<<
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
21 กุมภาพันธ์ 2556

ชี้คนไทยคุณภาพชีวิตลดลง พบ "คนกรุง" ยิ่งทุกข์หนัก!

















"คนไทย มอนิเตอร์" การสำรวจระดับชาติประจำปี 2555 ชี้ คนไทยพอใจในคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ลดลงจากปี 2554 แม้จะเห็นว่าการพัฒนาประเทศมีความเหมาะสมมากขึ้น ขณะเดียวกันยังระบุว่า ปัญหาระดับประเทศและสังคมรุนแรงมาก ด้านคนกรุงเทพฯ มีความพึงพอใจต่อชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างต่ำ ทั้งยังรู้สึกว่า กรุงเทพฯ ไม่มีการพัฒนาไปในทิศทางที่เหมาะสม มองมลพิษทางน้ำ คือปัญหาที่ส่งผลกระทบมากสุด

นายวิเชียร พงศธร ประธานมูลนิธิเพื่อ "คนไทย" เปิดเผยผลวิจัยร่วมกับ น.ส.วิริยา วรกิตติคุณ รักษาการนายกสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย โดยเก็บข้อมูลที่ครอบคลุมคนไทย 100,000 คนทั่วทั้ง 77 จังหวัด ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2555 พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนไทยมาก ได้แก่ ปัจจัยด้านรายได้ ทรัพย์สินและหนี้สิน รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่สูงขึ้น สุขภาพ ความมั่นคงในการทำงาน การใช้เวลาในครอบครัวที่น้อยลง และไลฟ์สไตล์ ขณะที่สิทธิความเท่าเทียมกันในสังคม สิ่งแวดล้อม รัฐบาล บทบาทสื่อ และบทบาทภาคธุรกิจต่อประเทศมีความสำคัญรองลงมา

สำหรับในปีที่ผ่านมา มีการสำรวจ พบว่า ความพึงพอใจของคนไทยยังคงกระจุกตัวอยู่ที่ปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นหลัก สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยึดถือปัจจัยทางวัตถุมากขึ้น เมื่อพิจารณาว่าคนไทยเห็นว่าคุณภาพชีวิตของตัวเองด้อยลงทั้ง ๆ ที่พอใจมากขึ้นกับปัจจัยทาง เศรษฐกิจ เช่น รายได้ เป็นต้น โดยผลการสำรวจระบุว่า ความพึงพอใจต่อรายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 68 เป็น 68.29 ขณะที่ความพึงพอใจต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมลดลงจากร้อยละ 78.1 เป็น 74.7 ประเด็นนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยด้านเศรษฐกิจไม่ได้มีความสำคัญสูงสุดต่อคุณภาพชีวิต แต่ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การใช้เวลากับครอบครัว มีความสำคัญต่อการสร้างสมดุลในการใช้ชีวิต และหากมีการรณรงค์ให้คนไทยเข้าใจและนำหลักความพอเพียงมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันแล้ว ก็จะเกิดความสมดุลในชีวิต และพอใจในคุณภาพชีวิตมากขึ้น

นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ คุณลักษณะของคนไทยที่มีลักษณะขัดแย้งกัน ด้านบวกที่คนไทยเห็นว่าดี คือ มีน้ำใจ อบอุ่น เป็นมิตร แต่ด้านลบ ได้แก่ ความเห็นแก่ตัว ไม่รับฟังผู้อื่นหรือยึดมั่นในความคิดของตัวเอง ขาดวินัย เอาตัวรอด

ประเด็นเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า คนไทยแม้จะมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เน้นความจริงใจมากนัก ซึ่งสะท้อนว่า หากจะพัฒนาสังคมและประเทศให้ก้าวหน้า จำเป็นที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะครอบครัวจะต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคนให้มีคุณภาพและคุณลักษณะที่เหมาะสม

ทางด้านความพอใจในบทบาทภาครัฐและเอกชน แม้คนไทยจะพอใจมากขึ้นต่อการทำงานของภาครัฐ และเอกชน แต่การจัดการภาครัฐยังไม่เป็นไปตามหลักความเสมอภาคในกรอบกฎหมาย และเห็นว่าการคอรัปชั่นยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเป็นปัญหาใหญ่อันดับต้น ๆ ในสังคม แม้รัฐบาลและภาคเอกชนจะได้กำหนดให้การป้องกันและปราบปรามทุจริตเป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีข้อจำกัดอยู่มาก

"รัฐ ภาคธุรกิจ เอกชนและองค์กรภาคประชาชนต้องร่วมกันพัฒนาแผนงานปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น กำหนดกรอบเวลาและมาตรการที่ชัดเจนโดยศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีของประเทศที่มีการทุจริตน้อย เน้นการสร้างระบบการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มบทบาทของสื่อเสรีในการให้ข้อมูลและติดตามการทำงานของรัฐบาล ระดมกำลังจากภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาชนเป็นภาคีระดับชาติ ตลอดจนรักษากลไกการตรวจสอบขององค์กรอิสระไว้ให้มั่นคง (ไม่มีการแก้ไขในรัฐธรรมนูญ) และส่งเสริมโครงการหมาเฝ้าบ้านและสายด่วนที่บริหารจัดการโดยประชาสังคม" ดร.สุภางค์ จันทวานิช ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเสนอแนะ

อย่างไรก็ดี ผลการศึกษายังสำรวจพบต่อไปว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังกังวลเรื่องปัญหาส่วนตัวมากกว่าปัญหาสังคมหรือประเทศ ซึ่งอาจชี้ให้เห็นว่า คนไทยสนใจเรื่องส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม และความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้คนเบื่อและไม่อยากยุ่งเรื่องการเมือง แต่ในขณะเดียวกัน คนไทยส่วนใหญ่ก็เริ่มตื่นตัวและพยายามมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศมากขึ้น โดยที่ร้อยละ 82 เน้นการพัฒนาเพื่อตนเอง เช่น การไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง การไม่สร้างปัญหาเพิ่มเติมให้แก่สังคม ประพฤติตนอย่างถูกต้องเหมะสม ยึดมั่นในศีลธรรม เป็นต้น

ทั้งนี้ ยังพบความน่าสนใจต่อมาว่า การพัฒนาประเทศนั้น ไม่อาจพึ่งรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว แต่ภาคเอกชนสามารถเป็นกลไกสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทในการผลักดันการพัฒนา ทั้งในด้านการกำหนดนโยบายการทำงานที่มุ่งเน้นความสมดุลมในชีวิตเพื่อให้ประชาชนรู้สึกพึงพอใจกับคุณภาพชีวิตมากขึ้น การดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส การส่งเสริมให้พนักงานเป็นพลเมืองที่มีความตื่นตัว และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม เป็นต้น

เมื่อแยกมาดูเฉพาะในส่วนของกรุงเทพมหานคร พบข้อมูลน่าสนใจที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนต่อไปควรรับฟัง ก็คือ คนกรุงเทพฯ มีความพึงพอใจต่อชีวิตความเป็นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประชากรโดยรวม ยกเว้นภาคใต้ ส่วนความคิดเห็นต่อการพัฒนาระดับชุมชน/จังหวัด พบว่า คนกรุงเทพฯถึง ร้อยละ 36 รู้สึกว่า ไม่มีการพัฒนาไปในทิศทางที่เหมาะสม ด้านปัญหาของคนกรุงเทพฯ ที่รู้สึกว่ารุนแรงที่สุดคือ ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น รองลงมาคือ ความขัดแย้งทางการเมือง และการชุมนุมทางการเมือง ตามลำดับ นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญในเรื่องมลพิษทางน้ำ ทางอากาศ และทางเสียงด้วย โดยเฉพาะมลพิษทางน้ำ คือปัญหาที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

"การพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน และการสร้างสังคมอยู่ดีมีสุข มีความจำเป็นที่จะต้องรับฟังเสียงและเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของคนไทยทุกคน การสำรวจความเห็นของคนไทยที่คนไทยมอนิเตอร์ เสียงนี้พลังนี้ ได้ริเริ่มและจะทำต่อไป เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะจุดประกายให้ทุกภาคส่วนได้ทำหน้าที่ของตัวเอง และร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่า"
ประธานมูลนิธิเพื่อคนไทยทิ้งท้าย





ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์







Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2556 16:09:10 น. 3 comments
Counter : 1830 Pageviews.  

 




โดย: ญามี่ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:16:11:23 น.  

 
เมื่อวานไม่มีเวลาเข้าบล๊อกตอบเม้นท์ และคุยเฟสเท่าไร
เสร็จงานแล้วก็เลยนำสิ่งประเสริฐที่สุดในอนันตจักรวาล
มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมและกราบบูชากัน....ค่ะ

เรามากราบบูชานมัสการพระบรมสารีริกธาตุกัน...นะคะ



พระบรมสารีริกธาตุของปอป้าได้มาจากเนปาล และอินเดีย
ได้มาก็แบ่งให้เพื่อนที่รักกันมากไปบูชาด้วย
เมื่อสองสามวันก่อนปฏิบัติบูชาเสร็จแล้ว
ก็ได้อธิษฐานจิตกราบขออนุญาตเปิดผอบดู
ปรากฏว่า มีพระบรมสารีริกธาตุเสด็จเพิ่มมามากกว่าเก่า
ต่างสี ต่างสัณฐานและวรรณะ อีกหลายองค์ทีเดียว
เกิดเป็นความปีติอย่างหาที่สุดมิได้ นึกถึงเพื่อน ๆ ทุกคน
ก็เลยกราบขออนุญาตถ่ายภาพอัญเชิญมาให้เพื่อน ๆ ได้บูชากัน..ค่ะ

หนึ่งไลค์ไปก่อน...นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:34:14 น.  

 
สวัสดีค่ะ ในสองอาทิตย์นี้มี่เหมือนฝันไปค่ะ
เพราะไม่สบายยาวนานนอนตั้ง 2 อาทิตย์
ตื่นมายังรู้สึกงงๆลืมไปว่าตัวเองเขียนกลอนได้ อิอิ
จนบัดนี้ยังเขียนไม่ถูกเลยค่ะ คงต้องค่อยๆฟื้นอาการแล้ว
คงมีสักวันมี่เขียนได้นะคะ สวัสดีเพื่อนๆที่เป็นห่วงค่ะ


โดย: ญามี่ วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:18:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]