การเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วนของอดีตดาราสาว ภาวนา ชนะจิต มีเรื่องราว ปะทะ - ตอบโต้ กันระหว่าง ณัฐพงษ์ หลวงศิริกุล เพื่อนชายคนสนิทกับบรรดาพี่ๆน้องๆ ในตระกูล เหล่าแสงทอง ลำพัง ถ้าไม่มี ทรัพย์สิน มากขนาดนี้ คงไม่มีละครชีวิต ชวนให้ติดตามได้ขนาดนี้ !!
ใครที่เคยไปหาภาวนาที่บ้าน
ต่อให้มีความสนิทสนมกันสักเพียงใด เธอก็ไม่เคยแนะนำว่า เปรม หรือ ณัฐพงษ์ หลวงศิริกุลคือใคร มีความพิเศษอย่างไร บอกเพียงว่า เพื่อนร่วมธุรกิจ เท่านั้น เพื่อนฝูงมาที่บ้านจะกินเท่าไหร่ กินไป ไม่อั้น แต่อย่าเหลือ ถ้าเหลือก็จะเอาไปให้ลูกน้อง (สุนัข) สุนัขกินเหลือก็เอาไปเป็นอาหารปลาในบ่อต่อ คืนวันเสาร์ บ่อยครั้งที่เธอจะเดินอยู่ในย่านคลองถมเพื่อดูและหาซื้อของเก่า ภายในบ้านหลังนี้ มี ของเก่า มากมูลค่าสะสมอยู่เป็นอันมาก นอกจากรถโบราณที่เป็นข่าวแล้ว ยังมีตู้อีกหลายใบที่เธอล็อกปิดตายไว้ ยอมปล่อยให้ฝุ่นเกาะแน่น !!
หลายปีมานี้ รับรู้กันว่า ณัฐพงษ์ หลวงศิริกุล เป็นผู้จัดการในเรื่อง ธุรกรรมทางการเงิน ให้กับภาวนา ชนะจิต ทั้งสิ้น
ฉากละครชีวิตเข้มข้น เริ่มเปิดที่ลูกจ้างซึ่งดูแลร้านขายส้มโอ และอาหารการกินให้นายสาว ผิดสังเกตที่ไม่เห็นภาวนาลงมาจากห้องเหมือนทุกวัน ภายในห้องพัก ลูกจ้างพบว่า ห้องไม่ได้ล็อก พัดลมยังเปิดอยู่ ข้าวของทุกอย่างยังอยู่ครบเดินตามหาทั่วบริเวณแต่ไม่พบ ต่อมา...ได้โทร.บอก หัทยา ผู้เป็นน้องสาวของภาวนา ปกติบ้านหลังนี้ นอกจากคู่สามี - ภรรยาแล้ว ยังมีลูกน้องอีก 2 คนเท่านั้น ข่าวนี้ถูกส่งต่อด้วยความเป็นห่วงในหมู่ญาติ ความอลเวงเกิดขึ้นเมื่อคณะญาติและหน่วยกู้ภัยมาถึงที่บ้านและกำลังจะช่วยกันค้นหาผู้สูญหาย จังหวะนั้น ณัฐพงษ์กลับมาจากการไปดูแลธุรกิจนวดแผนโบราณที่ อ.สามพราน จ. นครปฐมพอดี เขาเชื่อว่า ฝ่ายญาติจะมาแย่งชิงสมบัติที่ได้ร่วมกันทำมากับภาวนา
ก็เลยไม่พอใจเกิดปากเสียงโต้เถียงกันวุ่นวายจ้าละหวั่น
จากปากคำของน้องชายภาวนา - สุขุม เหล่าแสงทอง
เมื่อนายณัฐพงษ์มาถึงก็รีบเดินเข้าไปในบ้านและหยิบกระเป๋าเอกสารต่างๆ เป็นทั้งโฉนดที่ดินและเอกสารของพี่สาวไป กลุ่มญาติเลยขวางไว้ ไม่ให้นำเอาอะไรออกไปจนกว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเสียก่อน แต่ณัฐพงษ์คว้ากระเป๋าไปได้ 1 ใบ ในช่วงการยื้อแย่งมีการชักปืนยิงขู่ขึ้นฟ้า 2 นัด บอกถ้าเข้ามาวุ่นวายต้องมีการตายเกิดขึ้นแน่ ทุกคนจำใจกลับบ้านทั้งที่ยังไม่ได้ค้นหาผู้สูญหาย พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมต้องรีบเอาของพวกนี้ออกไปแทนที่จะช่วยกันค้นหา ต่อมา...ณัฐพงษ์เป็นคนพบศพภาวนาในบ่อน้ำพุ เมื่อตอนตี 4 ฝ่ายญาติจึงติดใจในการตายของภาวนาว่า น่าจะถูกฆ่ามากกว่าอุบัติเหตุ !!
จากปากคำของณัฐพงษ์ เปิดเผยว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้วได้นำเงิน 10 ล้านบาทมาสร้างโรงแรมบนที่ดินผืนนี้ แต่ขึ้นได้แต่โครง สุดท้าย... ต้องทุบทิ้งทั้งหมด !! เขาบอกว่า ที่สร้างไม่เสร็จเหตุมาจากรัฐประหารเมื่อปี 2549 !? จากนั้นเลยเปลี่ยนจากโรงแรมหันมาจะเปิดเป็นร้านอาหาร, สปา และใช้เงินจากการขายที่ดินมาใช้จ่ายในการดำเนินงาน ขาดเงินก็หยุด มีเงินก็ทำต่อ
ปัญหาในกรณีนี้คือ สถานภาพ แม้จะรับรู้ว่าอยู่กินกับภาวนา แต่ไม่มีทะเบียนสมรส !! เอาเงินส่วนตัว หรือเอาเงินจากงานที่ทำร่วมกับภาวนามาลงทุนขยายผลต่อ
เพื่อนร่วมวงการบันเทิงท่านหนึ่งบอกว่า เมื่อใดที่ภาวนารับโทรศัพท์ของณัฐพงษ์บอกให้กลับบ้าน เธอจะคว้ากระเป๋ากลับทันที ไม่แน่ชัดว่า กลัว หรือ ยำเกรง !? ซึ่งค่อนข้างจะสอดคล้องกับคำพูดของน้องเขย - พันธ์ยศ รัชดาภรณ์วานิช ที่ว่า ปกติภาวนาเป็นคนขี้กลัวและหวาดระแวง เวลามีปากเสียงกับนายณัฐพงษ์จะเรียกพวกตนมาอยู่เป็นเพื่อนตลอด ขณะที่สามีของอดีตนางเอกสาวได้ให้การว่า ตนกับภาวนาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน !?
ฝ่ายญาติ และมิตรร่วมวงการต่างเชื่อว่า เรื่องนี้มีเงื่อนงำ
แต่ณัฐพงษ์ ยืนยันว่าการเสียชีวิตปัจจุบันทันด่วนของภาวนาเป็นอุบัติเหตุ สันนิษฐานว่า ภรรยาอาจจะลื่นไถลตกลงไปในบ่อน้ำเองเพราะอายุมากแล้ว และยังมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจทำให้วูบได้ หรือ ให้อาหารปลา เล่นกับสุนัขที่ชอบกระโดดเข้าตะกายจนเสียหลักพลัดตกบ่อน้ำ และเนื่องจากอายุมากแล้วจึงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
แต่เพื่อนร่วมวงการบอกว่า ภาวนา เป็นคนที่ชอบว่ายน้ำ รักษาหุ่นมาตั้งแต่สาวๆ จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่ตกน้ำแล้วจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อีกทั้งสระน้ำพุไม่ได้มีความลึกมาก แล้วยังมีประเด็นเรื่องมือกำตะกร้าไม่ปล่อยวางอีกต่างหาก
ณ วันนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลมากกว่า 70 % และผลสรุปเบื้องต้น ทางตำรวจเชื่อว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนพิสูจน์ผลทางวิทยาศาสตร์ จากชิ้นเนื้อและกระเพาะอาหารและกระแสเลือดนั้น ต้องรอผลตรวจอีกที
ด้านบุตรชายบุญธรรม - อภิชา เหล่าแสงทอง บอกว่าจะยื่นขอคำสั่งศาลเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลมรดก เอกสารต่างๆจะได้ไม่สูญหาย
เรื่องประกอบ
เด็กยกรีเฟลกซ์ คนแนะนำ ภาวนา สู่วงการ
เมื่อ ศิรินทิพย์ ศิริวรรณ พา ภาวนา ชนะจิต ออกงานสังคม ก็มักจะแนะนำว่า หลาน !! นี่เป็นการกลวิธีสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่นางเอกหน้าใหม่คนนี้ เรื่องราวของเธอ
เกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่งที่ รังสรรค์ ตันติวงศ์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์คุยอยู่กับ ประทีป โกมลภิส ถึงการหา นักแสดงหน้าใหม่ เนื่องจากดาราที่มีอยู่นั้นล้วนแต่เป็นหน้าเก่าๆ เล่นหนังมาแล้วทั้งสิ้น บังเอิญขณะที่คุยกันนั้น เด็กยกรีเฟลกซ์คนหนึ่งเดินผ่านมา แล้วบอกว่า เมื่อสักครู่เจออาหมวยหน้าตาดีคนหนึ่ง ยืนอยู่แถวป้ายรถเมล์ รังสรรค์ก็เลยให้ไปดูว่า เด็กหมวยคนนั้น ยังอยู่หรือเปล่าให้พามาพบ!!
ทันทีที่ได้พบเห็นหน้าตาของอาหมวยคนนั้น ภาพของเด็กสาวชื่อ โชติรส ในภาพยนตร์ แสงสูรย์ ก็ปรากฏตรงหน้า เพราะหน้าตา คาแรกเตอร์แบบนี้ ใช่เลย
ทุกอย่างดีสมบูรณ์หมด ยกเว้น เด็กหมวยฟันหน้าหลอไป 1 ซี่ รังสรรค์เป็นคนควักเงินให้คนพาไปหาหมอฟัน และนำกลับมาเทสต์หน้ากล้อง จากนั้นก็ทำให้ หมวยบ้านๆ คนหนึ่งมีที่มาที่ไป
ด้วยการเป็น หลานสาว ของศิรินทิพย์ ศิริวรรณ
อาหมวยคนนี้ มีชื่อเป็นภาษาจีนกลางว่า หลิวหลานอิง แต่อ่านออกเสียงกวางตุ้งตามพื้นเพของที่บ้านว่า หลิวหลานหยิน เรียกชื่อเล่นว่า หยิน ชื่อภาษาไทยก่อนเข้าวงการคือ อรัญญา เหล่าแสงทอง ซึ่งชื่อนี้ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น อรัญญาภรณ์ เธอเรียนภาษาจีนแมนดารินและกวางตุ้ง ที่โรงเรียนกวางเจา, จบม.6 ที่โรงเรียนทิพยศึกษา ก่อนเข้าวงการเริ่มทำงานเป็นเสมียนอยู่ที่อำเภอยานนาวา
เมื่อเธอไปบอกแจ้งแก่ทางบ้านว่า จะมาเป็นนักแสดง ทางบ้านคัดค้าน ไม่ยินยอม !! ในขณะที่เธอคิดว่า น่าจะเป็นอาชีพที่ทำรายได้ให้กับครอบครัวได้ เธอบอกกับทางบ้านว่า ได้เงินมาแล้วจะเปลี่ยนโทรทัศน์ขาว-ดำ เป็น โทรทัศน์สี ให้ แม่ถึงได้ยอม เงิน 10,000 บาท คือเงินก้อนแรกจากการแสดง แถมยังมีเงินเดือนให้อีก เดือนละ 500 บาท
ปี พ.ศ. 2503 เด็กสาววัย 18 ปีคนนี้ คว้ารางวัลผู้แสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม จากรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี จากภาพยนตร์เรื่อง แสงสูรย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ พระเอก - นางเอกคือ มิตร ชัยบัญชา - อมรา อัศวนนท์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2503 ที่ศาลาเฉลิมกรุง-เฉลิมบุรี ส่วนภาพยนตร์ที่เธอเล่นคู่กับ มิตร ชัยบัญชา เรื่องแรกในปีเดียวกันคือ ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเก้า ออกฉายเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2503 ที่ศาลาเฉลิมกรุง - เฉลิมบุรี
ภาวนา ชนะจิต ได้มีโอกาสเล่นภาพยนตร์กับพระเอกหลายคน เช่น มิตร ชัยบัญชา, ไชยา สุริยัน, สมบัติ เมทะนี, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, ลือชัย นฤนาท, อุเทน บุญยงค์, นาท ภูวนัย, กรุง ศรีวิไล, สรพงศ์ ชาตรี
แต่พระเอกคู่ขวัญของเธอคือ ยอดชาย เมฆสุวรรณ และภาพยนตร์ไทยที่โด่งดังมากของพระ - นางคู่นี้คือ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ในปี 2515 ในหนังเรื่องนี้ เธอสวมบทบาทของสาวแก่น นุ่งสั้นแบบ มินิสเกิร์ต
ฉายา ไข่มุกแห่งเอเชีย เนื่องจากเธอได้มีโอกาสร่วมแสดงหนังกับ บริษัทชอว์ บราเดอร์ ของฮ่องกง
ปี 2513 เรื่อง Duel of First (Quan Ji) แสดงนำโดย เดวิด เจียง,ตี้หลุง และเป็นหนังต่างประเทศเรื่องแรกๆที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับมวยไทย ในปีต่อมา พ.ศ. 2517 ภาวนา ชนะจิตและนาท ภูวนัย มีโอกาสเล่นหนังเรื่อง The King Boxer (Xiao quan wang) หรือชื่อไทยว่า หมัดสังหาร โดยร่วมแสดงกับ นักแสดงกังฟู - เมิ่งเฟย และดาราญี่ปุ่นชื่อ ยาซึอากิ คุราตะ ในปีต่อมาเรื่อง The Bloody Fight ทั้ง 2 ภาค
ปี 2516 หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ (ยอดชาย - ภาวนา) หนังเรื่องนี้ เป็นการร่วมทุนของไทยกับญี่ปุ่น
ปี 2518 เรื่อง Chun man Ba Di ya
หลังเล่นหนังเรื่อง Duel of First เธอมีโอกาสได้ร่วมงานกับเชิด ทรงศรี เรื่อง ความรัก(อุบัติเหตุ) และมีโอกาสไปถ่ายทำที่สหรัฐอเมริกา เจ้าของภัตตาคารจีนที่นั่น ตื่นเต้นมากและจำได้ว่า เธอเคยเล่นหนังกับเดวิด เจียง จนโด่งดังไปทั่วโลก จึงได้เลี้ยงอาหารให้กินฟรีกันทั้งกองถ่าย
เธอเป็นนางเอกคนแรกๆของเมืองไทยที่โฆษณาการอาบน้ำในอ่างด้วยฟองสบู่มากมาย
ภาวนา ชนะจิตมีผลงานการแสดงทั้งสิ้น ราว 200 เรื่อง และอำลาชีวิตนักแสดงโดยเด็ดขาดเมื่อปี 2523 เพราะต้องการรักษาภาพงามของ นางเอก ไว้ตลอดกาล
ทำไมถึงนับถือ เจ้าแม่นมสาว !?
บริเวณรูปปั้น เจ้าแม่นมสาว ซึ่งสามีให้การว่า เธอนิยมมาเซ่นสรวงกราบไหว้บนบานศาลกล่าวบูชาอยู่เป็นเนืองนิจ !! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เจ้าแม่นมสาว นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ผูกพันหรือเกี่ยวข้องกับภาวนา ชนะจิตได้อย่างไร
เจ้าแม่นมสาว คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ เกาะนมสาว อ. สามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่เธอให้ความเคารพและนับถือมาก ส่วนใหญ่ ของแก้บน ตามความเชื่อคือ ยกทรง !!
แล้ววันหนึ่งความศักดิ์สิทธิ์นี้ก็มาแจ้งประจักษ์แก่เธอเมื่อ 20 ปีก่อน
ครั้งนั้น เธอซื้อที่ดินในบริเวณ อ. ปราณบุรีไว้ผิด กล่าวคือ ที่ 2 ผืนแทนที่จะติดกัน กลับมีที่ดินของเจ้าของอีกคนหนึ่งคั่นกลางไว้ ทำให้ที่ดินของเธอไม่เรียงต่อกันอย่างสวยงาม เธอพยายามเจรจาเพื่อแลกที่ดินกับเจ้าของโดยจะเฉือนที่ดินในส่วนของเธอเพิ่มให้อีก 1 ไร่ แต่เจ้าของคนดังกล่าวไม่ยอม พื้นที่ 1 ไร่ที่เธอจะเฉือนให้ในคราวนั้น มีมูลค่าตกทอดถึงวันนี้ถึง 20 ล้านบาท !
เมื่อสิ้นหนทางไร้ทางออกจึงยกมือบนบานศาลกล่าวต่อ เจ้าแม่นมสาว ที่นับถืออยู่ว่า หากเจ้าของผู้นั้นยอมแลกที่ดินให้ก็จะสร้างรูปจำลององค์เจ้าแม่ไว้ที่ริมทะเลแห่งนั้นและจะนำ หนุ่มๆ มารำถวายเพื่อให้เป็นที่สำราญบานใจ !! เพราะตามตำนานพื้นเมืองของตาหม่องล่าย ระบุว่า วัยสาวของ แม่ยม (เจ้าแม่นมสาว)นั้น มีชายหนุ่มมาติดพันหลายคน เพราะการนับถือของเธอนั้นไม่ธรรมดา ภาวนา ชนะจิต ตีโจทย์แตก!! สามารถแกะ ทริก ที่ซ่อนอยู่ในตำนาน ล่วงรู้ สิ่งโปรดปราน อันลี้ลับ ! ปรากฏในเวลาต่อมาว่า เจ้าของที่ผืนนั้นกลับใจยอมแลกขายให้
พอเสมปรารถนา ภาวนาก็ทำลืมเฉไฉไม่ยอมทำตามที่ลั่นวาจาไว้ แต่แทนที่เจ้าแม่จะมาเข้าฝันเธอกลับไปเข้าฝันเหยียบหน้าอกแม่บ้านเมื่อตอนตี 5 แล้วลั่นวาจาถาม ค้างอะไรไว้ ไยไม่ดำเนินการ !? ทันทีที่แม่บ้านเล่าให้เธอฟัง เธอก็รีบดำเนินการโดยทันที ไม่ต้องรอให้เจ้าแม่มาเหยียบอกใครซ้ำสอง
เมื่อผูกพัน และประจักษ์แจ้งในความศักดิ์สิทธิ์ ชนิด ขอแล้วได้ ในสิ่งปรารถนา
เมื่อมาอยู่อาศัยที่บ้านปิ่นเกล้า - นครชัยศรี จึงได้สร้างรูปจำลองนี้ขึ้นอีก เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ บวงสรวง เซ่นไหว้บูชาทุกวันไม่เคยขาด
.................................
ที่มา นิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่154 วันที่ 15 - 21 กันยายน 2555
กับ เดวิด เจียง พระเอกจาก บริษัทชอว์ บราเดอร์ ของฮ่องกง
หมวยฟันหลอยืนป้ายรถเมล์ ชื่อ หลิวหลานหยิน อายุ 15 ปี ต่อมาคือ ภาวนา ชนะจิต
เจ้าแม่นมสาว ที่บ้านบนถนนปิ่นเกล้า นครชัยศรี ใกล้บริเวณ น้ำพุ ที่เกิดเหตุ
ศาลเจ้าแม่นมสาว ออริจินัล สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเกาะนมสาว อ.สามร้อยยอด จ. ประจวบคีรีขันธ์
ภาวนา ชนะจิต จาก นิตยสาร Volume
ข้อมูลโดย ผู้จัดการออนไลน์