กลับมาเป็นครั้งที่ 6 แล้วกับหนังแอ็คชั่นซิ่งรถภาคต่อที่ภาคนี้ได้ผู้กำกับเจ้าเก่าอย่าง
จัสติน ลิน (Justin Lin) ที่เคยกำกับภาค 3, 4 และ 5 ของหนังรถแข่งชุดนี้มากำกับความมันส์เหมือนก่อน โดยมีนักแสดงหน้าเก่าๆกลับมานำแสดงเหมือนเคย ทั้ง
วิน ดีเซล (Vin Diesel), พอล วอล์คเกอร์ (Paul Walker), ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson), มิเชล รอดริเกซ (Michelle Rodriguez), จอร์แดนา บรูว์สเตอร์ (Jordana Brewster), ไทริส กิ๊บสัน (Tyrese Gibson), ซุง กัง (Sung Kang), กัล กาด็อท (Gal Gadot), ลูดาคริส (Ludacris), เอลซา พาทากี้ (Elsa Pataky) ร่วมด้วยหน้าใหม่อย่าง
ลุค อีแวนส์ (Luke Evans) และ
จีนา คาราโน (Gina Carano)นับตั้งแต่การปล้นที่ริโอของ
ดอม (วิน ดีเซล) และ
ไบรอัน (พอล วอล์คเกอร์) ได้ทลายอาณาจักรของราชายาเสพติดและพวกเขาก็จากมาพร้อมกับเงิน 100 ล้านเหรียญ ตัวเอกของเราต่างก็กระจัดกระจายกันไปทั่วโลก แต่การที่พวกเขาไม่สามารถกลับบ้านเกิดและต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ทำให้ชีวิตของพวกเขาเหมือนขาดอะไรบางอย่าง..
ในขณะเดียวกัน
ฮ็อบส์ (ดเวย์น จอห์นสัน) ก็กำลังสืบร่องรอยขององค์กรนักซิ่งรับจ้างฝีมือพระกาฬที่ฝากผลงานอาชญากรรม ไว้ใน 12 ประเทศ โดยผู้อยู่เบื้องหลังองค์กรนี้ คือ
ชอว์ (ลุค อีแวนส์) ได้รับความช่วยเหลือจากมือขวาไร้ปรานีที่ถูกเปิดเผยว่าคือ
เล็ตตี้ (มิเชล รอดริเกซ) หญิงคนรักที่ดอมคิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว หนทางเดียวที่จะเอาชนะแก๊งอาชญากรรมนี้ได้ก็คือ ต้องใช้ทีมซิ่งที่เหนือกว่า ฮ็อบบ์จึงขอให้ดอมรวมทีมอีกครั้งที่ลอนดอน โดยมีข้อเสนอให้เป็นการไถ่โทษเก่าๆทั้งหมด เพื่อให้พวกเขาได้กลับบ้านและได้อยู่กับครอบครัวอีกครั้ง!!
(ขอบคุณเรื่องย่อจาก //jediyuth.com)ด้วยความที่ปรกติเป็นคนไม่ชอบดูหนังแข่งรถเท่าไร (เนื่องจากดูแล้วจะเวียนหัว) แต่เนื่องด้วยภาค 5 >>
Fast Five ที่เผลอตัว แกมโดนบังคับให้ไปดูนั้นเป็นหนังแอ็คชั่นที่มันส์เกินคาดมากกกกกกกกก ภาคนี้มีหรอที่จะพลาดและยิ่งได้ผู้กำกับคนเก่า พร้อมด้วยทีมนักแสดงชุดเดิมด้วยแล้ว ผมจึงยอมจ่ายเงินซื้อตั๋วดู
Fast & Furious 6 อย่างไม่ลังเล และก็พบว่าคุ้มมาก!!
จากที่เคยเป็นหนังเน้นซิ่งรถอย่างเดียวมาก่อนในภาค 1 4 (โดยมีภาค 5 เริ่มที่จะแอ็คชั่นมากขึ้น) พอมาถึงภาคนี้
Fast & Furious 6 หนังได้กลายพันธุ์มาเป็นหนังแอ็คชั่นเต็มตัวไปแล้ว แบบว่าไม่เน้นแค่ฉากแข่งรถแบบเมื่อก่อน แต่มาเน้นฉากแอ็คชั่นที่มีการซิ่งรถเป็นส่วนสำคัญแทน ซึ่งขอบอกว่ามันโดนใจมาก! เพราะฉากแอ็คชั่นทำออกมาได้มันส์สุดๆ บู๊สนั่น มันส์กระจาย และชอบเป็นพิเศษกับ
ฉากผู้หญิงตีกัน (Catfight) ที่แม้จะดูเว่อร์ไปบ้างในบางฉาก แต่ก็ดูสนุก ลุ้นระทึก และไม่ทิ้งลายหนังรถซิ่งอย่างที่เคยเป็น!!
นอกจากจะฟินไปกับความเปลี่ยนแปลงเรื่องฉากแอ็คชั่นและความมันส์แล้ว ผู้กำกับและคนเขียนบทก็ยังเอาใจแฟนหนังชุดนี้ด้วยการยกทีมนักแสดงนำรุ่นเก่ากลับมากันครบ (ยกเว้นภาค 2 ที่ถือว่าเป็นภาคแยก) ทั้ง
พี่วิน พี่พอล พี่จอห์นสัน (เดอะ ร็อค) และบรรดาลูกทีมของพวกพระเอกทั้งหลายที่ต่างก็ได้มาโชว์หน้าโชว์ตาพร้อมกับโชว์ฝีไม้ลายมือให้ได้ทึ่งกัน ซึ่งแต่ละคนก็มีฉากเด็ดช็อตดังเป็นของตัวเองกันถ้วนหน้าและก็แสดงได้ดีอย่างที่เคยเป็น แต่ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์หน่อยก็คงเป็นการปลุกผีตัวละคร
เล็ตตี้ ที่รับบทโดยมิเชล รอดริเกซ ที่ดูเหมือนว่าจะหาทางออกให้ง่ายๆไปมั้ย? กับสาเหตุที่ไม่ตาย? แบบเหมือนใส่บทเข้ามาเพื่อเอาใจแฟนๆสาวรอดริเกซโดยเฉพาะ!
ถ้าอยากดู
Fast & Furious 6 ให้เข้าใจและอินมากยิ่งขึ้น ก่อนดูแนะนำให้ไปไล่ดูหนังชุดนี้ไล่เรียงจากภาค 1 > 3 > 4 > 5 และปิดท้ายด้วยภาค 2 แล้วคุณจะเข้าใจอะไรๆมากขึ้น คุณจะเอาใจช่วยไปกับพวกพระเอกมากขึ้น คุณจะอินไปกับเรื่องราวในหนังมากขึ้น และคุณจะอึ้งไปกับฉากเอ็นเครดิตจนทำให้เกิดอาการอยากดูภาค 7 แทบทนไม่ไหวแน่นอน?!
แต่ไม่มีเวลาเอาซะเลย