วันนี้เข้า facebook ได้เห็นข้อคิดดีๆ จากท่าน ว.วชิรเมธี ค่ะ เลยคัดลอกมาฝากเพื่อนๆ ได้อ่านกันนะคะ
วางความคิด ชีวิตสงบ ฟุ้งตามความคิด ชีวิตไม่สงบ แม้ในเวลาที่ตกอยู่ท่ามกลางความทุกข์ ผู้มีปัญญาก็ย่อมมองเห็นความสุขจนพบ ทำงานดี งานก็สร้างคน ทำงานสับสน คนก็เสียเพราะงาน อย่ายึดติดกับความหลัง อย่าฟังเสียงคนสอพลอ อย่ารอให้พระเจ้ามาช่วย ฝากอนาคตไว้กับเทพเทวา ก็เหมือนฝากชีวาไว้กับสุญญากาศ อนาคตขึ้นอยู่กับมันสมองสองมือของตนไม่ใช่ผลของพรหมลิขิต มนุษย์คือธรรมชาติ ไม่ใช่เป็น ส่วนหนึ่ง ของธรรมชาติ ทำไม่ดีต่อคนอื่น ก็เหมือนยื่นปลายดาบเข้าหาตัวเอง จงคิดอย่างแยบคาย ใช้ชีวิตอย่างแยบยล เป็นคนอย่างยอดเยี่ยม ชื่อเสียงเหมือนสายลมเย็น ไม่มีตัวตนเป็นๆ ให้ถือครอบครอง สภาพจิตของตนเป็นอย่างไร ก็จะได้คุณภาพชีวิตเป็นอย่างนั้น ธรรมชาติ คือ มารดาของมนุษย์ ธรรมจริยา คือมารดาของคนดี ประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน นี่แหละคือมรรคผลของการเมือง ทรัพย์สินเป็นสิ่งสมมุติ ประโยชน์ที่รังสรรค์แก่เพื่อนมนุษย์เป็นของจริง วัฒนะ (ความเจริญ) ของอำนาจ ก็คือ การรู้จักใช้อำนาจนั้้น เพื่อประโยชน์สุขของประเทศและประชาชนหายนะ (ความเสื่อม) ของอำนาจ ก็คือ การใช้อำนาจนั้้น เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง อยากมีกำลังภายนอก ต้องเคลื่อนไหว อยากมีกำลังภายใน ต้องสงบนิ่ง ให้เกียรติคนที่อยู่ตรงหน้า มีค่าเท่ากับให้เกียรติตนเอง ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น เย็นไม่ได้ เท่ากับตายผ่อนส่ง ระลึกรู้ปัจจุบัน สำคัญกว่าระลึกชาติในอดีต สำหรับอาตมา ให้ราคาคำชมคำด่าเสมอกัน ถูกชมเป็นเรื่องธรรมดา ถูกด่าเป็นเรื่องไม่เหนือความคาดหมาย ดอกไม้หอมได้บางดอก แต่คนหอมได้ทุกคน ถ้าเป็นคนดี อำนาจต้องสนองการพัฒนา ไม่ใช่สนองอัตตา อย่ากลัวว่าคนจะไม่เห็นคุณค่า จงกลัวแต่ว่าเมื่อเขาเห็นคุณค่าแล้ว คุณจะยังดีไม่พอ คนที่ปัดความรับผิดชอบเมื่อทำงานผิดพลาด ก็เท่ากับปิดโอกาสที่ตัวเองจะได้พัฒนา อย่าฝากความฝันของคุณไว้กับริมฝีปากของใคร แต่เชื่อมั่นว่าคุณเกิดมาเพื่อสิ่งใด ก็จงมุ่งมั่นต่อไปเพื่อทำสิ่งนั้นให้สัมฤทธิ์ เวลาที่เราให้อภัยแก่ใครสักคนหนึ่ง คนที่ได้รับผลตอบแทนเป็นเบื้องแรกก็คือ ตัวเรานั่นเอง ให้อภัยเขามีค่าเท่ากับปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการแห่งความทุกข์ ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี เพราะถ้าหากคุณมีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่ทว่าสุขภาพไม่ดี ทุกสิ่งที่มีก็ดูเหมือนไร้ความหมาย มีเวลาให้กับการทำงานมากเท่าไหร่ ก็ควรแบ่งเวลามาใส่ใจสุขภาพไม่น้อยกว่ากัน เกราะป้องกันการทุจริตที่ดีที่สุดไม่ใช่กฎหมายที่ตราไว้อย่างรัดกุม หากแต่คือการมีค่านิยมไม่ยอมรับการทุจริตอย่างเข้มแข็งของประชาชนต่างหาก เมื่อไหร่ก็ตามที่ประชาชนเห็นว่า การทุจริตคือ บาปมหันต์ เมื่อนั้นการทุจริตก็จะลดน้อยลงไปเอง ควรมองปัญหาที่อยู่ตรงหน้า ว่ามันเกิดขึ้นมาเพื่อมอบบทเรียนให้เรา อย่ามองปัญหาแล้วท้อ แต่ต้องมองแล้วรู้สึกคึกคัก อยากจะลุกขึ้นมาตีฝ่าวงล้อมของปัญหาออกไป ที่มา : facebook ท่าน ว.วชิรเมธี ค่ะ Create Date : 14 ตุลาคม 2553 Last Update : 14 ตุลาคม 2553 13:18:08 น. 2 comments Counter : 1997 Pageviews. ShareTweet
อย่ายึดติดกับความหลัง อย่าฟังเสียงคนสอพลอ อย่ารอให้พระเจ้ามาช่วย
อนาคตขึ้นอยู่กับมันสมองสองมือของตนไม่ใช่ผลของพรหมลิขิต
มนุษย์คือธรรมชาติ ไม่ใช่เป็น ส่วนหนึ่ง ของธรรมชาติ
ทำไม่ดีต่อคนอื่น ก็เหมือนยื่นปลายดาบเข้าหาตัวเอง
จงคิดอย่างแยบคาย ใช้ชีวิตอย่างแยบยล เป็นคนอย่างยอดเยี่ยม
ชื่อเสียงเหมือนสายลมเย็น ไม่มีตัวตนเป็นๆ ให้ถือครอบครอง
อยากมีกำลังภายนอก ต้องเคลื่อนไหว อยากมีกำลังภายใน ต้องสงบนิ่ง
ระลึกรู้ปัจจุบัน สำคัญกว่าระลึกชาติในอดีต
อย่ากลัวว่าคนจะไม่เห็นคุณค่า จงกลัวแต่ว่าเมื่อเขาเห็นคุณค่าแล้ว คุณจะยังดีไม่พอ
ที่มา : facebook ท่าน ว.วชิรเมธี ค่ะ
ธรรมวินัยอันพระตถาคตเจ้าประกาศแล้วเปิดเผยไม่กำบังจึงรุ่งเรือง (เล่ม ๑๐ หน้า ๔๖๕_ปกน้ำเงิน)
บัญญัติของพระพุทธเจ้า จากพระไตรปิฎกชุด 91 เล่ม ของมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 3
(ปกสีแดง หน้า 887 ปกสีน้ำเงิน หน้า 940)
พระบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่ง ทอง-เงิน หรือยินดี ทอง-เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี เป็นนิสสัคคียปาจิตตีย์
(นิสสัคคียปาจิตตีย์ 1 ตัว ต้องตกโรรุวนรก 1 ชั่วอายุ คือ 4,000 ปีของนรกขุมนี้ เท่ากับ 840,960,000 ล้านปีมนุษย์)
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535
เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้
โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา 15 ตรี มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
...(4)รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
**หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา(โยมควรเรียนรู้) ทำบุญแล้วเป็นบาป ตกนรกทั้งพระและโยม
1.ตักบาตรด้วยเงินและทอง
2.ตักบาตรด้วยสิ่งของที่ต้องห้าม
3.ทำบุญกับพระทุศีล(ผิดศีลธรรมและไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย)รับเงิน รับทอง มีบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นของตนเอง
มีบัตรเอทีเอ็ม มีบัตรเครดิต
4.ฯลฯ
จากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย 91 เล่ม
**ชาวพุทธทั้งหลาย ขอให้อธิษฐานเพื่อถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้
ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญของข้าพระพุทธเจ้าให้เข้าไปรวมเป็นพระราชกุศลของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลังบุญทั้งหลาย ที่พระองค์ได้ทรงกระทำต่อพสกนิกรและราชอาณาจักร ขอบุญนั้นทั้งหมด
จงเป็นพลังขับดันโรคภัยทั้งหลายที่กำลังเกิดในพระวรกายของพระองค์ให้อันตรธานไป
จากหลักฐานเทียบเคียงของการใช้สัจอธิษฐาน ในพระไตรปิฎก 91 เล่ม ฉบับมหามกฎราชวิทยาลัย เล่ม 74 หน้า 447-479
ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 1, 3, 341, 342 และ 343 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยก
ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ (www.samyaek.com)
ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ขอจงพิจารณาเอาเถิด เพราะไม่บังคับให้ใครมาเชื่อหรือทำตาม
เพียงแต่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเปิดเผย เพื่อให้ชาวพุทธปฏิบัติได้ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น