พุชการ์และทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์
ไม่ได้อัพบลอกมาหลายวันเลย ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เพราะยังทำใจไม่ค่อยได้
ก็กล้องตัวที่ใช้เป็นประจำน่ะค่ะ ถูกขโมยอ่ะแล้วจะไม่เสียใจและเจ็บใจเท่านี้เลยถ้าไม่เป็นเพราะคนขโมยคือคนที่ทำงานที่เดียวกัน
เศร้าจริงๆ ก็กล้องมันเหมือนกับเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งของณ มนไปแล้วอ่ะค่ะ พอมาโดนฉกไปแบบนี้มันก็รู้สึกเหมือนโดนขโมยมือหรือขโมยอวัยวะอะไรสักอย่างไปแล้วอ่ะ
และที่สำคัญเฮ้อ ยังจำคนร้ายไม่ได้ทั้งที่ทำงานที่เดียวกนัแท้ๆแถมผู้ใหญ่ที่มีส่วนรับผิดชอบก็ไม่ยอมมาทำอะไรให้เราเลย
โอ๊ย คิดแล้วทั้งโมโห ไอ้คนผิดมันยังลอยนวลได้นี่ล่ะที่โมโหและโกรธมากกกก
เอาล่ะค่ะยังไงมันก้หายไปแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะได้เรื่องได้ราวอะไร ณ มนก็ได้แต่ทำใจค่ะ
บ่นมามากแล้วเรามาเที่ยวกันต่อดีกว่าเนอะ ตอนแรกกะว่าจะรอให้ได้รูปจกาพี่เตี้ยก่อนแล้วค่อยมาอะพบลอก แต่สงสัยจะนานเกินไปเดี๋ยวบลอกจะเน่าซะก่อน เรามาเที่ยวกันไปล่วงหน้าก่อนก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวค่อยมาเก็บตกรูปทีหลังนะคะ
****************************
***พุชการ์และทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์****
อารมณ์อยากชมตลาดและบ้านเมืองของเราสองคนยังไม่หมดง่าย ดังนั้นเมื่อถึงที่พักที่ซานดีปหาให้จะอยู่ห่างจากตัวตลาดมาค่อนข้างไกล เราก็ยังจะไปเดินดูทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์กันให้ได้ ทั้งๆที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว เมื่อเก็บข้าวของเสร็จก็คว้าเป้ใบเล็กมาสะพายออกจากโรงแรมกะว่าจะไปดูทะเลสาบให้ได้
เดินออกมาจากโรงแรมมาได้นิดเดียวก็ต้องหยุด ก็เห็นสุนัขตัวเบ้อเริ่ม แบบว่ามันตัวโตมากกกกจนไม่กล้าเดินผ่านเลยอ่ะ กลัวมันจะเขมือบเราซะก่อน เหลือบไปเห็นหนุ่มๆเขานั่งเล่นกันอยู่ริมถนนเลยเอ่ยปากถาม
"มันจะกัดไหม"พี่เตี้ยผุ้สันทัดภาษาประกิตมากกว่าณ มน เป็นคนเอ่ยปากถาม
"ไม่กัดครับ ว่าแต่พวกคุณจะไปไหนกันเหรอ"หนุ่มหน้ามนเขาถามกลับ
พอเราบอกว่าจะไปทะเลสาบ หนุ่มๆก็รีบห้ามทันที
"อย่าไปเลยครับมันเย็นมากแล้ว ไปพรุ่งนี้เช้าเถอะ นี่มันเย็นมากแล้วอันตราย"
ทั้งที่คิดว่าหน้าตาของตนเองเป็นอาวุธได้ดีพอสมควร แต่สุดท้ายก็ยอมเชื่อคำแนะนำของเจ้าถิ่นค่ะก็เลยจะถอยหลังกลับ แต่พวกเขาเรียกเราสองคนเอาไว้ก่อน พร้อมกับให้ข้อมูลเป็นประโยชน์มากๆ
"พรุ่งนี้ถ้าไปทะเลสาบเจอนักบวชหรือคนมายื่นดอกไม้ให้อย่ารับนะครับเพราะเขาจะพาพวกคุณไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้วจะเรียกเก็บเงิน100นักท่องเที่ยวมักคิดว่าเป็นเงิน100รูปีก็ยอมทำตามแต่พอถึงเวลาจริงๆเขาจะเก็บเงินคุณ100ดอลลาร์"
"พวกผมไม่ชอบเลยเพราะมันทำให้บ้านเรามีชื่อในทางไม่ดี"หนุ่มอีกคนว่าอย่างนั้น
"ถ้ามีใครมาถามว่าจะทำพิธีไหมให้บอกไปว่าคุณเคยทำพิธีนี้มาแล้ว"หนุ่มคนเดิมแนะนำ
เราก็เลยกล่าวขอบคุณเขาสำหรับข้อมูลเหล่านี้ พร้อมกับนึกในใจว่าเมืองไทยเองก็๋ไม่น้อยหน้าเขาหรอก ไอ้พวกเอาเปรียบนักท่องเที่ยวเนี่ย
แต่ในเรื่องร้ายๆหรือสิ่งไม่ดีอย่างนั้นก็ยังมีคนดีๆแบบพวกเขาอยู่ เราเชื่อว่าเพียงเท่านี้ชื่อของเมืองพุชการ์ในใจของเราสองคนก็มีไม่เสียแน่นอน ตรงกันข้ามเรากลับจดจำเมืองนี้ในแง่ที่ดีๆต่างหาก
ณ มนกับพี่เตี้ยกล่าวขอบคุณพวกเขาก่อนจะเดินกลับโรงแรม
กลับมาถึงโรงแรมก็จัดการหาอาหารหม่ำ เมืองนี้หนักไปทางอาหารมังสวิรัติ อาหารของเราเลยมีสปาเก็ตตี้ผัดกับชีสของพี่เตี้ย ณ มนเป็นจีร่า ไรซ์ ข้าวผัดอินเดียใส่เครื่องเทศนั่นแหล่ะจ้า
ตอนสั่งอาหารเราก็พูดว่าจีร่า ไรซ์ เด็กที่มาจดรายการอาหารน่ะเขายิ้มให้ด้วยประมาณว่าเออยัยนี่มันพยายามดีนะ แล้วเขาก็จะบริการเราดีมากเพราะเราใส่ใจที่จะพูดภาษาเขา
คือสูตรนี้ใช้ได้ผลมาแล้วตอนอยู่ที่เมืองชัยปรุะเพราะตอนเช้า อยากทานไข่ต้ม ก็สั่งบอยด์ อันดะ เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ยิ้มหวานเลย ปรากฏเช้านั้นได้ขนมปังปิ้งกับแยมมากกว่าปกติ อิอิ
พอลองมาใช้ที่พุชการ์ก็ได้ผลแฮะ
ตอนสั่งเครื่องดื่มณ มนสั่งน้ำแอปเปิลปั่น พี่เตี้ยสั่งมะนาวโซดา เขาเอาน้ำโซดามาวางหนึ่งขวดกับมะนาวมาบีบให้อ่ะ
โหพอมาเสิร์ฟพี่เตี้ยไม่กล้าดื่ม ต้องมาขอแบ่งปันน้ำแอปเปิลปั่นของณ มน ซึ่งหน้าตาไม่ค่อยได้เรื่องแต่รสชาติโอเคนะ
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จมาจัดการอาบน้ำสระผมกันเพราะมอมแมมกันมาหลายวันคืออาบน้ำอย่างเดียวแต่ไม่ได้สระผม
ให้ตายเถอะ
น้ำที่มันไหลรินออกมาจากเรือนผมของณ มนมีสีดำมากกกก ลองเอากระดาษเช็ดในจมูกมีสีดีไม่ต่างกัน ตายล่ะหว่านี่ณ มนไปทำอะไรมาเนี่ย
คิดไปคิดว่าก็นึกขึ้นได้ว่า ทั้งหลายทั้งปวงนี้มาจากการที่คุณชายราชขับรถแล้วเปิดกระจกนั่นเอง
เฮ้อ เศร้า
ทั้งผมเผ้าหน้าตามอมแมมยังกะลูกแมวคลุกฝุ่น(มันคงจะดีกว่าบอกว่าเป็นลูกหมาคลุกฝุ่นอ่ะ)
"ถ้าเราเที่ยวต่อสักอาทิตย์ เราคงเป็นเหมือนชาวอินเดียที่เขานอนกันข้างถนนแบบที่เราเห็นมาแน่ๆ"พี่เตี้ยว่างั้น ซึ่งณ มนก็เห็นด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเดินไปทะเลสาบค่ะ ช่วงเช้าแบบนี้หมอกยังลอยอ้อยอิ่งอยู่เต็มท้องถนนเลย
คนยังไม่มากนักคงยังอยู่ในบ้านกัน ร้านรวงสองข้างทางยังไม่ค่อยเปิด
เราสองคนเดินผ่านร้านกาแฟ เจ้าของร้านออกมาส่งยิ้มให้พร้อมกับเชื้อเชิญให้เรามาดื่มกาแฟด้วยกัน เราตอบปฏิเสธบอกว่าจะไปทะเลสาบเขาก็ยังยิ้มให้พร้อมกับเชิญให้มาดื่มตอนขากลับ
เราเดินไปเรื่อยๆเพื่อหาทางไปทะเลสายแต่หาไม่เจอ สุดท้ายต้องไปถามทางกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งก็ดูแล้วว่ามันไม่เหมือนนักบวช แต่นั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเรา
แต่ว่ามันจะเป็นความผิดพลาดยังไง
เอาไว้ตอนหน้ามาตามอ่นกันต่อนะจ๊ะ ขอไปทำงานก่อนเพราะแอบแวบมาอัพบลอกค่ะ เดี๋ยวโดนหัวหน้าดุ
ตอนหน้าเจอกันจ้า
Create Date : 11 สิงหาคม 2549 |
Last Update : 11 สิงหาคม 2549 11:14:20 น. |
|
36 comments
|
Counter : 1529 Pageviews. |
|
|