ร้านอาหารร้านที่สามที่ได้ไปชิมมาในทริปเชียงใหม่ล่าสุดเป็นอาหารมื้อเย็นในวันแรกครับมื้อนี้เรามีไกด์ท้องถิ่นที่เป็นสาวเชียงใหม่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์ในการเลือกร้านครับเราบอกไกด์กิตติมศักดิ์ว่าอยากทางอาหารเมือง (เพราะชอบมากๆเป็นการส่วนตัว)ไกด์กิตติมศักดิ์รู้ใจมากๆครับพาไปกินร้านอาหารเมืองชื่อดังที่มีเมนูเมืองๆเยอะแยะละลานตาไปหมดเรยคราบ

ร้านบ้านไร่ยามเย็น ฟ้าฮ่าม เชียงใหม่

วิธีการเดินทางมาที่ร้านบ้านไร่ยามเย็นก็ถือว่าไม่ยากมากนะครับแต่ค่อนข้างจะอยู่ลึกในซอยแยกออกจากถนนใหญ่ไปนิดนึงครับ จากเส้นทางที่เราไปกันในวันนี้เราเริ่มจากโรงแรมของเราตรงถนนห้วยแก้วเราใช้ถนนซุเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่มุ่งหน้าลำปางผ่านวัดเจ็ดยอดทางซ้ายมือผ่านโรงพยาบาลล้านนาทางซ้ายมือ แล้วก็ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปิงพอลงสะพานให้กลับรถทางซ้ายมือแล้ววิ่งบนถนนคู่ขนานกับสะพานย้อนมาทางแม่น้ำปิงเข้าซอยขวามือซอยแรกที่เป็นซอยใหญ่ๆหน้าซอยเป็นสำนักงานของศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษขับตรงเข้าซอยไปไม่ไกลครับทางเข้าร้านบ้านไร่ยามเย็นอยู่ทางขวามือข้างๆวัดธรรมลังกาใกล้ๆห้องสมุดประชาชนอำเภอเมืองเชียงใหม่ครับ

ร้านบ้านไร่ยามเย็นเป็นร้านอาหารประเภทสวนอาหารขนาดใหญ่ครับ เราไปถึงตอนที่ฟ้ามืดสนิทแล้วก็เลยมองเห็นบรรยากาศของร้านไม่ได้มาก แต่เท่าที่เห็นก็พอจะเดาได้ว่าเป็นสวนอาหารขนาดใหญ่ ตัวร้านแบ่งเป็นอาคารโล่งๆหลายๆหลัง มีโต๊ะนั่งมากมายทั้งที่อยู่ในตัวอาคารและอยู่ที่พื้นที่เชื่อมต่อตัวอาคารครับ

เราเลือกโต๊ะมากไม่ได้เพราะคนเยอะทีเดียวครับพอได้นั่งโต๊ะพนักงานก็เอาเมนูมาให้ มีทั้งอาหารเมืองและเมนูปกติแต่คิดว่าอาหารเมืองค่อนข้างจะเยอะกว่านะครับเพราะเปิดไปครึ่งเล่มกว่าๆยังไม่เห็นเมนูปกติเลย แต่วันนี้เราจะมากิ๋นข้าวแลงกันอยู่แล้วครับเมนูปกติก็เลยไม่อยู่ในสายตา อิอิอิ

เมนูแรกที่เราสั่งมาเป็นออร์เดิร์ฟก็คือ ออร์เดิร์ฟเมือง ราคา 190 บาท

ออร์เดิร์ฟเมืองของที่ร้านบ้านไร่ยามเย็นก็จะมีไส้อั่ว ไก่ทอด แหนม หมูยอ แคบหมูและน้ำพริกหนุ่ม รสชาติก็มาตรฐานดีครับไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมีแต่น้ำพริกหนุ่มนี่แหละครับที่โดดเด่นกว่าที่เคยกินมาเพราะน้ำพริกหนุ่มของที่ร้านบ้านไร่ยามเย็นเค้าออกรสเผ็ดชัดเจนเลยครับเลยทำให้รู้สึกว่าเมนูนี้มีรสชาติมากกว่ากินตามร้านอื่นๆเพราะน้ำพริกหนุ่มทั่วๆไปจะออกรสนัวๆ ไม่เผ็ดมากครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ

เมนูที่สองเป็นเมนูโปรดคุณชาย แหนมหมูทอด อันนี้จำราคาไม่ได้ครับ

เมนูนี้ก็อร่อยแบบมาตรฐานครับไม่แน่ใจว่าร้านเค้าทำแหนมเองหรือเปล่ารสชาติกำลังดีเลยครับคุณชายบอกว่าเปรี้ยวถูกใจมาก .......ถ้าคุณชายบอกว่าเปรี้ยวถูกใจแสดงว่าแหนมอันนั้นเปรี้ยวมากกกกกกก ครับ ฮ่าๆๆๆๆ

เมนูที่สาม ยำจิ้นไก่ อันนี้ก็จำราคาไม่ได้เช่นกันครับ

เมนูนี้ได้กินครั้งแรกที่ร้านเฮือนสุนทรีเมื่อหลายสิบปีมาแล้วครับตั้งแต่สมัยที่ร้านเค้ายังอยู่ริมแม่น้ำปิงข้างๆร้าน Good View อยู่เลย ตอนนี้ร้านเฮือนสุนทรีเค้าย้ายไปอยู่แถวๆป่าตันแล้วจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าร้านเฮือนสุนทรีเค้าจะฉีกเนื้อไก่มาเป็นเส้นๆแต่ที่ร้านบ้านไร่ยามเย็นเค้าเสิร์ฟไก่เป็นชิ้นใหญ่ประมาณครึ่งตัวได้ครับไม่กล้าใช้มือจกเลยครับเนื่องจากมีแขก ได้แต่ตักน้ำซุปที่เข้มข้น อร่อยๆกินกับข้าวเหนียว ความจริงเนื้อไก่ก็นุ่ม เข้าเนื้อดีนะครับแต่ว่ามันต้องแงะออกจากกระดูกครับก็เลยหมดความพยายาม แต่น้ำซุปอร่อยมากๆครับซดกันจนขอดถ้วยเลยครับ

เมนูที่สี่ น้ำพริกข่า กับ แคบหมู ราคา 140 บาท

เมนูนี้ตอนที่สั่งเพราะอยากกินครับน้ำพริกข่าเป็นอาหารพื้นบ้านของทางภาคเหนือ ถ้าเป้นคนเหนืออาจจะเห็นว่าธรมดา แต่ถ้าเป็นคนภาคกลางก็จะบอกว่าเป็นของหายากเพิ่งมาเห็นราคาตอนทำกระทู้ ...... เจ้าของบล็อกก็ว่ามันออกจะแพงไปนิดมั๊ยครับน้ำพริก 1 ถ้วยกับแคบหมู 1 จานใหญ่ๆ ราคา 140 บาทเชียว

เมนูนี้ใครว่าคนเหนือกินไม่เผ็ดขอเถียงเลยครับ เมนูนี้เผ็ดมว๊ากกกกกกกกกกกกก ขนาดเอาแคบหมูจิ้มไปหน่อยเดียวยังเผ็ดติดลิ้นต้องกินข้าวเหนียวเปล่าๆตั้งสามสี่คำถึงจะหาย อิอิอิอิ

เมนูสุดท้ายเป็นเมนูซดน้ำครับ แกงอ่อมไก่ ราคา 130 บาท

เจ้าของบล็อกคิดว่าตัวเองคงหลงใหลเมนูภาคเหนือประเภทแกงๆต้มๆ อ่ะครับ ประการแรกเลยคือใส่ผักเยอะมากกกก ทั้งที่รู้จักและที่ไม่รู้จักประการที่สองไม่มีกะทิ ทำให้ซดได้คล่องคอ ไม่เลี่ยนประการสุดท้ายแกงทุกอย่างจะมีกลิ่นเฉพาะตัวอ่ะครับเหมือนแกงเลียงหรือแกงส้มของภาคกลางทีมีกลิ่นเฉพาะตัว ก็เลยรู้สึกชอบมากเป็นพิเศษครับ

สำหรับเมนูนี้เจ้าของบล็อกก็ว่าอร่อยดีนะครับน้ำแกงหวานน้ำต้มกระดูกและได้ความหวานเพิ่มจากผักต่างๆชูรสความแซ่บน้อยๆด้วยน้ำพริกแกง เมนูนี้บอกได้คำเดียวว่านัวสุดๆครับ

Chubby Lawyer’s Café’ ………………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน