อนึ่งขบวนพยุหยาตราในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 16 ในรัชกาลปัจจุบัน โดยขบวนเรือพระราชพิธีสองครั้งก่อนหน้านี้ก็คือขบวนเรือพระราชพิธี ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2549 และขบวนพยุหยาตราชลมารค ในการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2550
ในครั้งนี้เป็นการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคใหญ่ 5 ริ้ว ใช้เรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง จำนวน 4 ลำ คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือรูปสัตว์ จำนวน 8 ลำ ได้แก่ เรืออสุรวายุภักษ์ เรืออสุรปักษี เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือครุฑเหินเห็จ และเรือครุฑเตร็จไตรจักร เรือดั้ง 22 ลำ
นอกจากนี้ยังมีเรืออื่นๆ อีก 18 ลำ รวมความยาวของขบวนเรือจากหัวขบวนถึงท้ายขบวน 1,280 เมตร และความกว้างขบวน 110 เมตร ใช้กำลังพลประจำเรือพระราชพิธี ทั้งสิ้นกว่า 2,200 นาย
ทั้งนี้ใน วันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00-17.00 น. ทางกองทัพเรือได้ทำการซ้อมใหญ่เสมือนจริงการฝึกซ้อมริ้วขบวนเรือพระราชพิธี ท่ามกลางความสนใจของประชาชนจำนวนมาก โดยกองทัพเรือจะทำการซ้อมใหญ่เสมือนจริงอีกครั้งในวันที่ 6 พ.ย. 2555 ในช่วงเวลาเดิม
ทำพิธีก่อนออกพายเรือ
จากนั้นในวันที่ 9 พ.ย. 2555 ช่วงเวลาประมาณ 15.00-17.00 น. จะเป็นวันงานพระราชพิธี โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราชลมารค โดยริ้วขบวนเรือพระราชพิธีจะเริ่มจากท่าวาสุกรี ไปสิ้นสุดที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งรัฐบาลได้ขอเชิญชวนหน่วยงานราชการ ร้านค้า และประชาชนที่อยู่บริเวณขบวนเรือผ่านทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งโต๊ะหมู่บูชา เครื่องราชสักการะพร้อมประดับธง ภปร. และธงชาติไทย ตามอาคารบ้านเรือนโดยพร้อมเพรียงกัน
สำหรับประชาชนชาวไทยผู้สนใจสามารถร่วมรับชมความงดงามของริ้วขบวนเรือพระราชพิธีอย่างใกล้ชิดที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทั้งในวันซ้อมใหญ่ 6 พ.ย. และในวันพระราชพิธี(วันจริง) 9 พ.ย. ซึ่งนี่นับเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของสยามประเทศอันล้ำค่ายิ่ง
ข้อมูลโดย ผู้จัดการออนไลน์