หนังรักวัยรุ่นเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ
มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เจ้าของผลงานเรื่องเยี่ยมอย่าง
รักแห่งสยาม, Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ, 13 เกมสยอง และ
คน ผี ปีศาจเมื่อเด็กม.ต้น 4 คน เริ่มทำอะไรสนุกๆ ด้วยการถ่ายคลิปแล้วโพสตามกระแส
Social Media ใน
Youtube "เกรียนฟิคชั่น" จึงกลายเป็นช่องฮิตติดอันดับ Top 5 ของนักเรียนทั้งโรงเรียน ทำให้แก๊งเกรียน (ฟิคชั่น) อันประกอบด้วย
ตี๋ (พันธดนย์ จันทร์เงิน),
โอ๊ต (กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม),
ม่อน (ปุริม รัตนเรืองวัฒนา) และ
โมน (กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) เจ้าของรายการกลายเป็นคนสำคัญขึ้นมาทันที แต่พวกเขาก็รักษาสถานะ
"Win" อยู่ได้ไม่นาน
เรื่องของเรื่องเกิดเมื่อตี๋เกิดจับผลัดจับผลูได้ไปเป็นพระเอกละครเวทีประจำปี พร้อมกับเมฆดำแห่งความซวยครั้งใหญ่ของโรงเรียนได้ถือกำเนิดขึ้น อันนำความหายนะสุดพีคมาสู่
พลอยดาว (ลักษณ์นารา เปี้ยทา) หญิงตัวท็อปดาวโรงเรียนที่ใครๆต่างหมายปอง จนเธออับอายหายไปจากโรงเรียนนานนับสัปดาห์ ถึงขั้นที่แก๊งเกรียนต้องถูกเนรเทศอัปเปหิออกจากชมรมและเกิดรอยช้ำดวงใหญ่ใน ใจของตี๋ โดยเฉพาะกับ
อ.แดงต้อย (ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย) ที่โกรธหัวฟัด จนถึงขั้นปรี๊ดแตกและมองพวกเกรียนเป็นเหมือนฝันร้ายของโรงเรียน ถึงคราวที่พวกเขาต้องหาทางกู้ความมั่นใจ จากกากให้กลายมาเป็นแก๊งเกรียนสุดเท่ที่ใครๆก็อยากมากระทืบ Like ไม่ใช่กระทืบไล่ และตาม Follow กันอีกครั้ง จน Ranking ค่อยๆไต่ระดับ สะสม Item สู่ระดับเมพขิงๆ โดยได้รับความช่วยเหลือจากรุ่นพี่และ
อ.เสน่ห์ (ตั๊ก บริบูรณ์)อาจารย์สุดเนิร์ดที่ไม่รู้ว่าจะมาคอยช่วยหรือมาหลอกจีบ
ทิพย์ (กิ๊บซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่) พี่สาวของตี๋ ที่ตอนนี้เธอเองดันไปมีแฟนหนุ่มคนใหม่
เขตต์ (โบ้ท เดอะเยอร์ส) จนไม่สนใจน้องชาย
ใครว่าชีวิตวัยรุ่นมันจะง่ายดายขนาดน๊าน ทั้งจีบหญิง ง้อสาว แกล้งเพื่อน หวงพี่ แถมสอบปลายภาคที่ใกล้เข้ามาทุกที แก๊งเกรียน จะกลายเป็นแก๊งกากหรือไม่ เอาใจช่วยพวกเข้าเหล่านี้ได้ใน
เกรียนฟิคชั่น(ขอบคุณเรื่องย่อจาก sanook.com)เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่เกือบจะพลาดเพราะว่าตัวอย่างหนัง เนื่องจากตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาโฆษณานั้นมันช่างไม่น่าสนใจและมีแรงดึงดูดใดๆมากพอที่จะทำให้ผมยอมเสียเงิน 190 บาทไปดูในโรงหนัง แต่ด้วยกระแสที่ดีถึงดีมากที่พูดถึง
เกรียนฟิคชั่น ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค(โดยเฉพาะในพันทิปและทวิตเตอร์) ว่าตัวหนังดีกว่าที่คิด ทำให้ผมตัดสินใจตีตั๋วเข้าไปชมหนังรักวัยรุ่นเกรียนๆเรื่องนี้ที่ถึงแม้จะดูในคืนวันพุธลดราคา(110 บาท) ก็ตามเถอะ!!
และก็พบว่า
เกรียนฟิคชั่น เป็นหนังที่ดีกว่าที่คิดมาก! ตัวหนังกับหน้าหนังต่างกันโดยสิ้นเชิง จัดว่าเป็นหนังรักดราม่า
แนววัยรุ่น (Coming of age) ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพของเพื่อนและความรักของครอบครัวเป็นแก่นหลัก มากกว่าหน้าหนังที่เป็นหนังขายความรักของวัยรุ่นเกรียนๆ อย่างที่ตัวอย่างหนังนำเสนอ ชอบในส่วนของเรื่องราวที่เล่าถึงมิตรภาพในวัยเรียนของนักเรียนมัธยมปลายมานำเสนอได้อย่างทันสมัยและโดนใจ มีการหยิบเอาสื่อ
Social Media ยุคใหม่มากล่าวถึงได้อย่างลงตัว กับประเด็นเกี่ยวกับครอบครัวนั้นแม้บทอาจจะดูอ่อนไปบ้างบางอย่าง แต่กับการเล่าเรื่องและบทหักมุมก็ทำออกมาได้ดี ทั้งซึ้ง อึ้งและโดนใจในความสัมพันธ์ไม่แพ้กัน!!
ชอบรองลงมาก็คือ การถ่ายภาพและเพลงประกอบในหนังที่ด้านภาพนั้นสวยมากอย่างกับมิวสิกวีดีโอในทุกฉาก ส่วนเพลงก็เพราะมากและพอเหมาะพอเจาะในแต่ละฉากได้อย่างพอดิบพอดีทำให้คนดูอย่างเราได้ซึ้งไปกับภาพข้างหน้าพร้อมกับอินไปกับเสียงเพลงที่ได้ฟังซึ่งทั้งสองส่วนนั้นต่างส่งเสริมกันและกันได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการแสดงนั้นขอบอกว่าบรรดานักแสดงหน้าใหม่แสดงได้เป็นธรรมชาติสุดๆ ทั้งเหล่าแก๊งเกรียน, เพื่อนนักเรียน และผู้ใหญ่ในเรื่อง แต่จะมีโดดเด่นมาหน่อยก็คงเป็น
กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์ ที่แสดงออกมาได้มีดีและเป็นธรรมชาติกว่าที่คิดเยอะ!!
และที่ชอบเป็นพิเศษก็คงเป็น 4 หน่อแก๊งเกรียน
**(ปลื้ม ปุริม >> แจ็ค กิตติศักดิ์ >> เจเจ กฤษณภูมิ >> เฟียต พันธดนย์) ที่น่ารัก กวนทีน และทำให้ฟินเว่อร์ ><
**เรียงลำดับตามความชอบ**นอกจาก เกรียนฟิคชั่น จะมีดีที่เรื่องราว, ภาพ, เพลง, การแสดง และนักเรียนชายมอปลายแล้ว ตัวหนังยังอุดมไปด้วยคำพูดโดนๆ ข้อคิดดีๆมากมายอีกด้วย อย่างเช่น..
[1] อนาคตของเราถูกกำหนดไว้ด้วยช้อยส์ไม่กี่ข้อ ที่ตั้งโดยใครที่เราไม่รู้จัก[2] ไม่มีชีวิตไหนบนโลกนี้ที่ไม่สำคัญ[3] คนอย่างมึงไม่สมควรเป็นบาดแผลในชีวิตของใครหรอก![4] และสุดท้ายถึงแม้จะไม่รู้ว่าในอนาคตจะต้องเจอกับอะไร หรือชีวิตจะพาหลงทางไปอยู่ที่ไหน.. "เพื่อน..คือคนที่จะตามหาเราเจอเสมอ"ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อดีทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวถึงมานั้นจึงต้องขอยกความดีความชอบให้กับตัวผู้กำกับอย่างมะเดี่ยวที่ทำหนังวัยรุ่นแนวครอบครัวดีๆออกมาให้ได้ชมกันและมันก็คุ้มกับเงินค่าตั๋วที่เสียไปมาก และในความรู้สึกส่วนตัวของผมพอได้ดูจริงๆแล้วกลับคิดว่า
เกรียนฟิคชั่น น่าจะจี๊ดโดนใจผู้ชมผู้ชายวัย 25+ ที่ผ่านประสบการณ์แบบในหนังมาก่อน(แบบผม) มากกว่าพวกวัย(แรก)รุ่นที่หนังตั้งใจจะขายเสียอีก!แม้บางบทสรุปอาจไม่โดนใจและตอนจบอาจไม่ถูกใจเท่าไร ด้วยตัวผู้กำกับอยากเลือกให้ตัวหนังเดินมาแบบนี้ จึงขอปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งประโยคยาวๆจากปากพระเอกในหนังที่พอจะบอกเล่าสารสำคัญและอาจเป็นบทสรุปปลายเปิดของ
เกรียนฟิคชั่น ได้เป็นอย่างดีว่า..
..นั่นแหล่ะ คือสิ่งที่กรูอยากจะบอกเกี่ยวกับหนังของเรา เราผิดพลาด ผิดหวัง หรือมีฝันสลาย แต่เราก็ยังยิ้มได้ เพราะเรารู้ว่า เรายังมีกำลังที่จะลุกตามฝันใหม่ๆ หรือสร้างความหวังใหม่ๆได้อีกครั้งหนึ่ง เราคือวัยรุ่น.. และนี่คือเรื่องของพวกเรา