ตามบัตรประชาชน สาวแซ่หูเกิดเมื่อปี 2528 (ค.ศ.1985) โดยเธอบอกว่าหลังจากแต่งงานและคลอดบุตรได้ไม่กี่ปีผิวหนังบนใบหน้ากลับเหี่ยวย่นลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าผาก หนังตา แก้ม ริมฝีปาก หรือคาง

เธอเปิดเผยว่า แต่งงานกับสามีเมื่อ 6 ปีก่อนตอนอายุ 21 ปี โดยในปีถัดมาหลังแต่งก็คลอดบุตรชาย โดยช่วงเวลานั้นชีวิตตนมีความสุขมาก ต่อมาพบว่าผิวหนังบนใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อยลง โดยตอนแรกก็ไม่ได้ให้สนใจมากนัก เนื่องจากคิดไปเองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติหลังการคลอดบุตร ทว่า เมื่อเวลาผ่านไปราวครึ่งปีรอยเหี่ยวย่นกลับชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูไปคล้ายคนแก่อายุ 60-70 ปี

“ฉันไม่กล้าส่องกระจก ไม่อยากออกไปเดินข้างนอก ไม่กล้าสู้สายตาใคร แล้วก็ไม่กล้าไปรับลูกที่โรงเรียนด้วย ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เพราะฉันใส่ชุดปกติที่ฉันใส่ แต่คนทั่วไปกลับวิพากษ์วิจารณ์ว่าแก่ขนาดนี้ยังใส่ชุดเหมือสาวๆ อีก” สาวแซ่หูกล่าวทั้งน้ำตา และกล่าวอีกว่า ตนไปหาหมอหลายคนแล้วก็ไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร

เมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อิ่น กวงผิง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจิ้งต้าอีฟู่ก็วินิจฉัยว่า อาการที่สาวแซ่หูคือ โรคผิวหนังที่พบได้ยากที่เรียกว่า Granulomatous slack skin โดยอาจมีความเกี่ยวพันกับเรื่องพันธุกรรม โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ต่อมาเมื่อเรื่องของเธอถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้างก็มีผู้เห็นอกเห็นใจกับความผิดปกติของเธอ โดยในเบื้องต้นเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมาได้มีคลินิกศัลยกรรมตกแต่งแห่งหนึ่งในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ได้เสนอช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับผิวหนังบนใบหน้าที่หย่อนคล้อยให้เธอเป็นพิเศษแล้ว