จากบทประพันธ์ขึ้นชื่อของ
ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก ที่เคยถูกนำเอาไปสร้างเป็นละครทีวีมาแล้วถึง
3 ครั้งในปี 2519, 2532 และปี 2546 บัดนี้
ห้องหุ่น ได้ถูกเอามาจับปัดฝุ่นตีความใหม่อีกครั้งโดยผู้กำกับทายาทรุ่นหลานอย่าง
กัลป์ กัลย์จาฤก นำแสดงโดย
อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล, บริวัตร อยู่โต, นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล, อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์ และ
วาเนสซ่า โฮควีเบอร์ว่าด้วยเรื่องราวของ
พลอย (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล) หญิงสาววัย 25 ปีที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เชื่อในความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ได้สูญเสียพ่อของเธอไปในอุบัติเหตุกลางสนามซ้อมยิงธนู ในตอนแรกเธอนั้นไม่ได้ติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อเธอในครั้งนี้ จนกระทั่งพลอยได้พบกับ
นพ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) นักสังคมสงเคราะห์หนุ่มวัย 29 ปี ผู้สูญเสียน้องสาวไปในเวลาไม่นานหลังจากหุ่นน้องสาวเขาปั้นเสร็จ นพได้เล่าถึงการตายอย่างเป็นปริศนาในครั้งนี้ว่า มีบางอย่างที่เกี่ยวพันและคล้ายคลึงกับการตายของอีกหลายคนที่ไปเป็นแบบให้กับช่างปั้นหุ่นคนหนึ่ง..
แม้ในตอนแรกพลอยจะไม่เชื่อ แต่ในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอตัดสินใจออกหาคำตอบของปมปริศนาคาใจ เรื่องการตายของพ่อของเธอเช่นเดียวกับนพ พลอยและนพได้มารวมตัวกันที่บ้านช่างปั้นหุ่นโดยมิได้นัดหมาย แต่การพบช่างปั้นหุ่นนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด ระหว่างการรอคอยในคืนแรกนั้น ทั้งสองก็ได้พบกับสิ่งที่ค้นหามานาน ปริศนาทั้งหมดถูกคลี่คลายด้วยคำตอบที่มาพร้อมกับความน่าสะพรึงกลัวที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม!!
กับ ห้องหุ่น เวอร์ชั่นปี 2557 นี้ จัดว่าเป็นหนังภาคต่อที่ถูกนำมาดัดแปลงใหม่เสียมากกว่า?! เพราะนอกจากเรื่องราวที่มีจะเป็นการเริ่มใหม่แล้ว (ที่อาจจะมีเกี่ยวข้องกับเวอร์ชั่นละครก็แค่ความเกี่ยวพันของบางตัวละครเท่านั้น)
กับตัวหนังก็ยังถูกดัดแปลงใหม่ให้เป็นหนังดราม่าทริลเลอร์แนวระทึกขวัญไม่ใช่แนวผีหลอกวิญญาณหลอนยังที่เราเคยคุ้นชิน(แม้จะมีผีออกมาบ้างก็ตามเหอะ) มันเลยพลอยทำให้เอกลักษณ์และความขลังในแบบต้นฉบับเป็นถูกลดระดับลงไปเยอะ!!
พอเปลี่ยนจากหนังผีกลายมาเป็นหนังดราม่าระทึกขวัญแบบนี้ เราเลยจะไม่ได้เห็นฉากผีในหุ่นแบบต่างๆ มาหลอนหลอกอย่างที่เราเคยชิน (อาจจะมีเซอร์ไพร์สบ้างที่ยังได้เห็นผีท่านเจ้าคุณกับผีเด็ก และผีหุ่นบางตัวจากเวอร์ชั่นละคร) แต่จะได้ดูเป็นฉากดราม่าเล่นกับอารมณ์ของตัวละครแทนที่มันดันดูเยอะและแอบน่ารำคาญ(โดยเฉพาะฉากฝันร้ายของพระเอก) มันเลยพลอยทำให้ความน่ากลัวในหนังดูมีน้อยไปหน่อย!! ?!
ที่แม้จะถูกแทนที่ด้วยบรรยากาศหลอนๆ และการถ่ายภาพสวยๆ แต่โดยรวมเวอร์ชั่นนี้ก็ทำได้ไม่ถึงและโดนใจสักเท่าไร?!
ทั้งที่จริงๆ แล้วเรื่องการตีความใหม่นั้นมันไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย แต่ปัญหาที่แท้จริงก็คือ ตัวผู้กำกับไม่สามารถเล่าเรื่องให้ได้น่าสนใจและน่ากลัวอย่างที่หนังแนวนี้ควรเป็น..กับส่วนที่น่าหงุดหงิดที่สุดคงเป็นที่บทหนังที่ยืดเยื้อ วกไปวนมา และเล่าเรื่องได้น่าเบื่อ แถมยังดูไม่สมเหตุผลในหลายๆ ฉาก กับด้านการแสดงนั้นนางเอกของเรื่องอย่างเพชรก็แสดงได้ดีในระดับหนึ่ง ผิดกับอนันดาที่เรื่องนี้ดูเหมือนจะเล่นเยอะเกินไป จนบางครั้งก็ดูน่ารำคาญตามากกว่าจะเชื่อว่ามีปมทางใจอย่างที่ตัวละครเป็น ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นได้แค่ไม้ประดับพอให้ตัวหนังดูมีอะไร!!
และกับตอนจบสุดท้ายนั้นแม้จะไม่ได้หักมุมเกินคาดเดา และทำออกมาได้ไม่ค่อยอินสักเท่าไร? แต่ก็จัดว่าเป็นตอนจบที่เข้ากับเรื่องราวและสรุปจบได้เป็นอย่างดี!! สรุป ห้องหุ่น เวอร์ชั่นนี้เป็นหนังดราม่าระทึกขวัญภาคต่อที่นำมาตีความใหม่ที่ดันพยายามมากจนเกินไปเลยเสียเอกลักษณ์ความหลอนแบบเดิม แม้อาจจะไม่ถึงขั้นเสียของ แต่ก็ไม่มีดีอะไรมากพอให้จดจำ!!ป.ล. ควรดูฉากปิดท้ายเอนด์เครดิตให้จบ แล้วเราจะเข้าใจในปมของช่างปั้นหุ่นในเวอร์ชั่นนี้ได้เพิ่มมากขึ้น!!
ตอนนั้นยังเด็กๆอยู่ จำได้ว่าเรื่องนี้น่ากลัวสุดๆๆๆ
หลอนมากๆๆ โดยเฉพาะหุ่นคนแก่ที่นั่งเก้าอี้โยกน่ะ
ตอนนั้นเด็กๆๆจะกลัวกันมากเลย
พอมาเป็นหนังได้ข่าวว่าทำออกมาไม่ได้เรื่อง
น่าเสียดายที่ว่า ต้นฉบับลงมือสร้างเองแท้ๆ
เสียหมดเลย ดูท่าแล้วคงไม่ได้เงินเท่าไหร่นะ
ขอบคุณที่แวะไปชมดอกไม้จ้ะ
ไว้มาใหม่น้า