หลายเรื่องเล่า กับณ มน คนหัวฟูแก้มป่อง ^_^
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
20 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
เนปาล...เฮฮา 3ขา 15หมู่บ้าน/ตอนที่11 วิกฤติคลี่คลาย หัวใจรวมเป็นหนึ่ง

เอาล่ะค่ะมาตามติดการเดินทางของณ มนและผองพี่กันต่อนะคะ
หลังจากพาหลงทางกันไปตอนที่แล้ว ตอนนี้เรากลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันได้แล้วค่ะ



ตอนที่พี่ๆทั้งสองหลงทางไปนั้นจนไปหยุดอยู่ที่ทางแยก พี่สิงขรตามไปเจอสองสาวตรงทางแยกนั่นล่ะค่ะ เพราะพี่อ้วนไม่เดินต่อขอนั่งพักเพื่อรอคนอื่นด้วย

เจ๊หมวยเลยบอกว่าจะเดินย้อนกลับไปดูคนอื่นด้วยตัวเอง (ยังน่ารักเสมอค่ะเจ๊เราเสียสละเดินเอง)




เจ๊หมวยมาเล่าให้ฟังทีหลังว่าพอเจอหน้าพี่สิงขรก็ถามว่า ไปทางนี้ใช่ไหม

พี่สิงขรบอกว่าไม่ใช่ เจ๊หมวยเลยร้องอุทานในใจว่า "ตายล่ะหว่า พาชาวบ้านเขามาหลงเสียแล้วตรู"

5555 เพิ่งรุ้ตัวนะเจ๊



เจ๊หมวยกลัวว่าถ้าพี่อ้วนรู้แล้วจะโกรธและเดินกลับไม่ไหว แต่ผิดคาดค่ะเพราะพอเอ่ยปากว่าเรามาผิดทาง

พี่อ้วนก็ไม่ว่าอะไรกลับรีบเดินตามพี่สิงขรมาเจอรามเล็กและพี่ปูแต่โดยดี



พอเห็นพี่อ้วนเจ๊หมวยเดินมาใกล้ถึงยอดเขาพวกเราก็วิ่งลงไปรับแล้วกอดกันด้วยความดีใจ)


พี่อ้วนมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า ที่เดินกลับแบบไม่โกรธใครและไม่อารมณ์เสียอีกแล้วนั้น

เป็นพราะว่าพี่อ้วนคิดได้ค่ะ พี่อ้วนคิดว่าบางทีที่พี่อ้วนต้องหลงทางนั่นอาจเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาเตือนแล้ว

"ท่านคงไม่อยากให้พี่ต้องโกรธหรือโมโหคนอื่นๆแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้เพราะไม่มีใครผิด พี่เป็นคนตัดสินใจมาเที่ยวเอง ดังนั้นหากจะต้องเหนื่อยเพราะเดินหนักก็ควรจะยอมรับไม่ใช่วีนเหวี่ยงใส่ทุกคนแบบเมื่อเช้า"




เมื่อพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ทุกคนก็บอกให้พี่อ้วนเล่าให้ฟังว่าทำไมถึงหลงไปแบบนั้น พอพี่อ้วนเล่าถึงเรื่องหลงทางโดยละเอียดแล้ว รามเล็กเลยชี้ให้ทุกคนมองต้นเหตุสำคัญของการหลงทางคราวนี้



อับดุลหมวยของเราเลยทั้งอายทั้งขำแบบนี้ ก็มีอย่างที่ไหนถามได้ตอบได้ทั้งหมดแต่พอถูกถามถึงจุดหมายปลายทางกลับตอบไม่ได้ซะงั้น

ดีนะที่พี่อ้วนไม่ยอมเดินต่อไม่งั้นสงสัยหลงไปถึงจอมสอมแหงๆ



รามใหญ่เลยล้อเจ๊หมวยไปว่า สงสัยปล่อยให้เจ๊หมวยคลาดสายตาไม่ได้แล้ว

หลังจากตอนนี้พวกเราเลยต้องเดินเกาะกลุ่มกันไว้อย่างเหนียวแน่นเลยค่ะ




เกาะกันไปเป็นกลุ่มแบบนี้ล่ะค่ะ ยิ่งเห็นสายหมอกที่ลอยมาอย่างหนาหนักแบบนี้แล้ว พวกเรายิ่งไม่อยากเดินแยกกัน

นัยว่ากลัวจะหลงทางแล้วมีเหตุให้ได้ระทึกขวัญแล้วก็เสียน้ำตากันอีก



ทางช่วงนี้ก็เดินไม่ยากแล้วด้วยค่ะ พี่อ้วนก็เลยอารมณ์ดีสุดๆ ไม่เหลือเค้าเลยว่าเมื่อเช้าเคยโกรธมากขนาดนั้น เพราะความที่มีสายหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่รอบตัวตลอดเวลา กอปรกับมีต้นกุหลาบพันปีงามๆอยู่ตลอดสองข้างทาง

พวกเราเลยไม่รีบเดินแล้วแต่กลับเดินกันไปเรื่อยๆ และแวะถ่ายรูปกันไปตลอดทาง



โปรดสังเกตรูปนี้มีรามใหญ่คอยยืนคุมเชิงตลอดเวลา



ทางเดินช่วงนี้เป็นป่ากุหลาบพันปีล้วนๆเลยค่ะ แต่ยังไม่ถึงหน้าออกดอก เราเลยถ่ายอย่างอื่นแทน เห็นอะไรน่าสนใจก็หยุดถ่ายหยุดดูกันไปตลอดทาง เป็นการเดินเป็นเพื่อนพี่อ้วนไปในตัวด้วย

พี่อ้วนจะไม่ได้ไม่รู้สึกว่าถูกทิ้งเหมือนเมื่อวาน



ส่วนณ มนตอนนี้ล้าขามากๆค่ะ แต่หยุดเดินไม่ได้ต้องเดินต่อไปพร้อมกับพี่ๆ

ดูเหมือนว่าเมื่อเช้าจะโดนพูนฮิลดูดพลังไปหมดแน่ๆเลย ตอนนี้เลยเดินได้ช้ามาก

ช่วงก่อนทานข้าวเที่ยงเป็นอะไรที่ณ มนเดินช้ามาก จนรามเล็กยังเอ่ยปากถามว่า"วันนี้strong lady ทำไมเดินช้าจัง"

รามเล็กจะตั้งฉายาให้พวกเราเหมือนกับที่พวกเราตั้งชื่อภาษาไทยให้เขานั่นล่ะค่ะ

วันนี้สตรองเลดี้เลยตอบกลับไปเสียงเนือยๆว่า "บางทีก็อยากเป็นผู้หญิงอ่อนแอบ้าง 555"

แบบว่าพูนฮิลเอาพลังเค้าไปหมดแว้ววววว



แม้ทางเดินช่วงนี้จะเป็นทางลงตลอด แต่ก็เหนื่อยอยู่ดีค่ะ เพราะทางลงนี่ชันมากกกกก แถมมารู้ทีหลังว่าเราต้องลงบันไดกันถึง4พันขั้นทีเดียว ดีนะที่พี่ปูมาบอกทีหลัง ถ้ารุ้ล่วงหน้าสงสัยท้อกันเสียแต่กลางทาง



ยังดีที่มีน้ำตกมีแม่น้ำให้เราได้ชมกันไปตลอดทางเลยเหมือนเป็นแรงใจให้สองเท้าก้าวเดินต่อไปได้
แต่มีบ้างบางจุดที่พอเราไปเห็นแล้วรู้สึกเศร้าสลดอย่างแม่น้ำสายนี้ค่ะ



ยืนดูด้วยความรู้สึกเศร้ากับชีวิตน้อยๆที่ต้องจากไป จากนั้นเราก็ต้องออกเดินต่อ



ตอนนั้นเหลือบมองนาฬิกาแล้วก็ตกใจเพราะจะบ่ายสองแล้วยังไม่ถึงจุดกินข้าวที่หมู่บ้าน Deurali กันเลย
หลังจากถ่ายรูปที่สะพานนี้แล้วก็ต้องรีบจ้ำอ้าวค่ะ เพราะทุกคนรอทานข้าวอยู่ ขนาดพี่อ้วนยังไปถึงก่อนเลยล่ะค่ะ



ตอนนั้นขาล้าแทบหมดแรง ขาที่สามอย่างไม้เท้าก็ไม่สามารถช่วยได้ แต่ก็ต้องกัดฟันเดินต่อ

พอเดินไปได้นิดหน่อยก็ยิ้มออกเพราะพี่สิงขรมารอรับเราที่ริมลำธาร ถ้าเห็นหน้าพี่สิงขรแสดงว่าเราใกล้ถึงจุดหมายแล้ว

ที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านที่10จนได้ อย่าสงสัยนะคะว่าทำไมภาพมันเบลอแบบนี้

ก็แบบว่าคนถ่ายรูปนี่ล้าจนแทบหมดแรงแล้วค่ะ Y_Y มือไม้แทบไม่มีแรงแล้ว



พี่ปูยังพลังล้นเหลือเหมือนเดิม พอมาถึงที่พักกินข้าวก็เที่ยวนวดขาให้คนในคณะที่มีอาการขาล้า

ด้วยความที่เป็นน้องเลยเกรงใจไม่กล้าให้พี่มานวดให้ ขอแค่ยามานวดเอง แต่อารมณ์นั้นอยากนอนมากกว่านวดขาเสียอีกค่ะ




มื้อเที่ยงยังเป็นข้าวผัดอีกเช่นเคยค่ะแต่มีหมูทุบของเราประดับมาด้วยแล้วก็โรยน้ำพริก แม้จะรสชาติกินได้แต่ตอนนี้เหนื่อยจนไม่อยากกินอะไรแล้วเลยพาลไม่กินข้าวพร้อมกับบอกรามว่าเย็นนี้จะปฏิวัติไม่กินข้าวผัดแล้ว

รามเล็กถามว่าจะกินอะไรล่ะ ณ มนเลยตอบไปด้วยเสียงดังฟังชัดว่า "โมโม่ จะกินโมโม่ ไม่เอาข้าวผัดแล้ว"

พี่ๆเลยสั่งตามกันหลายคนแล้วบางคนก็สั่งหมี่ผัด ที่ต้องถามก่อนก็เพราะว่าลูกหาบที่ไปถึงหมู่บ้านก่อนจะเป็นคนสั่งอาหารค่ะเพราะเขาทำช้ามากเราต้องสั่งล่วงหน้า




กินข้าวเสร็จแล้วก็ออกเดินกันต่อค่ะ ใจอยากจะนั่งพักอีกสักหน่อยแต่มองฟ้าแล้วก็กลัวเพราะว่าฟ้าครึ้มมากกลัวฝนตกกลางทาง

แต่ขนาดเรารีบออกจากหมู่บ้านแล้ว ทว่าฝนก็โปรยละอองลงมาจนได้ งานนี้เลยต้อรีบเรียกพลังฮึดกลับมาแล้วออกแรงก้าวเดินให้เร็วขึ้น






ทางเดินหลังมื้อเที่ยงเป็นทางเดินลงสลับกับเลาะเลียบริมเขาแบบนี้ค่ะ แต่โดยมากแล้วจะเป็นทางลง ซึ่งนึกเสียดายในใจมากอ่ะ Y_Y

ก็สู้อุตส่าห์เดินขึ้นมาจนถึง3200กลับต้องมาเดินทางจนถึงประมาณ1900หรือเกือบ2000นี่ล่ะค่ะ

จากนั้นก็ต้องเดินขึ้นมาที่ประมาณ2600 จะไม่ให้เสียดายยังไงไหว



ถึงจะเสียดายความสูงจนไม่อยากเดินลงแต่ก็ต้องเดินค่ะไม่งั้นโดนทิ้ง แหะๆ

ทางเดินที่เราผ่านไปนั้นบางทีก็เหมือนจะหายไปแบบนี้เลยนะคะ เหมือนทางหักลงเขาไปซะงั้น

แต่จริงๆแล้วทางอ้อมเขามาเป็นแบบนี้ค่ะ แถมพอเดินมาแล้วก็ได้เจอน้องแพะตัวขาวน่ารักด้วย



ตอนหลังนี่พี่อ้วนจะกลัวมากเพราะทุกครั้งเวลาเดินป่าพี่อ้วนมักจะหกล้มทำให้ฝังใจมาก

แต่คราวนี้มีรามใหญ่คอยดูแลตลอดทาง รับปากอย่างแข็งขันว่าไม่มีทางยอมให้พี่อ้วนล้มแน่นอน

พี่อ้วนเลยเดินมาได้ตลอดรอดฝั่ง



ป่าชุ่มชื้นอย่างนี้ไปตลอดทางค่ะ ทางเดินบางช่วงเลยออกจะชื้นและลื่นนิดหน่อย

งานนี้พี่ปุของเราเลยได้ฉายาใหม่ เพราะความที่เดินเก่งมากๆ ขึ้นเขาลงเขาสบายมีพลาดลื่นนิดหน่อยแต่ก็ทรงตัวได้ดีไม่มีล้ม

นั่นทำให้สองรามพากันเรียกพี่ปูว่า bakhari ซึ่งเป็นภาษาเนปาลแปลว่าแพะภูเขา

ก็พี่แกคล่องเสียเหลือเกิน



เดินมาได้สักพักก็ถึงหมู่บ้านที่ 11 หมู่บ้าน Banthati ที่นี่เราได้เจอคุณทหาร3คนด้วย

พอเขาเห็นหน้าเจ๊หมวยเขาก็แอบหัวเราะกัน แม่ค้ากับชาวบ้านก็ยิ้มๆ

ตุ๊กแกกินปูนร้อนท้องอย่างอับดุลหมวยของเราเลยบอกว่า "สงสัยมันต้องแอบนินทาชั้นแน่ๆเลย แค่หลงทางเองนะ"

5555 แหม นี่เพิ่งเริมเองค่ะ เพราะหลังจากนี้วีรกรรมหลงทางของคณะเรานี่โด่งดังมากๆ เรียกว่าไปหมู่บ้านไหนเขาเมาท์กันที่นั่น




จากหมู่บ้าน Banthati เราต้องก้มหน้ก้มตาเดินแล้วค่ะ เพราะเดินลงเขาไปอีกครู่ใหญ่เราก็ต้องเดินขึ้นเขากันอีกแล้ว

ท้องฟ้าในป่าก็เริ่มครึ้มมากขึ้นทุกที ปกติหากเป็นกลุ่มทั่วไปเขาจะถึงหมู่บ้านทาดาปานีกันตอนประมาณไม่เกิน4โมงเย็น

แต่คณะเรานอกจากจะอายุมากแล้วยังมีหลงทางกันอีกเลยทำให้เราใช้เวลานานกว่าคณะอื่นๆ

ดังนั้นหลังจากภาพนี้แล้วจะไม่มีภาพระหว่างทางแล้วค่ะไม่ว่ากล้องของใครก็ตามเพราะต้องเร่งแข่งกับเวลากันเต็มที่




(พี่จุกนอนหมดสภาพเลย555)

ตอนก่อนจะถึงหมู่บ้านนี่เหมือนแรงจะหมดเสียให้ได้ สองรามก็บิวท์กันใหญ่บอกอีก30นาที

เดินไปหน่อยก็บอกอีก20นาที เอ้า จำจำ อีก10นาที แล้วพอวินาทีสุดท้ายที่ได้เห็นทางเข้าหมู่บ้านนี่นะคะพี่ๆเฮกันเลย

แต่มาถึงพระอาทิตย์ท่านก็ลับดวงไปแล้วเลยไม่มีภาพของหมู่บ้านสักภาพ ดูภาพพี่จุกในห้องนอนไปแทนนะคะ




ห้องเดียวกันกับภาพบนนะคะแต่เขาทาสีต่างกันเลยดูเหมือนคนละห้อง

พอเรามาถึงก็แยกย้ายกันอาบน้ำตอนจะไปอาบน้ำนี่ล่ะค่ะได้ฮา เพราะเราสวนกับสาวใหญ่ชาวตะวันตกคนหนึ่ง พอเธอเจอพวกเราประโยคแรกที่เอ่ยถามก็คือ

"พวกคุณใช่ไหมที่หลงทางกัน"

โห ฮาสิคะงานนี้ ที่หมู่บ้านบานทาติก็มีคนแอบกระซิบกระซาบไปทีแล้ว พอมาถึงทาดาปานีนี่ถึงกับเอ่ยถามกันเลยทีเดียว

พี่อ้วน(กลม)ผู้ประสบเหตุการณ์ด้วยตัวเอง แล้วถูกถามเอากับตัวถึงกับหัวเราะออกมาเลย

พี่อ้วนว่างี้ค่ะ "สงสัยเขาจะรู้กันทั้งภูเขาแน่ๆเลยว่ากลุ่มเรามีคนหลงทาง" ยืนฮากันตรงนั้นครู่หนึ่งก็พากันไปอาบน้ำค่ะเพราะตอนนี้อาหารค่ำมารอเราแล้ว




และนี่คือโฉมหน้าของโมโม่ อาหารปฏิวัติของณ มนค่ะ เพราะเบื่อข้าวผัดเต็มทีแล้ว ส่วนพี่ๆก็กินหมี่ผัดกัน

แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือมาม่ารักษาทุกโรคแล้วก็น้ำพริกต่างๆกับบรรดาเมนูหมูๆของเรา บวกพิ่มด้วยแกงสำเร็จรูปแค่นี้ก็อร่อยเหาะแล้ว



สภาพเสบียงบนโต๊ะอาหารของเรา

จะเห็นว่ามีชาวตะวันตกอยู่ร่วมโต๊ะด้วยก็สองสามีภรรยานี่ล่ะค่ะที่ถามเราถึงเรื่องหลงทาง วันนี้เลยได้เล่าให้ฟังกันแบบฮาๆ

บรรยากาศค่ำคืนวันนี้ผ่อนคลายและสบายใจกันมาก ทั้งที่เดินเหนื่อยพอสมควรแต่เป็นเพราะไม่มีอาการงอนเกิดขึ้นกับคนในคณะของเราแล้ว

ทุกๆอย่างก็เลยดูราบรื่นและเฮฮากันแบบนี้



ห้องพักของเราที่ถ่ายไว้ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นค่ะ

หลังจากเหตุการณ์หลงทางผ่านพ้นไปดูเหมือนว่าจะเกิดความเข้าใจและรักใคร่กันในหมู่คณะของพวกเรามากขึ้น

ที่มีขุ่นข้องหมองใจก็ดูเหมือนจะสลายไปหมดแล้ว ดังนั้นบรรยากาศของการเดินเขานับจากวันนี้เป็นต้นไปจะมีแต่ความสุขสนุกสนานตลอดทางเลยล่ะค่ะ




แม้การที่พี่อ้วนกับเจ๊หมวยหลงทางทำให้เรามาถึงที่หมายช้ากว่าปกติ

แต่เราไม่ถือเป็นการเสียเปล่าเลยค่ะเพราะนั่นทำให้พวกเราทุกคนรักและเข้าใจกันมากขึ้น

มีอะไรก็คอยช่วยเหลือเผื่อแผ่และเห็นอกเห็นใจกัน ถือว่าคุ้มสุดๆ กับการหลงทางในคราวนี้





ฟ้าหลังฝนสดใสเช่นไร ในคณะเราก็คงเหมือนอย่างนั้นเลยค่ะ หลังจากมีงอนๆกันมีหลงทาง ที่สุดนอกจากจะรักและเข้าใจกันมากกว่าเดิมแล้ว

ธรรมชาติยังให้รางวัลตอบแทนยิ่งใหญ่มากด้วย ด้วยการเปิดโอกาสให้เราได้ยลโฉมทิวเขางามๆแบบนี้ในเช้าวันรุ่งขึ้น

รามบอกว่าวิวยอดเขาจากหมู่บ้านทาดาปานีก็งามไม่แพ้พูนฮิล ซึ่งณ มนก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ



ขอปิดท้ายบลอคนี้ด้วยภาพนี้นะคะ เผื่อเพื่อนๆมีโอกาสไปเดินเขาเส้นทางนี้อย่าเดินคนเดียวน้า เดี๋ยวจะเหมือนเจ๊หมวยกับพี่อ้วน

(เอ๊ะ สองคนนี้ก็ไม่ได้เดินคนเดียวนี่นาทำไมยังหลงเนาะ)

ป้ายนี้ค่ะติดอยู่ที่ทางออกจากหมู่บ้านทาดาปานี้ ซึ่งพอเจ๊หมวยเห็นนี่แกหัวเราะก๊ากเลยนะคะ

"อ้าว สงสัยเขารู้แน่ๆเลยว่าเจ๊เพิ่งหลงทางเขาเลยทำป้ายมาเตือนแบบนี้"

ว่าไปนั่นเจ๊เรา แต่คณะของเรายังคงมีเรื่องอลเวงอยู่อีกค่ะรับรองไม่ธรรมดาเหมือนคณะอื่นแน่ๆ

เรียกว่าสร้างชื่อฮือฮากันจนหลายๆคนจดจำได้ ขนาดกลับมาถึงเมืองไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิยังอุตส่าห์มีหนุ่มเนปาลที่บินมาไฟลท์เดียวกันมาทักเรื่องหลงทางอีกแน่ะ

คิดดู๊ ดังกันขนาดไหน



Create Date : 20 มกราคม 2554
Last Update : 30 มกราคม 2554 21:58:09 น. 17 comments
Counter : 1648 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณ ณ มน


บอกได้คำเดียวว่าอยากไปครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:5:43:23 น.  

 
คุณ ณ มน ... วิวพาเพลินมากค่ะ แต่ว่าคนไปเดินนี่
เพลินกับวิวด้วยแล้วก็ยังเหนื่อยด้วยสิค่ะนี่

เห็นเรื่องราวหลงๆ เราเลยได้กลับไปอ่าน
ตอนก่อนหน้าด้วยค่ะ อ่านแล้วก็อิ่มไป้ดวยเลย
แถมมาอ่านตอนนี้เพิ่มเรื่องหลงทาง .. เฮ้อ ดีนะค่ะ
ว่าจบกันด้วยดี ได้เจอกันไม่หลงอีกแล้วแถม
พี่ก็หายงอนด้วย กลับมารักกันเหมือนเดิมเน๊าะ
อารมณ์นี้อ่านตามแล้วก็ยิ้มไปเรื่อยๆ ไปด้วยค่ะ


ทริปเดินป่าแบบนี้นะค่ะ เราใจสู้ค่ะ
แต่ว่าร่างกายอีกเรื่องเลยนะค่ะ เพราะว่าไม่รู้
จริงๆ ว่าให้ไปเดินแบบนี้จะเวิร์คไม๊ .. จริงๆ อาจจะ
ไม่เป็นไร แต่ว่าจบทริปอาจจะเดี้ยงเดินไม่ได้
ไปเป็นวันๆ เลยก็ได้ค่ะ แต่ว่า.. ดูผู้ร่วมทริปของคุณ
ณ มนแล้วเหมือนกระตุ้นนะค่ะว่า พี่ๆ ยังเดินได้เลย
แล้วเราจะเดินไม่ได้เชียววหรือ


ว่าแล้วอยากไปเชียวค่ะ วิวสวยแบบนี้ อยากไปมั่กๆ
เหมือนคุณก๋าเลย


โดย: JewNid วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:8:06:43 น.  

 
ถ้าจะไปทริปนี้ด้วย สงสัยคงต้องฟิตร่างกายให้เต็มร้อย ใจเต็มถังนะคะเนี่ย

ไม่งั้นคงมีหวังไม่ไหวแน่ๆค้า


โดย: nLatte วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:11:32:28 น.  

 
อ่านตอนที่ 10แล้วใจสั่นค่ะ คุณมน วิวสวยค่ะ แต่สภาพเส้นทาง และ อารมณ์ของผู้ร่วมทริป โอย หายใจไม่ทั่วท้องค่ะ ตอนที่ 11 เหมือน ได้ถอดเข็มขัดที่มันรัดแน่นท้องออก ยังไงยังงั้น เฮ้อ
ตอน 8-9ขวบ คุณย่าเคยลื่นไถลลงมาจากเขาแบบนี้ด้วยค่ะ/ happy ending รับตรุษจีนเลยนะคะ เนี่ย
ขออวยพรให้ ทุกท่าน รวยเงิน รวยความสุข และรวยมิตรภาพค่ะ
ขอบคุณคุณมนมากค่ะ ที่มีblog ให้คุณย่าได้เพลินอารมณ์


โดย: คุณย่า IP: 58.8.213.8 วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:15:04:29 น.  

 
อ่านตอนที่ 10แล้วใจสั่นค่ะ คุณมน วิวสวยค่ะ แต่สภาพเส้นทาง และ อารมณ์ของผู้ร่วมทริป โอย หายใจไม่ทั่วท้องค่ะ ตอนที่ 11 เหมือน ได้ถอดเข็มขัดที่มันรัดแน่นท้องออก ยังไงยังงั้น เฮ้อ
ตอน 8-9ขวบ คุณย่าเคยลื่นไถลลงมาจากเขาแบบนี้ด้วยค่ะ/ happy ending รับตรุษจีนเลยนะคะ เนี่ย
ขออวยพรให้ ทุกท่าน รวยเงิน รวยความสุข และรวยมิตรภาพค่ะ
ขอบคุณคุณมนมากค่ะ ที่มีblog ให้คุณย่าได้เพลินอารมณ์


โดย: คุณย่า IP: 58.8.213.8 วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:15:07:11 น.  

 
ดูจากววของรูป ก็พาเพลินดีนะค่ะ น่าไปเชียว
แต่ก็ ดูท่าจะต้องทรหด น่าดูเลย อยากไปจังค่ะ น่าจะสนุกดี

ยิ่งถ้าได้ไปกับเหล่าผองเพื่อน ร่วมก๊วนแล้วคงสนุกดี

บรรยากาศนี่ น่าไปจริงๆนะ แล้วก็คงจะหนาว กันน่าดูเลย


โดย: น้ำไนท์ (KK_FUMIHIKO ) วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:16:07:03 น.  

 
อ่านไปก็ลุ้นไปด้วย อยากมีประสบการณ์เดินป่าไต่เขาอย่างณ มนมั่ง แต่นึกภาพต้องปีนเขาสูง ๆ ขนาดนั้น อ่านตรงขาลงว่ามีบันไดเป็นพัน ๆ ขั้นแบบนั้น เล่นเอาถอดใจเลย เพราะร่างกายคงสู้ไม่ไหวค่ะ

ขอบคุณที่เล่าเรื่องสนุก ๆ และเก็บภาพงาม ๆ มาฝากกันนะคะ


โดย: haiku วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:17:16:03 น.  

 
สวัสดีปีใหม่คับ สวยยยจังคับ เนปาลล


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:22:40 น.  

 
สวย ๆๆๆๆ มาก มาก เลยค่ะ น่าไปเดินจัง...

ตอนนี้อ่านนิยายของพี่ ณ มน มาได้ครึ่งเล่มแล้วค่ะ สนุกมาก ๆๆๆๆๆ วางไม่ลง

เขียนเป็นนิยายอีกสิคะ หนูว่าบรรยากาศภูเขาแบบเนปาลน่าจะโรแมนติกดี ^^



โดย: น้ำขิง IP: 110.49.16.240 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:51:28 น.  

 
น้ำขิง..ขอบใจจ้าที่มาบอกข่าวเรื่องนิยาย
ส่วนเนปาลยังไม่คิดเลยค่ะว่าจะเขียนยังไง

โจ..เนปาลสวยมากๆคนถ่ายรูปเก่งอย่างโจต้องชอบแน่ๆ ถ้าได้ไปเยือน

คุณย่า..เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นกับพวกเรานี่เป็นเหมือนบทเรียนสอนใจพวกเราเลยค่ะ
ปล.ขอบคุณสำหรับพรดีๆด้วยนะคะ

ไฮกุ...เดินไม่ยากหรอกจ้ะ เราอย่าเพิ่งไปกลัว พี่อ้วนยังเดินได้เลยล่ะ นั่นขนาดขาเพิ่งหักพักฟื้นมาได้แค่4-5เดือนเองนะ

คุณยุ้ย...อย่ากลัวกับบันไดและทางไกลค่ะ รับรองไหวแน่
เพราะธรรมชาติรอบข้างสวยมากๆ รับรองเดินกันลืมเหนื่อย

คุณก๋า..เนปาลสวยจริงๆนะคะ หาโอกาสไปเยือนให้ได้น้า

จิวนิด..เดินไหวแน่นอนค่ะ เพราะขนาดพี่ๆน้าๆ อายุ60กว่าๆก็เดินกันได้
ตอนเดินวิวสวยๆจะทำให้ลืมเหนื่อยเลยล่ะค่ะ

น้ำไนท์...หนาวค่ะแต่สวยมากๆเลย


โดย: ณ มน วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:53:23 น.  

 
คิดเหมือนพี่ก๋า อยากไปเนปาลสักครั้ง
แต่ไม่รู้ว่าจะเดินไหวหรือเปล่า

เห็นป้า ๆ แล้ว ดูเหมือนไม่เหนื่อยเลย

แต่ให้เดินเข้าจริง ๆ คงต้องขอพักหลาย ๆ รอบแน่นอน


โดย: ostojska วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:15:41 น.  

 
คุณ ostojska ...ไหวแน่นอนค่ะ ณ มนยืนยันเลย เพียงแต่เราต้องค่อยๆเดินไม่เร่งรีบก็พอค่ะ รับรองว่าวิวสองข้างทางจะทำให้หายเหนื่อยเลยล่ะค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:27:09 น.  

 

เหมือนอุ้มได้เดินตามไปด้วยค่ะ
เพราะที่นี่ก็อากาศเย็น
ต่างกันตรงที่นี่ไม่มีเหงื่อ
และไม่อบอุ่นเหมือนในภาพจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:37:16 น.  

 
เขียนอักษรจีนคำว่า "ความสุข" มาฝาก ปีใหม่จีนนี้ขอให้ณ มนและครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เดินทางไปไหนก็ให้ปลอดภัย การงานรุ่งเรือง เฮง เฮงตลอดปีค่ะ



โดย: haiku วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:29:28 น.  

 
มีความสุขมากๆ นะค่ะคุณ ณ มน
รวย เฮง สวยและก็สุขภาพแข็งแรง
ตลอดทั้งปีเลยค่ะ

เรื่องคนสูงอายุกว่าทำอะไรได้มากกว่า
หรือว่าแข็งแรงกว่านี่บางทีเล่นทำเอาคนหนุ่มๆ
สาวๆ อายม้วนเลยก็มีนะค่ะ อย่างเรา
ตอนอยู่ไกลบ้าน ปั่นจักรยานขึ้นเนินยังแทบ
อยากจอดรถแล้วทิ้งลงข้างทาง แต่ว่าพอเจอ
คนสูงอายุเค้าปั่นแบบหน้าตาเฉย อายอ่ะค่ะ
เลยเป็นแรงฮึดให้แบบว่า เราต้องทำได้
แต่ว่ากว่าจะทำได้ โอ๊ย แทบแย่ค่ะ 55


โดย: JewNid วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:22:28 น.  

 
ขอให้พรดีๆส่งกลับไปถึงคุณอุ้มสีและไฮกุและจิวนิดด้วยนะคะ ^^


โดย: ณ มน IP: 118.174.93.228 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:23:55 น.  

 
รอดูภาพ และสถานที่ท่องเที่ยวอีกค่ะ ตรุษจีนไม่ได้ไปไหน เหงาค่ะ


โดย: คุณย่า IP: 58.8.13.52 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:20:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ณ มน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




ณ มน ชื่อนี้แปลว่า "ที่หัวใจ" ตอนแรกตั้งใจจะใช้เป็นเพียงนามปากกาที่ใช้เขียนหนังสือเท่านั้น

แต่สุดท้ายก็นำมาใช้เปิดบลอคจนได้ แหะแหะ

ณ มนเป็นคนธรรมดาๆ ชอบเดินทาง ชอบคุย ชอบเล่าชอบเมาท์ไปเรื่อย ถ้าไม่เบื่ออ่านเรื่องเล่าที่บางคราวก็เฮฮา บางคราก็ไร้สาระล่ะก็ แวะมาเยี่ยมเยือนกันได้ค่ะ ^_^


บอกเล่าเก้าสิบกันนิดนะคะว่า
บทความและข้อเขียนทุกชิ้นในบลอกนี้
ได้รับการคุ้มครองตาม พรบ. ลิขสิทธิ์ค่ะ
เข้ามาอ่านได้นะคะ แล้วก็แสดงความคิดเห็นได้ด้วย
แต่อย่าลอกกันนะคะ


***********


ผลงานของณ มนค่ะ























































ผู้เยี่ยมชม
Friends' blogs
[Add ณ มน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.