The Final destination 4 : ตอนที่สี่กับซีรี่ย์โกงความตาย
กลับมาอีกครั้งกับภาคต่อของหนังชุดโกงความตาย (Final Destination1-3) ที่คราวนี้ภาค 4 ขอกลับมาพบกับคนดูในรูปแบบของ 3 มิติ (3D) ภาคนี้เป็นผลงานการกำกับของเดวิด อาร์ เอลลิส (David R. Ellis) ที่เคยกำกับ Final Destination 2 และ Snake on a Plane มาแล้ว ซึ่งแค่นี้ก็คงจะพอการันตีความสนุกของหนังได้ในระดับหนึ่ง
หนังเล่าถึงนิค (บ็อบบี้ แคมโป) ที่ตัดสินใจไปดูแข่งรถแทนการดูหนังอย่างที่ควรจะเป็น ขณะดูรถแข่งอยู่นิคกลับเห็นภาพเหตุการณ์ล่วงหน้าถึงความหายนะในสนามรถแข่งที่เหล่าคนดู ตัวเขาและเพื่อนๆก็ไม่อาจรอดชีวิตออกไปได้ พอหลุดจากภวังค์ร้าย นิคบอกแฟนสาว ลอรี่ (แชนเทล แวนแซนเทน) และเพื่อนๆ เจเนท (ฮาเลย์ เวบบ์) กับฮันท์ (นิค ซาโน) ให้รีบออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด ถ้ายังไม่อยากตาย สุดท้ายพวกเขาและคนอื่นๆ ที่พลอยติดร่างแหมาด้วยก็ออกมาจากสนามรถแข่งได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เห็นสิ่งที่นิคบอกด้วยตาของตัวเอง แต่นี่ไม่ใช่จุดจบ มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของความตาย การโกงความตายจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
กับความสนุกของหนังในภาคนี้ก็มีดีแค่พอๆกับภาค 3 เท่านั้น อย่าหวังว่าจะได้เจอกับความสดใหม่แบบภาค 1 และความสยองสุดๆแบบภาคที่ 2 เคยทำได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้กำกับจากภาค 2 ก็ตามเถอะ สาเหตุมันก็มาจากภาคนี้มันไม่มีความสดใหม่เหมือน 2 ภาคก่อนหน้านั้นต่างหาก ที่ฉากการตายและวิธีการตายในแต่ละครั้งยังคงสดใหม่อยู่นั่นเอง แต่มาครั้งนี้คนดูคง รู้ทันหมดแล้วว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะตายก่อนใครจะตายหลัง ใครจะรอดหรือใครจะไม่รอด มันเดาทางออกหมดแล้ว ความสนุกของเรื่องราวจึงลดลงไปเยอะ
ดังนั้นคนดูจึงต้องหันมาพึ่งความสนุกจากภาพสยองแทน ที่ภาคนี้ก็ทำได้ในระดับหนึ่ง ย้ำว่าแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะคนดูเริ่มเดาออกหมดแล้วว่าที่เห็นๆตอนแรกไม่ได้ทำให้ตายหรอก แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นต่างหากที่เป็นของจริง
*****************เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (คลิกคลุมเพื่ออ่าน)****************
ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือฉากจบของภาคนี้ ที่จบแบบไม่มีใครรอดตายสักราย ทั้งพระเอก นางเอกและเพื่อนนางเอก ที่อุตส่าห์เอาตัวรอดมาจากเหตุการณ์ก่อนหน้า แต่กลับต้องมาตายในตอนสุดท้ายจนได้ เหมือนกับผู้กำกับอยากจะบอกว่าในโลกใบนี้ไม่มีใครสามารถโกงความตายได้หรอก อย่างไรสุดท้ายก็ต้องตายกันทุกคนอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่าใครจะตายก่อนตายหลังเท่านั้นเอง
ที่จริงแล้วภาคนี้เขาทำออกมาเพื่อให้ดูแบบ 3 มิติโดยเฉพาะ แต่ผมก็ไม่ได้ดู เลยไม่รู้ว่าความสนุกที่ได้รับจากการเห็นภาพสยองๆเป็นแบบ 3 มิตินั้น มันจะช่วยทำให้หนังสนุกเพิ่มขึ้นอีกไหม? อยากรู้จริงๆ
อย่าเห็นว่านี่เป็นหนังสยองขวัญเลือดสาดไร้สาระที่ไม่มีอะไรกลับมาให้เอาไปคิด แต่กับสิ่งที่ผมได้คือ เวลาทำอะไรก็ตามแม้มันจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ควรรอบคอบสักนิด อย่าประมาท สะเพร่า เลินเล่อและมักง่าย เพราะสาเหตุเล็กๆเหล่านี้ อาจทำให้คุณเสียใจไปตลอดชีวิตหรือไม่ก็ไม่ทันมีโอกาสได้เสียใจเพราะไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้วนั่นเอง
และหวังว่าคงปิดฉากได้สักทีสำหรับหนังชุดนี้ที่มาถึงทางตันของความสร้างสรรค์ในฉากสยองแล้ว แต่ถ้ายังมีภาคใหม่ออกมา ผมก็คงยังตามไปดูอยู่ดี ก็ดูมาทุกภาคแล้วนี่ เดี๋ยวค่อยเอามาบ่นทีหลังก็ได้ ใช่ไหม???
ความน่าดู 5/10 ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรสดใหม่ แต่บวกคะแนนเพิ่มให้ที่ครั้งนี้ได้ดูแบบจัดเรต 18+ เลยได้เห็นภาพสยองชัดๆ แบบไม่มีตัด ไม่มีเบลอ มันช่างถูกใจแฟนหนังซาดิสม์อย่างผมเสียจริง
Create Date : 09 กันยายน 2552 |
|
23 comments |
Last Update : 27 กันยายน 2556 16:43:52 น. |
Counter : 8814 Pageviews. |
|
|
|