Bloggang.com : ณ มน : เที่ยวซาปา ตามหาลมหนาว

เที่ยวซาปา ตามหาลมหนาว

ปลายเดือนตุลาคม62 ที่ผ่านมา เมืองไทยของเรายังไม่มีลมหนาวให้สัมผัสเลยสักนิดเดียว
ณ มนกับเพื่อนอีกสองคนเลยซื้อทัวร์ไปเที่ยวเวียดนามเหนือกันค่ะ
โปรแกรมที่เลือกจะเป็นฮาลองเบย์ จ่างอ่าน นิงห์บิง และซาปา
โดยเป็นทัวร์5วัน4คืน เพราะอยากมีเวลามากขึ้นอีกนิด
ส่วนมากโปรแกรมนี้เขาจะไปกันราวๆ 4วัน3คืน แต่เราว่ามันน้อยไปหน่อย
เพราะซาปานี่ต้องนั่งรถขึ้นเขาเลยอยากมีเวลาพักมาหน่อย
แล้วก็ถือว่าคุ้มมากเลยค่ะที่เลือกห้าวันสี่คืน

(ในภาพที่จะเป็นสะพานข้ามเกาะไปสวนสนุกของซันเวิร์ล)

เริ่มต้นทัวร์ที่ฮาลอง เนื่องจากลงเครืองก็บ่ายแล้ว เลยมาถึงฮาลองก็เย็นแล้ว
กว่าจะได้ข้ามเกาะก็มืดพอดี

(ไปถึงยามค่ำคืนก็เที่ยวกันตอนค่ำนี่ล่ะ)

แต่ไม่เป็นไรค่ะ สวนสนุกอะไรต่างๆ เขาก็ทำรองรับกลางคืนอยู่แล้วไฟเลยอลังการ
ซันเวิร์ลเป็นบริษัทใหญ่แห่งหนึี่งของเวียดนามนะคะ เขารับสัมปทานทำสวนสนุก
ปรับปรุงสถานที่ต่างๆ เป็นที่ท่องเที่ยว เป็นสวนสนุกด้วยเครื่องเล่น กระเช้าทันใหม่ ใหญ่ปลอดภัย
คือเรียกว่านั่งกระเช้าของซันเวิร์ลนี่ไม่มีสะดุ้งสะเทือนอะไรเลย นิ่งมาก

(ว่ากันเรื่องสวนสนุกต้องยกให้ซันเวิร์ลเขาล่ะค่ะ เล็กๆไม่ ใหญ่ๆซันเวิร์ลถึงจะทำ)

ซันเวิร์ลนี่เขาเป็นคู่แช่งกับบ.ชินกรุ๊ป คือแข่งกันทำโครงการใหญ่ๆตลอด
แล้วซันเวิร์ลจะได้สัมปานจากรฐบาลให้ไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆเสมอ
อย่างที่บานาฮิลล์นั่นแหละค่ะ พวกตึกแบบยุโรป สะพานมือก็ซันเวิร์ลนี่ล่ะค่ะทำ

บานาฮิลล์นี่คือแค่รู้กันว่าบนเขานี้พวกฝรั่งเศสเคยขึ้นมาอยู๋
เมื่อครั้งสมัยเข้ามายึดเวียดนามเป็นเมืองขึ้น
แต่อาคารบ้านเรือนครั้งกระนั้นก็ไม่เหลือแล้ว
ซันเวิร์ลได้สัมปทานปุ๊บก็ไปสร้างตึกแบบยุโรป สร้างสวนสนุก
สร้างสะพานมือสร้างกระเช้าจนนักท่องเที่ยวแห่ไปมากมายค่ะ
ค่ะ ซันเวิร์ล เล็กๆไม่ ใหญ่ๆ ถึงจะทำ
และอีกข้อก็คือทัวร์ชาติอื่นใดไม่รู้แต่ทัวร์ไทยเท่านั้น
ที่ได้นอนค้างคืนบนบานาฮิลล์ เรียกกว่าจองกันข้ามปีเลย

คืนนั้นณ มนกับทุกคนในคณะเดินเที่ยวถ่ายรูปดูไฟ ดูหุ่นกระบอกน้ำก็กลับมานอนโรงแรม

หน้าตาของอาหารเช้าที่ฮาลอง ถือว่าใช้ได้นะคะ
นอกจากพวกนี้แล้ว ณ มนกินเฝอทุกเช้าเลยค่ะ อร่อยดีน้ำซุปร้อนๆหอมๆ

ตอนแรกเหมือนฟ้าจะใสนะคะ แต่พอล่องเรือฟ้ากลับครึ้มเสียอย่างนั้น
น่าเสียดายมากเลย

บริเวณแถวท่าเรือค่ะ ก็มีเรือมาบริการนักท่องเที่ยวมากมายเลย

วันนี้คณะพี่ๆที่มาทัวร์เดียวกับณ มน แปลงกายเป็นสาวเวียดนาม
สวยงามกันทุกคนเลยและเป็นนางแบบที่น่ารักสุดๆ

ท่าเรือค่ะ เสียดายที่ฟ้าหม่นไปหน่อย

หนึ่งในนางแบบของเรา น่ารักให้ความร่วมมือดีมาก

ตอนล่องเรือจะเห็นว่าฟ้าหม่นจริงๆ ก็เลยทำให้ผืนน้ำมีสีไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
อ่าวฮาลองนี่ก็มีเกาะแก่งมากมายหลายร้อยเกาะนะคะ
เล็กมั่งใหญ่มั่ง มีทั้งที่ต้ังชื่อแล้วและยังไม่ได้ต้ังชื่อ

เราล่องเรือกันมาได้พักหนึ่งก็ถึงที่เที่ยวของเรา คือถ้ำนางฟ้า

(พี่ๆ ยืนเป็นนางแบบให้ตากล้องในคณะถ่ายภาพ)

ตรงนี้คือจุดจอดเรือเพื่อขึั้นถ้ำนางฟ้าค่ะ ตามตำนานก็เล่าว่านางฟ้านี่แต่งงานกับมังกร
นางให้กำเนิดลูก100 คน นางพาลูกไปเลี้ยง50คน และให้พ่อมังกรเลี้ยง50คน

ดีที่มาถึงตรงนี้ฟ้าสวยหน่อย ณ มนใช้มือถือถ่ายภาพมา
แน่นอนว่ามันย่อมชดเชยแสงให้เสียสวยวิ้งเชียว555
แอบคิดว่าแล้วฉันจะแบก DSLRหนักๆไปทำไมฟะ
ในเมื่อมือถือมันถ่ายมาวิ้งขนาดนี้555

นักท่องเที่ยวทยอยเดินขึั้นถ้ำนางฟ้า
เดินกันพอน่องตึงๆ ก็มาถึงค่ะ

ภายในก็มีหินงอกหินย้อยมากมายสวยงาม
และมีจุดหนึ่งหินงอกมีสัณฐานเหมือนนมเลย
ไกด์บอกนี่หินนมนางฟ้าเอาไว้ให้ลูก50คนที่อยุ่กับพ่อมังกรได้ดื่ม ตอนที่แม่นางฟ้าไปแล้ว
ปล.ไม่ต้องเพ่งค่ะ ไม่ได้ถ่ายนมมา555

เดินลงมาที่ท่าเรือฟ้าสวยเชียว เอ้า ได้เวลาล่องเรือกลับขึ้นฝั่งละ

ละพอล่องเรือฟ้าก็ครึ้มอีก

เราล่องมาดูเกาะที่เป็นไฮไลท์ของอ่าวฮาลอง นั่นคือเกาะไก่ชน
ด้วยความที่เรือมากมายมหาศาลการจะถ่ายเกาะไก่ได้งามๆนั้นยากนัก
และณ มนได้มาเท่านี้ 555 มีสายของใบเรือติดมาด้วย

ส่วนนี่คือหนุ่มๆในคณะทัวร์ของเราค่ะ

คู่รักแสนน่ารักที่พาลูกน้อยไปด้วย เก่งมากเลยค่ะครอบครัวนี้
ปล.แต่เจ้าตัวเล็กหลับพ่อแม่เลยแวบขึ้นมาถ่ายรูปสักหน่อย

ภาพล่างเป็นนางแบบเจ้าประจำของเรา

ได้เวลากินอาหารกลางวัน ช่วงนี้อยู่กับทะเลก็กินอาหารทะเลไปนะ
มีไวน์ด้วยค่ะ แต่คนไม่ดื่มแอลกอฮอล์อย่างณ มนก็แค่ดมๆไป

ล่องเรือกลับเข้าฝั่งเพื่อที่จะออกเดินทางไปจ่างอาน นิงห์บิง
คราวนี้จะไปล่องแม่น้ำกันบ้างหลังจากล่องทะเลมาแล้ว

แอบถ่ายคนสวยก่อนขึ้นฝั่งเสียหน่อย
จากนั้นก็นั่งรถกันยาวๆค่ะเพื่อไปเมืองนิงห์บิง

เมื่อถึงนิงห์บิงเราจะไปเที่ยววัดไบ่ดิงห์กันก่อน เป็นวัดที่ใหญ่มากเลยค่ะ
แต่ไม่มีพระนะคะ มีแต่อาคารงดงามโอ่โถงและมีคนของทางการดูแล

ไกด์บอกว่าคนเวียดนามไม่ได้ระบุว่าตนเองนับถือศาสนาใดๆค่ะ
เขาจะนับถือบรรพบุรุษกันเสียมากกว่า
แต่เวลาวันขึ้นปีใหม่หรือวันสำคัญต่างๆ ก็จะมาไหว้พระที่วัดกัน

ไปถึงวัดก็ค่อนข้างเย็นแล้ว แถมฝนเพิ่งซาเม็ดบรรยากาศเลยมัวๆ ซึมๆหน่อย
แต่ก็มีคนมาเที่ยวเยอะนะคะ

(มองจากมุมนี้แล้วคิดว่านิงห์บิงเป็นเมืองที่น้ำท่าสมบูรณ์ทีเดียว)

รถจะจอดด้านบนเขาจากนั้นจะใช้วิธีเดินลงไปเที่ยวตามอาคารต่างๆ
ขาลงก็สบายมาก แต่ขาขึั้นได้เหงื่อค่ะ ไกด์บอกซ้อมไว้พี่ เดี๋ยวไปซาปาต้องเดินมากกว่านี้

เป็นวัดที่มีสถานที่กว้างขวางจริงๆ ค่ะ มีจุดสำคัญให้ชมหลายที่
ทั้งวิหารเจ้าแม่กวนอิม เจดีย์สูงหลายชั้นและ พระสังกัจจายน์
ก็เลือกเดินชมเอาเท่าที่เวลาพอเอื้ออำนวยค่ะ เพราะกลัวจะมืดค่ำเสียก่อน

นี่ค่ะเดินลงไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็จะเจอบรรดาอาคารหลังต่าง
อย่างวิหารพระหลังนี้ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 3 ปาง
คือปางอดีต ปัจจุบันและอนาคต

ภายในวิหารก็มลังเมลืองสวยงามมาก

คนไทยเราพอเข้าวัดก็จะถอดรองเท้าเนาะ เป็นเรื่องปกติ
แต่คนเวียดนามเขาไม่เห็นถอดกันนะคะ
ไม่เป็นไรเอาตามธรรมเนียมไทยเรา เพราะดูเรียบร้อยและให้ความเคารพสถานที่ดี

คืนนั้นพักที่โรงแรมในนิงห์บิงห้องอาจจะเล็กนิดหน่อยแต่สะอาดสะอ้านใช้ได้
ที่สำคัญไลน์อาหารเช้านี่ครบครันมากทั้งครัวเวียดนาม ครัวแบบยุโรปและมีข้าวปั้นด้วยค่ะ
ผิดกับที่ไกด์บอกเลยว่านิงห์บิงอาหารการกินจะไม่สมบูณ์เท่าเมืองอื่น
แต่เท่าที่ดูนี่ครบมากเลยนะคะ สรุปว่าชอบอาหารเช้าที่นิงห์บิงมาก

สำหรับเมื่อวานเรายอมตีรถยาวๆมาจากฮาลองเพื่อมาพักนิงห์บิง
จุดประสงค์สำคัญคือจะมาล่องเรือที่จ่างอานแต่เช้าค่ะ
การมาถึงสถานที่ต่างๆในเวลาเช้าน่ะดีมากเลยนะคะ เพราะคนน้อยและไม่ร้อน
อยากบอกว่าบริษัท TTN Plus วางโปรแกรมทัวร์ดีมากๆเลยค่ะสำหรับทริปนี้
ใครสนใจใช้บริการได้เลยนะคะ

เอาล่ะเรามาล่องเรือกันที่จ่างอาน หรือฮาลองบก สถานที่ที่เคยใช้ถ่ายทำหนังฮอลลีวูดเรื่อง
Kong : Skull Island
มาสวมบทเป็นพี่ทอม ฮิลเดินตันกัน (พระเอกในหนังเรื่องที่พูดถึงนั่นล่ะค่ะ)
จากนั้นก็นั่งเรือล่องชิลล์ไปตามแม่น้ำ ไม่ต้องไปมองหาคิงคองนะคะ55

จ่างอานเป็นเมืองลุ่มน้ำค่ะ มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย เลยมีพื้นที่ชุ่มน้ำเยอะมาก

ที่เราไปล่องเรือนี่สวยงามมากเลยนะคะ เสียดายฟ้าปิดอีกแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นทิวทัศน์สองฝั่งก็งดงามมากและน้ำก็ใสมากกกกก

เส้นทางล่องเรือมีถ้ำให้พายเรือลอดไปด้วยหลายจุด ในถ้ำมีหินงอกค่ะ ประดับไฟไว้สวยงาม
ก็สนุกสนานดีตอนลุ้นว่าเรือจะผ่านโค้งได้ไหม หัวเราจะโขกกับหินเสียก่อนหรือเปล่า

คิดว่าถ้าฟ้าเปิดคงงามกว่านี้ แต่เท่านี้ก็ถือว่าพอใจมากแล้วค่ะ

สำหรับจ่างอานนี่ก็เป็นเมืองเก่านะคะ เคยมีกษัตริย์ปกครอง
ต่อมาก็โดนตีจนพ่ายแต่ก็มีการซ่องสุมกำลังตีเมืองกลับคืนมาได้ค่ะ
เล่าเท่าที่จำได้นะคะ ไกด์เล่าให้ฟังตอนนั่งรถ ณ มนก็ฟังมั่งง่วงมั่ง แหะๆ

สำหรับเรือที่มาพายบริการนักท่องเที่ยวนี่ก็มีเป็นพันลำเลยนะคะ
เรียกว่าใครได้คิววันนี้พอพายพานักท่องเที่ยวท่องแม่น้ำเสร็จ
ก็กลับบ้านไปนอนรอคิวอีกสองวันเลยค่ะถึงจะมีคิวอีก

รุ่นพี่ของณ มนไปเที่ยวแล้วบอกว่าเจอพนักงานพายเรือบริการไม่ดี
มีการเรียกร้องค่าทิปด้วย ถ้าไม่ให้จะพายช้าๆแถมวันนั้นฝนตกปรอยๆอีก
แต่ที่ณ มนไปนี่ไม่มีแบบนั้นเลยค่ะ ทุกลำที่คณะเราลงเรือ บริการดีมากกก

ยังรู้สึกว่าคณะที่ณ มนไปนี่โชคดีจังเจอแต่เรื่องดีๆ
เพื่อนร่วมทัวร์ก็น่ารัก ไกด์เก่งคล่องมากทั้งไกด์ไทยและไกด์เวียดนาม
เลยทำให้การไปทัวร์เวียดนามเหนือคราวนี้ประทับใจมาก

(ขอบคุณภาพจากพี่ๆเพื่อนๆ ร่วมคณะทัวร์นะคะ แหะๆ จำไม่ได้ว่าใครถ่ายภาพนี้)

ปิดท้ายทัวร์เวียดนาม ครึ่งแรกไว้เท่านี้ก่อนเพราะลงภาพเยอะมาก
ถ้าใครไม่เบื่ออ่านเดี๋ยวณ มนจะมาเล่าตอนสองนะคะ
เป็นเรื่องของซาปากับหมู่บ้านกั๊ดกั๊ดค่ะ