หลายเรื่องเล่า กับณ มน คนหัวฟูแก้มป่อง ^_^
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
5 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 

เดลลี สวัสดีจ้า

ฮาโหล เดลลี สวัสดีค่า



**ขอบคุณสำหรับคำอวยพรเรื่องของหนังสือเล่มแรกในชีวิตของณ มน นะคะ คือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นนิยายค่ะ ณ มนก็เอาเค้าโครงเรื่องมาจากการเดินทางท่องเที่ยวอินเดียนี่แหล่ะค่คือว่าตอนที่ไปเที่ยวน่ะ ใช้เงินไปมากเลย

กลับมาปุ๊บกระเป๋าแห้งเลย ก็คิดว่าจะเขียนเรื่องของการเดินทางครั้งนี้มาหาทุนอ่ะค่ะ แต่เขียนเสร็จแล้วส่งไปสำนักพิมพ์ต่างๆก็ไม่ได้รับปลตอบรับกลับมาค่ะ



เอ๊ มีอะไรผิดพลาดหนอกลับมานั่งคิดอยู่พักใหญ่จนกระทั่งได้รู้จักสนพ.แจ่มใสค่ะ เป็นสนพ.ที่เขาตีพิมพ์นิยายรักหวานแหววน่ะค่ะ แล้วก็มีเวบไซต์ให้คนอยากเป็นนักเขียนได้มีโอกาสส่งผลงานของตัวเองไปลงด้วย



คิดอะไรดีๆออกแว้ววววว ณ มนกลับมาเขียนการเดินทางของตัวเองเสียใหม่ โดยผูกเรื่องให้เป็นนิยายรักกุ๊กกิ๊กโดยมีฉากหลังคือการเดินทางท่องเที่ยวอินเดียครั้งนั้นนั่นเอง แล้วก็ใส่ตัวละครลงไป จากนั้นก็ทยอยนำลงในเวบแจ่มใส ปรากฏว่ามีผลตอบรับน่าสนใจจึงเขียนจนจบแล้วส่งให้สนพ.เขาพิจารณาปรากฏว่าผ่านค่ะ ก็ได้รับการตีพิมพ์และจะวางแผง 25 มิถุนายนนี้ในชื่อเรื่อง





"ณ ฟากฟ้านี้ หัวใจมีรัก"



คือชื่อเรื่องออกจากหวานนนนนไปหน่อยนะคะ ก็มันเป็นนิยายรักนี่นาก็ตั้งอะไรประมาณนี้หล่ะ ทั้งที่ตัวจริงนั้นคอ่นข้างจะเป็นคนที่ไม่ค่อยหวานสักเท่าไหร่



ยังไงก้ตาม25มิถุนายนนี้ หนังสือเล่มนี้ก็จะออกมาวางแผงแล้ว อ้อขอโทษด้วยนะคะที่ยังเอาตัวอย่างปกมาให้ดูไม่ได้ค่ะ รอทางคุณโม บก.เขาจะส่งมาให้ทีหนังน่ะค่ะ


หน้าปกก็จะประมาณนี้ค่า










ใครอยากได้ลายเซ็นฟรีๆแต่ต้องจ่ายค่าหนังสือหล่ะก็ไปเจอกันที่ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์นะคะ 8 ก.ค.งานสัปดาห์หนังสือเยาวชนค่า



ทีนี้มาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่าค่ะกับการทักทายเมืองเดลลีของณ มน


คืนนี้หลังจากที่ออกจากสนามบิน ซานดีปกับราชก็ขับรถพาณ มนกับพี่เตี้ยมาที่ย่านตลาดสรัสวตีค่า




(ภาพตลาดยามเช้าค่ะ)


เราตกลงจ่ายค่าเดินทางทั้งหมดในคืนนั้น เพราะวันรุ่งขึ้นซานดีปต้องพาทัวร์อีกคณะไปปากีสถานเพราะมีการแข่งขันเทนนิสระดับชาติ ในระหว่างที่พี่เตี้ยจ่ายตังค์ เราก็กลัวว่าซานดีปจะมีลูกเล่นตุกติก เลยกดชัตเตอร์รูปเขาไปซะหลายรุปกะว่าโกงกันหล่ะก็ จะประจานทางเนตซะให้ยับเลย (นางมารนะนี่วิธีคิดแบบนี้)



ซานดีปบอกว่าพรุ่งนี้ราชจะมารับเราตอน8โมงเพื่อพาออกเดินทาง เราก็เลยกล่าวร่ำลาเขาในคืนนั้นเลยเพราะกว่าซานดีปจะกลับอินเดียเราคงเดินทางกลับเมืองไทยไปแล้ว



คืนนั้นกว่าจะได้นอนก็เกือบตีสองเพราะต้องคอยพนักงานเขายกกระเป๋ามาส่งและจัดเตียงซึ่งหมายความว่าบริการทั้งหมดต้องแลกด้วยทิป หือ ร้อนกระเป๋าวูบๆๆเลยอ่ะคืนนี้




รุ่งเช้าเราตื่นตั้งแต่6โมง หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกเดินสำรวจย่านที่พัก เช้านี้เป็นเช้าวันเสาร์ค่ะ บ้านเมืองก็ค่อนข้างจะยังเงียบๆอยู่ เราเลยเดินไปเรื่อยๆค่ะ เจอร้านขายอาหารเช้าริมทางหน้าตาเป็นแบบนี้





คือพ่อค้าจะเอาขนมปังนาบลงบนกะทะที่มีเนยละลายอยู่จากนั้นก็ตอกไข่ใส่ลงขนมปังก่อนจะเอาอีกแผ่นมาประกบเป็นอันเสร็จพิธี เอ่อ แต่ว่าพอเห็นไม้เห็นมือของพ่อค้าแล้วก็เลยพาลไม่อยากจะทดลองอาหารเช้าของเขาดูมือพ่อค้าแล้วไม่แน่ใจในความสามารถของกระเพาะตัวเองน่ะค่ะ






เดินไปเรื่อยๆเห็นมีแต่พ่อค้า ไม่มีแม่ค้าเลยสักคน ผัดสดผลไม้ก็คล้ายกับบ้านเรานะ แถมยังเอามาขายแบบสดๆที่รากยังมีดินติดอยู่เลย สดจริงๆ


กลับมาจากตลาดเราก็มาทานอาหารเช้าที่โรงแรม วันนี้ ณ มน ขอลองอาหารเช้าแบบอินเดียคือจะเป็นแป้งจาปาตีนุ่มๆร้อนๆกับแกงผักรวม


เสียดายจังลืมถ่ายรูปมาให้ดู รสชาติอร่อยดีค่า เพราะณ มน ค่อนข้างคุ้นลิ้นกับอาหารเครื่องเทศแรงๆอยู่แล้ว แต่พี่เตี้ยสมัครใจแค่ขนมปังปิ้งกับกาแฟมากกว่า


แถมยังขู่ณ มนอีกนะ

"พี่ว่าพนักงานเขาอาจจะไปซื้อจาปาตีมาจากร้านค้นริมถนนที่เราเดินผ่านก็ได้น้า"


"เอ้าไหงมาขู่กันงี้หล่ะพี่ก็"


แล้วพี่แกก็หัวเราะร่าเลย


8โมงปุ๊บราชก็มารับ เราต้องจ่ายเงินค่าทิปสำหรับพนักงานยกกระเป๋าอีกแล้ว ที่อินเดียนี่ทุกอย่างต้องแลกมาด้วยทิปดังนั้นเตรียมแลกเงิน10-20ปีให้มากๆ


เมื่อณ มน ขึ้นมานั่งบนรถโดยที่พี่เตี้ยยังหาข้าวของในเป้ของตัวเองอยู่ทีหลังรถ ราชหันมายิ้มแล้วถามณ มน ว่า


"มาเที่ยวอินเดียครั้งแรกหรือ"


"หา อะไรนะ"ต้องถามซ้ำค่ะเพราะราชพูดอังกฤษสำเนียวงแขกฟังยากกกกมาก


"มาเที่ยวครั้งแรกหรือ"


"อ๋อ ครั้งแรกค่ะ"ฉันตอบพร้อมกับรอยยิ้มตามแบบคนไทย


แต่คำพูดคำต่อมาของราชนี่ทำเอาณ มนอึ้งเหมือนกันไม่รู้ฟังผิดหรือราชพูดแบบนั้นจริงๆเพราะพี่แกบอกว่า


"ผมก็ทำงานนี้ครั้งแรกเหมือนกัน"

"หะหา ว่าไงนะ"เอ เราฟังผิดหรือเปล่าว่า

ในระหว่างที่งงอยู่นั้นพี่เตี้ยก็เข้ามานั่งในรถซะก่อน ณ มนเลยหยุดความสงสัยไว้แค่นั้น หารู้ไม่ว่าต่อมาณ มนน่ะได้พิสูจน์แล้วว่าราชทำงานขับรถพานักท่องเที่ยวไปทัวร์เป็นครั้งแรกจริงๆ



ราชพาเราเริ่มต้นกันที่ถนนการเมือง ย่านอาคารัฐสภาอินเดียเป็นที่แรก วันนั้นเป้นวันที่เขาหยุดทำงานกัน ก็เลยเห็นแต่รั้วและมองจากด้านนอกค่ะ





แถมถนนแถวนั้นไม่ให้รถจอดด้วย ราชเลยใช้วิธีให้เราลงจากรถไปถ่ายรูปแล้วราชจะขับรถวนมารับ


เราเลยถ่ายรูปได้ไม่สะใจเท่าที่ควร เสียดายมากก




เมื่อราชขับรถมารับก็พาเราไปที่อินเดียเกตซึ่งอยู่ถนนเดียวกันอันมีชื่อว่าถนนRashtrapati Bhawan


วันนั้นเราเห็นอินเดียเกตลางๆในสายหมอกสวยมากค่ะ




อินเดียเกตคืออนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นให้กับทหารหาญที่เสียสละชีพในสงครามโลกครั้งที่1 แล้ววันที่เราไปเที่ยวเขากำลังเตรียมงานพิธีสวนสนาม ดังนั้นจึงได้เห็นทหารหนุ่มอินเดียหล่อล่ำเพียบเลย แต่ไม่กล้าพอจะไปขอถ่ายรูป ไมงั้นก็จะมีรูปมาลงให้ดูค่ะ



เราเดินถ่ายรูปอยู่แถวนั้นพักหนึ่งก็มีหนุ่มนกัเรีบนชาวอินเดียมากะลิ้มกะเหลี่ย พี่เตี้ยออกอาการขำกลิ้ง เมื่อเด็กหนุ่มมาชวนคุย พอเขาไปกันแล้วก็ก็ปล่อยก๊ากออกมาทันที


"โถ ไอ้หนูเอ๊ย อายุพี่น่ะเป็นแม่ได้เชียวน้า"นี่แหล่ะค่ะเป็นเครื่องยืนยันว่าสาวไทยหน้าเด็กกว่าวัยเสมอ



ด้วยความที่มีอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่ในเดลลี ราชจึงขับรถได้คล่องแคล่วมากกในเมืองเดลลี


เขามารับเราจากอินเดียเกตเพื่อพาไปเที่ยวที่วัดบาไฮ (Lotus Temple)ระหว่างทางก็ผ่านย่านของบ้านคนรวยค่ะ


โหมีบ้านอยู่หลังหนึ่งมองไม่เห็นตัวบ้านเลย เพราะเห็นแต่รั้วที่ยาวเป็นร้อยๆเมตรเลย ขนาดต้อง
มีประตูทุกด้านเลยอ่ะ


แล้วเป้นบ้านของใครรุ้ไหมคะ บ้านของหวานใจคุณhaiku นั่นเอง นายฮิทริค โรชานค่ะ นี่หน้าตาเป็นแบบนี้










อีตานี่ พ่อก็เป็นผุ้กำกับหนังชื่อดัง ตัวเองก็เป็นดาราดังขวัญใจสาวๆอินเดีย ดังนั้นบ้านช่องถึงใหญ่โตกินอานาบริเวณมากขนาดนั้น


แต่เมื่อหันมามองข้างถนนก็เห็นชาวบ้านเนือ้ตัวมอมแมมนอนอยู่ริมถนนนั่นแหล่ะ อาศัยอยู่ในเพิงเล็กๆที่ดูเหมือนจะไม่น่าคุ้มแดดกันฝนได้ด้วยซ้ำ ดูดิแค่รั้วกั้นแต่ชีวิตต่างกันราวกับฟ้ากับดิน






และแล้วเราก็มาถึงวัดบาไฮค่า หรือวัดดอกบัว วัดแห่งนี้คือสถานที่ของนิกายบาไฮ นิกายที่เชื่อในเรื่องการหลอมรวมข้อดีของทุกศาสนาเอาไว้ เชื่อว่าทุกศาสนามีข้อดีเหมือนกัน ดังนั้นจึงเปิดโอกาสให้ทุกเชื้อชาติศาสนาเข้าไปทำสมาธิสงบภายในสถานที่แห่งนี้ได้โดยไม่มีการเก็บเงินใดๆทั้งสิ้น


วัดบาไฮมีเอกลักษณ์คือตัวอาคารจะสร้างเป็นรูปดอกบัว มีสระน้ำอยู่รอบๆ พื้นหินอ่อนในเดือนธันวาคมเย็นเท้าดีมากๆขนาดใส่ถุงเท้านะนี่ยังเย็นเลยอ่ะ แต่ถือว่าบรรยากาศโดยรอบสงบจริงๆค่ะ


ที่นี่เขาจะมีข้อมูลหลายภาษามาก มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมาคอยให้ข้อมูล พอเจ้าหน้าที่เห็นเราเขาก็เดินมาถามว่ามาจากชาติไหน พอบอกว่าเป็นคนไทย เขาก็ยิ้มแล้วบอกว่ามีข้อมูลเป็นภาษาไทยด้วยนะ




นี่เป้นข้อมูลภาษาอังกฤษค่ะ เพราะณ มน ขี้เกียจเดินไปขอข้อมูลค่ะ เลยเอาที่เขาเดินมาแจกง่ายกว่าแหะแหะ


ออกจากวัดบาไฮ สวนกับเด็กนักเรียนที่มาทัศนศึกษาค่ะ หนูทักทายเป็นภาษาอังกฤษเสียงแจ๋วเลย ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่น่ารักมาก


ราชพาเราขับรถมาทางตอนใต้ของเมืองเดลลีค่ะเพื่อจะแวะเที่ยวกุตัปมีนาร์ จากนั้นก็จะตีรถไปเมืองอุครากันเลย





เราจ่ายเงินไป260รูปีสำหรับการเข้าชมที่นี่ ก่อนจะเข้าชมตอนเดินลงจากรถเห็นหน้ารถมีพวงพริกมะนาวแขวนอยู่ เลยเอ่ยปากถามราชว่าแขวนเอาไว้ทำไม ราชก้บอกว่าแขวนเอาไว้จะได้ทำให้การเดินทางราบรื่น

"อ้อ อย่างนี้น่ะเอง"

จากนั้น ณ มน กับพี่เตี้ยก็เลยเดินเข้าไปด้านในกุตัปมีนาร์ค่ะ(Qtob Minar)


ข้างในจะมีอะไรน่าสนใจ เอาไว้มาต่อในตอนหน้านะคะ



เพราะรู้สึกว่าตอนนี้จะยาวมากกก เดี๋ยวทุกคนจะเบื่ออ่านเสียก่อนค่ะ


มาตามกันตอนหน้านะคะ




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2549
12 comments
Last Update : 5 มิถุนายน 2549 14:30:54 น.
Counter : 3033 Pageviews.

 

แวะมาเจิมบล็อคเป็นคนแรก โทษฐานที่เอ่ยชื่อเราด้วย อิ อิ ขอบคุณที่แปะรูปหวานใจนะคะ พี่แกตาหว๊านหวานแล้วก็คมอีกตะหาก เล่นหนังก็เก่ง แถมรวยเข็ดฟันเลยนิ แต่งงานแล้วหรือยังหว่า

เข้าใจเลือกปกหนังสือจัง ณ มนถ่ายเองด้วยหรือเปล่าคะ ฟังชื่อก็อยากอ่านแล้วล่ะ กะว่าจะไปขอลายเซ็นต์ด้วยแต่เสียดายไม่ตรงกับวันอาทิตย์ แต่ก็จะซื้อมาอ่านแน่ๆค่ะ

 

โดย: haiku 5 มิถุนายน 2549 16:51:10 น.  

 

ณ มนถ่ายรูปเองทั้งหมดค่า เป็นกล้องฟิล์มค่ะก็เลยเดือดร้อนต้องไปสแกนก่อนจะนำมาให้ชมกันนี่หล่ะค่ แต่ไม่เป็นไรเพื่อทุกๆคน ณ มนทำด้ายยยย

ส่วนเรื่องฮิทริคแต่งงานหรือยังตอนหน้าจะมาเฉลยค่ะ

 

โดย: ณ มน 5 มิถุนายน 2549 17:29:09 น.  

 

ตามมาเที่ยวอีกนะค่ะ ... กระซิบบอกอีกต่างหากว่าเขียนยาวเท่าไหร่ไม่เบื่อหรอกค่ะ สนุกดีออก

 

โดย: JewNid 5 มิถุนายน 2549 18:46:24 น.  

 

Trip ยาวไม่ว่ากันค่ะ เพราะหนุก...

ไว้หนังสือพี่มนออกแล้วจะไปสอยมาอ่านนะคะ อยากไปงานแจกลายเซ็นต์ด้วยจัง...

 

โดย: กวางตุ้งหวาน 5 มิถุนายน 2549 21:53:04 น.  

 

เรื่องยาวจิง แต่อ่านแล้วไม่น่าเบื่อค่ะ

พี่นะบรรยายหนุกดี

วันที่ 8 อ่ะ อยากไป แต่คงไปไม่ได้ แต่ อ๊ะๆ ถ้าเปงตอนเย็นก้อไม่แน่ เลิกงานแล่ะก้อปายด้าย

ถ้าไม่ได้จิงๆก้อนัดเจ้าตัวออกมาเซ็นซะเลยดิ เนอะ อิอิ


อ่อ แล้วค่าเงินของเขานี่ เทียบกะเงินไทยมันเท่าไหรอะคะพี่นะ

 

โดย: ชอนึน 6 มิถุนายน 2549 8:40:54 น.  

 

หนุกดีค่ะ

อ่านแล้วยิ่งอยากๆๆไป เก็บเงินกี่ปีหว่าเรา

 

โดย: PANDIN 6 มิถุนายน 2549 9:47:35 น.  

 

แป๋ม.....ดีใจจ้าที่ชอบอ่านนะคะ

PANDIN.....ตอนนี้ยังไม่มีตังค์ไม่เป็นราย อ่านที่ณ มน เขียนไปก่อนนะคะ แล้วเราก็พยายามเชียร์ให้คูทิงพาพวกเราไปตลุยบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างลาวให้ได้กันดีกว่าเนอะ ไม่ต้องใช้งบมาก

กวางตุ้งหวาน......หาโอกาสไปเจอกันให้ได้นะ เวลาประมาณบ่าย2บ่าย3นี่แหล่ะ ดีใจค่ะที่ทริปนี้สนุกสำหรับกวางตุ้งหวาน

JewNid.....ขอบคุณค่าที่ไม่เบื่ออ่านค่ะ

ยังมีเรื่องราวสนุกๆรออีกเพียบเลยค่ะ เพราะนี่มันแค่น้ำจิ้มค่ะ

 

โดย: ณ มน 6 มิถุนายน 2549 11:05:58 น.  

 

บอกแบบเดียวกะคนข้างบนครับ
หนุกดี เขียนยาว ก็เต็มใจอ่านครับ

เข้ามาอ่านที่นี่ ไม่ผิดหวังเลย

 

โดย: yyswim 6 มิถุนายน 2549 12:25:56 น.  

 

yyswim.....ขอบคุณค่าที่รู้สึกสนุกไปกับการเดินทางครั้งนี้


แป๋ม....ลืมตอบเรื่องค่าของเงิน ตอนที่ไปเที่ยว1รูปีเกือบๆจะเท่ากับ1บาทจ้า เพราะตอนนั้น1เหรียญยูเอสดอลลาร์แลกเป็นเงินไทยได้40บาท แต่ถ้าแลกเป็นรูปีได้ประมาณ45รูปีจ้า

 

โดย: ณ มน 6 มิถุนายน 2549 13:32:24 น.  

 

"ณ มน คนนี้ หัวใจมีรัก"

ชื่อหนังสือเล่มนี้.. ใช้ได้นะครับ... แฮ่ม..

ยินดีด้วยจ้า...


จะกินอะไรที่อินเดีย ป้าหนอนเตือนไว้ว่าอย่ากินอะไรเย็นๆ.. น้ำแข็งห้ามเด็ดขาด...


ZogZag Vol.10.2 Namaskar Mumbai, India

แต่ผมอยากลองน้ำมะเหน็ดหนะ.. ร้อนๆก็ไม่มีให้กินเลยลองเสี่ยงดู ถ้วยละ 3 รูปีเอง...


วัดบาไฮค่า หรือวัดบาไฮคับ... ทีแรกอ่านแล้วนึกว่าชื่อ บาไฮค่า จริงๆซะอีก... ฮิฮิ.. สวยมากครับ พึ่งเคยเห็นครั้งแรก...

ดูท่าพี่ราชนี่ต้องมีอะไรเด็ดในตอนหน้าแน่ๆเรย... รอลุ้น..

 

โดย: ... ณ มิตร ... (namit ) 7 มิถุนายน 2549 6:24:11 น.  

 

คุณ ณ มิตร.....ที่อินเดียน้ำแข็งไม่อร่อยเลยเวลาดื่มน้ำก็เลยสั่งเป็นโคล่าแช่เย็นมาดื่มแทน น้ำผลไม้ก็ไม่อร่อยพี่เตี้ยที่ไปด้วยกันสั่งมาดื่ม ร้องอะจ๊ากเลยอ่ะเรื่องน้ำผลไม้ปั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไปมา10วันดื่มแต่น้ำเปล่ากับโคล่าเย็น


แต่ชาร้อนของเขาก็อร่อยดีค่ะเพราะมันมีรสซ่าๆเหมือนมีสมุนไพรผสมอยู่ด้วยแต่ก็ดื่มไปไม่กี่ถ้วยเพราะโดนประกาศิตสั่งห้ามจากพี่เตี้ยค่ะ

พี่ราชมีวีรกรรมเด็ดตลอดรายการค่ะมาตามอ่านกันในตอนหน้านะคะ

 

โดย: ณ มน 7 มิถุนายน 2549 10:35:34 น.  

 

ขอแก้นะคะ

บาไฮไม่ใช่นิกาย แต่เป็นศาสนาค่ะ

มีคนไทยนับถืออยู่พอประมาณ

ส่วนตัวแล้วก็เป็นบาไฮเหมือนกัน

 

โดย: PaNDa_PooKPui IP: 161.200.255.163 1 กุมภาพันธ์ 2552 21:43:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ณ มน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




ณ มน ชื่อนี้แปลว่า "ที่หัวใจ" ตอนแรกตั้งใจจะใช้เป็นเพียงนามปากกาที่ใช้เขียนหนังสือเท่านั้น

แต่สุดท้ายก็นำมาใช้เปิดบลอคจนได้ แหะแหะ

ณ มนเป็นคนธรรมดาๆ ชอบเดินทาง ชอบคุย ชอบเล่าชอบเมาท์ไปเรื่อย ถ้าไม่เบื่ออ่านเรื่องเล่าที่บางคราวก็เฮฮา บางคราก็ไร้สาระล่ะก็ แวะมาเยี่ยมเยือนกันได้ค่ะ ^_^


บอกเล่าเก้าสิบกันนิดนะคะว่า
บทความและข้อเขียนทุกชิ้นในบลอกนี้
ได้รับการคุ้มครองตาม พรบ. ลิขสิทธิ์ค่ะ
เข้ามาอ่านได้นะคะ แล้วก็แสดงความคิดเห็นได้ด้วย
แต่อย่าลอกกันนะคะ


***********


ผลงานของณ มนค่ะ























































ผู้เยี่ยมชม
Friends' blogs
[Add ณ มน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.