... หรือจะซื้อ serum ลิตรละเฉียดห้าแสนบาทดี ... โจทย์ข้อนี้ยากจัง
จริงๆ เราข้าม Sisley สองตัวไปนะคะ เพราะราคาใกล้เคียงกัน แบ่งตำแหน่งให้ยี่ห้ออื่นบ้าง ... ตัวนี้ขายอยู่ที่ $750 ในปริมาณ 50ml ... หรือตกลิตรละ 581,000 บาท ... เค้าบอกว่าเจ้า cutting edge ส่วนผสม 3 ตัวนี้ ... ซึ่งตัวประหลาดเห็นจะเป็น Physalis Alkekengi Calyx ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ... มาอีกแล้ว ส่วนผสมวิเศษลิตรละครึ่งล้านใช้ปกป้องผิวจากแสงแดด ... คนจนๆ อย่างเราขอใช้กันแดดราคาถูกๆ ก็แล้วกัน
ตัวนี้ขาย $500 ให้มา 30ml หรือลิตรละ 583,333 บาท ... เค้าบอกว่าช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไม่ว่าจะเป็น glycerin, thickener ไม่ใช่ค่ะ ล้อเล่น ... เค้าหมายถึง DNA, RNA อะไรเทือกๆ นี้ ... หากใครอยากลองส่วนผสมพวกนี้ ลอง clinique แทนดู ราคาถูกกว่าโข ... avene ให้ลองเหมือนกัน ... ส่วนเรา ราคาแบบนี้ขอบบายค่ะ ขอเป็น L-Ascorbic Acid ซักกระปุกก็พอ
ตัวนี้ตกอยู่ที่ลิตรละ 583,333 บาท เหมือนกันค่ะ เป็น serum ที่ใช้ดึงหน้าชั่วคราว สำหรับคนที่เหี่ยวเหนียงยานจริงๆ ส่วนผสมก็ดูเข้มข้นดี ... แต่ acetyl hexapeptide ก็ไม่น่าจะแพงขนาดนี้ ... ส่วนผสมแบบนี้ หาได้มากมายในราคาที่ถูกกว่าโขเลยค่ะ มองข้ามๆ ครีมตัวนี้ไปดีกว่า ราคาไร้สาระมาก
เค้าบอก it gives your face a 24-karat glow ... โอวว... เราไปศาลเจ้าแล้วเอาแผ่นทองคำเปลวมาแปะท่าจะดี 5555 ประหยัดกว่าเยอะเลยค่ะ ... อ่านคำโฆษณา พูดไรไม่รู้ ยิ่งอ่านยิ่งงง ขนาดที่ว่าหยดเดียวริ้วรอยจางหายเลยเหรอ เว่อร์ไปป่าว ที่พูดนี่หมายถึงสาระพัด silicones ที่ใส่ไปรึเปล่าเนี่ย ... เราเอาเงินไปซื้อแหวนทองมานาบหน้าเล่นดีกว่านะเนี่ย ... ส่วนผสมอื่นๆ ก็ดูโอเคอยู่หรอก แต่ราคานี้เราก็ปล่อยเค้าไปดีกว่า ... ปล. ยี่ห้อนี้เค้าเขียนว่า switzerland แต่ยี่ห้อนี้เป็นของ Beiersdorf ซึ่งเป็นเยอรมันนีนะคะ เราก็เลือกให้เป็นเยอรมันนีค่ะ ก็แล้วแต่จะคิดกันนะคะ ไม่ซีเรียส
ยี่ห้อนี้เค้ามี serum ที่แพงที่สุดในโลกอยู่หลายตัว ถ้ายกมาทุกตัว ยี่ห้ออื่นคงไม่ติดอันดับแน่ ... เราก็เลยเลือกมาบางตัวนะคะ ... ตัวนี้น่าสนใจมาาาาาาาากค่ะ ... vitamin c serum ค่ะ ให้มา 15ml ขาย $300 ... ส่วนผสมซิลิโคน vitamin c ซิลิโคน vitamin E และ retinol ... จะบ้ารึเปล่า เอาของแบบนี้มาขายในราคาลิตรละ 700,000 บาท เห็นเราเป็นตัวอะไรเนี่ย ... เป็น serum ที่ดูถูกผู้ซื้อย่างร้ายกาจมาก ... serum แบบนี้หาได้ทั่วๆ ไปในราคาที่ถูกกว่านี้แปดแสนล้านเท่าค่ะ (เว่อร์มากเลยเรา)
ซีรั่มตัวนี้ 30ml ราคา $600 ... โอย ลมจะจับ นอกจาก Growth Factor ที่เค้ารักนักรักหนา ก็ไม่มีอะไรเลยโดดเด่น ... เราก็เข้าใจหรอกนะว่าเค้าทำวิจัยของเค้ามา ... แต่จะเอาทุนคืนในขวดเดียวเลยรึไงเนี่ย ... หาก Growth Factor ช่วยให้หนังหน้าเราตึงเต่งจริงๆ ทั้งชีวิตนี้เราจะต้องใช้ซักกี่ลิตรนะ ... แค่ลิตรเดียวก็ซัดไป 700,000 บาท เข้าไปแล้ว ... เราขอมีริ้วรอยตามธรรมชาติดีกว่า
เราไม่มีส่วนผสมของ serum ตัวนี้ ... แต่เดาๆ ว่า ตัว serum base คงไม่ต่างไปจากตัวทองคำมากนัก แล้วก็เอา platinum ใส่ลงไป และส่วนผสมอื่นๆก็คงไม่ต่างจากตัว cream มากนัก อาจจะเหลวกว่า เข้มข้นกว่า ... หน้าที่ก็คล้ายๆ กับตัวครีม คือ ช่วย balance ประจุ ... เราว่าเอาแหวน platinum มาลองนาบๆ ผิวดูน่าจะดี ... ราคาตกอยู่ที่ลิตรละ 758,333 บาทค่ะ
มาถึงอันดับสามค่ะ ... เป็นของ Dior ... สงสัยจะแพงที่ขวด เพราะเค้ามีขายขวด และก็แบบ refill ด้วย ... ข้างในเป็นไงไม่อยากจะเซด ... แต่ที่แน่ๆ เค้าขายลิตรละ 863,333 บาทค่ะ ... ส่วนผสมอย่างแรก glycerin ตามด้วยน้ำ ตามด้วยซิลิโคน ... เราซื้อ glycerin ขวดเบ้งได้ในราคาไม่ถึง $5 ด้วยซ้ำ ... เค้าเคลมว่ากว่าตัวนี้จะคลอดเนี่ย ใช้เวลาถึง 6 เดือน ... ถามจริงๆ หกเดือนคิดได้แค่นี้ ... เค้าอาจจะคิดว่า เออ จะทำยังไงให้มีคนซื้อ glycerin ในราคาลิตรละแปดแสนดีนะ ... เออ นั่นค่อยเป็นโจทย์ที่ยากหน่อย อาจจะต้องใช้เวลาคิดนาน 6 เดือน หรือ สำหรับบางคนอาจจะใช้เวลาชั่วชีวิตเลย
อันดับสองตกอยู่ที่เจ้า ultra cell ตัวนี้ ... เห็นส่วนผสมแล้วทำให้เรานึกภาพ ประมาณว่า น้ำมันมนุษย์ใส่ขวดหรู (ฟังแล้วสยองดีมั๊ยคะ) ... ได้มา 10 ml ขาย $415 หรือลิตรละ 1,452,500 บาท โอวววว ... ใครใช้แล้วดีก็ดีใจด้วนะคะ เราขออยู่ของเราแบบนี้ดีกว่า ... ขอเอาเงินล้านไปเสพอย่างอื่นดีกว่า
มาถึงตัวสุดท้ายค่ะ อันดับที่หนึ่ง serum ที่แพงที่สุดในโลกนี้ โลกหน้า จักรวาล ... ตำแหน่งตกเป็นของ Revive ตัวนี้ค่ะ สนนราคาอยู่ที่ลิตรละสิบห้าล้านบาทค่ะ ... เขียนเป็นตัวเลขก็ 15,000,000 บาทค่ะ ... มีศูนย์ตามหลัง 6 ตัว ... ถ้าเราคิดเลขผิด หรือ ได้ปริมาตรมาผิดก็ช่วยติงด้วยยนะคะ ไม่อยากจะเชื่อเลย ... มาดูว่าหากเราใช้เงินสิบห้าล้านซื้อ serum ตัวนี้แล้วเราได้อะไรมาบ้างกันดีกว่า ... ที่แน่ๆ ได้น้ำค่ะ แล้วก็ glycerin ด้วยนะ ... นอกจากพวก growth factor แล้วทุกอย่างก็ดูพื้นๆ มาก ... ขายลิตรเดียวก็นอนกินไปทั้งชาติแล้วเนี่ย (แต่เงินสิบห้าล้าน เดี๋ยวนี้ใช้ทั้งชาติไม่ได้แล้วนี่น่า) ... ซื้อบ้านหรูๆ ได้หลังเดียวเอง ... ซื้อบ้านธรรมดาได้แค่สี่ห้าหลังเอง
พอดีกว่าค่ะ ... โลกนี้มีอะไรมากมายที่เราไม่เข้าใจ เฮ้อ ... โดยเฉพาะความคิดที่อยู่ในหัวคน ยากแท้ หยั่งถึงจริงๆ โดยเฉพาะใจนาง ... ดูลำดับอื่นๆ ได้จากรูปข้างล่างนี้ค่ะ (คลิ๊กเพื่อขยาย)
|
Create Date : 05 มกราคม 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 5 มกราคม 2553 23:50:56 น. |
Counter : 2489 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: น้องใหม่ IP: 113.53.53.54 5 มกราคม 2553 13:02:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: yoko 6 มกราคม 2553 11:56:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชฎาแหลม 6 มกราคม 2553 14:41:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: Chicken_Little (คุณไก่ ) 6 มกราคม 2553 19:24:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cobie 4 กุมภาพันธ์ 2553 10:16:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: jkl IP: 118.172.62.131 13 เมษายน 2553 17:27:19 น. |
|
|
|
|
|
|
"It's Phoebe! That's, P as in Phoebe; H as in hoebe, O as in oebe; E as in ebe; B as in bebe; and E as in ... Ello there mate." Friends
There is no copyright here, unless otherwise specifically mentioned. If you find it useful, just take it. Thanks!
CHAT BOX
LAST UPDATES
LOSEING WEIGHT (BBC)
SKINCARE MINI SERIES
FAVORITES
|
|
|
|
|
|
|