ผู้กำกับอินดี้สุดแนว
นีลล์ บลูมแคมพ์ (Neill Blomkamp) แห่ง
District 9 กลับมาอีกครั้งกับหนังแอ็คชั่นไซ-ไฟแนวถนัดที่ครั้งนี้ขอใช้ทุนสร้างสูงขึ้น โดยหนังได้นักแสดงระดับหัวแถวอย่าง
แมตต์ เดมอน (Matt Damon) กับ
โจดี้ ฟอสเตอร์ (Jodie Foster) มานำแสดง ร่วมด้วย
ชาร์ลโต ค็อปลีย์ (Sharlto Copley), ดิเอโก้ ลูน่า (Diego Luna), แว๊กเนอร์ มูร่า (Wagner Moura) และ
อลิซ บรากา (Alice Braga) ว่าด้วยเรื่องราวในโลกอนาคตปี 2159 เมื่อโลกคือซากปรักหักพังอันเสื่อมโทรมเต็มไปด้วยสารกัมมันตรังสี แหล่งรวมผู้คนยากจนคุณภาพชีวิตต่ำ แต่สำหรับสถานีอวกาศ
Elysium (เอลิเซียม) มันคือแดนสวรรค์ของคนมั่งคั่ง ปลอดอาชญากรรมและไร้ความเจ็บป่วยเพราะมีเทคโนโลยีสุดไฮเทครักษาได้แม้กระทั่งโรคมะเร็ง!!
แม็กซ์ เดอ คอสตา (แมตต์ เดม่อน) อาศัยอยู่บนโลกที่ผุพัง เมื่อวันหนึ่งแม็กซ์ได้รับสารกัมมันตรังสีมรณะเข้าไปทำให้เขาเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกเพียง 5 วัน แม็กซ์จึงต้องดิ้นรนหาทางไปยังเอลิเซียมเพื่อเยียวยารักษาตัวเอง...แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะไหนจะทั้งนักการเมือง ไหนจะเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วก็ไหนจะทหารรับจ้างที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้ามาขัดขวาง ชีวิตของเขาจึงเหมือนกับยืนอยู่บนเส้นด้ายดีๆนั่นเอง!
ด้วยความที่ก่อนดูไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะกระแสที่ได้ยินมาก่อนหน้า(จากต่างประเทศ) ค่อนข้างจะติดลบ
แต่พอได้ดูกลับพบว่าหนังมันก็สนุกดีนี่หว่า แม้มันจะมาพร้อมพล็อตคุ้นๆ ฉากแอ็คชั่นซ้ำๆ และเล่าเรื่องเรื่อยๆ แต่ความสนุกนั้นกลับมีล้น! โดยหนังก็มาตามสูตรหนังแอ็คชั่นไซ-ไฟในโลกอนาคตแบบเดิมๆนั่นแหละที่ถ้าไม่ขายความสวยล้ำของเทคโนโลยีในโลกอนาคต ก็จะเน้นขายความเสื่อมโทรมของโลกมนุษย์
ซึ่งสำหรับ Elysium นั้นก็ขอบอกเล่าเรื่องราวอย่างหลังเน้นหนักที่ความเหลื่อมล้ำกันทางชนชั้นของคนรวยล้นฟ้ากับคนจนเดินดิน ผ่านตัวพระเอกของเราที่เป็นฝ่ายหลัง จากที่เป็นแค่การต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดส่วนตัว สุดท้ายมันกลับยิ่งใหญ่จนกลายเป็นสงครามระหว่างชนชั้นที่ถึงขั้นปลดแอกสิทธิเสรีภาพของมนุษย์!!กับด้านภาพและฉากหลังนั้นก็สวยสมจริงเหมือนอยู่ในโลกอนาคต ส่วนฉากแอ็คชั่นก็พอมันส์บ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าไรนัก ด้านการแสดงถือว่าสอบผ่านหมด เดม่อนมาแบบแมนๆสมกับเป็นพระเอกระดับแรงงาน ส่วนฟอสเตอร์นั้นมาแบบตัวร้ายนักการเมืองที่ร้ายลึกน่าชัง แต่ที่โดดเด่นสุดก็คงเป็นค็อปลีย์ที่ดูร้ายเว่อร์เหมือนตัวร้ายในการ์ตูนซะเหลือเกิน!!
สุดท้ายแม้ดูเหมือน
Elysium จะมาแบบหนักๆ มีประเด็นแรงๆให้พูดถึง แถมมีตอนจบที่เศร้าซึ้งกินใจ แต่ตัวหนังนั้นก็ไม่ได้ลงลึกและโดนใจได้มากเท่ากับหนังเรื่องเก่าของผู้กำกับอย่าง
District 9 เคยทำได้
อาจเป็นด้วยพล็อตที่ดูซ้ำๆและหลายสิ่งอย่างที่ดูเดิมๆสุดท้ายจึงทำให้ Elysium โดนความคาดหวังเล่นงานจนเป็นได้แค่หนังแอ็คชั่นไซ-ไฟเนื้อเรื่องเกือบดีมากเรื่องหนึ่ง!!
แต่ถ้าถามว่าถ้าได้ดูเรื่องนี้ก่อน District 9 แล้วจะเป็นยังไง... ก็คงเป็นหนังฮอรีวู้ดเรื่องนึงที่ดูเอาสนุกได้อย่างเดียวอยู่ดีค่ะ