<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
17 ตุลาคม 2554

มหากาพย์...มวลน้ำถล่มสยาม










มหากาพย์...มวลน้ำถล่มสยาม ต่างชาติทุกข์ประเทศไทยเจ๊ง!



“รถยนต์ที่โรงงานใน จ.พระนครศรีอยุธยา ดูเหมือนว่าจะยังลอยน้ำอยู่ในขณะนี้”

เป็นถ้อยแถลงยืนยันจาก โตโมฮิโร โอกาดะ โฆษกบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ที่ยอมรับสภาพกับอุทกภัยครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศ เมื่อโรงงานผลิตของบริษัทต้องตกอยู่ในสภาพจมบาดาล หลังจากที่มวลน้ำไหลเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมโรจนะเมื่อ 3 วันก่อน

ในขณะนี้ฮอนด้า ค่ายผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่น ก็ยอมรับว่ายังไม่รู้ชะตากรรมได้ว่าจะสามารถกลับมาเดินเครื่องผลิตได้อีกเมื่อไหร่ เพราะน้ำยังไม่มีท่าทีว่าจะลดแม้แต่น้อย

ขณะที่ค่ายรถยนต์เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นและของโลกอย่าง โตโยต้า มอเตอร์ ก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน แม้ว่าโรงงานผลิตทั้งสามแห่งในประเทศไทย คือ ที่สำโรง เกตเวย์ ฉะเชิงเทรา และบ้านโพธิ์ ถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องระงับการผลิตลง เนื่องจากขาดชิ้นส่วนประกอบรถยนต์จากโรงงานผลิตที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำถล่มเมืองไทยในขณะนี้

ไม่เพียงแต่ค่ายรถยนต์ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่เท่านั้น ฟอร์ด มอเตอร์ส อีซูซุ ตลอดไปจนถึงบริษัท นิคอน ผู้ผลิตกล้องดีเอสแอลอาร์ชื่อดังของโลก โซนี่ คอร์ป ผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีรายใหญ่จากญี่ปุ่น ไพโอเนียร์ ผู้ผลิตเครื่องเสียงและสินค้าเทคโนโลยีรถยนต์ ตลอดจนบริษัทเซมิคอนดักเตอร์อีกหลายแห่งจากหลายสัญชาติ ต่างก็ต้องยอมรับสภาพจากการได้รับผลกระทบมากน้อยต่างกันไปจากน้ำท่วมครั้งนี้ หากถึงขั้นเลวร้ายสุดก็ถึงกับหยุดการผลิต และได้แต่ทน “กลืนน้ำลาย” มองกระแสน้ำทะลักเข้าท่วมโรงงานเท่านั้น

ซีเกท เทคโนโลยี บริษัทผู้ผลิตดิสก์ไดรฟ์รายใหญ่ของโลก ยอมรับแล้วว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมในไทยครั้งนี้จะทำให้เกิดการสะดุดของการผลิตชิ้นส่วนเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องในไตรมาสนี้ ขณะที่ทางด้าน เวสเทิร์น ดิจิตอล บริษัทผู้ผลิตชิปจากสหรัฐ ก็ยอมรับว่าการผลิตได้รับผลกระทบแล้วจากน้ำท่วมสยามครั้งนี้

ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของไทย ที่เหตุอุทกภัยครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับภาคอุตสาหกรรมในประเทศอย่างรุนแรง จนขณะนี้ยากที่จะประเมินความเสียหายได้

ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตของหลายบริษัทระดับโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ไทยถึงกับถูกวางตัวให้เป็น “ดีทรอยต์” แห่งเอเชียนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาน้ำทะลักเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ต้องยอมรับว่าไม่ได้จำกัดวงอยู่เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น แต่กระทบไปถึงระดับโลก

โดยเฉพาะสำหรับบริษัทเอกชนจากญี่ปุ่น ผู้ลงทุนรายใหญ่อันดับ 1 ในประเทศไทย ที่มีฐานการผลิตสำคัญในประเทศไทย ภาวะน้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็น “คราวเคราะห์” ซ้ำสอง ที่หลายบริษัทยังมึนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค. เหตุภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคการผลิตของหลายบริษัทญี่ปุ่นอย่างหนักที่สุด โดยเฉพาะค่ายรถยนต์ชื่อดังทั้งหลาย ทำให้ต้องหยุดการผลิตนานหลายสัปดาห์

เหตุการณ์ในญี่ปุ่นส่งผลกระทบให้เกิดภาวะขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ไปทั่วโลกต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ทำให้โรงงานผลิตในหลายประเทศนอกญี่ปุ่นต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นส่งผลให้หลายบริษัทย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศไทย เพื่อทดแทนโรงงานการผลิตที่ได้รับความเสียหาย และยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ในแผ่นดินบ้านเกิด

แต่กระนั้น เหตุน้ำท่วมใหญ่ในประเทศที่กินเวลานานกว่า 3 เดือนในไทยครั้งนี้ ถือว่าเป็นฟ้าผ่าซ้ำสอง ทำให้สถานะของบริษัทญี่ปุ่นทรุดลงดับเบิล ทำให้การผลิตต้องหยุดชะงักลงไปอีกอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด

นอกจากนั้น สิ่งที่น่าหวั่นพรั่นพรึงอย่างยิ่ง คือ สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะกลายเป็นวิกฤตเรื้อรัง กินระยะเวลาอีกนานเท่าไหร่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ไทยคนไหนให้คำตอบได้อย่างชัดถ้อยชัดคำนัก

มาซาตากะ คูนูกิโมโตะ นักวิเคราะห์จากธนาคารโนมูระในญี่ปุ่น ยกตัวอย่างค่ายรถยนต์รายใหญ่อย่างฮอนด้า ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดในบรรดาค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ว่ากว่าจะกลับมาเดินหน้าการผลิตได้อีกครั้งนั้นอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานทีเดียว

แน่นอนว่า ยิ่งนานความเสียหายก็ยิ่งทวีคูณ มาซาตากะคำนวณว่า หากฮอนด้าหยุดการผลิตถึง 3 เดือน นั่นหมายถึงว่า บริษัทจะสูญเสียการผลิตรถยนต์ไปถึง 6 หมื่นคัน คิดเป็นผลกำไรสูญไปแล้วถึง 2.5 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 232 ล้านเหรียญสหรัฐ

ดังนั้น ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้นจะเลวร้ายมากน้อยเท่าไหร่ ล้วนขึ้นอยู่กับว่าการผลิตจะต้องหยุดลงไปนานเท่าไหร่

เคิร์ต ซังเกอร์ นักวิเคราะห์จากดอชต์ ซีเคียวริตี ในกรุงโตเกียว ชี้ว่า ประเทศไทยมีสถานะเป็นฐานการผลิตสำคัญคิดเป็นสัดส่วน 48% ของโลกสำหรับบริษัทหนึ่งๆ ทีเดียว ซึ่งความสูญเสียนั้นอาจจะอยู่ในวงจำกัด ถ้าหากบริษัทนั้นๆ ต้องหยุดการผลิตไปไม่เกิน 1 เดือน

แต่ถ้าหากหยุดไปนานเกินกว่า 3 เดือน ก็จะเริ่มเห็นผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบที่จะกลายเป็นปัญหาลูกโซ่ไปทั่วโลก

นั่นคือสิ่งที่บริษัทต่างชาติผู้ลงทุนในบ้านเรากำลังหวาดผวา และไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่นอน

แต่ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับผู้ที่จะต้องพบกับความสูญเสียมากที่สุดเห็นจะเป็นประเทศไทยเอง

มหาอุทกภัยครั้งนี้ นอกเหนือจากจะส่งผลกระทบต่อจีดีพีประเทศอย่างรุนแรงถึง 0.9% ตามการคาดการณ์ของ สศช. และความเสียหายจากการประเมินเบื้องต้นของกระทรวงการคลังสูงถึง 6.9 หมื่นล้านบาทแล้ว

ภาพลักษณ์ของการเป็นศูนย์กลางแห่งแหล่งลงทุนในเอเชีย ก็กำลังถูกน้ำกัดเซาะทำลายอย่างรุนแรงเช่นกัน จากการขาดการจัดการของรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน การเตือนภัย ตลอดจนการให้ข้อมูลกับทั้งประชาชนไปจนถึงเอกชนและนักลงทุนต่างชาติ

ตลอดไปจนถึงความไร้ซึ่งความสามารถที่จะปกป้องกันทรัพย์สินของเหล่าผู้ลงทุนต่างชาติได้

สุดท้าย หากมาตรการหลังจากนี้ของภาครัฐทั้งการดูแลและการช่วยเหลือยังไม่ดีพอและพอเพียง มีหวังสถานะของการเป็นแหล่งลงทุนชั้นนำของเอเชียของไทยแลนด์ จะจมหนักยิ่งกว่านิคมอุตสาหกรรมที่จมน้ำอยู่ในทุกวันนี้



เรื่องจากอินเตอร์เน็ต











Create Date : 17 ตุลาคม 2554
Last Update : 17 ตุลาคม 2554 11:40:23 น. 18 comments
Counter : 2216 Pageviews.  

 
น้ำท่วมบ้านแล้ว..ในวันนี้
เพราะเขื่อนพังไม่เป็นท่า
เศร้าและหนาวมันไหลออกจากตา
มาล้นบ่าให้ทุกข์หมดทางไกล

นั่งก็นึก นอนก็คิด
โอ้ชีวิต ของเราจะเป็นไฉน
จากนี้แล้วจะอยู่กันอย่างไร
ลำบากทุรนทุรายใครดูแล


โดย: เกรียงไกรกวีฝัน วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:13:04:52 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ สวยมากเลยครับ เวปนี้ มาคอมเมนต์ด้วยครับ
น้ำท่วมคราวนี้ถ้าเราไม่ทำลายธรรมชาติก่อน ธรรมชาติคงไม่กลับมาทำลายเราครับ ควรจะหันมาร่วมกันปลูกป่า ครับ กับควรมีระบบการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สนใจเรื่องดวงชะตาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้


โดย: ไกรศรี (ไกรศรี ) วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:13:11:18 น.  

 
สวัสดีจ๊ะ

ตอนนี้เป็นช่วงลุ้นระทึกจ๊ะ น้ำใกล้บ้านมาทุกที เหลือประมาณ 20 กม.ก็จะถึงแล้วจ้า เดี๋ยวไปเตรียมตัวก่อนเอาใจช่วยทุกๆคนจ๊ะ


โดย: multiple วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:14:31:00 น.  

 
น้ำยังไม่ท่วมยังอยู่ดี(ปากน้ำ) ขอบคุณทัพหน้าที่ลำบาก และทุกคนทุกท่านที่เหน็ดเหนื่อยกับภาระอันไม่มีจุดหมายว่าภาระจะจบลงเมื่อใด แล้วหลังจากน้ำจบปัญหาก็ยังต้องทุกข์กับเรื่องอยู่เรื่องงานจะทำอย่างไรคิดแล้วสงสารทุกคน แม้แต่ตัวเราก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ขอส่งกำลังใจสู้กันนะครับ


โดย: yoon IP: 124.120.247.74 วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:15:18:28 น.  

 
ปากน้ำโพจัดระเบียบเรือรับจ้าง หลังโก่งค่าโดยสารทำชาวบ้านเดือดร้อน
นครสวรรค์ 16 ต.ค.-พ.ต.อ สมนึก มากมี ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนร้องเรียนเรือรับจ้างบางลําคิดราคารับ-ส่งผู้โดยสารตามตรอกซอกซอยแพงเกินควร เที่ยวละ 30-50 บาท จึงอยากขอร้องเรือรับจ้างให้เห็นใจประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัย ขอให้คิดในราคาเริ่มต้น 10-20 บาท ส่วนกรณีระยะทางไกล ๆ ขอให้ตกลงกันในราคายุติธรรม

ขณะเดียวกันขอให้เรือรับจ้างทุกลําที่เข้ามารับจ้างในพื้นที่ถูกน้ำท่วมในเขต อ.เมืองนครสวรรค์ ให้มาลงทะเบียนทําประวัติเรือรับจ้าง โดยให้ทำป้ายห้อยคอเขียนชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ รวมทั้งถ้ามีเบอร์โทรศัพท์ ให้เขียนติดไว้ด้วย หากพบเรือรับจ้างไม่มีบัตรห้อยคอ จะถือว่าเป็นเรือรับจ้างเถื่อน ขอให้แจ้งมายังโรงพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าตํารวจสายตรวจทางน้ำมาพบ จะถือว่าเป็นบุคคลและเรือต้องสงสัย จะต้องถูกเรียกตรวจค้น.-สำนักข่าวไทย



ที่มา : สำนักข่าวไทย


โดย: ญามี่ วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:17:56:04 น.  

 
ภาพอพยพคน นิคมฯ นวนคร หนีน้ำท่วม

ทหารได้เข้าช่วยเหลือประชาชนในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ออกจากพื้นที่ เนื่องจากกระแสน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่นิคมฯ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณมากจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

โดยเริ่มทำการอพยพทันทีที่ ศปภ. ได้มีแถลงประกาศให้นิคมอุตสาหกรรมนวนคร อพยพคนออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งให้ปิดเครื่องจักรภายในนิคม เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่เป็นห่วงว่า น้ำที่ไหลเข้ามาในนิคมฯได้เริ่มทะลักขึ้นตามท่อระบายน้ำภายในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งหาวิธีในการอุดท่อเพื่อป้องกันน้ำล้นท่อและเข้าท่วมพื้นที่

ขณะที่ระดับน้ำในพื้นที่บ่อบำบัดน้ำเสียของนิคมฯมีความสูงระดับอก ขณะที่ในช่วงหน้าโรงงานคูโบต้ามีความสูงระดับแข้งขึ้นไป

ข่าวโดย : ผู้จัดการออนไลน์




โดย: ญามี่ วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:17:58:46 น.  

 
CNN แจงข่าว คนไทยไม่ทิ้งกัน


สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย โดยเฉพาะปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่หลายฝ่ายต่างร่วมมือกัน

พอลล่า แฮนคอว์คส์ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น เดินทางมาปักหลักติดตามรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย ที่อาคารมาลีนนท์ ซึ่งใช้เป็นศูนย์ช่วยเหลือในการรับบริจาค และแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นต่อการยังชีพไปให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆของประเทศ

ประชาชนได้ร่วมกันบริจาคตั้งแต่อาหาร สิ่งของ และสิ่งจำเป็นต่างๆรวมทั้งเงินสดที่ศูนย์ช่วยเหลือสามารถนำไปจัดซื้อสำหรับผู้ประสบภัย จากนั้นจะบรรจุลงในถุงยังชีพ และใช้กำลังทหารจากกองทัพ ในการช่วยขนขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยที่ต้องเผชิญกับอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย

ซึ่งพอลล่า เรียกการบริจาคและการให้ความช่วยเหลือของคนไทยครั้งนี้ว่าเป็น”Incredible local effort หรือ ความพยายามในส่วนท้องถิ่นที่เหลือเชื่อ”

พอลล่าร์ ยังรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของไทย ที่พื้นที่ส่วนใหญ่กลายสภาพเป็นคลอง การเดินทางและการส่งความช่วยเหลือต้องผ่านทางเรือ

ชาวบ้านผู้ประสบภัยที่ไม่มีเรือก็ต้องใช้อุปกรณ์อย่างอื่นในการเดินทาง เช่น โฟม รถยนต์ทหาร ที่นำของไปแจกจ่ายต้องพบกับอุปสรรค เช่น ถนนที่กลายสภาพเป็นแม่น้ำ ผู้ประสบภัยหลายคนบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเลวร้ายมาก และต้องการอาหาร

ขณะที่วัดหลายแห่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยพระรูปนี้บอกว่า เมื่อได้ของบริจาคมาก็จะแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน

สิ่งที่หลายคนวิตกกังวล ก็คือสภาพของสิ่งปลูกสร้าง วัดวาอาราม โบราณสถานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้ แต่สิ่งจำเป็นอย่างแรก ก็คือต้องช่วยประชาชนก่อน

ส่วนความช่วยเหลือจากนานาชาติ จีนได้บริจาคเงินมาช่วยไทย 1.5 ล้านดอลล่าร์ ขณะที่สหรัฐอเมริกา บริจาคเงินช่วย 1 ล้านดอลล่าร์ และกระสอบทรายอีกหลายพันกระสอบ เพื่อช่วยปกป้องกรุงเทพฯจากน้ำท่วม



โดย: ญามี่ วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:18:22:52 น.  

 
รายได้หนังสือ ตัน ช่วยน้ำท่วม




ตัน ภาสกรนที นักธุรกิจ ไอดอลคนรุ่นใหม่ ถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ในหนังสือเล่มใหม่ของเขาที่ชื่อว่า วิถี ไม่ ตัน ฉบับ ตัน ภาสกรนที ที่บอกว่า เขียนมาจากใจกลั่นจากประสบการณ์จำนวน 30 ตอน

เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นทางลัดธุรกิจให้คนรุ่นใหม่ จากชีวิตเริ่มต้นที่ศูนย์ จบแค่ระดับมัธยม เรียนรู้ชีวิตจากความแน่นอนไม่แน่นอน ความสำเร็จความล้มเหลว ความทุกข์ความสุข ความมีความจน ความกลัวความกล้า จนกลายมาเป็นอิชิตันในปัจจุบัน

โดยคุณตัน จะมอบรายได้ทั้งหมดจากการขายหนังสือ นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในขณะนี้ด้วย

เนื้อหาของหนังสือ วิถีไม่ตัน ทั้ง 30 ตอน จะสะท้อนให้เห็นแง่คิดทางธุรกิจที่ลึกซึ้ง แม้ในช่วงแกะปูให้ครอบครัว เห็นก้ามปู 2 ก้าม และ 8 ขา ก็เชื่อมโยงไปถึง ทฤษฎีทองคำ 80 20 ว่าด้วยการบริหารชีวิต บริหารธุรกิจให้เหมาะสม หรือการสอนลูก ที่คุณตันยกเงินก้อนให้ลูก 20 ล้านบาท

พร้อมยื่นคำขาด นี่จะเป็น 20 ล้านแรกและ 20 ล้านสุดท้าย กลายเป็นเคล็ดลับที่พ่อแม่หลายคนอยากรู้เพื่อนำไปใช้บ่มเพาะลูกๆให้รู้จักใช้ชีวิตและใช้เงิน หนังสือ วิถีไม่ตัน ของ ตัน ภาสกรนที จึงเป็นกำลังใจและข้อคิดดีๆให้กับทุกคนด้วยความเชื่อที่ว่า ต้นทุนชีวิตแบบคุณตันหาที่ไหนก็ได้ คุณตันเริ่มต้นได้ คุณก็เริ่มต้นได้

ข่าวโดย : คมชัดลึก





โดย: ญามี่ วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:18:37:33 น.  

 
สวัสดียามค่ำค่ะน้องมี่
พี่แวะเข้ามาอ่านเเละโหวตให้น้องนะคะ
เศร้าใจจังเลยค่ะ




โดย: บังเอิญเผลอใจ วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:20:10:12 น.  

 
ในวันเหงาใจพี่นี้ยังหวั่น
ข้างหน้านั่นยังมีพี่ใจท้อ
เสียงกระซิบเบาเบาเขายังรอ
รักที่ก่อขึ้นมาน่าน้อยใจ

มองทางไหนเห็นน้ำฉ่ำท่วมนอง
มองหาน้องคนดีอยู่ที่ไหน
ขอให้เธออยู่รอดและปลอดภัย
เป็นอย่างไรแจ้งข่าวบ้างสาวเอย

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดียามค่ำครับ


โดย: ก้อนเงิน วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:20:43:37 น.  

 

นิทานก่อนนอน......นกกระเรียนกับหมาป่า
นกกระเรียนเห็นหมาป่านอนดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวด
ที่กลางป่า จึงเข้าเข้าไปถามไถ่อย่างเวทนาว่า
"เจ้าเป็นอะไรหรือ"
"ข้ากลืนชิ้นเนื้อเข้าไปกระดูกติดคอข้าทำอย่างไรก็ไม่ออก"
หมาป่าบอกแล้วก็ขอร้องให้นกกระเรียนช่วยตนด้วยแล้
ตน จะให้รางวัลอย่างงามเป็นการตอบแทน
นกกระเรียนจึงยื่นคออันยาวเรียวของมันเข้าไปในปาก
หมาป่า และสามารถล้วงเอากระดูกออกมาได้สำเร็จ
เมื่อนกกระเรียนทวงถามถึงรางวัล หมาป่าก็คำรามว่า

"ข้าไม่งับคอเจ้าขาดตายก็ดีแล้ว ยังจะมาเอาอะไรจากข้าอีก เล่า"

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "คนพาลมักไม่เห็นความดีของผู้อื่น
(คัดลอกจากอินเตอร์เนท)


โดย: พันคม วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:21:54:49 น.  

 
มวลน้ำนี้ มากมายจริงๆ ยังความสูญเสีย ให้กับ ผู้ประสพอุทกภัย เศรษฐกิจ สังคม ประเทศไทย ถ้วนหน้า....ขอแสดงความเสียใจ กับผู้สูญเสียทุกท่าน....แต่สูญเสีย ต้องไม่เสียศูนย์ ชีวิตยังไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันไป ขอประเทศไทย จงอยู่ ยืนยง


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:22:14:54 น.  

 


แวะมาราตรีสวัสดิ์ครับ ขอให้นอนหลับฝันดีน่ะ
ตัวในกล่อง Comment เนี่ย..คุ้นตาจังเลย ฮ่ะฮ่าฮ่า...



โดย: krittut_48 วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:22:17:30 น.  

 
เวรกรรมประเทศไทย


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 17 ตุลาคม 2554 เวลา:23:19:47 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอให้ทุกคนหลับฝันดี
ฝันเห็นแต่วันมี..ถนนแห้งๆนะคะ




โดย: ญามี่ วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:0:14:18 น.  

 
สวัสดีค่า น้องมี่
ตามข่าวน้ำท่วมอยู่เหมือนกัน เศร้าเนอะ

มาส่งอาหารปิ่นโตให้ทานนะค่า 55555

วุ้นเส้นผัดฟองเต้าหู้กับเห็ดหอม



โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:1:10:29 น.  

 
มาอีกรอบ
มาวันละหลายรอบไม่เป็นอันตราบต่อสุขภาพ 55555

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

อ้อ ไปส่งอาหารปิ่นโตให้พี่ขวดแล้วน้าาาาาาา


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:1:16:15 น.  

 
www.bigoo.wswww.bigoo.wswww.bigoo.wswww.bigoo.wswww.bigoo.wswww.bigoo.wswww.bigoo.wswww.bigoo.ws




ที่มาลงคะแนนให้นะค่า จะครบ 10 แล้วแหละ 55555


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:1:29:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]