จากความสำเร็จของภาคแรกทำให้หนังมหากาพย์สงครามย้อนยุคภาคต่อที่สร้างมาจากนิยายภาพชื่อ Xerxes ของแฟรงค์ มิลเลอร์ เรื่องนี้ได้กลับมาโลดแล่นบนจอเงินอีกครั้ง โดยครั้งนี้ขอเปลี่ยนผู้กำกับใหม่มาเป็น โนม เมอร์โร ที่มาพร้อมด้วยนักแสดงทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่อย่าง ซัลลิแวน สเตเปิลตัน, เลน่า ฮีเดย์, ร็อดริโก ซานโตโร, ฮานส์ เมธีสัน, คัลแลน มุลวีย์, เดวิด เวนแฮม, แจ็ค โอ’คอนเนลล์ และ เอวา กรีน









หนังว่าด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมรภูมิรบกลางทะเล เมื่อขุนพลเธอมีสโตคลีส(ซัลลิแวน สเตเพิลตัน) แห่งเอเธนส์ต้องนำทัพทหารอันน้อยนิดเข้าต่อต้านการรุกรานของเปอร์เซียที่ยกทัพเรือเข้ามาโจมตี ภายใต้การนำของอาร์เทมีเซีย(เอวา กรีน) แม่ทัพหญิงสุดโหด.. มหาศึกแห่งความแค้นและความตายจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง!!









300: Rise of an Empire ถือว่าเป็นหนังภาคต่อที่เล่าเรื่องในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันกับภาคแรก คือเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกับใน 300 แค่เปลี่ยนจากศึกบนบกในช่องแคบมาเป็นศึกกลางทะเลแทน โดยตัวหนังเลือกเล่าเรื่องย้อนถึงที่มาที่ไปของศึกระหว่างกรีกกับเปอร์เซียให้คนดูได้รับรู้ว่าต้นเหตุเกิดจากอะไร? ทำไมกษัตริย์กึ่งเทพอย่างเซอร์ซีสถึงตั้งใจมาบุกยึดกรีก? ก่อนที่จะหันมาเล่าเรื่องราวแห่งมหาศึกสงครามล้างแค้นที่เส้นเรื่องขนานกันไปกับภาคแรก ที่ถึงแม้จะมีการเล่าย้อนอดีตพอให้ได้รับรู้อยู่บ้าง แต่สำหรับหน้าใหม่(ที่ไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อน) ก็อาจมีทำให้งงอยู่(เพราะมีอยู่หลายฉากที่พูดถึงภาคแรก) ฉะนั้นทางที่ดีควรไปดูภาคแรกมาก่อนจะดีกว่าเพราะจะทำให้ดูหนังเรื่องนี้ได้เข้าใจและสนุกขึ้นอีกเยอะ









ยังคงโดดเด่นด้วยงานด้านภาพเหมือนเคยที่ช่างสวยบาดตาและดูอึมครึมบาดใจอย่างกับกำลังดูมิวสิกวิดีโอก็ไม่ปาน ยิ่งกับฉากต่อสู้สโลโมชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยแล้วยิ่งเท่โดนใจสุดๆ และกรี๊ดสุดๆ กับฉากแอ็คชั่นฟันเลือดสาดทั้งหลายที่มันช่างโหดถูกใจคอหนังซาดิสม์แบบผมจริงๆ

ด้านกับการแสดงนั้นแม้สเตเปิลตันจะไม่ได้หล่อมีเสน่ห์โดนใจแบบที่พี่เจอราร์ดพระเอกภาคแรกทำได้ก็ตาม แต่ก็ยังดูเท่น่าเกรงขามสมกับบทแม่ทัพผู้เก่งกาจได้อยู่ แต่กับคนที่โดดเด้งเด่นโดนใจเป็นพิเศษนั้นคงต้องยกให้หนึ่งสาวในหมู่ผู้ชายอย่างสาวกรีน ที่มาในมาดแม่ทัพตัวร้ายที่มีบาดแผลในใจได้อย่างโคตรร้ายและน่าสงสารไปพร้อมๆ กัน









นอกจากจะเต็มไปด้วยฉากรบเลือดสาดและอัดแน่นไปด้วยกล้ามท้องของหนุ่มๆ ระดับที่ทำให้ต่อมฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนพลุ่งพล่านแล้ว หนังเองก็ยังมีประเด็นโดนๆ ข้อคิดดีๆ ของหนังแนวนี้ที่มักไม่พ้นเรื่องที่ว่า.. สงครามไม่ว่าจะในยุคไหนสมัยไหนก็ตาม สุดท้ายมันก็มักจะจบด้วยการสูญเสียและความตายอยู่เสมอ!!









สรุป 300: Rise of an Empire เป็นหนังสงครามย้อนยุคภาคต่อมาดแมนที่เน้นเลือดสาด ภาพสวย ฉากสโลฯ และละลานตาไปด้วยมัดกล้ามของหนุ่มๆ (แบบว่าชวนจิ้นและฟินเว่อร์) ที่อาจจะมีหงุดหงิดอยู่หน่อยกับตอนจบสุดท้ายที่มาแบบค้างคาชวนให้อยากดูภาคต่อซะเหลือเกิน..



ป.ล.หงุดหงิดเข้าไปอีกกับฉากซั่มกันระหว่างพระเอกกับนางร้ายที่ดูเหมือนว่าจะถูกกองเซนเซอร์บ้านเราตัดออกไป ทำให้ไม่อินไปกับประโยคเด็ดที่นางด่าพระเอกว่า.. นายน่ะตอนรบแข็งแรงดุดันกว่าตอนทำรักซะอีก!!