บุปผาราตรี 3.2 (Rahtree Revenge) : ไปดีมาดีเถอะบุปผา
หนังผีภาคต่อของผู้กำกับยุทธเลิศ สิปปภาค ที่ขอกลับมาหากินกับผีสาวบุปผากันอีกครั้ง ก็อย่างที่เคยบอกไปผมติดตามผลงานของผู้กำกับท่านนี้มาโดยตลอด มีผิดหวังบ้าง (โกยเถอะเกย์, บุปผาราตรี 3.1) สมหวังบ้าง (บุปผาราตรี, กุมภาพันธ์, รัก/สาม/เศร้า, สายล่อฟ้า) หรือเฉยๆบ้าง (มือปืน/โลก/พระ/จัน, บุปผาราตรี เฟส 2, กระสือวาเลนไทน์) คละเคล้ากันไป แต่โดยรวมแล้วก็ยังเทคะแนนไปในทางที่ชอบมากกว่าอยู่ดี
มาครั้งนี้ผีบุปผา (พลอย-เฌอมาลย์ บุญศักดิ์) หลังจากกลับชาติมาเกิดใหม่ในร่างของเด็กหญิงปลา (ด.ญ. นัดตะวัน ศักดิ์ศิริ) แต่กลับโดนฆ่าตายอีกครั้งในภาคที่แล้ว มาภาคนี้เธอจึงขอกลับมาทวงแค้นและไล่ฆ่า พวกผู้ชายทุกคนแบบไม่ไว้หน้าที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาในออสการ์อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ ด้านหรั่ง (มาริโอ้ เมาเร่อ) ที่ยังไม่รู้ว่าพี่สาวรักแรกของเขานั้น บัดนี้ได้กลายเป็นผีไปนานแล้ว ก็พยายามจะบอกความในใจกับบุปผาให้จงได้ เรื่องราวอลหม่านปนเลือดสาดระหว่างผีกับคนจึงเริ่มต้นขึ้น
ถึงจะไม่ได้ดูบุปผาราตรี 3.1 มาก่อน แต่อยากมาดูภาคนี้เลย ผมว่าก็ยังพอจะเข้าใจและดูรู้เรื่องอยู่ว่าผีบุปผามีที่มาอย่างไร? แต่กับเรื่องราวนั้นมันช่างไร้สาระและหาได้มีความบันเทิงใดๆเลย มีดีแค่ดาราตลกออกมากันให้ขวักไขว่ก็เท่านั้น แถมยังแทบจะไม่มีความสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่องอีกต่างหาก กับมุกแบบนี้ที่เคยใช้ได้ดีในบุปผาราตรี ภาคแรกนั้น เป็นเพราะว่ามันแปลกใหม่และพอเหมาะพอเจาะต่างหาก แถมมันยังขึ้นอยู่กับนักแสดงตลกคนนั้นว่ามีดีและตลกพอหรือเปล่า แต่กับภาคนี้นักแสดงตลกหลายคน ไม่รู้ว่าผู้กำกับจะใส่บทมาทำไม? ซึ่งผู้กำกับคงคิดว่ายิ่งมีนักแสดงตลกมากยิ่งขายได้ง่าย แต่ผมว่ากับบางคนสู้ไม่มีซะยังจะดีกว่า เพราะช่างน่ารำคาญลูกตาซะเหลือเกิน
จนทำให้ฉากตลกในเรื่องนั้นทั้งไม่ขำและไม่ฮา ได้เพียงแค่หัวเราะ หึหึ!! เพราะมันทั้งหยาบคาย ไร้สาระ ไม่ตลก ไม่ว่าจะเป็นมุกตลกหยาบคายของบรรดานักแสดงตลกทั้งหลาย หรือจะเป็นมุกตลกของ 2 ตำรวจคู่หู หมวดอังเคิล (อดิเรก วัฏลีลา) และจ่าบุญถิ่น (บุญถิ่น ทวยแก้ว) ตัวละครเจ้าประจำของผู้กำกับท่านนี้ที่เคยขายได้และทำได้ดีในภาคก่อนๆ แต่กับภาคนี้พวกเขาก็ไม่ได้ช่วยฉุดให้หนังดูดีและสนุกขึ้นมาได้แต่อย่างไร? ส่วนความน่ากลัวที่เคยเป็นจุดขายนั้นกับภาคนี้ลดลงไปเยอะเหมือนกัน เพราะว่าบทผีเด็กหญิงปลามันไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่แล้ว ก็แค่น่ากลัวที่หน้าตา กับท่าเดินที่ออกจะดูตลกกว่าน่ากลัวซะด้วยซ้ำ จากที่เคยตกใจก็เหลือเพียงแค่สะดุ้งนิดหน่อย แถมยังสะดุ้งให้กับเสียงไม่ใช่ภาพอีกต่างหาก
กับการแสดงนั้นพลอย-เฌอมาลย์ ก็มาในมาตรฐานเดิมๆที่เธอทำไว้ ยังคงเป็นจุดขายและจุดแข็งของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี แต่กับพระเอกอย่างมาริโอ้ ต่างหาก ที่ช่างแสดงได้ไร้อารมณ์ทั้งสีหน้าและท่าทางที่แข็งราวกับท่อนไม้ซะจริงๆ ส่วนการแสดงที่ผมแอบชื่นชมมาตั้งแต่ภาคที่แล้วนั้น คือเธอคนนี้ต่างหาก น้องนัดตะวัน ในบทเด็กหญิงปลาที่แสดงได้เป็นธรรมชาติสุดๆจริงๆ
สำหรับภาคนี้ผมว่ายังก็ดีกว่าภาค 3.1 มากๆ เพราะดูแล้วเข้าใจง่าย มีสนุกบ้างในบางครั้ง หัวเราะบ้างในบางขณะ แต่ถึงภาพโดยรวมจะออกมาผิดหวังก็ตามเถอะ จนอยากบอกกับผู้กำกับท่านนี้ว่า...ได้โปรดอย่าพาบุปผากลับมาอีกเลย ปล่อยให้เธอไปดีซะทีเถอะ เพราะถ้าขืนยังพาเธอกลับมาอีก กลัวว่าคราวหน้าหนังจะแย่ยิ่งกว่านรกที่บุปผาเคยไปมาซะอีก...นี่เตือนเพราะว่าหวังดีจริงๆนะ
ความน่าดู 4/10 เสียดายเงิน 150 บาทจัง แต่ทำยังไงได้ก็ผมชื่นชอบบุปผากับผู้กำกับคนนี้น่ะสิ
Create Date : 24 สิงหาคม 2552 |
|
17 comments |
Last Update : 6 มิถุนายน 2557 14:25:52 น. |
Counter : 5682 Pageviews. |
|
|
|
ทำไมถึงทำมาหลายภาค หลายตอนจัง...
สงสัยจะทำแข่งกะบ้านผีปอบ (ฮา)
ปล.ชอบภาคแรกมากที่สุด
ชอบตอนที่มันเฉลยว่า ใครเป็นผี ทำไมถึงเป็นผี (ตอนใกล้จบ)