|
มาร ฟ้า เทพ หิมะ (นิยายจีน) บทที่ 16
บทที่ 16
ณ ทุ่งหญ้า ทางเท้า เมฆฝนตั้งเค้าเตรียมตก ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเคียงเรียงกัน สองมือผูกมั่นไว้ด้วยด้ายแดง
หิมะ ท้องฟ้าคล้ายดั่งว่าจะเกิดฝนตกได้ทุกเมื่อ หลิงฟงกล่าว
เช่นนั้นรีบเร่งเดินทางกันเถิด หิมะกล่าว ในขณะที่เหลียวมองไปรอบกายก็เห็นเพียงทุ่งหญ้าและถนนทางเท้าที่ทอดยาวไปทางหุบเขาฮวงซันซึ่งเต็มไปด้วยหิมะที่ตั้งตะหง่านอยู่เบื้องหน้า แววตาของนางยามนั้นช่างดูว่างเปล่าเสียจริง
อีกไกลแค่ไหนจะถึงเมืองเหอเฟยข้างหน้า ชายหนุ่มกล่าวถาม
ไม่ไกลแล้ว สิ้นคำกล่าวได้ไม่เท่าใดนัก ฝนก็ตกพร่ำโปรยปราย เม็ดฝนกระทบใบหน้าหิมะเป็นประกาย แต่กลับดูงดงามยิ่ง ยามนั้นเธอรีบคว้าข้อมือชายหนุ่มวิ่งหลบฝนไปอย่างเร่งรีบ
ทว่าแปลกที่ชายหนุ่มกลับยิ้มรับกับสายฝน วิ่งตามหลังหญิงสาวไปด้วยความปิติลอบมองข้อมือของตนที่ถูกคร่ากุมด้วยใบหน้าเขินอาย
ทั้งคู่วิ่งไปได้ไม่ไกลนักก็เข้าไปหลบฝนที่ในศาลาไม้เล็ก ๆ ข้างทาง ฝนบ้า ทำข้าพเจ้าเปียกปอนหมดแล้ว หิมะกล่าวน้ำเสียงขุ่นเคืองก่อนจะลอบหันไปเห็นสายตาของหลินฟงที่จ้องมองไปทางหิมะที่เนื้อตัวเปียกปอน เสื้อผ้าขาวบางแนบชิดกายนางดูเย้ายวนยิ่งนัก
ตาบ้า เจ้ามองอะไรกัน เธอกล่าวค้อน ก่อนจะรีบใช้สองแขนมากอดอกไว้เป็นมั่น
เปล่า ๆ ข้าพเจ้ามิได้มองอันใด หลิงฟงรีบหันหน้าอันเขินแดงหลบไปทางอื่นเป็นการใหญ่
เจ้ามอง
ไม่ได้มอง แม้นกล่าวต่อนางแต่เขาก็หาได้กล้ามองหน้านางไม่
แล้วเจ้าหน้าแดงทำไม หิมะกล่าวก่อนจะเอานิ้วจิ้มไปที่แก้มของเด็กหนุ่มทีหนึ่ง
ข้าพเจ้าเป็นหวัด สิ้นคำกล่าวของชายหนุ่ม หญิงสาวถึงกลับหัวเราะร่า
ดี ถ้าไม่มองงั้นข้าพเจ้าจะเปลี่ยนเสื้อล่ะ
หลินฟงยามตกตะลึงรีบหันหลังให้นาง ยามนั้นฟงน้อยยิ่งหน้าแดงเพิ่มกว่าเก่ายิ่งนัก เสมือนกลับว่าหัวใจเต็นแรงกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว อีกทั้งตื่นเต้นยิ่งนัก ต้องหักห้ามใจยิ่งนัก
เปลี่ยนเสร็จหรือยัง? ข้าพเจ้าหันไปได้หรือยัง? หลินฟงกล่าวเสียงสั่น
อยากหันก็หันมาเถิด มิต้องรอหรอก แม่นางน้อยกล่าวยิ้มแย้มจีบปากจีบคอน้ำเสียงเย้ายวน
หลินฟงยิ่งหน้าแดงกว่าเก่ายิ่งนักก่อนจะค่อยๆ หันไปช้า ๆ อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ค่อยเหลือบมองหางตาไปทางด้านหลังอย่างตื่นเต้นยิ่งนักก่อนจะเห็น
เห็นเป็นฝ่ามือที่ยื่นเข้ามาตบหน้าเขาอย่างจังจนต้องหน้าหันไปเลยทีเดียว
เจ้ายังไม่ได้เปลี่ยนเสื้ออันใดเลยนี้ หลินฟงกล่าวเสียงสูงกลบกลื่น ใบหน้าแดงเป็นรูปรอยนิ้วให้น่าอายยิ่ง
คนทะลึ่งอย่างเจ้าไม่มีสิทธิพูด สิ้นเสียงกล่าวหิมะก็โคจรเดินพลังไอร้อนพริบตาดุจประกายไฟ ละอองน้ำตามเนื้อผ้ากลับระเหยกลายเป็นไอไปสิ้น
คิดไม่ถึงมีวิธีเช่นนี้ด้วย หลิงฟงมองตาค้างก่อนจะโคจรพลังร้อนตามแบบแม่นางน้อยทันที เรื่องราวเรียบง่ายธรรมดาแต่หิมะต้องลอบตะลึงงัน ชายหนุ่มผู้นี้เพียงเห็นครั้งเดียวก็สามารถเร่งโคจรปราณหยางสร้างพลังร้อนได้อย่างง่ายดายนี้นับว่าเป็นอัจฉริยะที่หายากยิ่งแล้ว
หลินฟง เจ้ารู้ไหมว่าครั้งแรกข้าพเจ้าต้องฝึกกี่ครั้งถึงจะทำได้เช่นนี้ เธอกล่าวน้ำเสียงทึ่งในขณะที่เด็กหนุ่มได้แต่ทำหน้าตาเหลอหลา
หิมะยิ่งมองยิ่งสงสัย เจ้าหมอนี้มันเป็นเพียงคนบ้าบอคนหนึ่ง หรือว่าเป็นอัจฉริยะกันแน่ จนใจนางได้แต่กล่าวไปว่า
ช่างเถอะ ๆ ข้าพเจ้าคิดว่าอีกไม่ไกลแล้วก็จะถึงเมืองเหอเฟยข้างหน้า นางกล่าว
ดีๆ ข้าพเจ้าจะได้หลับพักผ่อน พักขาเสียที
น่ากลัวว่านี้จะไม่เหมือนการมาเที่ยวเล่นนะสิ เมืองข้างหน้าเป็นเมืองในการควบคุมของพรรคหมื่นน้ำแข็งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตีนเขาฮวงซันซึ่งเป็นที่ตั้งของพรรคหมื่นน้ำแข็ง เธอกล่าวน้ำเสียงจริงจัง
เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี
พวกเราต้องปลอมตัวกันเข้าไปในเมือง พักผ่อนสักหนึ่งคืนพอเรี่ยวแรงกลับคืนค่อยบุกขึ้นเขา หิมะน้อยกล่าวพร้อมแววตาที่จริงจัง
แล้วเราจะปลอมตัวกันอย่างไรเล่า
เช่นนี้แล้วกัน ข้าพเจ้าจะปลอมเป็นชายส่วนท่านก็ปลอมเป็นหญิง หิมะกล่าววาจาประหลาดนัก แต่น้ำเสียงกลับจริงจังแท้จริง
เรื่องเช่นนี้มัน
หลินฟงถึงกลับอึ้ง
ฮะฮะฮะ ตัวโง่งม อย่างท่านปลอมเป็นหญิงไม่ได้หรอก ตัวท่านสูงโปร่งเกินไปจะปลอมเช่นไรก็ไม่เหมือน ข้าพเจ้าแค่หยอกล้อ หิมะกล่าวต่อไปอีกว่า
เพียงแค่ข้าพเจ้าปลอมเป็นชายก็พอ หิมะกล่าวก่อนจะหยิบปลายผมยาวสวยของตัวเองมาวางทาบไว้เหนือริมฝีปากคล้ายแทนหนวดปลอมพร้อมทั้งกล่าวน้ำเสียงใหญ่ทุ้มว่า
ข้าพเจ้าชื่อหลินฟง สิ้นคำกล่าวตัวเธอก็หัวเราะตัวงอ ในขณะที่หลินฟงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะเป็นหิมะที่มองไปยังท้องฟ้าที่ใสกระจ้างพร้อมทั้งกล่าวต่อไปว่า
ฝนหยุดแล้วเราไปกันเถอะ หิมะกล่าวก่อนจะชักนำหน้ากากหนังที่ซ่อนไว้ออกมาส่วมใส่กลายเป็นชายหนุ่มอีกคนไปทันที จากนั้นก็นำผ้าคลุมมาโอบล้อมกายปิดปังเสื้อผ้าแบบหญิง
ณ ใจกลางตัวเมืองเหอเฟย
ภายในตัวเมืองนั้นมีผู้คนเดินสัญจรไปมาเป็นจำนวนมากทั้งชาย หญิง เด็กเล็ก คนแก่ แม้นจะทั้งลูกพรรคสำนักหมื่นน้ำแข็งก็มีให้เห็นเดินกันเต็มท้องถนนไปหมด ในขณะที่สองข้างทางก็มีผู้คนนำสินค้าต่าง ๆ มาตั้งขายกันยกใหญ่
คนของพรรคหมื่นน้ำแข็งเต็มไปหมด หลินฟงซึ่งสวมหมวกปีกกว้างกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
เช่นนี้พวกเราต้องระวังตัวกันให้ดีแล้ว หิมะซึ่งใส่หน้ากากหนัง ปลอมเป็นชายหนวดครึ่มกล่าวน้ำเสียงทุ้มใหญ่ก่อนสายตาหล่อนจะเหลือบมองไปเห็นแผงขายเครื่องประดับอันหนึ่งพร้อมกล่าวอย่างลืมตัวไปว่า
ว้าย ๆ ปิ่นปักผมอันนี้สวยจังเลยหลินฟง แม่นางน้อยลืมตัวกล่าวน้ำเสียงผู้หญิง ๆ พร้อมทั้งจูงมือลากหลินฟงไปที่แผงค้าขาย นี้นับว่าเผลอเลอมากแล้ว ชาวบ้านนับร้อยต่างจับจ้องไปที่หิมะเป็นตาเดียว ยามนั้นหลินฟงก็ได้แต่อึ้งตาค้างทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะมีเสียงตามมาว่า
อะไรกันกลางวันแสก ๆ ชายกับชายจูงมือกันเดิน หน้าไม่อายจริง ๆ เสียงซุปซิปนินทาดังรอบด้านก่อนจะเป็นหลินฟงที่รีบกุมข้อมือหิมะพาหนีออกจากกลุ่มคนทันที
หลังจากเหตุการณ์นั้นทั้งสองก็รีบไปจับจองห้องพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองทันที ก่อนจะรีบเก็บตัวพักผ่อนอยู่แต่ในห้องของตน
แย่ ๆ จริงแบบนี้ก็ออกไปเดินซื้อ แป้ง ตุ้มหู ปิ่นปักผมไม่ได้แล้วสิ หิมะกล่าวน้ำเสียงเบื่อ ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง
พวกเราอยู่ในดงของพวกศัตรู นี้หาใช่เวลาเช่นนั้นไม่ หลินฟงกล่าวจริงจังก่อนจะเปิดประตูคล้ายจะเดินออกห้องไป
เจ้าจะไปไหนนะ
ข้าพเจ้าจะไปห้องน้ำน่ะ หลินฟงกล่าวก่อนจะรีบปิดประตูออกไปเหมือนมีลับลมคมใน แต่ทั้งหมดมิใช่อะไร เป็นเด็กหนุ่มที่รีบตรงไปยังแผงขายเครื่องประดับที่พบเมื่อกลางวัน ก่อนจะมองหาปิ่นอันงามที่หิมะสนใจ
ยามดึกของคืนนั้น
หลินฟงซึ่งนอนอยู่บนพื้นข้าง ๆ เตียงของหิมะ แต่ยังคงไม่สามารถหลับลงได้ เขามองบนเพดานด้วยจิตใจที่ว่างเปล่าก่อนจะลุกขึ้นเบา ๆ หันไปมองหิมะที่นอนหลับดูน่ารักน่าเอ็นดู
แต่ก่อนเจ้าชอบแกล้งข้ามากใช่ไหม ดีล่ะข้าจะเอาคืนซะหน่อย หลินฟงกล่าวก่อนจะนิ้วไปแต้มหมึกผู่กันที่อยู่บนโต๊ะก่อนจะยื่นนิ้วไปเตรียมเขียนแก้มหญิงสาวด้วยความซน
แต่สุดจะคาดก่อนที่นิ้วจะถึงแก้มแม่นางน้อย เธอก็รีบยกแขนขึ้นคว้าข้อมือของหลินฟงอย่างรวดเร็วจนชายหนุ่มได้แต่ตกตะลึงงันก่อนจะเป็นเธอที่กล่าวงึมงัมว่า
หลินฟง จะหนีไปไหน ไม่ให้หนีหรอกนะ ที่แท้กลับเป็นหิมะน้อยซึ่งละเมอเพ้อไปเท่านั้นดวงตาเธอยังคงปิดสนิท หลับสนิท
ตกใจหมดเลย หลินฟงลอบกล่าวในใจ ก่อนที่มือของเขาจะค่อยๆ ถูกปล่อยจากการจับกุม
มิทราบ นางหลับจริงหรือแกล้งหลอกกันแน่ เด็กหนุ่มลอบกล่าวในใจ
ดีล่ะ งันต้องพิสูจน์ เขายิ้มเจ้าเลห์ก่อนจะค่อยๆ ยื่นหน้าของเขาเข้าไปใกล้ ๆ ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ จนแทบจะหอบแก้มนางอยู่แล้ว
สงสัยนางคงหลับจริง หลินฟงกล่าวเรียบ ๆ ก่อนจะมองจ้องไปยังหิมะซึ่งเหมือนนอนหลับไม่รู้เรื่อง จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ยื่นหน้ากลับออกไป แต่เพียงถอยกลับไปได้เพียงนิด สายตาของชายหนุ่มก็กลับจับจ้องไปทางหญิงสาวอีกครั้ง เธอผู้น่ารักสดใสแม้นในยามหลับ สุดท้ายกลับเป็นหลินฟงที่ไม่สามารถห้ามความรู้สึกได้อีกต่อไป เขาค่อยๆ หลับตาแล้วจึงยื่นหน้าไปเตรียมหอมแก้มนางจริง ๆ
แต่สุดจะคาดวินาทีที่ริมฝีปากของเขาเกือบจะประทับลงที่แก้มชมพูของหล่อน ฉับพลันพลังปราณภายในท้องของก็กลับสั่นไหวไม่สงบ อยู่นิ่งไม่ได้ พลังปราณหยกน้ำเงินเคลื่อนวนไปมารวดเร็ว ประหลาดสุดจะคาด
เกิดอะไรขึ้น หลินฟงต้องรีบถอยตัวหยุดความคิดที่มีต่อหิมะรีบเดินตรงไปยังหน้าต่างห้องทันที
หยกน้ำเงินภายในกายกำลังร้องเรียกบางอย่าง บางอย่างภายนอกนั้น หลินฟงจ้องมองไปยังวิวนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าแววตาที่เคร่งเครียดยิ่งนักแล้ว สุดท้ายชายหนุ่มก็ได้กระโจนออกหน้าต่างไป ลอยตัวไปตามความต้องการของหยกน้ำเงินที่เร่งเรียก
ชายหนุ่มดีดตัวเหินผ่านหลังคาบ้านผู้คนไปเรื่อยๆ จนกระทั้งออกนอกเมืองไปได้ไม่ไกลนักก็ได้หยุดฝีเท้าลง
ตรงนี้สินะที่ปราณหยกชักนำเรามา เด็กหนุ่มกล่าวก่อนจะหันมองไปซ้ายขวา และไม่นานนักก็มีน้ำเสียงประหลาดดังขึ้นมาว่า
ไอ้หนู แกกำลังมองหาข้าใช่หรือไม่ สิ้นเสียงกล่าวที่แหบพร่าคล้ายดัดเสียง ก็ปรากฎชายสูงโปร่ง ใส่หน้ากากไม้ลวยลายคล้ายดั่งนักแสดงงิ้ว สวมเสื้อคลุมสีดำโปร่ง ๆ ปิดปังทั่วทั่งร่าง มือขวาถือไว้ด้วยร่มกระดาษสีแดงเหินร่อนลงมาจากยอดไม้ใหญ่
ชายผู้นี้ย่อมเป็นคนเดียวกับที่มารเมฆดำเรียกขานว่าเจ้ามารไม่ผิดเพี้ยน นี้นับว่าเป็นชะตาร้ายของหลินฟงแล้ว
ท่านเป็นใคร หลินฟงกล่าวเสียงแข็งเพราะว่าฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนคล้ายศัตรูมิคล้ายมิตร
ผู้เปิดทางแห่งนิรันดร ชายหน้ากากกล่าวจบก็โยนหนังสือเล่มหนึ่งไปทางหลินฟงทันที
ชายหนุ่มรับคว้าหนังสือไว้มั่นก่อนจะมองไปยังปกของมันแล้วก็พบว่า
คัมภีร์มารเปลี่ยนอสูร!!!!
Create Date : 02 ธันวาคม 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 20:16:34 น. |
Counter : 638 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|