<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
23 ตุลาคม 2554

ย้อนรอยน้ำท่วมกรุงเทพฯจากอดีตถึงปัจจุบัน...








ความหวังใหม่









หนาวและเหงาคลื่นน้ำมาล้ำไหล
โอมทวยเทพท้าวไท้ผู้ใหญ่ยิ่ง
ประทานเถิดประทานผสานพิง
ให้ทุกสิ่งกลับคืนอย่าฝืนลา

หมอกโอบไอความเปลี่ยวเที่ยวเลี้ยวลัด
ในป่าชัฏพืชพักมอดรักษา
คำนึงขมขยายเข้ากรายอุรา
สุดสายตาเวิ้งว่างกระจ่างยล

โอมทวยเทพเวหาเทวานาถ
อนุญาติขาดเหลือมาเกื้อผล
โปรดการุญชนชั้นขมขั้นวน
ไร้ถนนพิพัฒน์ผลยากพ้นลาญ

เมื่อเดือนแจ่มเมฆรอมาคลอขัง
ไร้ชัชวาลมืดบังยากนั่งขาน
จะเอื้อนอรรถกล่าวใดก็ใช่การ
ขอเทพนั้นประทานบุญทานใจ

เร้นรอยกังวลรางอยู่กลางห้วง
สิ่งทั้งปวงอยากกอดเหมือนมอดไหม้
ทรวงบอบช้ำโปรดรู้หดหู่ไกล
ขอเทวาไท้โปรดสดับกับคับเคือง

เพื่อโลกาบรรเทาจากเศร้าหมอง
โปรดประทานคุ้มครองครรลองเรื่อง
ให้สุกใสไพฑูรย์จำรูญเรือง
สะอื้นเมืองจบลงหมดหลงพลัน

โดย......ญามี่///...









ณ วันนี้เวลานี้ฉันเชื่อว่าชาวกทม.ส่วนใหญ่คงเตรียมอพยพ กั้นกระสอบทราย ก่อคันปูน ขนย้ายข้าวของหนีน้ำท่วม ที่ตอนนี้ได้เริ่มไหลบ่ามาท่วมถนนพระอาทิตย์หน้าออฟฟิศของฉันแล้ว

งานนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงกึ๋นของรัฐบาลที่บ้อท่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกับศปภ.ที่มักจะออกมาให้ข่าวทำประชาชนสับสนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสุดท้ายแล้วประชาชนตาดำๆอย่างเราๆท่านๆคงต้องพึ่งตัวเองเป็นดีที่สุด ต้องมีสติ ตื่นตัว แต่ไม่ตื่นตระหนก เพราะวันนี้แม้จะอยู่ในกรุงเทพฯก็มีความเสี่ยงต่อน้ำท่วมไม่แพ้กัน


น้ำท่วมบริเวณพระรูปทรงม้า(23 ต.ค. 2485)



อย่างไรก็ตามหากมองจากลักษณะทางกายภาพของกรุงเทพฯ ที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระ กอปรกับเป็นบริเวณที่ถูกน้ำทะเลหนุน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจุดที่มีร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้นับตั้งแต่ตั้งเมืองบางกอกหรือกรุงเทพมหานครขึ้นเป็นเมืองหลวงแห่งสยามประเทศเมื่อ 200 กว่าปีที่แล้ว กรุงเทพฯได้ผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมมาหลายครั้งหลายคราด้วยกัน

แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์น้ำท่วมในอดีตดูจะแตกต่างจากเหตุน้ำในวันนี้อย่างสิ้นเชิง เพราะในอดีตกรุงเทพฯยังเป็นเมืองที่มากมายไปด้วยแม่น้ำลำคลอง วิถีชีวิตของผู้คนผูกพันกับสายน้ำทั้งการเกษตร การสัญจร มีการใช้เรือเป็นหลักในการสัญจรไปมาและติดต่อค้าขาย




น้ำท่วมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย(12 ต.ค. 2485)


ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้กรุงเทพฯมีลักษณะของความเป็น“เมืองน้ำ” จนต่างชาติยกให้กรุงเทพฯเป็นดัง “เวนิสตะวันออก” แต่เมื่อบ้านเมืองเจริญ(ทางวัตถุ)ขึ้น ผู้คนหันไปเดินตามวิถีตะวันตกมากขึ้น วิถีชีวิตของชาวกรุงเทพฯก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เปลี่ยนจากวิถีเมืองน้ำมาเป็นวิถี“เมืองบก” ที่ยังคงอยู่ในพื้นที่รับน้ำเช่นเดิม นั่นจึงทำให้ให้บริบทของเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯมีความแตกต่างกันออกไปตามยุคสมัย

สำหรับเหตุน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯนั้น จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า ได้เกิดขึ้นในทุกรัชกาล โดยมีการบันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯครั้งแรกในสมัยพระปฐมบรมราชจักรีวงศ์ ได้แก่



น้ำท่วมบริเวณสนามหลวง(13 ต.ค. 2485)


สมัยรัชกาลที่ 1 : พ.ศ.2328 ระดับน้ำที่ท้องสนามหลวงสูงถึง 8 ศอก 10 นิ้ว วัดปริมาณน้ำภายในพระบรมมหาราชวังบริเวณพื้นท้องพระโรงพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานได้ถึง 4 ศอก 8 นิ้ว
สมัยรัชกาลที่ 2 : วันที่ 28 ต.ค. 2362 ส่งผลให้เกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง
สมัยรัชกาลที่ 3 : วันที่ 4 พ.ย. 2374 น้ำท่วมกรุงเทพทั่วพระนคร และมากกว่าปี 2328
สมัยรัชกาลที่ 4 : เกิดน้ำท่วมใหญ่ 2 ครั้ง วันที่ 25 พ.ย. 2402 และ วันที่ 1 พ.ย. 2410
สมัยรัชกาลที่ 5 : วันที่ 13 พ.ย. 2422 น้ำท่วมสูงถึงขอบประตูพิมานไชยศรี(ประตูทิศเหนือ พระบรมมหาราชวัง)
สมัยรัชกาลที่ 6 : พ.ศ. 2460 น้ำท่วมไปถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ถึงขั้นมีการแข่งเรือได้
สมัยรัชกาลที่ 8 : เกิดน้ำท่วมนานถึง 2 เดือน ปริมาณน้ำมากกว่าเมื่อปี 2460 เกือบเท่าตัว และในปี 2485 ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน น้ำท่วมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า สูงถึง 1.50 ม. และท่วมนานถึง 3 เดือน รวมถึงพื้นที่สำคัญๆอีกหลายแห่งเช่น สถานีรถไฟหัวลำโพง ถ.เยาวราช อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภูเขาทอง ถ.ราชดำเนิน อนุสาวรย์ชัยสมรภูมิ พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นต้น นับเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่อย่างเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อมากักเก็บน้ำ




น้ำท่วมบริเวณอนุสาวรีย์ชัย(14 ต.ค. 2485)


มาในสมัยรัชกาลปัจจุบัน น้ำท่วมยังคงเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง

ในพ.ศ.2518 : พายุดีเปรสชั่นได้พาดผ่านตอนบนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำสูงทางภาคกลางตอนบน จนเป็นเหตุให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมกรุงเทพฯ

พ.ศ.2521 : พายุลูกใหญ่ 2 ลูก คือ "เบส" และ "คิท" ได้พาดผ่านพื้นที่ตอนบนลุ่มน้ำปริมาณสูง รวมไปถึงปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลบ่าเข้าท่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯถูกน้ำท่วมไปโดยปริยาย




น้ำท่วมบริเวณหัวลำโพง(17 ต.ค. 2485)


พ.ศ.2523 : ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ทวีระดับความสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ 2.00 ม. ระดับน้ำสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2 ม. ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯถึง 4 วัน 4 คืน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่

พ.ศ.2526 : พายุหลายลูกพัดผ่านเข้าภาคเหนือ และภาคกลางในช่วงก.ย. - ต.ค. ทำให้น้ำท่วมในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งวัดปริมาณฝนตลอดทั้งปีได้ 2,119 มม. จากค่าฝนเกณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 มม. ส่งผลให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯและปริมณฑล น้ำท่วมเป็นเวลานานที่สุดถึง 4 เดือน



ผู้คนในนวนครอพยพหลังน้ำเข้าท่วมหนัก(18 ต.ค. 54)


พ.ศ.2529 : ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันที่กรุงเทพฯในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะที่เขตราษฎร์บูรณะ ถ.วิภาวดีตั้งแต่ช่วงสะพานลอยเกษตรเข้าไป ย่านถ.สุขุมวิท ย่านรามคำแหง ย่านบางนา ทำให้การจราจรติดขัดมาก แต่อย่างไรก็ดีในครั้งนั้นอยู่ในช่วงที่น้ำทะเลไม่ได้หนุน ทำให้มีการระบายน้ำออกเป็นไปอย่างรวดเร็ว

พ.ศ.2533 : เดือนตุลาคม พายุโซนร้อน "อีรา" และ "โลล่า" ได้พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้ฝนตกหนักที่กรุงเทพฯถึง 617 มม. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30-60 ซม. ในหลายพื้นที่ ทั้งบริเวณเขตมีนบุรี, หนองจอก, บางเขน, ดอนเมือง, บางกะปิ, พระโขนง, ลาดกระบัง, ลาดพร้าว, บึงกุ่ม และปริมณฑล โดยน้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน



น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสวนสันติฯมองดูคล้ายทะเล(19 ต.ค. 54)


พ.ศ.2537 : พายุฝนฤดูร้อน ถล่มกรุงเทพฯและปริมณฑล ในเดือนพฤษภาคม โดยเฉลี่ยในทั่วเขตกรุงเทพฯมีปริมาณน้ำฝน 200 มม. ถือว่ามากที่สุดในประวัติการณ์ จนเรียกได้ว่าเป็น “ฝนพันปี” ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันที่บริเวณถ.จันทร์ เขตยานนาวา ถ.พหลโยธิน ตั้งแต่ย่านสะพานควาย ถ.ประดิพัทธ์ สวนจตุจักร ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซ.สุทธิสารตลอดทั้งซอย รวมไปถึงถ.วิภาวดีรังสิตและรัชดาภิเษก ถ.ลาดพร้าว ถ.สุขุมวิท ตั้งแต่ย่านพระโขนง จนถึงอ.สำโรง สมุทรปราการ ส่วนถ.สาธร โดยเฉพาะซ.เซ็นต์หลุยส์ มีน้ำท่วมขังมากที่สุดประมาณ 50 ซม. ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต เกิดไฟฟ้าดับหลายจุด สร้างความเดือดร้อนทั่วทุกพื้นที่

พ.ศ.2538 : เกิดน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง โดยพายุหลายลูกได้พัดผ่านทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพายุโอลิส ที่ถล่มกระหน่ำทำให้เกิดในตกหนักอย่างต่อเนื่องหลายวัน วัดปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวันที่เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ได้สูงถึง 2.27 ม. เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (เท่าน้ำท่วมปี 2485) ทำให้คันกั้นน้ำริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งธนบุรีระดับความสูงถึง 1 ม. รวมระยะเวลาน้ำท่วมประมาณ 2 เดือน การคมนาคมเป็นไปอย่างยากลำบากต้องอาศัยเรือในการเดินทาง เพราะเกือบจะทั่วทุกพื้นที่กลายเป็นคลองไปหมด อีกทั้งยังมีน้ำเหนือหลากเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดโดยรอบอีกด้วย



ระดับน้ำบริเวณถ.วิภาวดีหน้าห้างฟิวเจอร์ (18 ต.ค. 54)



พ.ศ.2539 : มีฝนตกหนักในภาคเหนือ และภาคกลาง ในช่วง พ.ย.ทำให้ระดับน้ำสูงล้นแนวป้องกันน้ำท่วมเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำฝั่งธนบุรี บริเวณ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ถ.เจริญนคร ฝั่งพระนคร บริเวณ ถ.สามเสน ถ.พระอาทิตย์ ซึ่งน้ำได้ท่วมขังกินระยะเวลานาน 2 เดือน

พ.ศ.2549 : เกิดอุทกภัยใน 47 จังหวัด ทั่วประเทศ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีสภาพน้ำท่วมขัง ประกอบกับมีการผันน้ำเข้าเก็บกักเอาไว้ในพื้นที่ว่างเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำ ท่วมโดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรในหลายจังหวัดภาคกลาง แต่เมื่อจังหวัดนั้นๆไม่สามารถรับนํ้าได้ไหว นํ้าจึงไหลเข้าท่วมขังที่กรุงเทพฯ เกือบ 1 ม. นานกว่าสัปดาห์

และในพ.ศ.2554 นี้ ถึงแม้ว่าน้ำจะยังไม่ทะลักเข้าท่วมกรุงเทพฯ แต่มีความเป็นไปได้สูงว่ากรุงเทพฯจะประสบปัญหาน้ำท่วม และอาจรุนแรงเทียบเท่าปี 2538 เลยก็ว่าได้ เพราะพื้นที่โดยรอบกรุงเวลานี้ได้จมอยู่ใต้น้ำกันหมดแล้ว เราๆชาวกรุงก็ต้องลุ้นกับอย่างอกสั่นขวัญแขวนกันว่ารัฐบาลชุดนี้จะจัดการกับวิกฤตอุทกภัยนี้อย่างไร อย่าดีแต่แถลงข่าวสร้างความสับสนให้ประชาชน จนประชาชนชาวไซเบอร์ต้องออกมาบอกว่า “รัฐบาลอย่าตกใจ ขอให้มีสติ ประชาชนจะดูแลท่านเอง!!”



ถนนกลายเป็นที่สัญจรทั้งรถและเรือในย่านบางบัวทอง(19 ต.ค. 54)



ข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(18 ต.ค. 54) มีผู้เสียชีวิต 315 ราย สูญหาย 3 คน กระทบ 62 จังหวัด 621 อําเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2,742,310 ครัวเรือน 8,795,516 คน

สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ โดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ในวันนี้ (19 ต.ค. 54) น้ำขึ้น 2 ครั้ง ในเวลา 13.02 น. คาดว่าจะสูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.03 ม. และในเวลา 20.19 น. คาดว่าจะสูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.96 ม. และจากปริมาณการระบายน้ำในปัจจุบัน คาดว่าในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงในวันที่ 27-30 ต.ค. 54 จะสูงกว่าระดับทะเลปานกลางประมาณ 2.30-2.35 ม. ซึ่งระดับน้ำยังคงต่ำกว่าสันเขื่อนกันน้ำกรุงเทพมหานคร ซึ่งสูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.50 ม.

HotLine สายด่วนน้ำท่วม
สำนักนายกรัฐมนตรี โทร.1111
สายด่วน ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย) โทร.1784
บริการแพทย์ฉุกเฉิน และนำส่งโรงพยาบาล ฟรี โทร.1669
ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท โทร.1146
ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โทร.1193
การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690
สายด่วน กฟภ. โทร.1129
ท่าอากาศยานไทย โทร.0-2535-1111
ศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ โทร.0-2243-6956

หมายเหตุ : ภาพน้ำท่วมในอดีตจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

เรื่องโดย หนุ่มลูกทุ่ง





น้ำทะลักท่วมถ.พระอาทิตย์(19 ต.ค. 54)










Create Date : 23 ตุลาคม 2554
Last Update : 23 ตุลาคม 2554 15:55:05 น. 55 comments
Counter : 4560 Pageviews.  

 


สวัสดีค่ะ มีความสุขในวันหยุดมากๆนะคะ


โดย: ญามี่ วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:16:01:45 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะคุณมี่ ขอบคุณเนื้อหาที่นำมาเผยแพร่ให้ทราบนะคะ มีประโยชน์มากเลยค่ะ กิ่งโหวตให้แล้วนะคะ ความรู้ทั่วไปค่ะ

ขอให้บ้านคุณมี่รอดปลอดภัยจากน้ำท่วมนะคะ และขอให้น้ำลดลงเร็วๆนะคะ กิ่งดูข่าวที่พี่น้องถึงกับทะเลาะกันแล้วเศร้าใจจังค่ะ

ส่งกำลังใจให้คุณมี่นะคะ

รูปสวย น่ารัก glitter emoticon //www.yenta4.com




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:17:33:17 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
--------------------------------
หายๆโผล่ๆอย่าว่ากันนะคะ น้ำขึ้นอีกแล้ว เหนื่อยใจจัง แต่ที่กั้นเอาไว้น้ำยังไม่เข้าบ้าน แค่ซึมเล็กน้อย แต่สงสารคนกรุงเทพฯเหลือเกิน วันนี้ดูข่าวจระเข้อาละวาดแถวบางบัวทอง ชาวบ้านต้องหวาดผวา เมื่อไรจะกลับคืนสู่ปกติเสียที ประเทศไทยคงบอบช้ำมากๆ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอมานะคะน้องมี่
-----------------------------
ญามี่ Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: เกศสุริยง วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:20:13:14 น.  

 
ดีจังคะน้องมี่ ได้ดูย้อนรอยน้ำท่วม มีบางช่วงเวลาที่พี่อรไม่ได้อยู่เมืองไทยก็เลยได้โอกาสมาดูสภาพจาก blog น้องมี่แทนคะ
น้องมี่เป็นงัยบ้าง สบายดีนะคะ
พี่อรไม่ค่อยจะได้แวะเท่าไหร่นัก แต่ที่ระถึงเสมอๆ เพื่อนๆที่พี่อรมีตั้งแต่เล่นblog จะลืมไม่ได้ก็น้องมี่แน่นอนเลยคะ ไม่งั้นคงจะยังเล่นไม่เป็นจนถึงวันนี้แน่ๆคะ
คิดถึงน้องมี่เสมอนะคะ


โดย: cengorn วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:20:21:37 น.  

 
สวัสดีจ๊ะ
วันนี้ห่อรถแล้วจ๊ะ
ขนของหนีน้ำซะหลายวันจ๊ะ
แบกตู้เย็น เครื่องซักผ้า ซะปวดหลังเลย คอมก็มาเสียอีกพึ่งจะซ่อมเสร็จ
ตอนนี้น้ำใกล้เข้ามาแล้วจ้า จ่อคอหอยเหลืออีก 6-7 โล จะมาถึงบ้านแล้วจ้า


โดย: multiple วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:20:46:22 น.  

 


โดย: ก้อนเงิน วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:21:08:13 น.  

 

ขอบใจที่นำมาฝากจ้าน้องมี่
แหล่ม


โดย: อุ้มสี วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:21:52:03 น.  

 


มาราตรีสวัสดิ์ครับ
ขอให้ความเดือดร้อนนี้ผ่านพ้นไปเร็วไว


โดย: krittut_48 วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:22:13:56 น.  

 

นิทานก่อนนอน....หม้อสองใบ
ครั้งหนึ่ง มีหม้อสองใบถูกทิ้งไว้ที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง
ใบหนึ่งทำจากทองเหลือง ส่วนอีกใบทำจากดินเผา
พอระดับน้ำขึ้นสูง หม้อทั้งสองใบก็ถูกพัดลอยลงไป
ในกระแสน้ำ ตอนนี้เองหม้อดินได้พยายามที่จะรักษา
ระยะห่างจากหม้อทองเหลืองอย่างเต็มที่ แม้ว่าหม้อ
ทองเหลืองจะร้องตะโกนว่า
“ไม่ต้องกลัวหรอกเพื่อนเอ๋ย ข้าจะไม่กระแทกเจ้าหรอก”
“แต่ข้าอาจเข้าไปใกล้เจ้าได้” หม้ออีกใบตอบ
“ถ้าข้าเข้าใกล้เจ้ามากเกินไป ไม่ว่าเจ้ากระแทกข้า หรือข้ากระแทกเจ้า ข้าก็มีแต่จะพังเท่านั้น”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"ความแข็งแกร่งและความอ่อนแอไม่อาจร่วมทางกันได้

(คัดลอกจากอินเตอร์เนท)


โดย: พันคม วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:22:54:49 น.  

 
ไม่ได้มาเยี่ยมซะนานเหมือนกัน

ที่ไม่ได้มาเยี่ยม ก็เพราะ...
บางทีมันก็เขียนอะไรไม่ออกน่ะ น้องมี่
ที่พอจะเกิดแรงบัดาลใจ get บทกวีได้มั่ง ก็มีกับคุณพันวัตต์คนเดียว

ตอนนี้บ้าทำกับข้าวอยู่น่ะ ซึ่งก็....สนุกดี
เป็นศาสตร์และศิลป์อีกรูปแบบนึง ที่ไม่ค่อยจะมีใครเชื่อว่ากรรมกรจะทำได้
พอเค้าได้ชิมผลงานจากมือกรรมกรจริงๆแล้วนั่นแหล่ะ เค้าถึงได้เข้าใจว่า

เออ.... มันเก๊าะทำเป็นนี่หว่า ขอเพิ่มอีกจานหน่อยนะเพื่อน ฮ่าฮ่าฮ่า......

งั้น....
มาถึงบ้านอาจารย์น้อยแล้ว มันก็ต้องแจมด้วยหน่อยสินะ เดี๋ยวเสียมารยาทน่ะ

ไอน้ำเยียบ เน้นย้ำ ให้ร่ำหา
กาลเวลา เวียนล่วง ห้วงละหาน
ผืนดินแห้ง ดำหาย ใต้ชลธาร
แล้งเปลี่ยนผ่าน แปรผัน มหันตภัย

น้ำกริ้วโกรธ เกรี้ยวกราด ซัดสาดโถม
วายุโหม ย้ำหอบ กอบมาดหมาย
กวาดสรรพสิ่ง สาปส่ง ปลงวอดวาย
ประหนึ่งคล้าย หน่าย"คน" ปล้นพฤกษ์ไพร ๚ะ๛

แจมได้แค่นี้แหล่ะ ไม่ว่ากันนะ
ไปแล๊ะ...

นอนหลับฝันดีนะ อาจารย์น้อย




โดย: เปลวอัคคี วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:23:48:48 น.  

 

มาดูภาพอดีตจนถึงปัจจุบัน
ที่ไม่ต่างกันก็คือน้ำท่วมเหมือนกัน
และเดือดร้อนเหมือนกัน
ญามี่ Education Blog ดู Blog



โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:0:49:24 น.  

 
ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณมี่



โดย: pantawan วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:1:03:56 น.  

 

Good Morning
Have a nice day


โดย: krittut_48 วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:6:47:26 น.  

 
GOOD MORNING MONDAY
Have A Lucky Day ka




โดย: oranuch_sri วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:6:49:36 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ น้องมี่
น้ำท่วมในภาพน่ากลัวจังเลยนะคะ
ไม่คิดว่าท่วมได้ขนาดนี้ ขอบคุณที่เอามาให้ดูนะคะ

มีความสุขกับวันพักผ่อนค่ะ


โดย: mambymam วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:9:27:41 น.  

 

ถ้าเราดูภาพจากอดีต...จริงๆ เคยท่วมแล้ว จะท่วมอีกคงพอทำใจได้...แต่ถึงรู้เนอะมี่ ตอนนี้ดูกันว่ายาวนาน 1 เดือนเป็นอย่างน้อย....ทำใจจ้ะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:10:19:10 น.  

 
ไม่เหนื่อยหรอกจ้า

ปฏิบัติธรรมกลับมารอบนี้สดชื่น แจ่มใสมว้ากกกก


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:10:45:50 น.  

 
สะอื้นไห้มาอยู่ในหัวอก
สะท้านสะทกใจรอนสะเทือนขวัญ
พี่น้องร่วมพสุธาพื้นแผ่นเดียวกัน
โลกลงทัณฑ์วิปโยคเห็นเคียงตา

ย้ำย้ำในสำนึกให้เกิดรู้สึกเศร้า
เหน็บหนาวเฝ้าร้าวใจหวั่นมาหา
เล่ารำพึงรำพันเกินสัญญา
วอนสวรรค์เมตตาปรานีกับฝูงชน


โดย: ขอฝากแค่ฝัน วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:11:27:57 น.  

 
ใจยังคิดหาทางแก้ไขได้
ชดใช้ให้หมดเสียในคราวนี้
เริ่มต้นใหม่กันนะเธอคนดี
ให้ธรรมชาติมีทางนำชีวา

ก่อนจะสิ้นแผ่นดินมาตุภูมินั้น
ใจก็ฝันมีวันคลื่นเข้าหา
หวังและหวังความหวังที่ยื่นมา
ปรารถนาทุกสิ่งขอกลับคืน


โดย: ขวดแก้วสีฟ้า วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:11:43:03 น.  

 
คือนิยายชีวิตไม่มีซึ้ง
สะอื้นดึงอารมณ์ให้ทุกข์ใหญ่
ผ่านมาแล้วร้าวรอนจะผ่านไป
หวังเท่าไรอาวรณ์ยากย้อนวง

ใจยอมแพ้แน่ใจไม่อาจสู้
กว่าน้ำพรูเข้ามาพรั่นเลือนหลง
เสียเวลาต่อชีพยามเจตจำนง
ยากดำรงด้วยชื่นไม่มีราน


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:11:57:11 น.  

 
สรรพสิ่งเลือนลอยให้ใจเปลี่ยน
โลกหมุนเวียนส่งทุกข์เป็นของขวัญ
วันแล้ววันเล่าช้ำมากอนันต์
ยากรำพันเหมือนทุกข์เข้าจุใจ

ยากสงบไม่คร่ำในดวงจิต
ช้ำกับฤทธิ์โศกเศร้าระทมไหว
ไม่มีแล้วไม่มีทางสว่างไป
หวังอย่างไรหวังนั้นยังหลุดนำ


โดย: ฝากซึ้งใส่ฝัน วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:12:12:03 น.  

 
คิดแล้วใจรานเอยให้คิดถึง
ครวญรำพึงหนึ่งนึกราวโลกฝัน
แผ่นดินนี้แม้นมีแสงดวงจันทร์
แผ่นดินสวรรค์สรรเสกแต่ตรมนาน

น้ำยังคลอท่วขังแสนรกเรื้อ
กลับช้ำเหลือจะกล่าวเศร้าประหาร
ท่ามภูผาควันหมอกเหลือเพียงราน
คือวันวานที่ชื่นแล้วผ่านไป


โดย: คืนฝันปีศาจน้อย วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:13:16:42 น.  

 



More Blue Roses Comments


สวัสดียามบ่ายครับ


โดย: ก้อนเงิน วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:13:27:24 น.  

 
อาจจะเคยว้าเหว่ในวันโศก
เห็นวิปโยคมากมายให้ห้ามหัก
เห็นปวงชนหม่นเหม่อไร้ที่พัก
เห็นทุกข์ทักใจรานกับหนทาง

คืออารมณ์เจ็บแค้นให้ไหวหวั่น
สุขนิรันดร์ผ่านตาไม่อาจสร้าง
ปล่อยทุกอย่างว่ายวนมาละวาง
จิตกระจ่างสว่างพลันหายลับเลย


โดย: รสรวยริน วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:13:45:16 น.  

 

ทักทายยามบ่ายครับ


โดย: krittut_48 วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:14:11:15 น.  

 
น้ำอยู่ไหนช้ำตามมาขอบอก
ไม่อยากหลอกตนเองยังทนไหว
จะน้ำหลากน้ำบ่าท่วมเข้าไป
บอกไม่ได้หายแน่อย่าไปกลัว

ใจก็หวังข่าวดีได้มาส่ง
อย่าลืมหลงคนคอยวกเวียนหัว
คนหนึ่งบอกอพยพหลบความมัว
คนหนึ่งบอกเตรียมรั่วมานั่นแล้ว


โดย: พระรามหัดท่องเน็ท วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:14:13:57 น.  

 
ขวานทองเอยเคยเรืองรองสง่าสวย
เคยร่ำรวยพืชผลให้อิจฉา
ไยมาจ่อมจมลงเห็นน้ำตา
สยามศรัทธาเปลี่ยนไปให้อ่อนล้า

ขวานเล่มนี้เคยชื่อดินแดนยิ้ม
ให้เอมอิ่มพริ้มสุขรับอาสา
คนต่างเมืองมุ่งชมไม่มีลา
ไยต้องมาช้ำชอกให้พบพาน


โดย: ฝากซึ้งใส่ฝัน วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:14:42:53 น.  

 
เมื่อน้ำไหลเข้ามาให้ใจหวั่น
มาถึงวันของเราแล้วหนอหวัง
หวังไม่ต้องรีบร้อนประตูพัง
กลับมาดั่งคลื่นซัดโถมกระจาย

แล้วกี่วันหนอหายช้ำใจเข้า
ไม่รู้เท่าหนทางเริ่มเลือนหาย
ถึงจะกั้นกระสอบทรายตั้งมากมาย
น้ำทำลายไม่เห็นแม้แต่เงา


โดย: สุดสาครท่องสมุทร วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:15:57:06 น.  

 
เวลาผ่านขวานงามไยคิดหนี
แบ่งฤดีแบ่งใจเกินจะเกริ่น
รอยยิ้มเปลี่ยนมาเศร้าและหมางเมิน
ไร้ขัดเขินบนทางน้ำท่วมมา

เวลาผ่านนานวันยิ่งหมองหม่น
แปลบปวดปนศีลธรรมทำทีหา
คนเห็นคนเป็นเหยื่อแกล้งพรางตา
ทรายขึ้นมาราคาดูโหดจัง


โดย: โลกของหนึ่งคน วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:16:03:15 น.  

 
น้ำท่วมนั้นเป็นกันหลายจังหวัด
ยากเจนจัดช่วยเหลือกับเงินหลวง
บริหารงบมากมายราวผลพวง
ยากในห่วงเข้ากระเป๋าใครแสดง


เลือกคนเก่งแล้วนายังยุ่งใหญ่
เลือกชาวไร่ชาวนาใครรู้แหล่ง
เลือกคนดีรู้แต่พูดใช่ไม่แย้ง
ได้ตำแหน่งเลือกแล้ว..งานอยู่ใด


โดย: วาดฝันมธุรพจน์ วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:16:10:30 น.  

 
สยามเมืองเคยรุ่งเรืองเป็นเมืองสุข
ไม่มีทุกข์รู้เหนื่อยมาเผาผลาญ
ไม่มีร้าวหมองไหม้ในหมู่มาร
ไม่ต่อต้านทุกชนสุขร่มเย็น

หากวันนี้น้ำตามิอาจเลี่ยง
มีแต่เบี่ยงกับเหงาที่ให้เห็น
ครวญคร่ำครางวันคืนเกินจำเป็น
เพราะน้ำกระเซ็นมาถึง..ถึงบ้านเรา


โดย: เมืองมานะ วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:16:15:50 น.  

 

นิทานก่อนนอน....กระต่ายป่ากับกบ

ครั้งหนึ่ง มีเหล่ากระต่ายป่าอาศัยอยู่อย่างทุกข์ทรมาน
เพราะทุกๆ วันพวกมันถูกบรรดาสัตว์ป่ารังควาน เมื่อไรก็ตาม
ที่พวกมันเห็นสัตว์ตัวหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ ก็จะรีบวิ่งหนี วันหนึ่ง
ฝูงกระต่ายเห็นฝูงม้าป่าวิ่งห้อตรงเข้ามา ก็พากันตื่นตกใจและ
รีบวิ่งตรงไปที่ริมทะเลสาบพวกมันยอมจมน้ำตายดีกว่าต้องมี ชีวิต
อย่างหวาดกลัวไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนี้ แต่พอมาถึงใกล้ทะเลสาบ
กบฝูงหนึ่งก็ตื่นตระหนกกับการมาเยือนของกระต่ายป่าต่างรีบ
กระโดดจ๋อมลงไปใน น้ำ “จริงๆ แล้ว” กระต่ายป่าตัวหนึ่งเอ่ย
“อะไรๆ มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหรอก”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ๐๐๐ยังมีคนที่แย่กว่าเราเสมอ๐๐๐
(คัดลอกจากอินเตอร์เนท)


โดย: พันคม วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:20:20:23 น.  

 
๐๐ กลบทกบเต้นต่อยหอย ๐๐

....สะใจเจ้า เศร้าใจจริง....


@ เจ้าหลากไหล ใจลุ่มเหลิง ซัดเจิ่งท่วม
โอบล้อมรวม อ่วมแล้วรอบ- ขอบพัสถาน
แสนเกรี้ยวกราด สาดกริ้วโกรธ เกินทดทาน
พร้อมแหวกผ่าน พาล...วกผัน มิหวั่นใด


@ เหมือนใจร้าย หมายจ้องเร้น เข้าเข่นขืน
โหมซัดครืน หื่นซัดโครม โถมหลั่งไหล
สะใจเจ้า ...เศร้าใจจัง ช่างกระไร
เจ้าโหดร้าย ใจหายรับ ....กับเภทภัย ๚ะ๛



เอากลบทกบเต้นต่อยหอยมาฝากอาจารย์น้อย
(จากต้นทาง.... บล็อกคุณพันวัตต์)



โดย: เปลวอัคคี วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:21:13:24 น.  

 


แม้นว่าพรุ่งนี้ยังมีน้ำ..ท่วม แต่ถ้าเราอดทน
อดทน และอดทน เราก็จะผ่านไปได้ดัง..อดีตอีกหน
ฝันดีค่ะ


โดย: ญามี่ วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:22:28:34 น.  

 
จัดยกกับข้าวมาฝากค่ะแซ่บๆจริงๆค่ะ


โดย: นกลอนดอน วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:23:32:52 น.  

 
ฝันดีเช่นกันค่ะ น้องมี่
ไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้มาดูใหม่ค่ะ


โดย: mambymam วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:23:51:18 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณมี่ในวันที่น้ำล้อม กทม.
ฝันดีเช่นกัน



โดย: pantawan วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:0:19:09 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะคุณมี่ กิ่งมาซะดึกเลยคุณมี่คงหลับไปแล้ว ขอให้หลับฝันดีนะคะ ไม่เครียดเรื่องน้ำท่วมนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ




More Good Night Comments


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:1:10:30 น.  

 


ไม่เป็นไรค่ะคุณญามี่
วันไหนมีงบเหลือค่อยโหวตก็ได้ค่ะ
แค่แวะไปเยี่ยมก็ดีใจแล้วค่ะ
ถ้าไม่มีเพื่อนมาเยี่ยมเยือน บ้านก็คงจะเงียบเหงาน่าดู

หลับฝันดีนะคะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:2:31:44 น.  

 


Good Morning..ka


โดย: oranuch_sri วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:6:39:52 น.  

 
อร๊ายยยยยยยย
น้ำท่วมถ.พระอาทิตย์ แล้วหรออออ
ส่งกำลังใจให้เขาเนอะ น้องมี่เนอะ
บอกพี่ขวดยัง เมืองไทยน้ำท่วม


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Schnuggy ชนุ๊กกี้ Food Blog ดู Blog
ญามี่ Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:7:01:04 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าจ๊ะ

วันนี้ก็ลุ้นต่อจ๊ะ น้ำค่อยๆเขยิบเข้ามาเรื่อยๆ
น่าจะ1-2 วันนี่แหละ ที่บ้านก้ได้แต่กั้นกระสอบทราย
ยกของขึ้นชั้น2 ตั้งเครื่องสูบน้ำ
เดี๋ยวต้องไปตุนเสบียงก่อนอะ


โดย: multiple วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:7:38:34 น.  

 
เราก็คงผ่านไปได้เหมือนคนในอดีตเนาะมี่

เพลงเพราะมากจ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:9:05:44 น.  

 



More Flowers Comments


สวัสดียามสายครับ


โดย: ก้อนเงิน วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:10:24:20 น.  

 


สวัสดียามเย็น ค่ะ ขอบคุณความรู้เรื่องน้ำท่วม..รัฐบาลแปลกๆ...มีความสุขในทุกขณะ นะคะ มี่


โดย: ปรียนิตย์ วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:17:17:08 น.  

 
ตอนนี้สับสนและผวากับข่าวมากค่ะ
ไม่รู้จะยังงัย น่าปวดหัว เอาใจช่วยก้อคงไม่ได้แล้ว น้ำจะมาก้อต้องทำใจและเตรียมรับ เค้ามาเดี๋ยวเค้าก้อไปค่ะ

เพลงเพราะจัง น้องมี่นี่เป็นนักฟังเพลงมือโปรเลยนะคะ มีแต่เพลงเพราะๆ



โดย: mambymam วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:17:25:37 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณมี่
การเสพข่าวมากๆก็ทำให้เครียดได้
ฟังเพลง เล่น Net ดีกว่า



โดย: pantawan วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:18:13:31 น.  

 

ทักทายกันยามเย็น
อาจจะต้องเปิดดูด้วย IE ครับ Browser อาจจะเพี้ยนๆครับ



โดย: krittut_48 วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:19:12:30 น.  

 


มาราตรีสวัสดิ์เช่นเคยครับ


โดย: krittut_48 วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:21:08:57 น.  

 
สวัสดีค่ะ



จากข่าวฝนจะตกหนัก น้ำท่วมสูงสุด
ในวันที่29-10นี้ ทำให้คนเครียดอยู่แล้ว
เครียดหนักขึ้นเช่นน้าชายมี่ค่ะ บ่นตลอด
มีเลยเอามาแปลงเป็นกลอน
สงสารน้าจัง น้าสะใภ้ไปขนมาม่ามาเก็บอีกแล้วค่ะ
...............................
ฟ้ามืดมืดสายฝนเตรียมหล่นแล้ว
“น้า”มีแววเคืองแค้นนับแสนก้าว
นับหนึ่งสองก็แล้วไม่แคล้วคราว
มาสิมาความร้าวช่างยาวเยือน

ฝนจะลงใช่ไหม?..ลงได้เลย
ใจมันเผยทรหดเกินปลดเลื่อน
มาสิมาฝนปรายอย่าอายเดือน
หล่นมาเตือนมนุษย์โลกอย่าโยกย้าย

เสียใจมีที่สุดเกินหยุดยั้ง
จะนอนนั่งดูฟ้าเอาหน้าส่าย
เจ็บจนชาหายรู้ไม่กู้วาย

จะถึงตายก็มิว่าอยากท้าเจอ

มาทำไมทีละนิดให้คิดกลุ้ม
แน่จริงรุมมาเลยใช่เกยเสนอ
อยู่ใต้ฟ้ากลัวฝนสู้กลละเมอ
ก็ยอมเพ้อครวญคร่ำชอกช้ำเนา


โดย: ญามี่ วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:21:44:41 น.  

 
๐๐ กลบทกบเต้นต่อยหอย ๐๐


...เจ่าจดร้าว เจ้าใจร้าย...


๏ ผ่านโชกโชน โผนชึกชัก มากหลายหน้า
เบียดคุ้ง,ท่า บ่าคลึง,แทะ เออแฮะ...เจ้า
ระริกรั้น ร้านรวงเรียบ เงียบไร้เงา
จากป่าเขา เจ้าปีนข้าม ล้ำหน้ามา


๏ จิตใฝ่ต่ำ จ้ำฝันตาม ลามหลั่งไหล
ศิวิไลซ์ ใสวิลาส บาดใจหนา
ผ่านร้อยเอ็ด เผ็ดร้อนเอย เฉยด้านชา
เบิกบ่ายหน้า บ้าใบ้หนอ ห้อ...สู่ กรุง ฯ


๏ คนเค้าเกลียด เครียดเคร่งก่น บ่นว่าเจ้า
"น้ำ" เคยสาว เน่าคลุ้งเสีย เนี่ย !! เหม็นฟุ้ง
อีกนานโข โอ้ "น้ำ" ข้าฯ กว่าจะปรุง
ตอนนี้ยุ่ง ตุงนังแย่ แก่เจ้าไง


๏ ที่ทางเจ้า เท่าที่จ้อง พอมองเห็น
น่าจะเป็น เน้นเจ้าเปลี่ยน เวียนเลาะไหล
โน่นคุ้งต่ำ "น้ำ" ควรต้อง ล่องไหลไป
ปากอ่าวไทย ไปเอ่อท่วม เกาะกวมไป๊... ๚ะ๛

เอากลบทกบเต้นต่อยหอยมาฝากอาจารย์น้อยน่ะ

นอนหลับฝันดีนะ







โดย: เปลวอัคคี วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:23:02:02 น.  

 
อันว่ารอรอแล้วหารู้ไม่
หวั่นหวาดในหัวใจใครมาเหลียว
รอแล้วรอรุ่มร้อนอยู่ข้างเดียว
หาใครเหนี่ยวช่วยเหลือมาคุ้มครอง

ฟ้าดินปรวนแปรไปยากใครออด
มีแต่มอดไหม้มาตามใจสนอง
รอแล้วรอ รอท่ามจิตใคร่ร้อง
ไยครรลองฉันต้องมีแต่ตรม


โดย: เกรียงไกรกวีฝัน วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:23:02:26 น.  

 
อันว่ารอรอแล้วหารู้ไม่
หวั่นหวาดในหัวใจใครมาเหลียว
รอแล้วรอรุ่มร้อนอยู่ข้างเดียว
หาใครเหนี่ยวช่วยเหลือมาคุ้มครอง

ฟ้าดินปรวนแปรไปยากใครออด
มีแต่มอดไหม้มาตามใจสนอง
รอแล้วรอ รอท่ามจิตใคร่ร้อง
ไยครรลองฉันต้องมีแต่ตรม


โดย: แก้วกลมกลม วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:23:22:52 น.  

 
I wanna go home
;Another summer day
Is come and gone away
;Maybe surrounded by A million people I
Still feel all alone
I just wanna go home
;Another aerorplane
;Another sunny place
And I feel just like
;I’m living someone else’s life
It’s like I just stepped outside
When everything was going right
;Another winter day has come
And gone away

เป็นอีกเพลงโปรดคะน้องมี่
I'm just too far from where you are..........

Let me go home
I’ve had my run
Baby, I’m done
I gotta go home
Let me go home
It will all right
I’ll be home tonight
I’m coming back home



โดย: cengorn วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:23:31:28 น.  

 
เฝ้าแต่รอวันแรงใจได้คืนกลับ
น้ำลาลับแห้งหายไม่รี่ไหล
อีกกี่วัน..กี่คืนหนอ..รอเท่าใด
ทนฝืนทุกข์ทำใจแกร่งเข้มแข็งรอ

หากวันนั้นมาถึงคงซึ้งหนัก
ความพร้อมพรักสามัคคีนี่แหละหนอ
จะทำให้รอดพ้นจนเกินพอ
จงอย่าท้อขอจงทนเพื่อพ้นภัย......

สวัสดีค่ะคุณมี่ คุณน้าคุณมี่ท่านคงกลุ้มและเครียดจริงๆแหละค่ะ น่าเห็นใจนะคะ น้ำไม่ลดลงสักทีและบางที่ก็เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นด้วย ขอจงอดทนนะคะ ส่งกำลังใจมาให้นะคะเดี๋ยวสิ่งร้ายๆก็จะผ่านไปกับกระแสน้ำค่ะ
หลับฝันดีค่ะคุณมี่




More Good Night Comments


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:23:45:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]