หลายเรื่องเล่า กับณ มน คนหัวฟูแก้มป่อง ^_^
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
ไจสัลแม เมืองทองแท้ไม่ต้องทา (jaisalmer)





จากเมืองสีน้ำเงินจ๊อดปูร์ เมืองต่อไปของณ มนคือเมืองสีทอง ไจสัลแม (ไจ-สัน-ละ-แม) ตามสำเนียงเรียกขานของชาวอินเดียน่ะจ้ะนายจ๋า

ส่วนฝรั่งมังค่าก็เรียกมืองนี้ว่าไจซาลเมอร์ และได้รับฉายาว่าเมืองสีทอง เดี๋ยวเราจะพิสูจน์กันค่ะว่าทำไมถึงได้ฉายานี้


จากจ๊อดปูร์เรารีบเดินทางเร็วหน่อยเพราะกลัวรถจะเป็นอะไรอีก แต่วันนี้น้องทาทาทำตัวน่ารักมาก สามารถฝ่าถนนกลางทะเลทรายมาจนถึงเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง

จากระยะทางที่ป้ายบอกไว้ อีก160 กิโลเมตรจะถึงเมืองไจซาลเมอร์ ราชจอดแวะที่เมืองนี้บอกว่ารถเริ่มมีปัญหาจะหาช่างก่อน แต่จดแล้วจนรอดก็ไม่มีช่าง ราชบอกว่าเราคงต้องตีรถไปเมืองไจซาลเมอร์เลย





หน้าทางเข้าป้อม



ตายล่ะหว่า ทำไงดีนี่ยิ่งราชบอกว่าเราต้องตีรถไปเมืองสีทองเลย สรุปเราต้องแขวนชีวิตน้อยๆเอาไว้กับแม่หนูทาทาน่ะหรือ

แถมตอนจะสตาร์ทเครื่องเธอก็ดับสนิทอีก เดือดร้อนให้ชาวบ้านต้องมาช่วยเข็นบั้นท้าย แบบนี้จะวางใจได้ไหมเนี่ย

แต่ในที่สุดเราก็มาถึงเมืองสีทองจนได้ค่ะด้วยความโล่งใจ ถนนที่มาเมืองนี้เป็นสองเลนที่ดูเหมือนเล็กแต่เพราะมีรถราน้อยมากเลยดูกว้างทันตาเห็น รถราที่ผ่านไปมาก็มีแต่รถของทหารทั้งจิ๊ปและจีเอ็มซี





ป้อมโซนาร์




ก่อนเข้าเมืองเห็นค่ายหทารตั้งอยู่แล้วก็มีหน่มทหารร่างบึ้กหน้าคมเข้มเดินกันขวักไขว่ ณ มนเห็นแล้วนึกถึงเจ๊ที่เมืองไทย รายนั้นล่ะเห็นคนในเครืองแบบไมใด้ เห็นทีไรเป็นแข้งขาอ่อน


สำหรับบ้านเรือนในเมืองนี้สร้างจากหินทรายสีเหลืองลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมดูแน่นหนาคงเพราะอยู่กลางทะเลทรายนั่นเอง

เราให้ราชมาแวะส่งที่ป้อมโซนาร์ก่อนเลยเพราะไม่ยอมพลาดการดูอาทิตย์ตกดินอีกแล้ว ก็แหม พลาดมาตั้ง2เมืองแล้วอ่ะ ทั้งที่อัคราและที่พุชการ์ เป็นตายร้ายดียังไงวันนี้ณ มนกับพี่เตี้ยต้องได้เห็นอาทิตย์ฉาบทาเมืองสีทองให้ได้





วังที่ไม่ได้เข้าไปดูค่ะ แหะแหะ





แต่พอเหยียบเท้าลงที่หน้าป้อม เวลาที่ข้อมือบอก4โมงเย็น เจ้าประคุณเอ๊ย อากาศในเมืองกลางทะเลทรายตอนสี่โมงเย็นถึงจะเป็นหน้าหนาวแต่มันร้อนสุดยอดเลยค่ะ

ดังนั้นเลยตัดสินใจเดินเล่นดูอะไรๆในป้อมกันไปก่อน
ภายในป้อมนอกจากจะมีวังมีวัดแล้ว บ้านเรือนก็น่าสนใจไม่น้อยค่ะ มีเกสต์เฮาส์มากมาย ร้านของที่ระลึกเพียบ สรุปว่าเดินอย่างเพลิดเพลินไม่เบื่อเลยค่ะ





วัดเชนสวยๆในป้อม



เมืองนี้จะมีเศรษฐีมากเพราะว่าเมื่อก่อนเป็นเมืองทางผ่านของกองคาราวานสินค้าทางทะเลทราย ก่อนที่จะซบเซาไปเพราะการค้าทางทะเลเข้ามาแทนที่ แต่ถึงอย่างนั้นก็จะเห็นความร่ำรวยนั้นจากอาคารบ้านเรือนหลังต่างๆ ที่สร้างได้งดงามไม่แพ้พระราชวังเลยล่ะค่ะ

ดูอย่างบ้านนี้เป็นต้น








เดินกันไปเรื่อยหันไปเจอบ้านหนึ่งมีดาดฟ้าน่าขึ้นไปถ่ายรูปมาก แต่มองหาเจ้าของบ้านเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลย แวบขึ้นไปกับพี่เตี้ย แต่แดดยังร้อนเปรี้ยงเลยค่ะต้องยอมแพ้เดินลงมาด้วยความเสียดาย





สาวสวยชาวอินเดีย




หลังจากเดินชมบ้านเรือนสวยๆ เราก็ได้เจอสาวสวยเข้า ณ มนเข้าไปขอเธอถ่ายรูปและขอที่อยู่มาด้วยเพราะตั้งใจแล้วว่าเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยจะส่งรูปไปให้ แล้วก็ทำตามสัญญาเรียบร้อยค่ะ




วิวเมืองสีทองจากร้านอาหาร



เหลือบดูเวลาอีกครั้งได้เวลาแล้ว เราสองคนเลยไปหาร้านอาหารเพื่อนั่งทานข้าวแกล้มชมวิวอาทิตย์อัสดง ในที่สุดก็ได้เจอร้านหนึ่งแถมพอเข้าไปร้านนี้ก็ได้ยิ้มจนหน้าบาน เพราะเจอหนุ่มญี่ปุ่นหล่อคนหนึ่ง ที่พอได้คุยแล้วเขาบอกว่ามาเมืองไทยหลายครั้งและชื่นชอบมากโดยเฉพาะอาหารอร่อยมากๆ
โห งานนี้เราสองคนยิ้มหน้าบานเลยค่ะ







นั่งรอกันครู่หนึ่งเพื่อรอชมวิวอาทิตย์ตกดิน ลับเมืองสีทองที่ตอนนี้เริ่มๆเห็นแววแล้วว่าเพราะอะไรเมืองนี้ถึงได้ฉายาเมืองสีทอง เพราะนอกจากอยู่กลางทะเลทรายสีทองแล้ว บ้านเรือนทุกหลังยังสร้างด้วยหินทรายสีเหลืองเลยทำให้เมืองดูเหลืองโดยไม่ต้องทาสี

แต่ที่เด็ดสุดน่ะมันอยู่ตรงเวลาที่พระอาทิตย์สาดลำแสงสุดท้ายมาฉาบทาเมืองทั้งเมืองต่างหาก






เมื่อพระอาทิตย์ก็คล้อยต่ำจนเกือบลับขอบฟ้า ตอนนี้เองเมืองไจซาลเมอร์ทั้งเมืองถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็นจนเป็นสีทองไปทั้งเมือง ราวกับมีพู่กันขนาดใหญ่เอาสีทองมาทา บ้านเรือนที่ดูคล้ายๆกล่องนั่นเป็นสีทองไปเสียทุกหลังสวยยังกะภาพวาดเหมือน ที่ใครๆเขาพูดกัน

Golden City ในที่สุดก็ได้มาเห็นกับตาตัวเองแล้ว สวยไม่แพ้ Pink Cityที่เมืองชัยปุระ และ Blue Cityที่เมืองจ๊อดปุระเลย ค่ะ

ปล.ภาพน่ะอาจจะเห็นไม่ชัดนักแต่ณ มนยืนยันนะคะว่าของจริงสวยมาก







มองป้อมจากที่ไกลๆ




ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดของคุณชายราช เพราะวันนี้เราจะไปแคมป์กลางทะเลทรายค่ะ รถของแคมป์จะมารับเราตอนบ่าย ดังนั้นตอนเช้าเลยต้องเดินเที่ยวเองในเมือง

เราเริ่มต้นกันด้วยปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงแรมหลังทานอาหารเช้าเสร็จเพื่อถ่ายรูปป้อมมุมไกลๆ





ป้อมโซนาร์มองจากดาดฟ้าโรงแรม




จากนั้นก็จะเดินไปเที่ยวที่ทะเลสาบกาดิซาร์ และตลาดในเมือง




ป้อมอีกสักภาพค่ะ

จากโรงแรมแรมถามพนักงานว่าเดินไปทะเลสาบได้ไหม เขาว่าไปได้ไม่ไกลก็เดินคว้าเป้หลังใบเล็กใส่น้ำใส่ขนมสะพายหลังแล้วก็เดินออกเดินกันค่ะ

ไม่ไกลอย่างที่บอกแป๊บเดียวเราก็เดินมาถึงทะเลสาบ





ทะเลสาบกาดิซาร์



หลายเมืองที่ไปเที่ยวมาล้วนแต่มีทะเลสาบธรรมชาติทั้งนั้น แต่ที่ไจซาลเมอร์ไม่มี






มหาราวัล กาดิซิงห์ (Maharawal Gadissingh)จึงสั่งให้ขุดทะเลสาบแห่งนี้ขึ้นมา ในปี ค.ศ. 1367เพื่อเป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้ของชาวเมือง







ชาวบ้านมาซักผ้ากันที่ริมทะเลสาบ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบก็มีฝูงวัวและฝูงแพะของชาวบ้านมากินน้ำ นับเป็นทะเลสาบที่เอื้ออำนวยให้กับทุกชีวิตทั้งคนและสัตว์ทีเดียว






ริมทะเลสาบมีวัดพระกฤษณะด้วย



เมื่อเดินออกจากทะเลสาบเราสองคนก็มาเดินเที่ยวตลาด ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสายมากแล้วจึงไม่ค่อยมีคนมากนัก ร้านรวงส่วนใหญ่เห็นมีแต่พ่อค้าไม่เห็นมีแม่ค้าสักคน ที่นี่ผู้หญิงคงจะอยู่แต่ในบ้าน

จากนั้นก็เดินหาสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง Salam Singh Hawali เราจ่ายกันไป15รูปีถูกมากๆ

ที่นี่เป็นอาคารที่มีการแกะสลักหินได้สวยงามอีกที่หนึ่งของเมือง แถมยังมีจุดชมวิวป้อมไจซาลเมอร์เป็นของแถมอีกด้วย เราเดินชมได้ส่วนเดียวเพราะอีกส่วนเป็นสถานที่ของผู้หญิงเขาไม่เปิดให้เข้าชม เดินลงจากซาลาม ซิงห์
ฮาวาลี



บ้านเศรษฐีที่สร้างได้งามวิจิตรไม่แพ้วังในป้อมเลย





และฮาเวลีนี่ก็หมายถึงบ้านเศรษฐีผู้มีอันจะกินในเมือง ซึ่งร่ำรวยจากการค้าอย่างที๋ณ มนเล่าให้ฟังตอนแรกนั่นล่ะค่ะ


เดินเที่ยวเสร็จก็กลับมากินข้าวเที่ยวที่โรงแรมพร้อมกับรีบอาบน้ำและเอาเป้ใบใหญ่มาฝากไว้ที่เคาท์เตอร์เพราะคนงานของแคมป์มาแล้ว

ตอนกินข้าวนี่ได้เจอกับสองสามีภรรยาชาวสวิสด้วย สองคนนี่ก็ชมเมืองไทยอีกแล้วว่าทะเลสวย แหมปลื้มค่ะ






ทะเลทรายธาร์



แคมป์กลางทะเลทรายอยู่ห่างจากโรงแรมแค่45กม.เท่านั้น เมื่อไปถึงเราก็ได้เจอกับสองสามีภรรยานี่อีก สรุปว่าเขามาแคมป์เดียวกับเรา

พอมาเอาของเข้าเก็บในที่พักเจ้าของก็เอาชาอินเดียมาให้ดืมณ มนดื่มได้นิดเดียวก็ต้องวางเพราะคนงานพาอูฐมารอแล้ว

มาค่ะ มาขึ้นอูฐกับณ มนและพี่เตี้ยกัน




พี่เตี้ยกับพี่เลี้ยงที่สอนขี่อูฐ




พี่เตี้ยเป็นหน่วยกล้าตายขึ้นอูฐก่อนใคร รายนี้กล้าหาญมากเพราะใครที่เคยขี่อูฐจะรู้ว่าเวลาที่มันยืนขึ้น มันเสียวท้องวาบเลย ใจมันแว้บๆบอกไม่ถูกเพราะมันจะยืนจากขาหลังก่อนแล้วค่อยเหยียดขาหน้าขึ้นโอ้โหประสบการณ์ครั้งนี้ไม่มีวันลืมเลย มันหวิวๆยังไงไม่รู้

หูแว่วๆมาจากสาวๆชาวตะวันตกร้องวี๊ดว้ายกันสุดฤทธิ์ ณ มนก็ไม่ได้เก่งกล้าหรอก แต่กลัวจะเสียภาพหญิงไทยก็เลยได้แต่อุทานอกมาเบาๆตอนอูฐมันยืนว่า
“เฮ้ย! “





เราตัดสินใจดูอาทิตย์ตกกลางทะเลทรายที่ตรงนี้


ระหว่างทางที่ขี่อูฐผ่านนักท่องเที่ยวคนอื่นที่ทำท่ากลัวร้องกันวี๊ดว๊าย วู๊ว ว๊าว ณ มนก็ทำเป็นยืดหลังตรง ทำวางฟอร์มว่าไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน แต่ที่จริงมืองี้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ต้องทำเก่งเอาไว้ก่อนเดี๋ยวเสียฟอร์มหมด


เราขี่อูฐมาจนถึงเนินทรายที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตาก็ลงจากหลังอูฐ คราวนี้ไม่กลัวเหมือนครั้งแรกแล้วล่ะค่ะเพราะมีประสบการณ์มาแล้วจึงเอนตัวได้จังหวะ





ชีวิตเล็กๆในทะเลทราย


คนงานที่พาเรามาบอกให้เราถอดรองเท้าแล้วลองเหยียบบนผืนทราย ปรากฏว่าผืนทรายนุ่มเท้ามากเลยค่ะ


ระหว่างนั้นก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อย จนไปเจอคุณนางแบบนายแบบจำเป็นชาวอินเดียเข้า
เขามาพลอดรักกันชนิดไม่สนใจสายตาประชาชี และสาวตาร้อนๆของสาวโสดอย่างณ มนกับพี่เตี้ยเลย
เราสองคนเลยได้แต่มองตาปริบๆ รับบทคนโสดกันต่อไป






อยากบอกว่าเวลาที่พระอาทิตย์ตกลับเนินทรายน่ะค่ะ มันสวยงามและโรแมนติกมากเลยนะ บรรยายไม่ถูกเลยค่ะว่ามันสวยมันงามยังไง รุ้แต่ว่าทุกวันนี้พอหลับตายังนึกภาพออกเลย

ดังนั้นให้ภาพอธิบายแทนก็แล้วกัน







คืนนั้นเรากลับมาพักที่แคมป์ ตอนหัวค่ำระหว่างรออาหารเย็น ณ มนกับพี่เตี้ยโชว์ฝีมือปิ้งพาผัดกันด้วย แล้วก็หม่ำโชว์คนอื่นๆ คือตอนแรกไม่มีใครกล้ากินหรอกค่ะ แต่พอเห็นเราสองคนกินเขาเลยเอามั่ง สุดท้ายพาผัดหลายเป็นกับแกล้มเบียร์ของนักท่องเที่ยวทุกคนในแคมป์ไปเลย


คืนนั้นก่อนนอนคนขับรถของสองสามีภรรยาชาวสวิสมาบอกเราว่าให้ปิดประตุให้แน่นหนา ใครเรียกอย่าเปิดจนกว่าจะเช้า เรากล่าวขอบคุณเขาก่อนจะหันไปมองคนขับของตัวเอง

หนอย ตาราช ไปนั่งคุยกับคนงานในแคมป์โน่น

ไม่ได้ห่วงกันเลย มันน่านักเชียว






คืนนั้นเราหลับไปพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็นจับจิต เพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่าอากาศกลางคืนในทะเลทรายมันหนาวได้ขนาดนั้น

หนาวจนณ มนนอนขดตัวงอเป็นกุ้งเช้าตื่นมานี่เมื่อยหลังเมื่อยคอไปหมดเลยค่ะ

แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากๆ กับการมานอนกลางทะเลทรายเช่นนี้


ปิดท้ายที่กาดิซาร์ เลคกันอีกรอบนะคะ






เท่าที่ณ มนเดินทางเที่ยวอินเดียมาหลายเมืองนี่นะคะ รู้สึกว่าตัวเองจะเทคะแนนให้เมืองสีทองนี่มากกว่าเมืองอื่นๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม หรือจะเป็นเพราะว่าตัวเองหลงรักห้วงเวลาอาทิตย์ตกลับทะเลทรายเสียแล้วก็ไม่รู้

แต่ว่ายังเหลืออีกเมืองหนึ่งนะคะ คือบิคาร์เนอร์ซึ่งเป็นเมืองแถม เอาไว้มาตามอ่านกันตอนหน้าซึ่งเป็นตอนจบของการเดินทางในแดนอินเดียของณ มนค่า

ปล.บรรยายมากเหมือนเคย ใครเบื่ออ่านจะข้ามไปบ้างก็ได้นะคะ






Create Date : 18 สิงหาคม 2551
Last Update : 21 สิงหาคม 2551 12:45:42 น. 43 comments
Counter : 3146 Pageviews.

 
เจิมมมมมมมมมมมมมมมมม ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เห็นรูปแล้วนึกถึงสารคดี เส้นทางสายไหมจังคับ คุณ ณ มน


ดูแล้วววววววววอยากเป็นนักเดินทางจัง


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:13:08:40 น.  

 
น้อง ณ มนคะ อาหารลดน้ำหนัก 10 วันมาแล้วค่ะ

ไปที่ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pinky-bear


โดย: หมีสีชมพู วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:1:37:19 น.  

 
ช่วงนี้พลังชีวิตถดถอยก็เลยไม่ได้อัพบล็อกสักที
พลอยทำให้ไม่ได้จัดเพลงตามคำขอ

แอบเอาเพลงที่ขอไว้มาให้ที่บล็อก
ดีขึ้นเมื่อไหร่จะอัพบล็อกด้วยเพลงนี้อีกทีครับ



โดย: 9A วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:9:17:45 น.  

 
9A...ขอบคุณมากๆจ้า ขอให้พลังจงอยู่กับท่าน เอ๊ย ไม่ช่ายขอให้นายเอกลับมามีพลังใจเร็วๆนะคะ

พี่หมี...ขอบคุณค่าพี่

โจ...ทะเลทรายมันน่าหลงไหลมากเลยนะโจ
ยังเป็นนักเดินทางตอนนี้ไม่ได้ก็มาเที่ยวในบลอกของณ มนก่อนก็ได้


โดย: ณ มน วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:11:00:55 น.  

 
โห ณ มนไปย้ำทะเลทราย ขี่อูฐมาแล้วเหรอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับณ มนแน่ๆเลย

Golden City...Pink City...Blue City เป็นเมืองหลากสีจังเนาะ สวยไปคนละแบบ แต่เมืองสีทองจะดูแพงที่สุด อิ อิ




โดย: haiku วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:13:28:42 น.  

 
เมืองสีทองนี่นึกถึงลาสเวกัสตอนกลางคืนเลยนะครับ (นั่งเครื่องบินผ่าน) เคยได้ยินเหมือนกันนะครับว่ากลางคืนทะเลทรายหนาวมาก ^^


โดย: ฮิโระ (ordinary_hero ) วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:21:30:23 น.  

 
สีทองนี่ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าๆได้สวยจริงๆ


โดย: เยี่ยมรุ้ง วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:19:19:19 น.  

 
ปสก . หนนี้เยี่ยมเลยคะ เพราะว่าได้ไปเจอกับ
เมืองแห่งทองเข้าแล้ว สวยงามจริงๆ ขนาดว่าได้เห็น
แต่ภาพนะคะ ถ้าได้เห็นด้วยตาตัวเองทีเมือง
ทั้งเมืองเป็นสีทองอร่าม คงได้ร้องว้าวววววว
รับขานกันแต่ไกลเชียวคะ ...


ไปเยือนทะเลทรายอย่างนี้ ... คิดถึงเรื่องฟ้าจรดทราย
เชียวค่ะคุณ ณ มน ... เมื่อก่อนอ่านเรื่องนี้เมื่อไหร่
อ่ะโห คิดถึงพระเอกต้องหล่อสุดๆ ไปเลยล่ะคะ
แขกขาวนี่ เค้าหล่อแบบไม่บันยะบันยังเลยนะคะ ...


โดย: JewNid วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:22:09:47 น.  

 
ตะวันตกดินสวยจริง ๆ ณ มนใช้กล้องอะไรถ่ายจ๊ะ

แต่รูปที่ชอบที่สุดก็คือ รูปทะเลสาบกาดิซาร์ที่ต่อจากรูปป้อมโซนาร์ ดูแล้วเหมือนภาพเขียนเลย


โดย: haiku วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:21:56:04 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะ น่าอิจฉาคนได้ไปเทียวบ่อย

ดีใจที่ยังไม่ลืมกันค่ะ มอร์นิ่งก็ยังไม่ลืมคุณ ณ มน เหมือนกันนะ ^^


โดย: มอร์นิ่งกลอรี่ (มายด์_มอร์นิ่งกลอรี่ ) วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:22:22:57 น.  

 
มายด์...ดีใจจังค่ะที่ยังไม่ลืมกัน ยินดีกับหนังสือที่วางจำหน่ายด้วยนะคะ

ไฮกุ...ตอนณ มนไปเที่ยวณ มนใช้ Nikon Fm10 จ้ะ ส่วนพี่เตี้ยใช้แคนอน ที่เป็นกล้องดิจิตอลน่ะจ้ะ ภาพที่นำมาลงก็เลยมาจากสองกล้องนี้ล่ะ
ทะเลสาบนี่ณ มนก็ชอบมากเหมือนกัน แบบเดินทางกลางทะเลทรายมาเจอนี่หายร้อนเลย

ปล.ประสบการณ์ย่ำทะเลทรายขี่อุฐนี่ประทับใจมากเลยล่ะจ้ะ


จิวนิด...ค่ะเป็นประสบการณ์ที่จำไม่ลืมเลย แล้วก็ยืนยันค่ะว่าเมืองสีทองสวยๆจริงๆ ณ มนชอบเมืองนี้มากเลยล่ะ

ปล.เหมือนกันเลยค่ะว่าเวลาอ่านฟ้าจรดทรายน่ะชอบจินตนาการหน้าชารีฟมากเลย แบบว่าหล่อมากมายในความคิดจนทำให้เวลานึกว่าจะให้ดาราคนไหนมาแสดงนี่ยังหาไม่เจอเลยล่ะค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:11:30:36 น.  

 
เยี่ยมรุ้ง...ใช่คะโดยเฉพาะเวลาที่พระอาทิตย์คล้อยต่ำนะคะ ท้องฟ้าจะสวยมากเลย

ฮิโระ...หนาวมากค่ะ ตอนพี่เล่าให้ฟังก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ ต้องไปเจอเองถึงเข้าใจค่ะหนาวมากกกกก



โดย: ณ มน วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:11:35:40 น.  

 
มาเยี่ยมพี่นะฮับ หมูอ้วนกลมๆ น่ารัก(แหวะ ) ไปเยี่ยมชมมาแล้น
น่าหนุกออกอ่ะ แต่หนูอ่านคร่าวๆ เองอ่ะพี่นะ

เพราะจะบอกว่าเป็นคนม่ะถนัดอ่านบนเน็ตเท่าไหร่ เวลาอ่านจะอ่านข้ามจับใจความ
มากกว่า เพราะแสบตามั่กมากกกกก อ่านแล้วต้องเชียร์ให้พี่นะทำใหม่นะ ชะเอิงเอย
รออ่านเป็นเล่มๆ ด้วยคนคร่าาาาาาาาาา


โดย: หมูบิน (Bann_Andaman ) วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:11:52:13 น.  

 
สวยจังค่ะ อาคารบ้านเรือนสวยงามมากๆ เลย

น่ารักจัง ส่งรูปไปให้เค้าด้วย

ตามมาเที่ยวเช่นกันนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:12:55:21 น.  

 
พี่นะฮับ พี่นะยังม่ะได้แอดใช่ไหมฮับ งั้นจะบอกว่าดีเรยยยยยย
หมูบินทำเรื่องแล้ว ใจดีทำลิงค์ให้สาวๆ แต่ดั๊นดันไปติดหลังบ้านตัวเองพร้อมล็อกอินไว้เสร็จสรรพ

ซวยเลยพี่นะ นี่กว่าพี่สาวเขาจะกลับมาลบเม้นต์นั้นทิ้งก็ไม่รู้เมื่อไหร่ สงสัยหนูได้ log out
ออกจากระบบแหงแซะ


โดย: หมูบิน (Bann_Andaman ) วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:14:39:58 น.  

 
ดีค่าคุณ ณ มน วันนี้แตนซื้อนิยายเล่มใหม่(ที่ยังไม่เคยอ่านน่ะค่ะ)มาเล่มนึง ร้อยเรียงเคียงรัก..ยังไม่ได้อ่านเลยคิดถึงคนแต่งก่อนจึงชะแว๊บมาเยี่ยมโชคดีมากได้ดูภาพที่สวยงามมาก..ชัดเจนค่าชัดเจน...อิจฉาอยากไปบ้างจัง...คิถึงนะคะ


โดย: phaclam (phaclam ) วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:22:42:37 น.  

 
เมืองสีทองก็สวย

ที่อินเดียสมัยก่อน คงรบกันระหว่างเมืองนะ เห็นแต่ละที่ ต้องมีป้อมใหญ่ๆทั้งนั้นเลย

ณ มนไปอินเดียกี่วันเนี่ย
เที่ยวได้พื้นที่กว้างจัง


ช่วยสรุปงบประมาณ และวันที่ใช้ หากอยากตามรอย ณ มน ให้แองจีหน่อย นะจ๊ะ


โดย: angy_11 วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:11:23:09 น.  

 
จี้...เราไปมา10วันจ้า ใช้ไปสามหมื่นนิดๆ สามหมื่นสามพันนะประมาณนี้ล่ะ เที่ยวเมืองต่างๆในแคว้นราชสถานได้หลายเมืองเลยล่ะ

แล้วจี้ก็เข้าใจถูกต้องแล้วว่าเขารบกันบ่อยมากแล้วราชวงศ์ราชพุธแห่งราชสถานนี่นะ รบเก่งมากเลยด้วยล่ะ ขนาดราชวงศ์โมกุลที่สร้างทัชมาฮาลน่ะยังเกรงใจเลย

phaclam....ขอบคุณค่าที่ไปอุดหนุนนิยายของณ มนมาด้วย แล้วก็ขอบคุณมากๆที่คิดถึงกันค่ะ
หวังว่านิยายคงถูกใจแล้วก็การพาเที่ยวบลอกนี้จะทำให้ถูกใจด้วยเหมือนกันนะคะ

หมูบิน...เมือ่ก่อนเคยแอดได้แต่พอเขาปรับระบบนี่จะแอดใครไม่ได้เลย ลำบากจัง คนโลว์เทคก็งี้

สาวไกด์ฯ...บ้านเรือนสวยจริงๆค่ะที่บนป้อมโซนาร์ เดินเที่ยวเพลินเลยล่ะค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:11:47:04 น.  

 
ภาพถ่ายเองป่าวคุณนามน สวยจังเลยน๊า<<อิโจแอ๊บแบ๊ว()


โดย: โจเซฟิน วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:21:20:18 น.  

 
คิกๆ ฝนเองก็แพ้เครื่องแบบค่ะ เห็นแล้วแข้งขาอ่อนปวกเปียก

สาวแขกนี่เค้าจมูกโด่งมาแต่ไกลเลยนะคะ แหม๊ ทำไมเราไม่โด่งกะเค้ามั่งนะ

บ้านเมือง และการเป็นอยู่ในแต่ละประเทศนี่ต่างกันจริงๆ นะคะ คุณ ณ มน ดีจังที่ได้ไปดู ไปเห็น ไปสัมผัสอะไรแบบนี้น่ะ ฝนเองก็อยากจะไปเที่ยวประเทศแบบนี้นะคะ แต่คุณพ่อบ้านเค้าไม่ชอบ เลยอดเลยค่ะ อนาคตสงสัยต้องไปเอง


ฝนชอบภาพถ่ายภาพนี้จัง




โดย: Malee30 วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:22:09:58 น.  

 
หมูบินของพี่นะมาแว้น พี่อัลตรามารีนก็กลับมาแว้น จะนัดมีตติ้งวันนี้กะพรุ่งนี้นะคะพี่นะ

แต่ว่าตอนนี้เจ๊ปลื้มหรือเจ้าป้า กะลังประวิงเวลา ขอเป็นวันเสาร์นี้แทน
เพราะว่าวันนี้พรุ่งนี้มันฉุกละหุกมั่กมาก แต่หนูยังคิดอยู่เนี่ยว่าจะไปได้ป่าว ส.นี้ ที่สำคัญฉุกละหุกซะจนเตรียม
ของชำร่วยม่ะทันเยย

แล้วยังไงก็จะรายงานความคืบหน้าฮับ...

ป.ล.1 ดีใจมากมายที่พี่สาวเขาลบเม้นต์ให้ หนูเลยม่ะต้องออกจากระบบ55
ป.ล.2 พี่นะแอดม่ะได้ม่ะเป็นไร ยังไงหนูก็มาโผล่บ่อยๆ อยู่แล้น


โดย: หมูบิน (Bann_Andaman ) วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:7:36:52 น.  

 
สวยค่ะ อยากไปเห็นกับตาตัวเองจังค่ะ


โดย: Candydolls วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:11:18:02 น.  

 
แวะทักทายกันได้เร็มมากเลยนะจ๊ะ หนูมน อิอิ

หวัดดีจ้า

เห็นภาพแล้ว อยากไปอิเดียมากกกจ๊ะ แถมยังอยากขี้อูฐด้วยอ่ะ


โดย: asariss วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:11:21:32 น.  

 
คุณโจว์ลี่...ภาพที่เอามาลงนี่มีทั้งถ่ายเองแล้วก็ฝีมือของพี่เตี้ย เพื่อนร่วมเดินทางค่ะ สวยไช่ไหมล่า

ฝน...น่าไปเที่ยวจริงๆนะคะ ประเทศแบบนี้ วัฒนธรรมเก่าแก่ วิถีชีวิตน่าสนใจ
ปล.ดีใจนะคะที่ชอบภาพที่ณ มนนำมาลงให้ดู

บินหลา...จ้า ขอบใจมากที่แวะมาหาพี่บ่อยๆ
ว่าแต่นัดล่วงหน้าหลายๆวันหน่อยจิ พี่จะได้เตรียมตัวถูก


โดย: ณ มน วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:11:33:30 น.  

 
คุณแม่น้องเนเน่...จะไปนี่สงสัยต้องรอให้ลูกสาวคนสวยโตก่อนแน่ๆเลย ก็ออกจะรักเป็นห่วงลูกไม่ยอมห่างขนาดนี้ เพระฉะนั้นตอนนี้มาเที่ยวกับณ มนที่บลอกก่อนค่ะ อิอิ

คุณสา...หาโอกาสไปเยือนสักครั้งนะคะอินเดียมีอะไรดีเยอะเลย ^^


โดย: ณ มน วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:17:53:18 น.  

 
แวะมาเที่ยวค่ะ


Recados e Imagens - Fadas - Orkut

Recados, Gifs e Imagens no Glimboo.com



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:22:44:09 น.  

 
คุณ ณ มน ตั้งใจเขียนบล๊อกมากนะครับ ขอชม

บ้านเมืองและชื่อเมืองเขา ผมเพิ่งจะเห็นเป็นครั้งแรกครับ

ที่จริงอยากเห็นภาพขนาดจอใหญ่กว่านี้


โดย: yyswim วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:0:42:22 น.  

 
พี่นะ พี่นะ เขานัดกันเสาร์นี้ที่พารากอน ตอนเีที่ยงฮับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ultramarines&month=08-2008&group=1&date=12&gblog=13
เอาลิงค์มาฝาก ม่ะกล้าทำลิงค์แล้น ติดหลังบ้านแล้วแย่เลย แฮ่ๆ

ยังไงเดี๋ยวหนูเมล์ไปคุยนะค๊ะ


โดย: หมูบิน (Bann_Andaman ) วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:7:12:56 น.  

 
ได้ยินชื่อมานานแระไอ้เมืองเนี้ย แต่ที่อังได้ยินมา เค้าออกเสียงไท้ไทยว่า "ไจ สะ แม" ล่ะ

งดงามสมคำร่ำลือจริงๆ


โดย: พิมลพัทธ์ วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:8:35:21 น.  

 
อัง...สวยเนอะเมืองสีทองเนี่ย
พูดถึงชื่อเขาออกเสียงกันหลายแบบมากเลย พอเราไปออกเสียงแบบไทยกับแบบฝรั่งให้เขาฟัง คนอินเดียเขาไม่ค่อยรู้จัก แล้วพอถามเขาว่าแล้วคณออกเสียงยังไง เขาออกแบบนี้ล่ะจ้ะ

เริงฤดีนะ...ยินดีต้อนรับลูกทัวร์ค่ะ
ปล.ชอบรูปยูนิคอร์นรูปนี้จัง สวยดี

บินหลา...แงไปไม่ได้แน่ๆเพราะเสาร์นี้ต้องไปทำบุญที่บ้านง่ะ ช่วงนี้เข้าพรรษาถ้าตรงเสาร์อาทิตย์จะไม่ไปไหน จะไปทำบุญน่ะจ้ะ

yyswim....ดีใจจังค่ะที่ชอบบลอกที่ณ มนเขียน คือพอเขียนแล้วก็อยากเขียนให้เพื่อนๆพี่ๆในบลอกเหมือนเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน
บางทีเรื่องมันอาจจะยาวสักหน่อยแต่อยากให้อ่านกันนะคะ รับรองได้รับความรู้เกี่ยวกับเมืองของเขาไม่มากก็น้อยล่ะค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:11:43:31 น.  

 
สามหมื่นกว่า สิบกว่าวัน ตร๊าย ราคาดีมากๆ อ๊ะ แบ็คแพ็คอีกตังหาก มะใช่ทัวร์ลูกเป็ด กี๊ดด



ช้านจะหลอกใครไปโดนแขกฟัน ด้วยกัน ดีหว่า


โดย: angy_11 วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:12:05:11 น.  

 
จี้...ถ้ามีเวลามากๆ พอที่จะโดยสารรถเมล์ของเขานะ จี้จะสามารถเที่ยวได้นานวันกว่านี้อีก

เพราะอาหารและค่าที่พักก็ไม่แพง ยิ่งถ้าเก่งภาษาอังกฤษยิ่งสบายแบคได้สบายเลยล่ะจี้ แต่ณ มนมีเวลาน้อยเลยต้องเช่ารถเอาแบบนี้ จริงๆมีเมืองที่น่าจะพักนานๆ อย่างพุชการ์ ชัยปุระอะไรแบบนี้ซึ่งณ มนไปแค่วันสองวันเอง เสียดาย

ปล.รีบหลอกล่อชานคนไปโดนแขกหลอกเสียโดยเร็ว เอ๊ หรือว่าจะชวนอ๊อปดี ฮึจี้


โดย: ณ มน วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:14:36:19 น.  

 
หวัดดีคุณ ณ มนค้าบบบบบบบบบ


บายดีป่าว


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:15:52:30 น.  

 
ฟ้าใสกิ๊กเลย อยากไปมั่ง
ทะเลทรายก็น่าเที่ยว

คุณ ณ มน อุทานเหมือนจันเลยค่ะ "เฮ้ย" แบบกรี้ดๆ จันไม่เป็นเลยนะ


โดย: rambujan วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:20:01:00 น.  

 
อื่อ น่าเสียดายเนอะพี่นะ ยังไงก็อนุโมทนาบุญด้วยคนนะค๊ะ สาธุ


โดย: หมูบิน (Bann_Andaman ) วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:8:19:52 น.  

 
บินหลา...อยากเจอเหมือนกันแหละ เสียดายๆ เอาไว้คราวหน้าเนาะ

rambujan...ค่ะไม่เคยร้องกรี๊ดหรือวี๊ดว๊ายกับใครสักที
ตกใจที่ไรร้องดังมากว่าเฮ้ย นั่นแหละ
ปล.ทะเลทรายธาร์ในอินเดียงามมากค่ะ

โจ...สบายดีค่า


โดย: ณ มน วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:11:32:57 น.  

 

Recados e Imagens - Emo - Orkut


มันคือ.. ความว่างเปล่า..เหนื่อย. Sometime....

....อ่อนอก..แต่ไม่อ่อนใจ....

วันนี้เกิด Mood อยากทำ blog ออกแนวๆหน่อยนะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:15:31:42 น.  

 
หวัดดีค้าพี่สาว อยากไปอินเดีย อยากไปอินเดีย อยากแบกเป้ อยากเที่ยวง่ะ กระซิกกระซิก

ดาใช้โทรศัพท์เป็นโมเด็มง่า ดูรูปไม่ได้เลยคับ ต้องเล่นตอนดึก ๆ สะแล้วมั้งเรา

พี่นะสบายดีก่า อยู่กรุงเทพอะป่าวเอ่ย เห็นเค้าประท้วงกัน แล้วเห็นใจคนแถวนั้นง่ะ


โดย: veeda วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:20:57:26 น.  

 


โดย: โสดในซอย วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:23:42:39 น.  

 
รูปสวยมากเลยอะพี่ณะ ฝีมือถ่ายรูปไม่ตกเลยจริงๆ ...อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจังค่ะ อยากไปมั่งอ่า...

เห็นแล้วอยากอ่านนิยายแนวทะเลทรายขึ้นมาเลย


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:0:15:23 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะที่มาร่วมอวยพรและแสดงความยินดีในวันสำคัญของพี่หมีemo

พี่หมีมาขอบคุณช้าไปนิดโปรดอภัยคนแกร่ด้วย คริ คริ


โดย: หมีสีชมพู วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:7:15:38 น.  

 
พี่หมี...โห ไม่เป็นไรค่ะตอบช้านิดช้าหน่อย น้องเข้าใจค่ะ เพราะคิดว่าพี่หมีอาจจะยุ่งเพราะต้องไปจัดฉลองสวีตหวานกันสองคนหรือเปล่า อิอิ

เริงฤดีนะ...เดี๋ยวพอเวลาผ่านไป อะไรๆจะดีขึ้นเองเนาะ

โสดในซอย...ขอบคุณค่าที่แวะมาเยือนณ มน

ศุวิลา..นั่นดิตอนพี่ไปเที่ยวพี่ยังนึกถึงนิยายทะเลทรายเลยล่ะ

ดา...พี่สบายดีจ้า คิดถึงเน้อ
ปล.โชคดีที่เข้าประท้วงกันอยู่ไกลที่ทำงานพี่ เลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่


โดย: ณ มน วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:11:36:06 น.  

 
มีหนังอินเดียเรื่องนึงเกี่ยวกับเมืองนี้
ชื่อ Nanhe Jalsaimer ลองหามาดูนะคะ หนังดีมาก


โดย: Mehndi Laga Ke Rakhna วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:1:10:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ณ มน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




ณ มน ชื่อนี้แปลว่า "ที่หัวใจ" ตอนแรกตั้งใจจะใช้เป็นเพียงนามปากกาที่ใช้เขียนหนังสือเท่านั้น

แต่สุดท้ายก็นำมาใช้เปิดบลอคจนได้ แหะแหะ

ณ มนเป็นคนธรรมดาๆ ชอบเดินทาง ชอบคุย ชอบเล่าชอบเมาท์ไปเรื่อย ถ้าไม่เบื่ออ่านเรื่องเล่าที่บางคราวก็เฮฮา บางคราก็ไร้สาระล่ะก็ แวะมาเยี่ยมเยือนกันได้ค่ะ ^_^


บอกเล่าเก้าสิบกันนิดนะคะว่า
บทความและข้อเขียนทุกชิ้นในบลอกนี้
ได้รับการคุ้มครองตาม พรบ. ลิขสิทธิ์ค่ะ
เข้ามาอ่านได้นะคะ แล้วก็แสดงความคิดเห็นได้ด้วย
แต่อย่าลอกกันนะคะ


***********


ผลงานของณ มนค่ะ























































ผู้เยี่ยมชม
Friends' blogs
[Add ณ มน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.