https://www.oknation.net/blog/plains-wanderer/2010/06/06/entry-1ชื่อสามัญ : Common Hoopoe
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Upupa epops (Linnaeus, 1758)
Class : Aves
Order : Upupiformes
Family : Upupidae
นกกะรางหัวขวาน (Hoopoe) เป็นนกในวงศ์
Upupidae ซึ่งเป็นวงศ์ที่เล็กที่สุดเพราะมีนกในวงศ์นี้
อยู่เพียงชนิดเดียวเท่านั้นคือ
นกกะรางหัวขวาน (Upupa epops) แต่ก็มีหลายชนิดย่อย แพร่กระจายไป
ทั่วทั้งทวีปยุโรป แอฟริกา เอเชีย และออสเตรเลีย
ชนิดย่อยที่พบในเขตที่มีอากาศหนาวหรือเขตอบอุ่น ส่วนมากจะเป็นนกอพยพ เช่น ในฤดูหนาวจะอพยพ
จากทวีปยุโรปไปยังทวีปแอฟริกา เป็นต้น ส่วนชนิดย่อยที่พบในเขตร้อนส่วนมากจะเป็นนกประจำถิ่น และ
ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติอะไรกับเจ้านกหัวขวานประเภท Woodpecker แม้แต่น้อยเลย
สำหรับที่พบในประเทศไทยนั้นเป็นชนิดย่อย
Upupa epops longirostris https://www.barklong.com/bird-bar/ltltlt-gtgtgt/ชื่อนกกะรางหัวขวานน่าจะมาจากพฤติกรรมหาอาหารบนพื้นดินเหมือนนกกะราง (Laughingthrush)
ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกัน มีขนหงอนบนหัวยาวชี้ไปด้านหลังขณะหุบเป็นรูปทรงคล้ายขวาน
และจะกางออกเป็นรูปพัดบางครั้งคราว เช่น ในยามตกใจ
ส่วนชื่อภาษาอังกฤษ Hoopoe นั้นมาจากเสียงร้องโทนต่ำของมันนั่นเอง อ่านออกเสียงว่า "ฮูปู" ไม่ใช่ "ฮูโป้"
คือมันจะร้องดัง ฮู-ปู หรือ ฮู-ปู-ปู (ho-po-po) หรือดัง ฮุด-ฮุด-ฮุด (hud-hud-hud) จะร้องเป็นช่วง ๆ ซ้ำ ๆ กัน
ประมาณ 2-3 วินาที แต่ในฤดูผสมพันธุ์ มันจะร้องนานถึง 10-15 นาที
https://www.oknation.net/blog/plains-wanderer/2010/06/06/entry-1นกกะรางหัวขวาน เป็นนกขนาดกลาง ลำตัวเพรียวยาวประมาณ 30 ซม. มีลายขวางสีน้ำตาลอ่อน หรือขาวสลับดำ
ปากยาวเรียวโค้ง มีลักษณะเหมือนกันทั้งตัวผู้ตัวเมีย แต่ตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่า และสีจางกว่าตัวผู้เล็กน้อย
นกกะรางหัวขวานมีแต้มเป็นจุดสีดำที่หงอนปีกและหางสีดำ มีลายสีขาวพาด มีปากยาวโค้งใช้จิ้มหาอาหาร
ซึ่งเป็นแมลงและไส้เดือนตามพื้นดิน แต่มันก็สามารถจับแมลงกลางอากาศได้เช่นกัน
https://www.oknation.net/blog/mookarn/2008/10/03/entry-1ชอบหากินตามพื้นดิน หรือทุ่งหญ้า บินได้ช้าและเป็นรูปคลื่น ในขณะที่บินหรือเกาะกิ่งไม้เพื่อพักผ่อน ขนบริเวณ
หัวจะลู่ลงมาด้านหลังลักษณะเหมือนขวานเล็ก ๆ แต่เวลาหากิน ตกใจ หรือเวลาแสดงพฤติกรรมการเกี้ยวพาราสี
ขนบริเวณหัวจะตั้งแผ่ออกลักษณะคล้ายรูปพัดหรือขนบนหมวกของหัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง
https://goo.gl/mZPzxQนกกะรางหัวขวาน กินแมลงต่าง ๆ เป็นอาหาร โดยเฉพาะตัวหนอน ดักแด้ และตัวอ่อนของแมลง เช่น จิ้งหรีด
ด้วง ตั๊กแตน มด ปลวก นอกจากนี้ยังกินพวกไส้เดือนต่าง ๆ อีกด้วย ปกติจะหาอาหารตามพื้นดิน โดยใช้ปากที่ยาว
โค้ง เรียว ชอนไชไปตามพื้นดิน รูดิน รากหญ้า ขอนไม้ ใต้ใบไม้ หรือใต้หิน เมื่อมีสิ่งรบกวน
หรือตกใจจะบินขึ้นไปเกาะตามกิ่งไม้
บางครั้งนกกะรางหัวขวานก็หาอาหารตามกิ่ง และลำต้นของต้นไม้ โดยใช้ปากชอนไชไปตามรอยแตก
ของเปลือกไม้หรือตามโพรงของต้นไม้ และเนื่องจากมีลิ้นสั้นมาก การหาเหยื่อจึงใช้เฉพาะปากจิกเท่านั้น
ไม่ได้ใช้ลิ้นช่วยตวัดเหยื่อแต่อย่างใด
https://goo.gl/xIaqsj ฤดูผสมพันธุ์ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาวต่อฤดูร้อน หรือระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน (บางตำราบอกว่า
มีนาคม – มิถุนายน) ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวจะพบนกเป็นคู่ ๆ และได้ยินเสียงร้องของนกเป็นประจำ
ซึ่งเป็นอาการอย่างหนึ่งของพฤติกรรมการหาคู่
https://goo.gl/BxrLxBนกกะรางหัวขวาน ทำรังในโพรง ซึ่งอาจจะเป็นโพรงดิน โพรงในต้นไม้หรือตามซอกหินซึ่งเป็นโพรง
ที่เกิดตามธรรมชาติหรือโพรงของสัตว์อื่นทำทิ้งเอาไว้ เป็นโพรงที่ไม่สูงจากพื้นดินมากนัก
นกกะรางหัวขวานที่อาศัยอยู่ตามสวนผลไม้พบประจำที่ทำรังตามโพรงของต้นมะพร้าวมากกว่าต้นไม้อื่น
ภายในโพรงปกติไม่มีวัสดุใด ๆ รองอีก
https://www.imagejuicy.com/images/plants/c/commiphora/5ไข่มีลักษณะเป็นรูปรียาว ขนาดโดยเฉลี่ย 17.0 x 24.4 มิลลิเมตร ไข่สีฟ้าอ่อนจนถึงสีเทาอมเขียว ไม่มีจุด
หรือลายใด ๆ ในแต่ละรังมีไข่ 3-5 ฟอง ทั้งพ่อและแม่นกช่วยกันเลือกสถานที่ทำรัง และฟักไข่ โดยจะเริ่มฟัก
หลังจากออกไข่ฟองสุดท้ายแล้วระยะเวลาฟักไข่ทั้งสิ้น 14-16 วัน ลูกนกที่ออกจากไข่ใหม่ ๆ ยังไม่ลืมตา
ไม่มีขนปกคลุมร่างกาย พ่อแม่ต้องช่วยกันกกและหาอาหารมาป้อน ลูกนกอายุ 3-4 สัปดาห์ จะแข็งแรง
และบินได้ จากนั้นก็จะทิ้งรังไป
https://day2daypictures.blogspot.com/2009_07_01_archive.htmlในช่วงที่ตัวเมียทำหน้าที่เลี้ยงลูก ต่อมไซ้ขน (Urypogial gland) ที่อยู่บริเวณโคนหางของมันยังสามารถผลิตน้ำมัน
ที่มีกลิ่นเหม็นอบอวลเพื่อขับไล่สัตว์นักล่าที่มายุ่มย่ามกับรังมัน กลิ่นอันไม่พึงประสงค์นี้ยังสามารถช่วยลดปรสิตได้ด้วย
https://pixdaus.com/single.php?id=271413ลูกนกเองนอกจากจะสามารถผลิตสารแบบที่ว่านี้ได้เหมือนกับแม่ของมันแล้ว มันยังมีกลยุทธ์สกปรก
ในการขับไล่ศัตรูโดยการปล่อยอุจจาระพุ่งใส่อีกด้วย รังของนกชนิดนี้จึงได้ชื่อว่าสกปรกและมีกลิ่นเหม็นจับใจ
เพราะนกทั้งครอบครัวปล่อยของเสียกันเรี่ยราดโดยปราศจากการทำความสะอาดจากพ่อแม่นกโดยสิ้นเชิง
https://www.oknation.net/blog/plains-wanderer/2010/06/06/entry-1ปีกนกลายสีขาวดำใช้ในการเต้นระบำเกี้ยวพาราสี และขู่นกนักล่า โดยการหมอบลงกับพื้นพร้อมกับ
กางปีกและแผ่หางออกทำให้ดูตัวใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งหันปากแหลมยาวของมันขึ้นชี้ไปยังศัตรู
https://www.barklong.com/bird-bar/ltltlt-gtgtgt/พฤติกรรม : ชอบอยู่ตามทุ่งโล่ง ป่าเบญจพรรณ ป่าละเมาะ และพื้นที่เกษตรกรรม ทุ่งนาที่พอมีต้นไม้อยู่บ้าง
ชอบส่งเสียงร้อง "ฮูป ฮูป ฮูป" หรือ "ฮูป ปู ปู" เวลาเดินส่ายหัวไปมา คุ้ยเขี่ยหาแมลงและหนอนตามพื้นดิน
ไม่ชอบอาบน้ำ ชอบอาบทรายร้อน ๆ แทนการอาบน้ำ
เป็นทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ หากินตัวเดียว เป็นคู่ เป็นฝูงเล็ก ๆ บางครั้งพบหากินฝูงใหญ่เกิน 25 ตัว
เดินหากินไปตามพื้นป่าหรือพื้นหญ้า ใช้จงอยปากจิ้มหรือทิ่มลงไปบนพื้นดิน พื้นทราย กอหญ้า หรือพลิกใบไม้
เพื่อหาอาหาร น้อยครั้งที่จะบินจับแมลงกินในอากาศ
อาหารส่วนใหญ่เป็นแมลงหรือตัวอ่อนของแมลง เช่นแมลงปีกแข็ง จิ้งหรีด ตั๊กแตน มด ปลวก
นอกจากนั้นยังกินสัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กอีกด้วย ขณะที่นกก้มลงไซ้ปากไปตามพื้นดินนั้น
มันจะพับหงอนไปทางด้านหลัง มองไกล ๆคล้ายหัวขวานอันเล็ก ๆ มันจะคลี่หงอนออกมาในช่วงสั้น ๆ
เช่น เวลาบินมาเกาะใหม่ ๆ และเวลาตกใจ หงอนจะตั้งสูงมากขณะที่นกต่อสู้กันเพื่อแย่งคู่
และอาณาเขตครอบครองในฤดูผสมพันธุ์
https://pixdaus.com/single.php?id=271413การต่อสู้ในฤดูผสมพันธุ์นั้น นกตัวผู้จะเข้ามาเผชิญหน้ากันในลักษณะหงอนตั้งชัน ปากชี้ลง
ต่อมาจะใช้ปากจับกันแน่นจนปากของนกทั้ง 2 ตัวอยู่ในลักษณะเป็นเส้นตรง จากนั้นจึงพากันบินลงมา
ยังพื้นดินแล้วเริ่มจิกกันจนกว่าตัวหนึ่งตัวใดจะล่าถอย เวลาตกใจมันจะบินขึ้นสูงไปเกาะตามกิ่งไม้
นกกะรางหัวขวานมีปีกกว้างกลม บินได้ไม่ดีนัก บินช้าและบินในช่วงสั้น ลักษณะการบินคล้ายลูกคลื่น
คือตัวจะตกเป็นช่วง ๆ เวลาบินจะคลี่ขนหงอนและขนหางเป็นระยะ ๆ มองไกล ๆ คล้ายผีเสื้อ
ข้อมูลเพิ่มเติม : นกกะรางหัวขวานถูกจัดขึ้นบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกนก
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
อ้างอิง :
https://www.oknation.net/blog/plains-wanderer/2010/06/06/entry-1
https://www.barklong.com/bird-bar/ltltlt-gtgtgt/
https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=60726
https://bicycle2011.com/?p=6318