Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
2 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 

มาร ฟ้า เทพ หิมะ (นิยายจีน) บทที่ 16

บทที่ 16

ณ ทุ่งหญ้า ทางเท้า เมฆฝนตั้งเค้าเตรียมตก
ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเคียงเรียงกัน สองมือผูกมั่นไว้ด้วยด้ายแดง


“หิมะ ท้องฟ้าคล้ายดั่งว่าจะเกิดฝนตกได้ทุกเมื่อ” หลิงฟงกล่าว

“เช่นนั้นรีบเร่งเดินทางกันเถิด” หิมะกล่าว ในขณะที่เหลียวมองไปรอบกายก็เห็นเพียงทุ่งหญ้าและถนนทางเท้าที่ทอดยาวไปทางหุบเขาฮวงซันซึ่งเต็มไปด้วยหิมะที่ตั้งตะหง่านอยู่เบื้องหน้า แววตาของนางยามนั้นช่างดูว่างเปล่าเสียจริง

“อีกไกลแค่ไหนจะถึงเมืองเหอเฟยข้างหน้า” ชายหนุ่มกล่าวถาม

“ไม่ไกลแล้ว” สิ้นคำกล่าวได้ไม่เท่าใดนัก ฝนก็ตกพร่ำโปรยปราย เม็ดฝนกระทบใบหน้าหิมะเป็นประกาย แต่กลับดูงดงามยิ่ง ยามนั้นเธอรีบคว้าข้อมือชายหนุ่มวิ่งหลบฝนไปอย่างเร่งรีบ

ทว่าแปลกที่ชายหนุ่มกลับยิ้มรับกับสายฝน วิ่งตามหลังหญิงสาวไปด้วยความปิติลอบมองข้อมือของตนที่ถูกคร่ากุมด้วยใบหน้าเขินอาย

ทั้งคู่วิ่งไปได้ไม่ไกลนักก็เข้าไปหลบฝนที่ในศาลาไม้เล็ก ๆ ข้างทาง

“ฝนบ้า ทำข้าพเจ้าเปียกปอนหมดแล้ว” หิมะกล่าวน้ำเสียงขุ่นเคืองก่อนจะลอบหันไปเห็นสายตาของหลินฟงที่จ้องมองไปทางหิมะที่เนื้อตัวเปียกปอน เสื้อผ้าขาวบางแนบชิดกายนางดูเย้ายวนยิ่งนัก

“ตาบ้า เจ้ามองอะไรกัน” เธอกล่าวค้อน ก่อนจะรีบใช้สองแขนมากอดอกไว้เป็นมั่น

“เปล่า ๆ ข้าพเจ้ามิได้มองอันใด” หลิงฟงรีบหันหน้าอันเขินแดงหลบไปทางอื่นเป็นการใหญ่

“เจ้ามอง”

“ไม่ได้มอง” แม้นกล่าวต่อนางแต่เขาก็หาได้กล้ามองหน้านางไม่

“แล้วเจ้าหน้าแดงทำไม” หิมะกล่าวก่อนจะเอานิ้วจิ้มไปที่แก้มของเด็กหนุ่มทีหนึ่ง

“ข้าพเจ้าเป็นหวัด” สิ้นคำกล่าวของชายหนุ่ม หญิงสาวถึงกลับหัวเราะร่า

“ดี ถ้าไม่มองงั้นข้าพเจ้าจะเปลี่ยนเสื้อล่ะ”

หลินฟงยามตกตะลึงรีบหันหลังให้นาง ยามนั้นฟงน้อยยิ่งหน้าแดงเพิ่มกว่าเก่ายิ่งนัก เสมือนกลับว่าหัวใจเต็นแรงกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว อีกทั้งตื่นเต้นยิ่งนัก ต้องหักห้ามใจยิ่งนัก

“เปลี่ยนเสร็จหรือยัง? ข้าพเจ้าหันไปได้หรือยัง?” หลินฟงกล่าวเสียงสั่น

“อยากหันก็หันมาเถิด มิต้องรอหรอก” แม่นางน้อยกล่าวยิ้มแย้มจีบปากจีบคอน้ำเสียงเย้ายวน

หลินฟงยิ่งหน้าแดงกว่าเก่ายิ่งนักก่อนจะค่อยๆ หันไปช้า ๆ อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ค่อยเหลือบมองหางตาไปทางด้านหลังอย่างตื่นเต้นยิ่งนักก่อนจะเห็น…

เห็นเป็นฝ่ามือที่ยื่นเข้ามาตบหน้าเขาอย่างจังจนต้องหน้าหันไปเลยทีเดียว

“เจ้ายังไม่ได้เปลี่ยนเสื้ออันใดเลยนี้” หลินฟงกล่าวเสียงสูงกลบกลื่น ใบหน้าแดงเป็นรูปรอยนิ้วให้น่าอายยิ่ง

“คนทะลึ่งอย่างเจ้าไม่มีสิทธิพูด” สิ้นเสียงกล่าวหิมะก็โคจรเดินพลังไอร้อนพริบตาดุจประกายไฟ ละอองน้ำตามเนื้อผ้ากลับระเหยกลายเป็นไอไปสิ้น

“คิดไม่ถึงมีวิธีเช่นนี้ด้วย” หลิงฟงมองตาค้างก่อนจะโคจรพลังร้อนตามแบบแม่นางน้อยทันที เรื่องราวเรียบง่ายธรรมดาแต่หิมะต้องลอบตะลึงงัน ชายหนุ่มผู้นี้เพียงเห็นครั้งเดียวก็สามารถเร่งโคจรปราณหยางสร้างพลังร้อนได้อย่างง่ายดายนี้นับว่าเป็นอัจฉริยะที่หายากยิ่งแล้ว

“หลินฟง เจ้ารู้ไหมว่าครั้งแรกข้าพเจ้าต้องฝึกกี่ครั้งถึงจะทำได้เช่นนี้” เธอกล่าวน้ำเสียงทึ่งในขณะที่เด็กหนุ่มได้แต่ทำหน้าตาเหลอหลา

หิมะยิ่งมองยิ่งสงสัย เจ้าหมอนี้มันเป็นเพียงคนบ้าบอคนหนึ่ง หรือว่าเป็นอัจฉริยะกันแน่ จนใจนางได้แต่กล่าวไปว่า

“ช่างเถอะ ๆ ข้าพเจ้าคิดว่าอีกไม่ไกลแล้วก็จะถึงเมืองเหอเฟยข้างหน้า” นางกล่าว

“ดีๆ ข้าพเจ้าจะได้หลับพักผ่อน พักขาเสียที”

“น่ากลัวว่านี้จะไม่เหมือนการมาเที่ยวเล่นนะสิ เมืองข้างหน้าเป็นเมืองในการควบคุมของพรรคหมื่นน้ำแข็งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตีนเขาฮวงซันซึ่งเป็นที่ตั้งของพรรคหมื่นน้ำแข็ง” เธอกล่าวน้ำเสียงจริงจัง

“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี”

“พวกเราต้องปลอมตัวกันเข้าไปในเมือง พักผ่อนสักหนึ่งคืนพอเรี่ยวแรงกลับคืนค่อยบุกขึ้นเขา” หิมะน้อยกล่าวพร้อมแววตาที่จริงจัง

“แล้วเราจะปลอมตัวกันอย่างไรเล่า”

“เช่นนี้แล้วกัน ข้าพเจ้าจะปลอมเป็นชายส่วนท่านก็ปลอมเป็นหญิง” หิมะกล่าววาจาประหลาดนัก แต่น้ำเสียงกลับจริงจังแท้จริง

“เรื่องเช่นนี้มัน…” หลินฟงถึงกลับอึ้ง

“ฮะฮะฮะ ตัวโง่งม อย่างท่านปลอมเป็นหญิงไม่ได้หรอก ตัวท่านสูงโปร่งเกินไปจะปลอมเช่นไรก็ไม่เหมือน ข้าพเจ้าแค่หยอกล้อ” หิมะกล่าวต่อไปอีกว่า

“เพียงแค่ข้าพเจ้าปลอมเป็นชายก็พอ” หิมะกล่าวก่อนจะหยิบปลายผมยาวสวยของตัวเองมาวางทาบไว้เหนือริมฝีปากคล้ายแทนหนวดปลอมพร้อมทั้งกล่าวน้ำเสียงใหญ่ทุ้มว่า

“ข้าพเจ้าชื่อหลินฟง” สิ้นคำกล่าวตัวเธอก็หัวเราะตัวงอ ในขณะที่หลินฟงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะเป็นหิมะที่มองไปยังท้องฟ้าที่ใสกระจ้างพร้อมทั้งกล่าวต่อไปว่า

“ฝนหยุดแล้วเราไปกันเถอะ” หิมะกล่าวก่อนจะชักนำหน้ากากหนังที่ซ่อนไว้ออกมาส่วมใส่กลายเป็นชายหนุ่มอีกคนไปทันที จากนั้นก็นำผ้าคลุมมาโอบล้อมกายปิดปังเสื้อผ้าแบบหญิง


ณ ใจกลางตัวเมืองเหอเฟย

ภายในตัวเมืองนั้นมีผู้คนเดินสัญจรไปมาเป็นจำนวนมากทั้งชาย หญิง เด็กเล็ก คนแก่ แม้นจะทั้งลูกพรรคสำนักหมื่นน้ำแข็งก็มีให้เห็นเดินกันเต็มท้องถนนไปหมด ในขณะที่สองข้างทางก็มีผู้คนนำสินค้าต่าง ๆ มาตั้งขายกันยกใหญ่

“คนของพรรคหมื่นน้ำแข็งเต็มไปหมด” หลินฟงซึ่งสวมหมวกปีกกว้างกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“เช่นนี้พวกเราต้องระวังตัวกันให้ดีแล้ว” หิมะซึ่งใส่หน้ากากหนัง ปลอมเป็นชายหนวดครึ่มกล่าวน้ำเสียงทุ้มใหญ่ก่อนสายตาหล่อนจะเหลือบมองไปเห็นแผงขายเครื่องประดับอันหนึ่งพร้อมกล่าวอย่างลืมตัวไปว่า

“ว้าย ๆ ปิ่นปักผมอันนี้สวยจังเลยหลินฟง” แม่นางน้อยลืมตัวกล่าวน้ำเสียงผู้หญิง ๆ พร้อมทั้งจูงมือลากหลินฟงไปที่แผงค้าขาย นี้นับว่าเผลอเลอมากแล้ว ชาวบ้านนับร้อยต่างจับจ้องไปที่หิมะเป็นตาเดียว ยามนั้นหลินฟงก็ได้แต่อึ้งตาค้างทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะมีเสียงตามมาว่า

“อะไรกันกลางวันแสก ๆ ชายกับชายจูงมือกันเดิน หน้าไม่อายจริง ๆ” เสียงซุปซิปนินทาดังรอบด้านก่อนจะเป็นหลินฟงที่รีบกุมข้อมือหิมะพาหนีออกจากกลุ่มคนทันที

หลังจากเหตุการณ์นั้นทั้งสองก็รีบไปจับจองห้องพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองทันที ก่อนจะรีบเก็บตัวพักผ่อนอยู่แต่ในห้องของตน

“แย่ ๆ จริงแบบนี้ก็ออกไปเดินซื้อ แป้ง ตุ้มหู ปิ่นปักผมไม่ได้แล้วสิ” หิมะกล่าวน้ำเสียงเบื่อ ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง

“พวกเราอยู่ในดงของพวกศัตรู นี้หาใช่เวลาเช่นนั้นไม่” หลินฟงกล่าวจริงจังก่อนจะเปิดประตูคล้ายจะเดินออกห้องไป

“เจ้าจะไปไหนนะ”

“ข้าพเจ้าจะไปห้องน้ำน่ะ” หลินฟงกล่าวก่อนจะรีบปิดประตูออกไปเหมือนมีลับลมคมใน แต่ทั้งหมดมิใช่อะไร เป็นเด็กหนุ่มที่รีบตรงไปยังแผงขายเครื่องประดับที่พบเมื่อกลางวัน ก่อนจะมองหาปิ่นอันงามที่หิมะสนใจ


ยามดึกของคืนนั้น

หลินฟงซึ่งนอนอยู่บนพื้นข้าง ๆ เตียงของหิมะ แต่ยังคงไม่สามารถหลับลงได้ เขามองบนเพดานด้วยจิตใจที่ว่างเปล่าก่อนจะลุกขึ้นเบา ๆ หันไปมองหิมะที่นอนหลับดูน่ารักน่าเอ็นดู

“แต่ก่อนเจ้าชอบแกล้งข้ามากใช่ไหม ดีล่ะข้าจะเอาคืนซะหน่อย” หลินฟงกล่าวก่อนจะนิ้วไปแต้มหมึกผู่กันที่อยู่บนโต๊ะก่อนจะยื่นนิ้วไปเตรียมเขียนแก้มหญิงสาวด้วยความซน

แต่สุดจะคาดก่อนที่นิ้วจะถึงแก้มแม่นางน้อย เธอก็รีบยกแขนขึ้นคว้าข้อมือของหลินฟงอย่างรวดเร็วจนชายหนุ่มได้แต่ตกตะลึงงันก่อนจะเป็นเธอที่กล่าวงึมงัมว่า

“หลินฟง จะหนีไปไหน ไม่ให้หนีหรอกนะ” ที่แท้กลับเป็นหิมะน้อยซึ่งละเมอเพ้อไปเท่านั้นดวงตาเธอยังคงปิดสนิท หลับสนิท

“ตกใจหมดเลย” หลินฟงลอบกล่าวในใจ ก่อนที่มือของเขาจะค่อยๆ ถูกปล่อยจากการจับกุม

“มิทราบ นางหลับจริงหรือแกล้งหลอกกันแน่” เด็กหนุ่มลอบกล่าวในใจ

“ดีล่ะ งันต้องพิสูจน์” เขายิ้มเจ้าเลห์ก่อนจะค่อยๆ ยื่นหน้าของเขาเข้าไปใกล้ ๆ ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ จนแทบจะหอบแก้มนางอยู่แล้ว

“สงสัยนางคงหลับจริง” หลินฟงกล่าวเรียบ ๆ ก่อนจะมองจ้องไปยังหิมะซึ่งเหมือนนอนหลับไม่รู้เรื่อง จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ยื่นหน้ากลับออกไป แต่เพียงถอยกลับไปได้เพียงนิด สายตาของชายหนุ่มก็กลับจับจ้องไปทางหญิงสาวอีกครั้ง เธอผู้น่ารักสดใสแม้นในยามหลับ สุดท้ายกลับเป็นหลินฟงที่ไม่สามารถห้ามความรู้สึกได้อีกต่อไป เขาค่อยๆ หลับตาแล้วจึงยื่นหน้าไปเตรียมหอมแก้มนางจริง ๆ

แต่สุดจะคาดวินาทีที่ริมฝีปากของเขาเกือบจะประทับลงที่แก้มชมพูของหล่อน ฉับพลันพลังปราณภายในท้องของก็กลับสั่นไหวไม่สงบ อยู่นิ่งไม่ได้ พลังปราณหยกน้ำเงินเคลื่อนวนไปมารวดเร็ว ประหลาดสุดจะคาด

“เกิดอะไรขึ้น” หลินฟงต้องรีบถอยตัวหยุดความคิดที่มีต่อหิมะรีบเดินตรงไปยังหน้าต่างห้องทันที

“หยกน้ำเงินภายในกายกำลังร้องเรียกบางอย่าง บางอย่างภายนอกนั้น” หลินฟงจ้องมองไปยังวิวนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าแววตาที่เคร่งเครียดยิ่งนักแล้ว สุดท้ายชายหนุ่มก็ได้กระโจนออกหน้าต่างไป ลอยตัวไปตามความต้องการของหยกน้ำเงินที่เร่งเรียก

ชายหนุ่มดีดตัวเหินผ่านหลังคาบ้านผู้คนไปเรื่อยๆ จนกระทั้งออกนอกเมืองไปได้ไม่ไกลนักก็ได้หยุดฝีเท้าลง

“ตรงนี้สินะที่ปราณหยกชักนำเรามา” เด็กหนุ่มกล่าวก่อนจะหันมองไปซ้ายขวา และไม่นานนักก็มีน้ำเสียงประหลาดดังขึ้นมาว่า

“ไอ้หนู แกกำลังมองหาข้าใช่หรือไม่” สิ้นเสียงกล่าวที่แหบพร่าคล้ายดัดเสียง ก็ปรากฎชายสูงโปร่ง ใส่หน้ากากไม้ลวยลายคล้ายดั่งนักแสดงงิ้ว สวมเสื้อคลุมสีดำโปร่ง ๆ ปิดปังทั่วทั่งร่าง มือขวาถือไว้ด้วยร่มกระดาษสีแดงเหินร่อนลงมาจากยอดไม้ใหญ่

ชายผู้นี้ย่อมเป็นคนเดียวกับที่มารเมฆดำเรียกขานว่าเจ้ามารไม่ผิดเพี้ยน นี้นับว่าเป็นชะตาร้ายของหลินฟงแล้ว

“ท่านเป็นใคร” หลินฟงกล่าวเสียงแข็งเพราะว่าฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนคล้ายศัตรูมิคล้ายมิตร

“ผู้เปิดทางแห่งนิรันดร” ชายหน้ากากกล่าวจบก็โยนหนังสือเล่มหนึ่งไปทางหลินฟงทันที

ชายหนุ่มรับคว้าหนังสือไว้มั่นก่อนจะมองไปยังปกของมันแล้วก็พบว่า…

“คัมภีร์มารเปลี่ยนอสูร!!!!”




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2550
0 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 20:16:34 น.
Counter : 638 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bluejade
Location :
Birmingham Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ช่วงนี้ออกนิยายชื่อ จอมเทพกระบี่มาร จ้า ใครชอบแนวนิยายจีนลองหามาชมได้นะเออ

Friends' blogs
[Add Bluejade's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.