5 แพร่ง (Phobia 2) : หนังผี 5 รสชาติ
อย่าแปลกใจ... ถ้าคุณเสพติดความกลัว นี่คือคำโปรยของหนังผีเรื่องนี้ที่คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากนัก เพราะนี่คือหนังที่มีกระแสแรงที่สุดและถูกพูดถึงมากที่สุดอยู่ในขณะนี้ GTH ขอต่อยอดความสำเร็จจาก สี่แพร่ง หนังผีรวมเรื่องสั้น 4 เรื่อง ปีก่อน (พ.ศ.2551) ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ด้วยการกลับมาอีกครั้งกับความกลัวรูปแบบใหม่ใน 5 แพร่ง หนังผี 5 เรื่อง จาก 5 ผู้กำกับ
เปิดตัวด้วยเรื่อง หลาวชะโอน (Novice) กำกับโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ยันต์สั่งตาย, บอดี้ ศพ#19)
สำหรับ เป้ (เก้า-จิรายุ ละอองมณี) เด็กชายวัยสิบสี่ กรรม เป็นเรื่องเชยโคตรๆ เขาลงมือปาหินใส่รถกระบะแถวบ้านเพียงเพราะอยากได้มือถือใหม่ เมื่อเหยื่อตาย แม่พาเป้หนีไปบวชในวัดป่าห่างไกล ภายใต้ผ้าเหลืองเป้พ้นจากมือกฎหมาย แต่กลับตกอยู่ในเงาของมืออีกมือหนึ่ง มันเอื้อมเข้ามาหาเขาช้าๆ ทว่าไม่หยุดยั้ง นั่นเพราะ กรรม ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ใคร มันไม่รู้จักคำว่า ให้อภัย
คิดถูกแล้วที่เลือกเรื่องนี้เป็นเรื่องเปิดตัว เพราะทุกอย่างในเรื่องนี้ลงตัวที่สุดแล้ว ทั้งการแสดง บรรยากาศ เรื่องราวและบทสรุป จนทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในหนัง แถมยังทำให้คนดูปากร้ายอย่างผมแทบจะไม่เชื่อว่านี่คือผู้กำกับคนเดียวกันกับเรื่อง ยันต์สั่งตาย ในสี่แพร่ง ที่ในเรื่องนั้นผมว่าเป็นเรื่องที่ห่วยที่สุด แต่มาครั้งนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
***************เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (คลิกคลุมเพื่ออ่าน)****************
กับบทสรุปที่หนังให้ ซึ่งเน้นให้เห็นตามความเชื่อของคนไทยในเรื่องบาปบุญคุณโทษและผลแห่งกรรม กับฉากปาหินของเป้กับเพื่อนที่เหยื่อในครั้งนี้ของพวกเขาเป็นพ่อของเป้นั่นเอง ที่กรรมตามทันในเรื่องนี้มันช่างโหดร้ายในความรู้สึกและน่าหดหู่เสียเหลือเกิน สุดท้ายการทำปิตุฆาต (การฆ่าพ่อ) ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ตามความเชื่อของคนไทย (การเป็นเปรตของเป้) ก็ดูจะเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเป็นบทสรุปในเรื่องนี้
เรื่องที่ 2 ห้องเตียงรวม (Ward) กำกับโดย วิสูตร พูลวรลักษณ์ (ผู้อำนวยการสร้าง นางนาก)
หนุ่มทะเล้นขี้เล่นคนหนึ่ง (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) มอเตอร์ไซค์คว่ำขาหักทั้งสองข้าง จากห้องฉุกเฉินเขาถูกย้ายไปสู่ห้องเตียงรวม ทั้งๆที่อยากนอนห้องพิเศษ และในห้องรวมนี้ คนไข้เตียงติดกับชายหนุ่มเป็นร่างไร้สติของชายชราอาการโคม่าที่นอนรอวันปิดอ็อกซิเจนมาแล้วร่วมเดือน แต่เหมือนกับจะรู้ว่าเพื่อนหนุ่มหน้าใหม่เป็นคนขี้กลัว คืนนั้นชายแก่จึงลุกขึ้นมาเยี่ยมเขาถึงข้างเตียง
เป็นตอนที่ไม่ชอบที่สุดในเรื่อง เพราะรู้สึกว่ามันจงใจเกินไปในบางฉาก และไม่มีเหตุผลรองรับมากพอกับการหลอกและบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด แต่ที่ถูกใจเป็นพิเศษก็คือการแสดงของแดนที่ดูเป็นธรรมชาติและน่ารักดี
****************เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (คลิกคลุมเพื่ออ่าน)****************
ดูจบก็เกิดอาการแบบว่า เออ..คิดได้อย่างไรกับบทสรุปแบบนี้ บทสรุปที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ในความรู้สึกผม (ในแง่ของไสยศาสตร์ทางฝั่งเอเชีย) กับ การย้ายวิญญาณ ที่ดูไม่มีที่มาที่ไปและไร้เหตุผลสิ้นดี ผมว่าน่าจะเล่นกับบรรยากาศในโรงพยาบาลแบบหนังผีธรรมดาๆยังจะดีซะกว่า
เรื่องที่ 3 Backpackers กำกับโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์ (เด็กหอ, แฟนฉัน)
คู่รักญี่ปุ่นคู่หนึ่งฉลองเรียนจบด้วยการแบ็กแพ็กตะลุยเมืองไทย ขากลับจากสมุยพวกเขาใช้วิธีโบกรถเข้ากรุงเทพฯ แต่โบกไม่ได้สักคัน หนุ่มยุ่นตัดสินใจใช้แบงก์พันเป็นรางวัลล่อ รถพ่วงคันหนึ่งจึงจอดรับ โชคร้ายที่สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์และใบหน้ายิ้มแย้มของคนขับกับเจ้าเด็กรถ (แน๊ก-ชาลี ไตรรัตน์) เป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้อะดรีนาลีน ของทุกคนต้องคลั่ง
ไม่ใช่หนังผี แต่นี่คือหนังซอมบี้กับเรื่องราวที่ให้ ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ในแนวทางของมัน เหมือนๆกับหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ ความรู้สึกที่ได้รับหลังดูจบก็แค่เฉยๆ เท่านั้นเอง แต่ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือ น้องผู้หญิงญี่ปุ่นคนอะไรเสียงน่ารักได้ใจจริงๆ
****************เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (คลิกคลุมเพื่ออ่าน)****************
อะไรวะ เป็นความรู้สึกหลังดูจบ น้องผู้หญิงญี่ปุ่นอุตส่าห์เอาตัวรอดมาตั้งนาน มาพลาดท่าเสียทีเอาตอนสุดท้ายเนี่ยนะ (หรือว่ายิงตัวตายหว่า?) เมื่อคราวน้องแน๊กก็ทีหนึ่งละ บทจะให้ตายก็ตายง่ายเสียจริง ยังไม่ทันได้ช่วยลุ้นอะไรเลย ถึงได้บอกไงว่า... ดูจบก็จบกัน
เรื่องต่อมา รถมือสอง (Salvage) กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (เที่ยวบิน 224, ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, แฝด)
คนมีประวัติ รถก็มีประวัติ ยิ่งเป็นรถมือสองประวัติศาสตร์ของแต่ละคันอาจไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของใหม่อยากรู้ กลางดึกสงัดหลังเต็นท์ปิด นุช (นิโคล เทริโอ) เจ้าของเต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่ย่านชานเมืองพบว่าลูกชายของเธอหายตัวไป ท่ามกลางแถวรถนับร้อยคัน เทปกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าลูกของเธอแอบเข้าไปเล่นในรถคันหนึ่งที่เธอเพิ่งรับซื้อมา...แล้วไม่กลับออกมาอีกเลย
สำหรับ ความน่ากลัว เรื่องนี้ผมยกให้เป็นอันดับหนึ่งเลย ทั้งเรื่องราว บรรยากาศและสถานที่ ทั้งหมดทั้งมวลนี่ส่งให้เรื่องนี้น่ากลัวขึ้นโดยพลัน กับผีที่มีน้อยแต่ให้มากก็เข้ากันได้ดี แต่บทสรุปนี่สิมันโหดร้ายเกินไปไหม?
****************เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (คลิกคลุมเพื่ออ่าน)****************
หดหู่มากกับบทสรุปที่ทำร้ายจิตใจของคนเป็นแม่เกินไป ถึงผู้กำกับอยากสื่อว่าบางทีผลของกรรมก็อาจเกิดกับคนที่รักมากที่สุดแทนที่จะเป็นคนทำก็ได้ ใครจะไปรู้
เรื่องสุดท้าย คนกอง (In the End) กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล (คนกลาง,ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, แฝด)
เต๋อ, เผือก, ชิน และ เอ เป็นทีมงานหนังผีที่การถ่ายทำดำเนินมาถึงคิวสุดท้าย คืนสุดท้าย ฉากสุดท้าย เหลือเพียงสองช็อตสุดท้าย แต่แล้วนักแสดงสาวหน้าใหม่ที่รับบทเป็นผีเกิดหัวใจวายตายกลางกองถ่าย ซวยสุดยอดที่ก่อนหน้านั้นเต๋อดันไปเสร่อทำเท่สอนเธอว่า The show must go on เธอจึงกลับมาเพื่อแสดงต่อ ทั้งสี่จึงต้องถ่ายหนังผี ที่มีผี เล่นเป็นผี ให้จบให้จงได้...โดยห้าม พี่ช่า (มาช่า วัฒนพานิช) นางเอกของหนังรู้ความจริงเป็นอันขาด!
สนุก นี่คือคำจำกัดความของเรื่องนี้ ที่มีครบรสทั้งน่ากลัวและตลก แต่จะหนักไปทางอย่างหลังซะมากกว่า บวกกับที่ได้นักแสดงชุดเดิมจาก คนกอง ในสี่แพร่ง มาสานต่อความฮาในครั้งนี้ กับที่สุดๆของที่สุด ก็คือการแสดงของมาช่าที่แสดงแบบแทบไม่ต้องแสดงอะไรเลย แต่นั่นกลับเป็นการแสดงที่สมจริงและเป็นธรรมชาติที่สุด แถมยังฮาได้อีก เหมือนอย่างที่ใครหลายๆคนพูดตอนดูว่า มาช่าทำไปได้
****************เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (คลิกคลุมเพื่ออ่าน)****************
ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่หักมุมหลายตลบซะจริงๆ หักแล้วหักอีก หักมุมจนไม่รู้จะหักอะไรแล้ว สุดท้ายเลยได้ตอนจบแบบนี้ ที่ผมยังจำได้ดีกับหน้าน้องผีที่ทำหน้ากลัวตาย ซึ่งมันยังติดตาผมมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ที่พอนึกถึงแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ
-ขอบคุณเรื่องย่อหนังจาก //www.sanook.com-
ความน่าดู 8/10 มีครบรสจริงๆ ใครที่ชอบดูหนังผีและชอบอุดหนุนหนังไทย ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับผม
Create Date : 18 กันยายน 2552 |
|
17 comments |
Last Update : 6 มิถุนายน 2557 14:26:22 น. |
Counter : 6809 Pageviews. |
|
|
|
อ้าว...เกิดอะไรขึ้นหล่ะเนี่ย กลับมาเชียงใหม่เมื่อไร ถ้าว่างๆ ไม่รู้ทำอะไรก็ไปนั่งเล่นที่โรงเรียนพี่ก็ได้นะครับ จะได้ไม่เครียด แล้ววางแผนว่าจะทำอะไรต่อไป อย่างไรครับ... อย่างเครียดนะครับ...
ดูแลสุขภาพและตัวเองด้วยนะครับ.....