<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
11 มีนาคม 2557

สุภาพบุรุษสุดฉาว! ดาราแฉออนไลน์กับสังคมใคร่รู้ในเรื่องลับ










กลายเป็นประเด็นร้อนในชั่วข้ามคืน เมื่อนางเอกสาว “โฟกัส จีระกุล” โพสต์คลิปจวกพระเอกหนุ่ม “บอม - ธนิน มนูญศิลป์” 1 ในสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ลงในเฟซบุ๊กของตนเอง จนคลิปดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันเป็นข่าวใหญ่ กลายเป็นกระแสสังคมโจมตีถึงขั้นตามสืบตามเสาะ ใครคือมือที่สาม?

ทว่าสังคมที่รวดเร็วมาพร้อมกับการเสพข่าวบันเทิงที่รุนแรง จากผู้ชมปรับเปลี่ยนมาเป็นผู้สืบค้นและนักวิพากษ์วิจารณ์ จากละครสู่ชีวิตจริง กระแสความอยากรู้และวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงหลายครั้งก็นำมาซึ่งความเสียหายที่ยากจะเยียวยา

หลากกรณีแฉผ่านเน็ต

หลังจากที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้คนมากขึ้น หลายสิ่งหลายอย่างสามารถกลายเป็นกระแสได้อย่างรวดเร็ว กับกรณีแฉดาราที่มีชื่อเสียง แน่นอนว่าเป็นกระเด็นที่สังคมต่างจับจ้องกันอยู่แล้ว ไม่แปลกที่เมื่อคลิป, ภาพถ่าย หรือแม้แต่เสียง เมื่อถูกโพสต์ก็จะถูกพูดถึงและส่งต่อไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว

ที่ผ่านมามีหลายกรณีเป็นตัวอย่างให้เห็นชัดเจน ย้อนไปเมื่อ 2556 ที่ผ่านก็มีกรณีของอาร์ต - พศุตม์ บานแย้มที่ถูกแฉผ่านการแคปหน้าจอบทสนทนาในโปรแกรมแชตถึงความสัมพันธ์กับกะเทยพลอย กลายเป็นกระแสฉาวไปทั่วเมือง

อีกกรณีที่เป็นคลิปคือกรณีของ พ่อของนักร้องนักแสดงสาวกรีน - อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุลหรือกรีน เอเอฟ ที่ถึงขั้นถ่ายคลิปออกมาพูดถึงนักแสดงหนุ่ม เคลลี ธนพัฒน์ กลายเป็นคำถามปลายเปิดใหญ่ให้สังคมถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ใครถูก? ใครผิด?

ยังมีกรณีของน้ำฝน - พัชรินทร์ จัดกระบวนพลที่ถูกแพร่คลิปเสียงบทสนทนาทางโทรศัพท์กลายเป็นเรื่องฉาวโดยมีสัมพันธ์กับนักแสดงที่ร่วมงานด้วย ก่อนหน้านี้ไม่นานยังมีกรณีแฉผ่านอินสตาแกรมที่ไผ่ วันพอยท์ออกโรงจวกแตงโม - ภัทรธิดา

จากกรณีทั้งหมดเห็นได้ว่า กระแสข่าวที่รั่วไหลมาจากสื่อออนไลน์นั้นกลายเป็นประเด็นข่าวที่สังคมสนใจ ทั้งยังเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงและส่งต่อกันอย่างสะดวกรวดเร็วอีกด้วย และหลายครั้งเมื่อสิ่งที่อยู่ในโลกออนไลน์ยังไม่มีความชัดเจน การตามประเด็นตอนจบของเรื่องต่อไปก็ทำให้ผู้คนต่างจับจ้องประเด็นที่เกิดขึ้นมากเป็นพิเศษอีกด้วย


โดยในส่วนของคลิปโฟกัสนั้น ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) มองว่า ครั้งนี้ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ของข่าวฉาวทั่วๆไปที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิงซึ่งเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจมาก


“เรื่องนี้มันมีคุณค่าข่าวค่อนข้างมาก เพราะคุณโฟกัสกับคุณบอมเป็นที่รู้จักกันมาก นอกจากยังมีสิ่งที่ทำให้คุณค่าข่าวสนใจมากขึ้นไปอีก อย่างแรกคือคุณโฟกัสพูดว่า “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร” ไม่ได้พูดชื่อ แต่ระหว่างทางนั้นมีเงื่อนงำมาตลอด ตั้งแต่การพูดถึงการให้สัมภาษณ์การออกรายการวู้ดดี้ เกิดมาคุย การให้สัมภาษณ์ต่างกรรมต่างวาระ หรือแม้กระทั่งการที่เขามีความสัมพันธ์เป็นแฟนไปเที่ยวกันไปดูหนังกันมันก็ต้องปรากฏเป็นข่าวตลอดเวลา พอออกมาเป็นคลิปอย่างนี้สำหรับคนไม่ได้รู้ก็ได้รู้ ที่สำคัญมันมีองค์ประกอบของอารมณ์ที่สูงมากด้วย”

กระแสที่ควบคุมไม่ได้

หลังจากคลิปถูกโพสต์ - แชร์ - ส่งต่อเผยแพร่ไปในอินเทอร์เน็ต กระแสสังคมที่คิดเห็นต่อเรื่องนี้เป็นไปในหลายทิศทางด้วยกัน มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนักแสดงสาว

“คนที่ไม่รู้เรื่องจริง ก็ไม่ต้องไปว่าเขา เรื่องมันตั้งนานทำไมเพิ่งมาพูด แถมทำไมต้องมาพูด ตอนที่ละครบอมลงจอด้วย แค่นี้ก็คิดได้แล้วนะ”Su Huiting

“จริง ๆ น้องเค้าไม่น่าออกมาแฉเลย ในเมื่อผู้ชายขนาดนี้ก็เลิกไปซะ อนาคตน้องก็ยังอีกไกล ทำตัวให้ดี วางตัวให้เหมาะสม อีกหน่อยเดี๋ยวก็มีผู้ชายเข้ามาให้ดู ให้เลือกเยอะแยะไป ออกมาแฉแบบนี้ผู้ชายคนใหม่ก็ไม่กล้าเข้ามาจีบ (กลัวเดี๋ยวทะเลาะกันแล้วจะออกมาแฉอีกไหม!!!) พี่ว่าน้องแค่ระบายใน IG เล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้นักข่าวตื่นตูม แล้วค่อยมาถาม แล้วน้องค่อยเคล้าน้ำตาสัมภาษณ์นิดๆ พี่ว่าภาพลักษณ์มันจะออกมาน่าสงสาร น่าเห็นใจกว่านี้นะค่ะ” PumPui Tippayawan

บางคนก็แสดงความเห็นในเชิงให้กำลังใจ

“บอกแล้วผู้หญิงรักใครรักจริง เกลียดจริง ผู้ชายก็อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิง สู้ต่อไป” Chay Wachirawit

“คือเข้าใจอารมณ์ของผู้หญิงด้วยกันนะ ที่เขาออกมาแฉเพราะผู้ชายมันไม่ซื่อก่อน น้องเลยไม่ทน น้องเค้าเลยแฉด้วยวิธีนี้ ซึ่งบางคนอาจมองว่าไม่เหมาะ แล้วทำไมหรอ! จะไปว่าน้องเขาทำไมคะ เขาอยากระบายทางนี้ก็ช่างเขาเถอะคะ อย่าไปซ้ำเติม เด็กวัยรุ่นประสบการณ์ไม่ได้เยอะพอที่จะควบคุมอารมณ์หรือปล่อยให้เรื่องมันจบแบบเงียบๆ บางครั้งเราก็ทำอะไรที่ไม่สมควร แต่ก็สะใจคะที่ได้ทำ สู้ๆนะคะโฟกัส” PhichyCasnovii Kwang

ขณะเดียวกันกระแสที่มองมาที่พระเอกหนุ่มดูจะเป็นไปในทางโจมตีเสียมากกว่า และบางความเห็นถึงขั้นแฉพฤติกรรมต่อ


“คิดว่าหล่อเลือกได้มั้ง กลัวเรตติ้งตกล่ะสิ หน้าตาก็ใช่ว่าจะหล่ออะไรมาก โฟกัสเลือกคบก็นับว่าเป็นบุญแล้ว ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก ตุ๊ดชัดๆ สงสารโฟกัสบอกตามตรง ผู้ชายแบบนี้แย่”Princess Orange

“โอ้ย ! เอาอีกแล้วหรอ พี่บอม นี้แฟนเพือนก็พึ่งโดนบอมแย่งไป น่าสงสารเพื่อนมากตอนนี้ คบกันมาตั้งหลายปีกับแฟนสาว ก็อย่างว่าแหละดาราใครจะไม่เอา แต่ข่าวแว่วมาจากเพื่อนบอกว่าแฟนสาวจะกลับมาขอคืนดี คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเพราะอะไร...เห็นโฟกัสออกมาอย่างนี้รู้เลย...เจ้าชู้” หญิง ไทย

“เราเคยเจอเขาประมาณมีนาคมปีที่แล้ว ไปกินพิซซ่าด้วยกันเราก็คิดว่าเป็นแฟนกัน เรายังไม่ค่อยรู้จักบอมเลยแต่พอเห็นนักข่าวไปสัมภาษณ์ โฟกัสตอบคุยกันอยู่ แต่บอมกลับตอบพี่น้องกัน เรายังคิดว่าพี่น้องที่ไหนป้อนพิซซ่ากันไม่แมนเลยว่ะ เลยไม่ชอบตั้งแต่ตอนนั้น สู้ๆ นะคะน้องโฟกัส” KhunGib GuliGuli

ธาม นักวิชาการคนเดิมมองสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมออนไลน์ รวมไปถึงปรากฏการณ์ของนักสืบพันทิปที่ตามสืบหามือที่สาม


“ผมว่า เรื่องของนักสืบพันทิปมันตอบสนองความต้องการรู้จากคนทั่วไป บางครั้งเราสืบเพราะว่าเราสนุกที่จะสืบ อย่างในพันทิปหลายๆกรณีถือเป็นการสืบที่ดี ดีในทีนี้คือบางครั้งสื่อกระแสหลักทำงานไม่ได้รอบคอบสมบูรณ์เพียงพอ นักสืบพันทิปก็คือคนทั่วๆไปแหละ ที่มีความสามารถความเชี่ยวชาญพอ ถึงยุคนี้ใครๆ ก็เป็นนักข่าวพลเมืองได้ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า เวลาเราสืบเรื่องนี้ เราสืบเพราะเราเก่ง เราอยากที่จะสืบหรือเราสืบเพราะมันเป็นเรื่องที่เราควรจะรู้จริงๆซึ่งผมว่าเรื่องนี้นักสืบพันทิปหรือใครก็ตามไม่เห็นจำเป็นจะต้องอยากรู้จริงๆ”

อย่างไรก็ตาม การโพสต์คลิปดังกล่าวจนเป็นข่าวรุนแรงนี้ เขามองว่า เป็นธรรมชาติหนึ่งของวงการบันเทิงที่กระแสจะมาแรง และไม่นานก็หายไป เป็นเพียงกระแสระยะสั้นเท่านั้น

“สมัยนี้การเป็นข่าวมันส่งผลระยะสั้นที่ดีกว่า ผมเชื่อว่า ต่อไปนี้คุณโฟกัสหรือคุณบอมจะได้ออกงานหรือมีพื้นที่งานสื่อมากขึ้น เรื่องนี้มองได้ 2 อย่าง อาจจะตั้งใจหรือเป็นเรื่องที่เป็นผลพลอยได้จากสิ่งที่บังเอิญให้เกิดผล”

เขามองว่า ดาราบางคนยอมสร้างชื่อในทางลบ เพื่อให้ตัวเองได้มีพื้นที่ในสื่อ เพราะเพียงแค่มีพื้นที่ในสื่อก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ทว่าผลที่ตามมาจากการวิพากษ์วิจารณ์กลับเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้

“ฉะนั้นดาราหรือใครก็ตามที่อยากจะใช้คลิปพวกนี้สร้างกระแส ผมคิดว่าถ้าเขาเจตนาดีต่อตัวเอง เขาไม่ควรจะทำ เว้นแต่ว่าเขาจะอยากให้คลิปพวกนี้ถูกพูดถึง ประเด็นคือการถูกพูดถึงหลังคลิปฉาวออกมามันจะเป็นเชิงบวกหรือลบก็ได้ แต่มันจะให้ผลระยะสั้นๆ สักแป๊บหนึ่ง 1 - 2 เดือนก็จะหายไป แล้วที่สำคัญก็คือว่า พอผู้ชมหรือสังคมเสพความสนุกกับเรื่องราวพวกนี้แล้ว ทุกๆ คนจะรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ได้กระทำลงไปเสมอ ผมกังวลว่าคุณโฟกัสจะรับกับความคิดเห็นต่อจากนี้ได้หรือเปล่า เพราะกระแสโซเชียลมันหนักและรุนแรง”

ชีวิตจริงไม่ใช่ละคร

วัฒนธรรมการเสพข่าวบันเทิงมีความสนุกอยู่ที่ความอยากรู้อยากเห็นที่ต้องรู้ให้ได้ ยิ่งเรื่องความสัมพันธ์รัก - ลับระหว่างดาราที่มีชื่อเสียงแล้วยิ่งที่เป็นสนใจ ธาม เชื้อสถาปนศิริ มองความสัมพันธ์ระหว่างดาราในยุคปัจจุบันว่ามีความแตกต่างจากดารายุคก่อน

“เมื่อก่อนดารารุ่นเก่าถ้าคบใครคือการคบกันจริงจัง แต่ปกปิดเพื่อแฟนๆ เพื่อไม่อยากลดมูลค่าของการเป็นพระเอก - นางเอก เพราะถ้ารู้ว่ามีแฟนตัวจริงอยู่แล้ว แรงสนับสนุน ความนิยมชมชอบจากผู้ชมจะหายไป”

เทียบกับยุคปัจจุบันที่เขาเห็นว่า ข่าวหลายครั้งเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักอย่างการคบหลายคน หรือคบซ้อน กลายเป็นความไม่จริงใจที่จะเปิดเผย

“มันกลายเป็นว่า ไม่ใช่แค่ประชาชนที่ติดตามผลงานถูกหลอก มันเผยให้เห็นพฤติกรรมที่มันดูไม่จริงจังจริงใจ ผมว่า สังคมมันจะแย่ลงเรื่อยๆ ถ้าเห็นว่าใครๆ ก็ทำแบบนี้ได้”

ในส่วนของการวิพากษ์วิพากษ์ที่รุนแรงมากขึ้นนั้น เขามองว่าเรื่องนี้เป็นการตอบสนองของสังคมผู้ชม ที่มาถึงยุคปัจจุบันไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แต่เป็นผู้ชมเท่านั้น หากยังมีฐานะเป็นแฟนคลับ เป็นผู้สืบค้น ผู้ชมสามารถค้นหาความจริงด้วยตัวเองได้ ดังนั้นดาราจึงจำเป็นต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น

ขณะที่กับผู้เสพข่าวบันเทิงอย่างออกรสออกชาติในยุคปัจจุบัน เขาเห็นว่า หลายครั้งความเห็นในโซเชียลมีเดียที่รุนแรงมีแต่จะกลับไปทำร้ายสังคมโดยรวมเองเสียมากกว่า

“เรื่องพวกนี้จริงๆเป็นเรื่องส่วนตัวของดารา สิ่งที่ควรระมัดระวังคือเรากำลังเสพข่าวประเภทนี้ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตมากนัก มันคือข่าวบันเทิงในรูปแบบหนึ่ง มันก็เหมือนดูหนัง ดูละครทั่วไป แต่ข้อที่เราควรเข้าใจคือ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวที่เรากำลังดูชีวิตจริง มันไม่เหมือนละครที่มีตัวอิจฉาขี้วีน มีนางเอกงี่เง่า มีตัวร้ายที่ไม่มีดีเลย

“เรามีความคิดเห็นกับละครได้เพราะมันเป็นเรื่องแต่ง แต่ที่เราต้องตระหนักเท่าทันกับการแสดงความเห็นเรื่องนี้ในพื้นที่สาธารณะก็เพราะนี่คือชีวิตจริงของผู้คน คำบางคำให้กำลังใจ แต่คำบางคำมันรุนแรงเกินไป เราต้องรู้เท่าทันที่จะแสดงอารมณ์ต่อเรื่องพวกนี้ ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วๆ ไปที่คนเราจะมีอุบัติเหตุในชีวิตความรักบ้าง ฉะนั้นอย่ากระโจนถาโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งมันจะเป็นการทำร้ายสังคมโดยรวมเข้าไปอีก”



ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์














Create Date : 11 มีนาคม 2557
Last Update : 11 มีนาคม 2557 9:36:46 น. 3 comments
Counter : 2040 Pageviews.  

 



โดย: ญามี่ วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:9:41:57 น.  

 
แวะมาอ่านข่าวค่ะน้องมี่
กำลังเป็นประเด็นที่น่าสนใจเลยนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Book Blog ดู Blog
ญามี่ Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: jamaica วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:18:09:16 น.  

 
ขอบคุณนะ ตามข่าวนี้เช่นกัน


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:10:44:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]