สุดยอดตัวร้ายแห่งโลกดิสนีย์
มาเลฟิเซนท์ จากนิทานคลาสสิกเรื่องดัง
Sleeping Beauty (เจ้าหญิงนิทรา) ที่ร้ายจนได้ดีเลยโดนดันให้มีหนังใหญ่เป็นของตัวเอง โดยบทนางฟ้าปีศาจที่ว่านี้ก็ได้นักแสดงสาวสวยยอดฝีมืออย่าง
แอนเจลีนา โจลี่ มารับบท ร่วมสมทบด้วย
แอล แฟนนิ่ง, แซม ไรลี่, เบรนตัน ธเวตส์, อิเมลดา สตอนตัน, เลสลี่ แมนวิลล์, จูโน แทมเปิล และ
ชาร์ลโต คอปลี่ย์ จากการกำกับหนังใหญ่เป็นครั้งแรกของ
โรเบิร์ต สตรอมเบิร์ก ว่าด้วยเรื่องราวของ
มาเลฟิเซนท์(แอนเจลีนา โจลี่) ที่เป็นการเอาเรื่องราวในแอนิเมชั่นคลาสสิคของดิสนีย์
Sleeping Beauty (เจ้าหญิงนิทรา) ที่ออกฉายปี 1959 มาเล่าใหม่ในมุมมองของตัวร้าย กับการเปิดเผยเรื่องราวที่ไม่เคยถูกบอกเล่ามาก่อนถึงต้นกำเนิดจุดพลิกผันที่เปลี่ยนให้มาเลฟิเซนท์ จากนางฟ้าผู้พิทักษ์ป่าแสนดี กลายมาเป็นนางฟ้าปีศาจตัวร้ายที่ไร้หัวใจที่ขออาฆาตสาปเจ้าหญิงตัวน้อยนามว่า
ออโรร่า(แอล แฟนนิ่ง) ด้วยการสาปให้ต้องนิทราไปตลอดกาลด้วยเข็มปั่นด้ายในวันเกิดครบรอบ 16 ปี!!
Well Well.. จงลืมนิทานที่เคยอ่านมาซะ!! เพราะ
Maleficent เวอร์ชั่นนี้คือการตีความใหม่ที่หยิบเอานางฟ้าตัวร้าย
ขุ่นแม่มาลี(ชื่อไทยที่ไม่รู้ใครคิด?!) จากเรื่อง
เจ้าหญิงนิทรา มาบอกเล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นยันตอนจบที่อาจจะไม่เหมือนกับในนิทานหรือการ์ตูนที่เราเคยดูมา..
มาตามสไตล์หนังดิสนีย์โดยแท้ที่แบบว่าเอาใจคอหนังเทพนิยายสุดๆ คือเล่าเรื่องแบบเป็นนิทานที่เปิดเรื่องด้วยกาลครั้งหนึ่ง.. แล้วจบลงด้วยมีความสุขตลอดไป?! แต่แค่เปลี่ยนจุดสนใจจากที่ต้องเป็นเจ้าหญิงนางเอกมาเป็นนางฟ้าตัวร้ายแค่นั้นเอง!!
ชอบเป็นพิเศษก็เรื่องการตีความใหม่นี่แหละที่เล่าเรื่องออกมาได้ไม่ซ้ำเก่าจนทำให้ขุ่นแม่มาลีดูเป็นคนมีเลือดมีเนื้อมีหัวใจมากกว่าเป็นนางฟ้าตัวร้ายแสนร้ายกาจอย่างที่ผ่านมา แบบว่ามีประเด็นดราม่านั่นโน่นใส่เข้ามาเสริมการกระทำให้ดูมีเหตุผลว่า..
ตัวร้ายอย่างชั้นไม่ได้เอะอะๆ ก็ร้ายใส่นะยะ แต่มันมีที่มาที่ไปย่ะ เข้าใจป่ะพวกคนดี!!กับฉากแฟนตาซีอลังการและงานซีจีงามๆ นั้นหนังก็ทำออกมาได้สวยดีดูเพลินตา โดยที่มีฉากแอ็คชั่นแฟนตาซีเสริมเข้ามาเป็นระยะๆ พอให้หนังดูมีอะไรขึ้น
ส่วนทีเด็ดสุดก็ต้องเป็นฉากขายอย่างฉากในงานฉลองการประสูติของเจ้าหญิงที่ขุ่นแม่มาลีต้องมาสำแดงเดชร่ายคำสาปที่ยังทำออกมาได้อิงต้นฉบับและเสริมเพิ่มเติมได้อย่างทรงพลัง.. (จน Well Well.. กลายเป็นประโยคฮิตใหม่ขึ้นมา!!) ส่วนกับบทหักมุมไคลแมกซ์นั้นก็ทำเอาเซอร์ไพร์สได้ใจอยู่!!
ก็อย่างที่บอกว่านี่มันหนังของขุ่นแม่มาลีนี่นา ชีก็ต้องโดดเด่นเป็นตัวเอกอยู่แล้ว ซึ่งพอเป็นแบบนี้เหล่าตัวเอกในเวอร์ชั่นอื่นๆ ทั้งเจ้าหญิง-เจ้าชายก็เลยพลอยโดนลดระดับความสำคัญลงไปด้วย (โดยเฉพาะบทเจ้าชายฟิลลิป) ปล่อยให้ขุ่นแม่มาลีของเราวาดลวดลายโชว์ลีลาเทพอยู่คนเดียว!
ซึ่งตรงนี้โจลี่ก็เอาอยู่ทั้งบทบู๊ แรง ร้าย ดราม่าหรือว่าน่ารัก.. ทุกอิริยาบถช่วยเพิ่มระดับความน่าติดตามให้กับหนังเหมือนกับว่าบทนี้เกิดมาเพื่อเธอชัดๆ แบบว่าถ้าเป็นคนอื่นแสดงหนังคงดร็อปความสนุกลงไปกว่านี้อีกเยอะ!! (กับซีนกระชากอารมณ์ที่สุดก็ต้องยกให้ฉากไคลแมกซ์สูญเสียของสำคัญฉากนั้นที่โจลี่แผดร้องไห้แสดงความเจ็บปวดได้บาดลึกถึงอารมณ์ยิ่งนัก)
ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ นั้นก็อย่างที่บอกโดนรัศมีขุ่นแม่มาลีกลบซะมิด มีที่พอให้พูดถึงหน่อยก็คงเป็น 3 สาวใหญ่(สตอนตัน, แมนวิลล์ และ แทมเปิล) ในบทของ 3 นางฟ้าแฟรี่ที่รั่วได้ใจดี กับสาวแฟนนิ่งในบทเจ้าหญิงออโรร่าที่พอดูใสๆ น่ารักได้ใจอยู่
และหนุ่มไรลี่ในบทเดียวัลอีกาข้ารับใช้ของขุ่นแม่มาลีที่เวอร์ชั่นนี้ซื่อสัตย์แสนดีแถมยังน่ารักโดนใจชะมัด!!สรุป
Maleficent เป็นหนังนิทานแฟนตาซีตีความใหม่ที่มีดีที่โจลี่ เพราะหากไม่ได้นางช่วยพยุงหนังไว้คงสนุกน้อยกว่านี้เยอะ ซึ่งโชคยังดีอีกหน่อยที่หนังยังพอมีเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจ แถมยังมีอะไรใหม่ๆ ให้ได้ลุ้น และฟินสุดคือสุดท้ายหนังก็ยังทำให้รู้ว่า.. การแก้แค้นไม่ได้มีดีอะไรและจูบจากรักแท้ยังมีอยู่จริง!!