หลายเรื่องเล่า กับณ มน คนหัวฟูแก้มป่อง ^_^
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
18 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
พม่าใกล้ตาฯตอนที่5 วัดมหากันดายน วัดเก้ามุดอว์ กับหอเอนเมืองอังวะ

ก่อนจะเล่าเรื่องการท่องเที่ยวต่อ ณ มนก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวบลอกทุกคนก่อนนะคะที่แวะเข้ามาอวยพรวันเกิดให้ ณ มน ขอบคุณค่า


เอาล่ะค่ะ ทีนี้เราก็มาเดินทางกันต่อดีกว่า

ครั้งก่อนเราชมทะเลเจดีย์กันที่เมืองพุกาม ตอนนี้ได้เวลาเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าอีกแล้ว เราจะไปสนามบินกันค่ะ แล้วก็จะบินตรงไปที่เมืองมัณฑเลย์


วันนี้ไม่ต้องตื่นเช้านักค่ะเพราะว่าระยะทางจากพุกามมามัณฑเลย์ไม่ไกลนัก บินแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
แต่ที่ลำบากเห็นจะเป็นเพราะวันนี้พี่ๆมีอาการท้องเสียและปวดท้องกันตั้งสามคนแน่ะค่ะ หลายคนบอกติดเชื้อมาจากเจ้านะแน่ แหม ณ มนไม่เกี่ยวสักกะหน่อยแหะแหะ

และพอมาถึงมัณฑเลย์เราก็ต้องนั่งรถเข้าเมืองเป็นระยะทางไกลพอสมควรทีเดียวค่ะ สองข้างทางนี่เห็นทุ่งทานตะวันด้วยแต่ว่าไม่มากเท่าบ้านเรา

และสถานที่แรกที่จะพาไปเที่ยวก็คือ สะพานอูเบ็งค่ะ





เป็นสะพานไม้สักที่เหลือจากการย้ายเมืองหลวงนั่นล่ะค่ะ จะว่าไปราชวงศ์คองบองราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองพม่านี่ เป็นราชวงศ์ที่ย้ายเมืองหลวงบ่อยมาก

ราชวงศ์คองบองนี้เริ่มต้นที่พระเจ้าอลองพญา ซึ่งแต่เดิมเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่มุดโชโบชื่อ อ่องไจยะ ซึ่งตอนนั้นถูกมอญปกครองค่ะ

อ่องไจยะรวบรวมคนพม่าต่อสู้กับมอญจนชนะก็เลยตั้งตนเป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์ใหม่ ถือว่าเป็นการรวบรวมคนพม่าเป็นอาณาจักรอีกครั้งแล้วก็ตั้งเมืองหลวงที่ ชเวโบ อยู่เหนือเมืองมิงกุนค่ะ






หลังจากมีเมืองหลวงที่ชเวโบ ต่อมาก็มีการย้ายมาที่อังวะ ย้ายมาอมรปุระ (อ่านว่าอะมะระปุระ) ก่อนจะย้ายมาที่มัณฑเลย์เป็นที่สุดท้าย

แล้ววังก็สร้างจากไม้ ดังนั้นเมื่อมีการย้ายก็เลยมีไม้เหลือมาสร้างเป็นสะพานนี่ล่ะค่ะ สะพานนี้ก็สร้างข้ามทะเลสาบตองตะมานที่มีขนาดกว้างเหมือนกันรวมระยะทาง1200เมตร มีเสาต้นสักทั้งหมด1028ต้น




เดินเที่ยวที่นี่ได้แป๊บเดัยวก็ต้องรีบเดินทางต่อเพราะเราตั้งใจจะมาตักบาตรทำบุญที่วัดมหากันดายน วัดที่มีพระมาศึกษาพระธรรมจากทั่วโลกมีจำนวนพระสงฆ์นับพันองค์ทีเดียว

เกือบจะไม่ทันใส่บาตรแล้วด้วยนะคะเนี่ย รีบวิ่งหอบข้าวของเข้าวัดกันใหญ่เลยเพราะพระท่านไม่รับบาตรนอกเขตอ่ะค่ะ



วันนั้นมีเศรษฐีในเมืองเจ้าหนึ่งเขามาเลี้ยงพระ ณ มนกับน้าแตก็เลยทำเนียนไปขอเขาใส่บาตรข้าวสวยด้วย หลังจากที่เอาข้าวสารอาหารแห้งไปตักบาตรจนหมดแล้ว




เจอพระสงฆ์จากเมืองไทยด้วยค่ะ เมื่อเราใส่บาตรกันเสร็จก็นำของที่เตรียมมาไปถวายท่านเจ้าอาวาสอีก แล้วก็รับพรกันมาโดยถ้วนหน้า ณ มนแบ่งพรนั้นให้เพื่อนๆด้วยนะคะ




ใส่บาตรทำบุญเสร็จก็ออกเดินทางเที่ยวกันต่อ ทีแรกเราแวะไปบ้านทอผ้ากันค่ะ จริงๆมันก็เหมือนกับที่บ้านเรานั่นแหละ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ แต่ภาพนี้พี่ตุ้ยถ่ายมาเพราะ สองสาวชาวพม่านี่เขาออกอาการคลั่งไคล้ดาราเกาหลีมาdถึงขนาดข้างๆกี่ทอผ้ายังมีรูปดาราเกาหลีเลย ดูดิเกาหลีฟีเวอร์ถึงแดนเจดีย์แล้ว



จากบ้านทอผ้าก็ข้ามถนนไปร้านขายผ้าตามสเต็ปค่ะ แน่นอนพี่ๆเขาซื้อกันเพียบ ณ มนน่ะได้แต่ไปยืนกินเมี่ยงใบชากับถั่วที่เจ้าของร้านเขาเอามาต้อนรับ

งานนี้เหมือนจะทำบุญร่วมกันมาค่ะ เพราะร้านผ้าแห่งอมรปุระร้านนี้ก็คือบ้านที่ไปเลี้ยงพระเมื่อเช้านั่นเอง



พี่ๆเลยหมดเงินไปเยอะเชียวค่ะงานนี้โดยเฉพาะพี่จุ๋ม แกบอกว่าซื้อไปเหอะ ไม่ได้มากันบ่อยๆเมือ่ไหร่ล่ะพม่านี่ ดังนั้นพี่จุ๋มเลยมีผ้าจากร้านนี้ติดตัวกลับเมืองไทยมากกว่าคนอื่น


จับจ่ายกันสบายกระเป๋าไปแล้วก็มาข้ามแม่น้ำไปฝั่งเมืองสกายกันดีกว่าค่ะ









เราจะไปวัดกันค่ะ วัดนี้ชื่อวัดเก้ามุดอว์ค่ะ ณ มนชอบมากเลยเพราะเป็นเจดีย์สีขาวสวยมากๆ




เจดีย์นี้บรรจุพระเกศาธาตุ และเหมือนเดิมคือไปถึงเขาก็บูรณะกันอยู่ดังนั้นยอดเจดีย์เลยโดนเสื่อคลุมเอาไว้เหมือนที่อื่นๆ แค่ขอบอกว่าความงามไม่ลดลงเลยนะเนี่ย




แล้วหลังจากที่ลอบๆมองพุทราที่เมืองพุกามมาด้วยความอยากลองชิม มาที่นี่ณ มนกับพี่ป้อมได้ชิมพุทราแล้วค่ะ ขอบอกว่าอร่อยมาด้วยล่ะนี่ไงหน้าตาพุทราเมืองพม่า ลูกเล็กแต่หวานอร่อยน๊า



ก็เลยเดินชมเจดีย์ด้วยความรื่นรมย์เป็นอย่างยิ่งแบบว่าชมไปกินไปอ่ะจิ





เห็นคนงานกำลังบูรณะเจดีย์กันอยู่





ออกจากวัดนี้ก็ไปแวะชมร้านเครื่องเงินกันค่ะ พี่ๆได้เสียเงินกันอีกแล้ว ขอนินทาด้วยว่าร้านนี้ต่อราคายากมากกกกก แล้วเราก็จะให้พี่ทิพย์ช่วยแต่พอหันไปขอความช่วยเหลือปรากฏว่าพี่ทิพย์เองก็กำลังหน้าดำคร่ำเครียดต่อราคาเหมือนกัน แถมยังต่อไม่ลงอีกต่างหาก




สรุปเลยงานนี้ต้องตัวใครตัวมันช่วยเหลือกันเอาเองเพราะไกด์ก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกันค่ะ





พูดถึงเรื่องซื้อของกับคนไทยนี่ยังไงก็ต้องคู่กันเนาะเห็นซื้อกันจัง ณ มนเองยังได้มาหนึ่งชิ้นเลยค่ะ 555 แต่ว่าซื้อมาฝากคนอื่นนะคะไม่ได้ใช้เอง


เอาล่ะก็ขึ้นรถต่อกันดีกว่า เดี๋ยวจะพาไปลงแพข้ามฟากแล้วก็ต่อด้วยการนั่งรถม้าชมเมืองอังวะเมืองหลวงเก่าค่ะ





จะบอกว่านั่งรถม้าที่เมืองอังวะนี่ ทรมานกว่าที่เมืองพุกามอีก เพราะถนนที่นี่มันเป็นหินอ่ะค่ะ แข็งมากนั่งงี้โห ปวดก้นมากเลยอ่ะแต่เพื่อเที่ยวแน่นอนณ มนทนได้ค่ะ แหะแหะ





เห็นเมืองอังวะวันนี้ก็ให้เข้าใจสัจธรรมที่ว่า อนิจจังไม่เที่ยง จากเมืองหลวงเก่าที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกรมาก วันนี้ดูทรุดโทรมจนน่าใจหาย ถนนที่เคยใหญ่โตก็เหลือเพียงถนนเล็กๆขรุขระ





ชาวบ้านยังไปไหนมาไหนด้วยรถม้า อ้อ เท่าที่สังเกตนะคะที่นี่เขาทำฟากขายกันเยอะมาเลยนะ นั่งรถผ่านไปนี่เห้นหลายร้านเลยที่กำลังสับฟากทำฟากขาย

สองข้างทางยังพอเห็นความรุ่งเรืองเก่าๆของเมืองได้จากวัดจากเจดีย์ค่ะ และจุดมุ่งหมายแรกของเราคือ วัดปะกายา





เป็นวัดที่สร้างโดยพระเจ้าบายีดอ อายุอานามก็เก่าแก่แล้วสร้างมาตั้งแต่ประมาณปีค.ศ.1834 เสานี่ต้นสักล้วนๆค่ะ

แต่ที่เด่นที่สุดน่าจะเป็นฝีมือการแกะสลักไม้ซึ่งเป็นฝีมือของช่างชาวอยุธยา รูปครุฑยุดนาค คงเป็นช่างที่ถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลยน่ะค่ะ นี่ไง








อ่ะมาดูนางแบบของณ มนกับประตุไม้สักสวยๆค่ะ พี่จุ๋มนั่นเอง




เด็กๆแถวนี้เขามาเรียนหนังสือที่วัดนี้ล่ะค่ะเราเลยถวายปัจจัยให้กับพระที่นี่ถึงจะไม่มากแต่ก็คงพอจะช่วยเป็นทุนให้เด็กๆได้นิดหน่อยก็ยังดี










ออกจากวัดปากะยาก็ได้เวลาโขยกเขยกกันไปตามทางเกวียนกันต่อ จุดหมายของเราคือหอเอนเมืองอังวะ




ณ มนก็เรียกให้เท่ซะงั้น ความจริงก็คือนี่เป็นหอคอยเก่าที่หลงเหลือเอาไว้หลังจากย้ายเมืองหลวงไปอมรปุระนั่นเองล่ะค่ะ ดูดิเอนและเอียงได้ใจมาก



นั่งรถม้ามานานพี่ทิพย์บอกว่ามาถึงแล้วใครจะไปเก็บดอกไม้ไหว้หอเอนก็ด้านหลังนะคะ ตอนแรกณ มนก็งงแบบทำไมต้องไปหาดอกไม้มาไหว้หว่า นึกไปนึกมาโธ่เราเง่าจริงๆ พี่ๆเขาไปชิ้งฉ่องกันนั่นเอง ระหว่างนั้นณ มนก็เลยจับพี่ป้อมเพื่อนร่วมทางมาถ่ายรูปกับสารถีหน้าตาน่าเอ็นดูเสียเลย






นันดา ยินยีกับพี่ป้อมค่ะ นันดาก็คือม้า ส่วนยินยีคือสารถีวัย17ของณ มนกับพี่ป้อมค่ะ น้องเขาน่ารักดี ขับรถม้าไปก็ร้องเพลงไปด้วยอารมณ์ดีจริงๆ


นี่ค่ะหน้าตาชัดๆของน้องยินยี





ส่วนนี่ก็สองสาวพี่เป็ดเทเรซ่ากับพี่จุ๋มหลังไปเด็ดดอกไม้กันมาแล้ว







ชมหอเอนแล้วก็มาขึ้นรถม้าต่อเพราะเรายังต้องทางโขยกเขยกกันต่อไป





เราจะไปดูวัดที่มีศิลปะปูนปั้นกันที่วัดเมนูอ๊อกเจาค่ะ หลังจากดูศิลปะแกะสลักไม้กันไปแล้ว




วัดนี้นี่ถ้านั่งรถม้าผ่านๆไปไม่สนใจก็จะเลยมองข้ามไปได้ง่ายๆเพราะดูจากทางเข้าแล้วไม่มีอะไรน่าสนใจเลยนะคะ แต่พอเข้ามาแล้วน่ะสิ โห สวยมากกกก






วัดนี้สร้างโดยพระนางเมนูอ๊อกเจา ยายของพระนางศุภยลัตน์ ซูสีไทเฮาพม่าน่ะค่ะ ใครอ่านพม่าเสียเมืองคงรู้จักพระนางดี(แล้วณ มนจะเล่าถึงพระนางอีกทีนะคะ)






พระนางเมนูอ๊อกเจานี้เดิมก็เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาล่ะค่ะ แต่เมื่อวันหนึ่งกษัตริย์ทรงเสด็จออกเยี่ยมราษฏรแล้วก็มาพักที่ริมน้ำ พระนางก็ไม่รู้ทำอีท่าไหนผ้าหลุดค่ะ ผ้านี่ลอยมาจนถึงกษัตริย์องค์นั้น แล้วหลังจากนั้นจากแม่ค้าชาวบ้านก็ได้กลายเป็นมเหสีของกษัตริย์ไปเลย







ฟังพี่ทิพย์เล่าไป หลายๆคนในคณะชักอยากจะทำผ้าหลุดบ้างเผื่อจะได้เป็นมเหสีของกษัตริย์ 555 เมื่อได้ดิบได้ดีนางก็มาสร้างวัดนี้ แถมสร้างได้สวยด้วยนะนี่


แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็มีชู้แถมยังคิดการใหญ่ค่ะ คิดล้มบัลลังก์โดยคบคิดกับชู้นั่นเอง






แต่ความแตกเสียก่อน นางเลยรีบหนีออกจากวังมาหาเจ้าอาวาสวัดนี้ หวังให้ท่านช่วย พระท่านก็ว่าไม่ได้หรอก ใครทำกรรมอะไรก้ต้องรับกรรมนั้น







(พี่ปูจอมไฮเปอร์ปีนป่ายขึ้นไปถ่ายรูปข้างบน)



สุดท้ายนางเลยยอมกลับไปรับผิด เดินเข้าถุงกระสอบเพื่อรับโทษถ่วงน้ำค่ะ

ระหว่างฟังประวัตินั้นเอง เราก็เมาท์กันใหญ่ ว่าโห ร้ายนะเนี่ย ร้ายตั้งกะยายมาถึงรุ่นแม่คือพระนางอเลนันดอแถมหลานอย่างพระนางศุภยลัตน์นี่ยังร้ายกว่า
เรียกว่านินทากันแบบเผาขนเลย คือนินทากันตรงสถานที่ที่คนถูกนินทาสร้างนั่นแหละ

ระหว่างนั้นมองไปที่ยอดเจดีย์ข้างๆกันก็เห็นแสงสว่างแวบๆโห หยุดพูดกันเลยอ่ะ พี่เอบอกว่าสงสัยเขาจะมาเตือน


คุยกันไปคุยกันมาจนเพลินนึกขึ้นได้ว่าพี่แต๋งหายไปนี่นา ก็มองหากันใหญ่หาไปหามาโน่นค่ะ




โดนเด็กรุมให้ซื้อของอีกแล้ว และแน่นอนด้วยความใจดีที่เป็นนิสัย พี่แต๋งก็เสียเงินเหมือนเดิม

ระหว่างนั้นณ มนก็หันมาหาพี่เป็ดผู้เป็นน้องรองของพี่แต๋ง ถามพี่แกว่าพี่เป็ดใจอ่อนซื้ออะไรไปหรือยัง


พี่เป็ดก็บอกว่า "ตอนแรกนะน้องเขามาขายของบอกว่า1000จ๊าดสำหรับต้นทุนแล้วผมไม่ได้กำไรเลย พี่ก็ยังใจแข็งนะน้องนะ"

ณ มน "แล้วไงอ่ะพี่"

พี่เป็ด "แต่พอเขาบอกว่า 1000จ๊าดสำหรับผมและครอบครัว โห ใจพี่งี้อ่อนยวบเลยอ่ะนะ"


ณ มน กรรมสรุปว่าพี่เป้ดของณ มนคงเสียเงินเป็นแน่แท้







แต่จะว่าไปแล้วการที่เราซื้อของจากชาวบ้านหรือเด็กๆโดยตรงก็ดีเหมือนกันนะคะเพราะอย่างน้อยๆพวกเขาก็ได้รับเงินจากการท่องเที่ยวโดยตรงแล้วอีกอย่างเขาก็มีสินค้ามาขายไม่ได้มาขอเสียเมือ่ไหร่ ดังนั้นถ้าท่านใดไปเที่ยวก็ลองอุดหนุนสินค้าพวกนี้บ้างนะคะ



(พี่หนูตามพี่ปูขึ้นไปถ่ายมาอีกคนค่ะ แต่ขนาดต่างกันงานนี้พี่หนุเลยตัวเต็มหน้าต่างพอดี555)


วันนั้นหลังจากนั่งรถม้าโขยกเขยกกันมาครึ่งวันก็เป็นอันจบทัวร์เมืองอังวะกันที่วัดเมนูอ๊อกเจานั่นล่ะค่ะ เรานั่งแพข้ามฟากแล้วก็นั่งรถกลับเข้าตัวเมืองมัณฑเลย์






ก่อนจะจบรายการของวันนี้ด้วยอาหารเย็นที่ร้าน โก้ เรสเตอรอง อาหารไทยอร่อยที่ซู๊ดเลยค่ะเพราะเห็นหน้าแม่ครัวนี่ดีใจมากคือป้าแกหน้าไทยแท้ๆเลยล่ะ รสมือเลยไทยแท้ๆไม่แพ้หน้าตา

อันนี้ถามจากพี่ๆนะคะเพราะณ มนยังต้องรักษาท้องตอ่ไปด้วยข้าวต้มกุ้งค่ะ แต่ก็อร่อยมากเลยแถมยังมีขนมหวานแถมมาด้วย โห ไม่มีอะไรจะสุขเท่านี้อีกแล้วค่ะ


จบทัวร์เมืองมัณทเลย์วันแรกเท่านี้นะคะ แล้วตอนหน้าณ มนจะมาพาไปเที่ยวเมืองตากอากาศของพวกหทารอังกฤษค่ะ อย่าลืมมาเที่ยวกันต่อนะคะ









Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2551 23:46:19 น. 24 comments
Counter : 3722 Pageviews.

 
หลวงพี่โจมาเจิมให้นะค้าบ 6665555


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:58:59 น.  

 
อยากไปจ๊า


โดย: My life in Japan. วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:56:47 น.  

 
พี่นะ เปิ้นขอโต๊ดดดด ลืมวันเกิดพี่นะเลยอ่ะ ไม่ได้ตั้งใจนะคุณพี่ โฮ๊ะๆๆ น้อยใจกันป่าวน้า

ผ่านมาตั้งสองวันแน่ะ น่าตีจริงเลยเนอะน้องคนนี้ เมื่อคืนคุยกันก็ดั๊นนนนนลืมซะสนิทเรยยย หุหุ

อวยพรวันเกิดย้อนหลังนะจ้า...เปิ้นขอให้พี่นะมีความสุขมากๆนะจ้า
และขอให้ประสบความสำเร็จในทุกด้าน ยอดขายพุ่งทะลุพิมพ์ซ้ำหลายๆรอบ

แหะๆ ลืมจริงๆอะพี่นะ สัญญาว่าปีหน้าจะไม่ลืมเด็ดๆเลย

มาเที่ยวพม่าอีกรอบ แหะๆ (แอบหัวเราะกลบเกลื่อนเล็กน้อย)


โดย: fonrin วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:50:30 น.  

 
อัพแล้วจ้า IR แสงใกล้หมด



โดย: noitpituk วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:53:28 น.  

 
สวยจังเลยค่ะ ชอบที่สุดคือรูปที่เป็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านน่ะค่ะ ขอบคุณที่เอารูปมาฝากค่ะ


โดย: KOok_k วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:34:51 น.  

 
เลยวันเกิดไปซะแล้ว
ผมอวยพรไปหรือยังนี่ ช่วงนี้เบลอ ๆ
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะครับ มีความสุขมาก ๆ

ตามคุณ ณ มลไปเที่ยวต่อ


โดย: 9A วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:51:34 น.  

 
☞ เล่มนี้อ่านแล้ว : รักเร้นในดับลิน (The Affaire)

ขอบคุณสำหรับพรวันเกิดนะคะ

^
^

ไม่เป็นไรจ้า


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:24:03 น.  

 
มาชมทริปสวยๆอีกค่ะ..
ได้เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ รวมถึงความเป็นอยู่การใช้ชีวิตของผู้คนที่นี่ด้วยเลยนะคะ
และได้ร่วมทำบุญด้วยน่ะค่ะ..
แม่ติ๊กชอบเจดีย์ขาวด้วยเหมือนกันเลยค่ะ..


โดย: tiktoth วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:42:47 น.  

 
เห็นแว้ววววววววววววววววว เห็นเด็กหน้าใบไม้แล้วครับ

น่ารักจังคุณ ณ มน


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:19:07 น.  

 


เห็นภาพแรกก็ชอบมากๆ เลยล่ะคุณขา
ละลายทันที
ฟ้าเป็นฟ้าเลยเน๊าะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:31:10 น.  

 
มานั่งยิ้มๆในตอนเย็น ฮิๆ


โดย: fonrin วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:12:37 น.  

 

คุณ ณ มน ครับ ผมไม่ได้สังเกตครับ วันเกิดของคุณ ณ มน เมื่อไหร่เหรอ? ขออภัยอย่างยิ่ง งั้นขอให้มีความสุขกับการเขียน การท่องเที่ยวหาประสบการณ์เจอแต่คนมีน้ำใจ ไม่หลอกลวง มีเพื่อนๆที่สนับสนุนพึ่งพากันได้


บล๊อกวันนี้ เป็นบล๊อกเรื่องดีอีกเรื่องครับ ผมเสียดายว่าผมรู้ประวัติศาสตร์พม่าน้อยมาก ก็เลยไม่ค่อยอินในบางเรื่อง แต่ก็ทำให้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้



โดย: yyswim วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:58:01 น.  

 
...ขอขอบคุณที่แวะไปอวยพรวันเกิดให้เดหลีค่ะ...




ขอบขอบคุณ ภาพแสนสวย ที่ส่งให้
ตื้นตันใจ คำอวยพร แสนล้ำค่า
เปรมปรีดี ไมตรีจิต อันเมตตา
ที่ผองเพื่อน แวะเวียนมา ร่วมอวยพร

เดหลีนี้ มิมี สิ่งใดมอบ
จึงกุมกอบ ดวงฤทัย ใส่อักษร
สลักส่ง อักขรา เป็นกาพย์กลอน
พร้อมด้วยพร อันประเสริฐ บังเกิดมี

เพื่อนพันทิป น่ารัก ประทับจิต
เปรียบดั่งมิตร นิรนาม อยู่ต่างที่
ไม่รู้หน้า หากรู้ใจ เพื่อนแสนดี
เทียบเท่าพี่ น้องแลเพื่อน เครือญาติเดียว

พรแลภาพ หวานสวย ที่ส่งให้
จักเก็บไว้ แนบใกล้ใจ เมื่อเปล่าเปลี่ยว
จักเก็บไว้ สลักใน สมองเดียว
จักเก็บเกี่ยว ไว้ทุกห้อง ของหัวใจ

พร้อมกันนี้ ขอนำพร ส่งคืนกลับ
พรมงคล คณานัป ส่งผลให้
ผองมิตรรัก ผู้ตัวไกล แต่ใกล้ใจ
ขอทุกท่าน มีโชคชัย ไร้มลทิน

ผู้มีคู่ ให้สมรัก ไร้ทุกข์โศก
ผู้มีโรค ขอโรคร้าย สลายสิ้น
ผู้มีทุกข์ ทุกข์มลาย สุขอาจิณ
ผู้ท้อแท้ กลับกล้ายิ่ง เหนือสิ่งใด

ผู้ที่เศร้า ให้เศร้าหาย ใจแช่มชื่น
ผู้ที่เหงา ให้ฟื้นตื่น ชื่นสดใส
ผู้เคร่งเครียด เครียดคลาย สลายไป
ทุกข์โรคภัย มิกล้ำกลาย พ่ายแพ้พลัน

พร้อมกันนี้ เดหลีหอบ ของมาฝาก
ด้านบนนั้น คือภาพ ชวนให้ฝัน
ชื่ออะไร ใครผู้ถ่าย ไม่รู้กัน
ด้วยเห็นมัน สวยดี จึงแนบมา ^^

ส่วนด้านล่าง หลากสี เข้าทีนัก
จึงประทับ แนบกับอก พลางยิ้มร่า
คาดว่าเพื่อน พี่แลน้อง คงถูกตา
ส่งแนบมา เพื่อบอกว่า ขอบคุณเอยฯ




ขอบคุณมากๆ ค่ะ เป็นวันคล้ายวันเกิดที่มีความสุขมาก
เมื่อเปิดบล๊อกแล้วพบพี่ เพื่อน และน้อง ส่งมอบพร และภาพสวยๆ มาให้
ประทับใจ ปลาบปลื้มใจ อิ่มเอมใจ เหลือล้น
ขอบคุณนะคะ




โดย: เดหลี (เดหลีสีแดง ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:22:02 น.  

 
ยามเช้าสวัสดีขอรับ


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:02:29 น.  

 
แวะมาเป็นลูกทัวร์ครับ ..


โดย: sananda (sananda ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:02:52 น.  

 
กลางคืนราตรีสวัสดิ์ขอรับ


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:42:30 น.  

 


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:57:11 น.  

 
บ้านเมืองเค้ายังสวยอยู่เลยนะคะ
เห็นแล้วก็อยากไป

ป.ล. เด็กทาแป้งแต่งหน้าแรงมากค่ะ เจ้ม้ายังชิดซ้าย


โดย: mungkood วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:07:09 น.  

 
มังคุด...ใช่จ้ะเมืองเขาสวย ส่วนเด็กน้อยนั่นแต่งหน้าด้วยแป้งทานาคาจ้า

ป้าหู..ขอบคุณค่าที่แวะมาทักทายณ มน

คนสาธารณะ..แบบนี้ณ มนก็ต้องสวัสดีสายๆใช่ไหมเนี่ย อุอุ

เดหลีสีแดง...มีความสุขมากมายกับวันเกิดนะคะ

yyswim....ไม่เป็นไรค่ะ ดูเฉยๆก็ได้บางทีประวัติก็จำยากจัง


ปล.เกิดหลังคุณ2วันจ้า

เปิ้น...แล้วตอนนี้ล่ะยังยิ้มอยุ่ไหมเอ่ยน้องรัก

โจ...เด็กเขาน่ารักเนาะ ทาแป้งทานาคาซะ
ปล.เมื่อไหร่จะเปิดให้เมนท์เสียทีล่ะ หลวงพี่โจ



โดย: ณ มน วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:52:36 น.  

 
ตามมาเที่ยวพม่าอีกรอบ
เห็นแล้วก็น้ำลายไหลนะ ณ มน อยากจะไปเที่ยวมั่ง

ปล.วัดปะกายา สวยงามมากเลย ชอบๆ


โดย: PANDIN วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:10:35 น.  

 
sanada.ยินดีเลยค่ามาทัวร์กันบ่อยๆนะ

อุ้มสี...ภาพสวยๆนี่ยกความดีให้น้าเชียรเลยค่ะ

ส้มแช่อิ่ม...แวะมาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆนะคะ

tiktoth...เป็นทริปทำบุญตลอดเลยล่ะคะ ได้เที่ยวแล้วก็อิ่มใจด้วย

9A...ไม่เป็นไรค่าไม่ได้อวยพรแต่แวะมาทักทายกันก็ดีใจแล้วล่ะ

my life in Japan...แวะมาเที่ยวด้วยกันอีกนะคะ

Kook_k....ค่ะ ชอบเหมือนกันได้เห็นชาวบ้านเขาทำงานในไร่นา บางทีก็เห็นเขาทำกับข้าวกันอยู่ ซึ่งอย่งหลังนี่ละ ณ มนชอบเข้าไปดูจัง แฮ่

noitpituk....ขอบคุณสำหรับรูปค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:11:24 น.  

 
อ๊อป.....เค้า เขาคิดถึงอ๊อปจังเลย


โดย: ณ มน วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:22:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ เจนนี่แวะเยี่ยมทักทายและขอบคุณมากน่ะคะ ที่แวะไปเยี่ยมเจนนี่ที่บล็อค วันนี้เจนนี่เอารูปคุณนายมูวี่ทำงานฝีมือ มาโพสท์ให้ชมกันค่ะ ว่างๆก็อย่าลืมแวะเข้าไปชมได้ที่บล็อคไดอารี่ของเจนนี่น่ะคะ

ขอให้วันนี้และวันต่อๆไป เป็นวันดีดีของเจ้าของบล็อคจ้ะ


โดย: สาวอิตาลี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:42:17 น.  

 
มันสวยอย่างงี้นี้เอง....


โดย: เต๋า (oattao ) วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:20:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ณ มน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




ณ มน ชื่อนี้แปลว่า "ที่หัวใจ" ตอนแรกตั้งใจจะใช้เป็นเพียงนามปากกาที่ใช้เขียนหนังสือเท่านั้น

แต่สุดท้ายก็นำมาใช้เปิดบลอคจนได้ แหะแหะ

ณ มนเป็นคนธรรมดาๆ ชอบเดินทาง ชอบคุย ชอบเล่าชอบเมาท์ไปเรื่อย ถ้าไม่เบื่ออ่านเรื่องเล่าที่บางคราวก็เฮฮา บางคราก็ไร้สาระล่ะก็ แวะมาเยี่ยมเยือนกันได้ค่ะ ^_^


บอกเล่าเก้าสิบกันนิดนะคะว่า
บทความและข้อเขียนทุกชิ้นในบลอกนี้
ได้รับการคุ้มครองตาม พรบ. ลิขสิทธิ์ค่ะ
เข้ามาอ่านได้นะคะ แล้วก็แสดงความคิดเห็นได้ด้วย
แต่อย่าลอกกันนะคะ


***********


ผลงานของณ มนค่ะ























































ผู้เยี่ยมชม
Friends' blogs
[Add ณ มน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.