กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
6 กันยายน 2554

Tea ...ชา ( 4 )











ชาเขียว


ชาเขียว (Green tea) .. ตอนนี้จะหันไปทางไหน จะเลือกซื้อสินค้าอุปโภคหรือบริโภค ทุกท่านก็คงจะเห็น ว่ามีชาเขียวเป็นส่วนประกอบในหลายๆผลิตภัณฑ์ จน ต้องตกใจว่าสินค้าบางอย่างจำเป็นต้องมีชาเขียวด้วยหรือ โดยเฉพาะในปัจจุบันผู้อ่านทุกท่านคงไม่ปฏิเสธว่ามีการ ตื่นตัวในการหันมาดูแลสุขภาพกันอย่างกว้างขวาง ชาเขียวก็เป็นหนึ่งในเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ได้รับความ สนใจมากในยุคนี้ ถ้าจะถามว่าเครื่องดื่มที่คนนิยมดื่ม กันมากที่สุดคืออะไร ท่านอาจคิดว่าคือกาแฟ แต่ จริงๆแล้วเครื่องดื่มที่มีผู้นิยมดื่มมากที่สุดรองจากน้ำก็คือ ชา ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นรู้จักการดื่มชา และมีการบันทึก ถึงประโยชน์ของการดื่มชามานานนับพันปีแล้ว ชาที่ นิยมดื่มในปัจจุบันแบ่งตามกรรมวิธีการผลิตได้เป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ คือ ชาดำ ชาอูหลง และชาเขียว แต่ชา ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดก็คือ ชาเขียว ท่าน เชื่อหรือไม่

ต้นชา มีชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า Camellia Sinensis มีสองสายพันธ์หลัก คือ ชาจีน ที่มีใบค่อน ข้างเล็ก นิยมปลูกในประเทศจีน ญี่ปุ่น รวมทั้ง ประเทศไทย และชาอัสสัมที่มีใบใหญ่กว่า นิยมปลูก ในอินเดีย ศรีลังกา ชาที่ใช้ในการบริโภคส่วนมากจะเป็น ต้นชาที่ปลูกบนพื้นที่สูง มีอากาศเย็น มีความชื้นและ อุณหภูมิที่เหมาะสม ใบชาที่มีคุณภาพดีจะเป็นส่วนของ ยอดอ่อนของต้นชา และใบอ่อนสองใบแรกเท่านั้น ใบชา จากต้นเดียวกันสามารถนำมาผลิตชาได้ทั้ง 3 ชนิดแตก ต่างกันที่กรรมวิธีในการผลิต

ชาดำ (Black tea) เป็นชาที่ผ่านขบวนการหมัก (fermentation)แบบเต็มรูปแบบ โดยหลังจากเก็บใบชา จะนำมากองไว้เพื่อให้เกิดการหมัก จะมีการบดหรือขยี้ ใบชาเพื่อช่วยเร่งการหมักให้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิด ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (oxidation) ของสารสำคัญในใบชา เมื่อ หมักจนได้ที่ตามที่ต้องการแล้ว ก็จะนำไปทำให้แห้ง ใบชาจะ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม น้ำชา จึงมีสีเข้ม และมีกลิ่นรสเข้มข้น เนื่องจากผ่านขบวนการหมักซึ่ง ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น จึงทำให้ใบชาสูญเสียสารอาหารที่สำคัญไป ประโยชน์ ที่ได้รับจากการดื่มชาดำ จึงน้อยลงไปด้วยชาอู่หลง (Oolong tea) เป็นชาที่มีขบวนการ ผลิตเหมือนชาดำ แต่ผ่านกระบวนการหมัก เพียงบาง ส่วน โดยใช้ระยะเวลาสั้นกว่า ชาจะมีกลิ่นหอม รสชาติชุ่มคอ


ชาเขียว (Green tea) เป็นชาที่ไม่ผ่านขั้น ตอนการหมัก ทำให้ไม่สูญเสียองค์ประกอบที่มี ประโยชน์ต่อสุขภาพไปในระหว่างการผลิตเหมือนชาดำ หรือชาอู่หลง ชาเขียวได้จากการทำให้ใบชาแห้งที่ อุณหภมิสูงอย่างรวดเร็ว จึงให้ใบชาแห้งยังคงมีสีเขียว และมีคุณภาพเช่นเดียวกับใบชาสด ซึ่งเมื่อชงน้ำร้อน แล้วจะได้น้ำชาสีเขียวอ่อน กลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติ นุ่มนวล ชาเขียวมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ชาเขียวแบบ ญี่ปุ่นและชาเขียวแบบจีน ซึ่งแตกต่างกันตรงที่ชาเขียว แบบจีนจะมีการคั่วด้วยกระทะร้อน แต่ชาเขียวแบบ ญี่ปุ่นจะผ่านการให้ความร้อนด้วยไอน้ำ ส่วนชาขาวเป็นใบชาที่ได้จากการเลือกเก็บเฉพาะยอดอ่อนที่มีขนสีขาว ปกคลุมอยู่ ก่อนจะนำมาผ่านกรรมวิธีเดียวกับชาเขียว ชาขาวจะมีคาเฟอีนน้อยที่สุด

ชาเขียวมีส่วนประกอบของสารเคมีที่สำคัญ เช่น

1.กาเฟอีน (caffeine) ซึ่งมีอยู่ในชาเขียว ประมาณร้อยละ 2.5 โดยน้ำหนัก เป็นสารกระตุ้นอย่าง อ่อน มีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางเพิ่ม การเผาผลาญ เพิ่มการทำงานของหัวใจและไต มีฤทธิ์ ขับปัสสาวะ เด็กๆและผู้ป่วยโรคหัวใจไม่ควรดื่มชา เนื่องจากกาเฟอีนมีคุณสมบัติในการกระตุ้นประสาท และการทำงานของหัวใจ ถ้าต้องการดื่มควรเป็นชา ที่สะกัดกาเฟอีนออกแล้ว

2.สารแคซิทิน (catechins) เป็นสารฟลาโว- นอยด์ (flavonoids) ที่พบมากในชาเขียว อยู่ในกลุ่มสาร ประกอบโพลีฟีนอล (polyphenols) พบอยู่ในชาเขียว ร้อยละ 30-35 โดยน้ำหนัก มีคุณสมบัติเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากชาเขียว

ไม่ผ่านขบวนการ หมักจึงยังคงรักษาสารสำคัญไว้ได้ในปริมาณสูง สาร แคซิทินมีหลายชนิด แต่พบว่ามีปริมาณ epigallo- catechin-3-gallate (EGCG) มากที่สุดและมีฤทธิ์ต้าน อนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและวิตามินอีถึง 25-100 เท่า นอกจากนี้ใบชาเขียวยังประกอบไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กรดอะมิโน วิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี และฟลูออไรด์

ปัจจุบันมีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับชาเขียว ออกมามากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นประโยชน์ของชาเขียว มากมายที่ได้รับจากการบริโภค เช่น
- ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งใน ส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะสาร EGCG ในชาเขียวมี ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ในปีค.ศ. 1970 ได้มีการศึกษา ทางระบาดวิทยาในประเทศญี่ปุ่นที่เมืองชิสุโอกะซึ่ง ประชากรมีอาชีพปลูกชาและมีการบริโภคชาเขียว ในปริมาณที่สูง พบว่ามีอัตราการเกิดมะเร็งกระเพาะ อาหารต่ำกว่าเมืองอื่นๆ

- ช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และ โรคหัวใจ ช่วยควบคุมระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด ควบคุมความดันเลือด และระดับน้ำตาลในเลือด

ชาเขียวสามารถช่วยป้องกันฟันผุได้ เนื่องจาก ชาเขียวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียใน ช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการดื่มชา เขียวหลังมื้ออาหารสามารถช่วยป้องกันฟันผุได้ นอกจากนี้สารฟูลออไรด์ที่พบในชาเขียวเป็นแร่ธาตุ สำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

- ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย เนื่องจากใน ชาเขียวพบมีสารแทนนิน (tannin) เป็นสารที่มีรสฝาด ที่ใช้บรรเทาอาการท้องเสียได้ แต่เวลาชงชาต้องทิ้ง ใบชาค้างไว้นานกว่าปกติเพื่อให้ปริมาณสารแทนนิน ออกมามาก

แล้วประโยชน์ของชาเขียวต่อผิวหนังของ เราละครับ ผู้อ่านหลายท่านอาจเคยได้ยิน หรือเคย ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวที่มีส่วนผสมของชาเขียว เช่น โฟมล้างหน้า มาคส์หน้า แล้วมันได้ประโยชน์จริงหรือไม่ จากรายงานการวิจัยในห้องทดลองพบว่าสารสกัดจาก ชาเขียว โดยเฉพาะสาร EGCG มีฤทธิ์ต้านอนุมูล อิสระสูง สามารถช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ผิวหนัง ของเรา จากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดดหรือสารพิษ และลดอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนัง การอักเสบของ ผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการเจริญของเซลผิวหนังซึ่งมีผลต่อ การหายของบาดแผล นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดจาก ชาเขียวยังมีฤทธิ์ในการป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นที่เกิดจาก แสงแดด และมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย แต่ผู้อ่านทุก ท่านคงต้องอดใจรอก่อน เนื่องจากการใช้สารสกัด ชาเขียวในรูปของการทาเฉพาะที่ยังอยู่ในระหว่าง การศึกษาถึงประสิทธิภาพในการซึมผ่านของสาร ลงสู่ผิวหนังและความคงตัวของสารอยู่ครับ ตอนนี้คง ต้องดื่มชาเขียวไปก่อน

จะเห็นว่าประโยชน์ของชาเขียวมีมากมาย แต่การดื่มชาเขียวก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน หากดื่มชาเขียวมากเกินไปสารกาเฟอีนอาจมีผลทำ ให้ใจสั่น นอนไม่หลับ ชาเขียวมีผลยับยั้งการดูดซึม วิตามิน B1 และธาตุเหล็ก ดังนั้นผู้ที่มีภาวะโลหิตจางจึงไม่ควรดื่มชาเขียวมากเกินไป การดื่มชาเขียวที่ชง ทิ้งไว้นานๆหรือเข้มข้นเกินไป ปริมาณสารแทนนินในชา อาจทำให้ท้องอืดหรือท้องผูกได้

กระแสการดื่มเครื่องดื่มชาเขียวที่มีออกวาง จำหน่ายในท้องตลาดมากมายหลายยี่ห้อในขณะนี้ ผู้อ่านทุกท่านคงต้องพิจารณาถึงประโยชน์ที่จะได้รับ จากการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ก่อนที่จะบริโภคนะครับ เนื่องจากมักมีส่วนผสมของน้ำตาล ก็คงไม่ต่างกับการ ดื่มน้ำหวานสักขวด แทนที่จะได้ประโยชน์จากชาเขียว อาจได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาแทน

เลือกเครื่องดื่มชาเขียวประเภทที่ไม่มีน้ำตาลผสมจะดีกว่า หรือลอง หันมาชงชาด้วยตนเอง นอกจากได้อรรถรสของการ ชงชาแล้ว ยังได้รับประโยชน์จากชาเขียวอย่างเต็ม ที่ด้วยครับ แต่ทั้งนี้การดื่มชาเขียวก็ควรดื่มในปริมาณ ที่เหมาะสมจึงจะได้คุณประโยชน์อย่างเต็มที่ และอย่า ลืมทานอาหาร ที่มีประโยชน์ให้ครบทั้งห้าหมู่ ออกกำลัง- กายพักผ่อนให้เพียงพอ

ชาเขียวคงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วย ดับกระหาย ให้ความสดชื่นไปพร้อมกับสุขภาพที่ดี และผิวพรรณที่ดีจากประโยชน์ของชาเขียว

เรื่องจากอินเตอร์เน็ต














Create Date : 06 กันยายน 2554
Last Update : 6 กันยายน 2554 21:34:17 น. 1 comments
Counter : 1708 Pageviews.  

 
°o.Oญามี่O.o°
(◡‿◡✿)มาเจิมค่ะ(◕‿◕✿)
•:*´¨`*:•.☆❤`•.¸¸.•´´¯`
__000000___00000
_00000000_0000000
_0000000000000000
__00000.ญามี่.00000
____00000000000
_______00000
_________0
________*__000000___00000
_______*__00000000_0000000
______*___0000000000000000
______*____00000.ญามี่.00000
_______*_____00000000000
________*_______00000
_________*________0
¸.♥´¸.♥´¨) ¸.♥*¨) ◕‿◕✿
(¸.♥´ (¸.♥´ (¸.♥´¯`***ღ


โดย: ญามี่ วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:21:36:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]