ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
เมื่อสังคมปล่อยวางทุนธนาคาร แต่จองล้างทุนโทรคมนาคม(โปรดใช้สมองขณะอ่าน)

เปรียบเทียบ ทุนธนาคาร และ ทุนเทเลคอม

ทุนนิยมข้าราชการ
ระบบทุนนิยมไทยเริ่มตั้งแต่สมัย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นระบบทุนนิยมที่มีราชการเป็นใหญ่ เรียกว่าทุนนิยม ข้าราชการ ซึ่งเป็นระบบที่ควบคู่ไปกับระบบการปกครองที่ข้าราชการมีอำนาจ ซึ่งระบอบการปกครองดังกล่าวมาจากการที่ประเทศเรามีการรัฐประหารใน ปี 2490 โดยได้จอมพล ป.ขึ้นมาครองอำนาจ และเกิดกระแสชาตินิยมตามมาในสมัยนั้น ซึ่งข้าราชการสมัยนั้นพยายามที่จะผ่องถ่ายอำนาจมาจากชาวจีนให้มาอยู่ในมือของรัฐ ซึ่งรัฐเองก็พยายามสนับสนุนธุรกิจในรูปแบบต่างๆ โดยการใช้การค้ำประกันของกระทรวงการคลังเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ แต่สุดท้ายระบบทุนนิยมแบบราชการก็ไปไม่รอด

การเกิดของทุนนิยมธนาคาร
เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการปฏิวัติ เป็นการเปิดศักราชใหม่ของทุนนิยมไทย เรียกว่าเป็นระบบทุนนิยมนายธนาคาร ซึ่งนับจาก ปี 2501 เป็นต้นมาประเทศไทยก็เริ่มเปิดประเทศมากขึ้นทำให้เรามีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด และต่อเนื่องกันมาเรื่อยๆ

ครั้นพอมาถึงทศวรรษสุดท้าย ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มคิดว่าสถาบันการเงินต้องมีการแข่งขันกันมากขึ้น นั่นคือการเปิดเสรีทางการเงิน ทำให้ธนาคารมีคู่แข่งใหม่ เกิดขึ้นคือสถาบันการเงินนั่นเอง แต่ธนาคารและสถาบันการเงินต่างคิดว่าต่อไปในอนาคตเมื่อมีการแข่งขันกันมากขึ้นและต้องประสบภาวะลำบากอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนเองเอาไว้ ทำให้มีเริ่มแข่งขันกันปล่อยกู้เพื่อรักษาส่วนแบ่งของตลาดไว้ แต่สิ่งที่ตามมาคือการลงทุนสมัยใหม่ที่แหล่งที่มาของเงินทุนมาจากเงินกู้แทนที่การออมเหมือนในสมัยเดิม การลงทุนไม่ได้อยู่ภายใต้การออมที่มีอยู่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤติตามมานั่นเอง เนื่องจากเรามีการลงทุนที่เกิน เป็นการกู้สั้นจากต่างประเทศแล้วปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการในระยะยาว โดยที่เงินกู้ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้จากต่างประเทศแทบจะทั้งสิ้น ทำให้เราเป็นหนี้ต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งในที่สุดก็เกิดวิกฤต แล้วก็มีการลอยตัวค่าเงินบาท ซึ่งเป็นจุดอวสานของทุนนิยมแบบธนาคารดังกล่าว
และสิ่งที่เป็นตัวฌาปนกิจระบบดังกล่าวคือ การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูฯที่ใช้เงินไป 1.44ล้านล้านบาทเท่านั้นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นไปตามคำกล่าวที่ว่า ทุนนิยมใดที่ไม่มีประสิทธิภาพก็จะไม่มีความยั่งยืนนั่นเอง

ความเสียหายจากทุนธนาคาร
ความเสียหาย นั้นมากมาย 1.44 ล้านล้าน ของกองทุนฟื้นฟู บวกกับเงินทุนสำรองที่ใช้ปกป้องบาทแบบเสียเปล่าอีก US$25-30 Billion บวกกับความเสียหายจากการขายสินทรัพย์ ที่ถูกขายทอกตลาด ในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ก็เสียหายอีกประมาณ US$10 Billion บวกกับความถดถอยทางเศรษฐกิจที่ตามมา เป็นเวลาหลายปี ที่นับค่าแทบไม่ได้ แต่คร่าวๆคือ เพียงปีเดียวหลังเศรษฐกิจล้ม เศรษฐกิจไทย “โตติดลบ ถึง 6%” ถ้าเทียบเป็น เงิน จาก GDP ขณะนั้น ก็เสียหายปีนั้นปีเดียว ประมาณ US$20 Billion นอกจากนี้ เอกราช ทางการเงินของไทยยังย่อยยับอย่างต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้ โดยการเข้าครอบงำกิจการธนาคารไทยที่อ่อนแอ โดยทุนต่างชาติ

สรุปคือ ทุนธนาคารทำเสียหาย “นับค่าไม่ได้” ถ้าให้ประมาณ คงจะเป็น ราว 10-15 ล้านล้าน ทางสังคม สิ่งที่เกิดขึ้น คือคนตกงาน ประมาณ 6 ล้านคน และเสีย “เอกราชทางเศรษฐกิจ” ให้แก่กองทุน IMF จนถึงระดับ พระราชินี ต้องขอให้วัด ทำอาหารเที่ยง ให้คนกินกัน นักศึกษาจบใหม่ ไม่มีงานรองรับ นักศึกษาเรียนนอก ต้องกลับมาเรียนในไทย

ทุนเทเลคอม
ทักษิณ และ นักธุรกิจอื่นๆด้านเทเลคอม เห็นช่องทางธุรกิจสมันใหม่ คือการสื่อสารที่สะดวกขึ้น และหามาใช้ได้ทันที มุ่งเข้าสู่ธุรกิจมือถือ ในช่วงแรกๆ ราคาในไทยสูงกว่าต่างประเทศมาก เพราะการแข่งขันไม่มี เป็นการค้ากำไรเกินควร ที่ “ยักยอกเงินตรา” เข้าสู่ทุนเทเลคอม ที่เห็นได้ชัด ชัดมากกว่าการที่ทุนธนาคาร มีส่วนต่าง ดอกเบี้ย เงินกู้ และเงินฝาก ถ้านับว่าสิบปี แทบไม่มีการแข่งขัน กลุ่มทุนนี้ ยักยอกและสร้างความเสียหาย เป็น เงินก็ ราวๆ US$ 2 Billion แต่สัดส่วนใหญ่ ก็เข้ารัฐในนามของค่าสัมปทานและภาษี ด้วย

ความเสียหายทุนเทเลคอม
แต่ทุนเทเลคอม เมื่อเข้าการเมือง โดยทักษิณ ยังมีการกล่าวหาว่า “คอรัปชั่นมากมาย” ถึงยังจะต้องให้ศาลตัดสินคดีต่างๆ เรื่องจึงจะยุติและหาความเสียหายได้ ถ้าประเมินกัน โดยการเอาตัวเลขที่พูดกันตาม การวิจัย โดยมหาวิทยาลัยต่างๆ ประมาณ 40-50 คดี โกงกิน และการหลีกเลี่ยงภาษี และเรื่องทับซ้อน ของทุนโทรคมของทักษิณ ก็ประมาณกันว่าอยู่ที่ US$ 2-4 Billion ส่วนเอกราชทางธุรกิจ ไทยก็ได้สูญเสียเอกราชทางธุรกิจเทเลคอม ให้กับต่างชาติ ไม่ใช่เฉพาะของทักษิณเท่านั้น แต่เจ้าอื่นด้วย

ทุนโทรคมนาคมของทักษิณ จะต่างจากทุนธนาคารก็เพียงแต่ว่า ในด้านเศรษฐกิจภาพรวมแล้ว ทุนโทรคมนาคมของทักษิณไม่ได้สร้างความเสียหาย เครดิตเรตติ้งไทยภายใต้ทุนโทรคมนาคมดีขึ้นตลอดเวลา เงินทุนสำรองภายใต้ทุนโทรคมนาคมเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม และ ราคาผลิตผลเกษตร ทำลายสถิติเดิมแบบ“ถล่มทลาย”แทบทุกปี นอกจากนี้แล้วมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้เคนเซี่ยน แทนทุนธนาคารที่ยึดมั่นใน “วินัยทางการเงิน” จนไม่ฟื้น แต่นโยบายกระตุ้นโดยอัดเงินเข้าระบบ ทำให้ไทยฟื้นภายในปีเดียว หลังการเข้ามาสู่การเมืองของทุนธนาคาร หลังจากรอกันปีๆให้ทุนธนาคารใช้ “วินัยทางการเงิน” หลังจากเศรษฐกิจล่มจมไป ทางสังคม เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ ที่ช่องว่างรวยจนลดลงในไทย และคนไทยมีหลักประกันสุขภาพ ข้อเสียทางสังคมคือ ทุนโทรคมนาคม คือนำความเปลี่ยนแปลง และ ความคิดใหม่ๆ และ มาตรการใหม่ๆ มาสู่ไทย โดยที่ไม่ได้มองว่าพื้นฐานทางสังคมรองรับได้หรือไม่ ปฏิกิริยาโต้ตอบรุนแรงจึงเกิดขึ้น สังคมเกิดความแตกแยก ทาง “ทัศนคติ” นำมาซึ่งการรัฐประหาร

ความเสียหายเหล่านี้ ถึงจะตีค่าออกมาเป็นเงินแทบไม่ได้ แต่ทางสังคมแล้ว ทางความรู้สึกแล้ว ก็สร้างความเสื่อมถอยได้มากมาย จะมากเท่าความรู้สึกที่ “ตกงานหมดความหวังในชีวิต” เหมือนเมื่อตอนทุนธนาคารทำชาติล้มไป หรือไม่ ท่านผู้อ่านก็ต้องถามตัวเองดู

สรุป “สังคมให้อภัยทุนธนาคาร แต่ไม่ให้อภัยทุนเทเลคอม”
ถ้ามอง“ผู้มีบทบาทสำคัญ”ของทุนธนาคารและทุนโทรคมนาคมจะเห็นได้ชัดว่า “ปรัชญาความคิดของนักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติ” ที่ว่านักธุรกิจที่บุกเบิกธุรกิจใหม่ๆ คือEntrepreneurจะถูกสังคมรังเกียจ และมองว่า“ต่ำ”กว่าทุนดั้งเดิม หรือ Established Capitalist and Social Class ความคิดนี้สนับสนุนให้เห็นชัดว่า ผู้มีบทบาทสำคัญของทุนธนาคาร สามารถยืนอยู่ในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ถึงจะสร้างความเสียหายให้ชาติ มากกว่าทุนโทรคมนาคมหลายสิบเท่า ส่วนทุนโทรคมนาคมนั้น อย่างที่ทราบกันดี “กลับเข้าไทยอย่างมีเสรีภาพและมีสิทธิและเสียง” เท่าเทียมคนไทยอื่นๆ “ยังไม่ได้เลย”

กำเนิดทุนใหม่ “ทุนสื่อ” เพื่อทำลายทุนโทรคมนาคม
เมื่อสังคมเริ่มมีคำถามต่อทุนโทรคม โดยเฉพาะการขาย “ชินโดยไม่เสียภาษี” กระแสถามหา ธรรมาภิบาล จริยธรรม และจรรยาบรรณ จากนักการเมือง รุนแรงมากขึ้น แทบทุกส่วนของสังคมไทย ที่มีปัญหามากับทุนโทรคมนาคม “ยึดจุดนี้” มาสรุปว่าทักษิณและทุนโทรคมนาคมของเขา หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ แต่เสียงของคนเหล่านี้ ก็ยังไม่สามารถ “ล้ม” ทุนโทรคมนาคมได้ แต่การเกิดขึ้นของกลุ่มทุนสื่อต่างๆ ที่นำโดยสนธิ ลิ้มทองกุลแห่งผู้จัดการ และตามมาด้วย กลุ่มของเนชั่นคือสุทธิชัย หยุ่นและกลุ่มมติชน และอื่นๆ เช่นบางกอกโพสต์ ก็รวมตัวกันเดินทางไปกันทางเดียวในการเสนอข่าว คือแข่งกัน “ล้มทุนโทรคมนาคม” คงจะเป็นครั้งแรกที่ “สื่อออกเป็นผู้นำเลยในด้านการเมือง”คือไม่สนใจวิชาชีพ ไม่สนใจมาตรฐานการเป็นกลาง หรืออะไรทั้งสิ้น แต่มีจุดมุ่งหมายคือ “ล้มทุนโทรคมนาคมและทักษิณให้ได้”

ก็คงจะเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า “ทุนสื่อ” นั้น จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่แน่นอนที่สุด การเปิดกว้างให้ทุนสื่อเข้าไปยังธุรกิจทีวีของรัฐบาลของคณะปฏิวัติ นั้น ก็เป็นที่แน่นอนว่า “ความคิดเห็นของสื่อ” จะ “ทรงพลังยิ่งขึ้นในสังคมไทย” เช่นช่องสิบเอ็ดของสนธิ เนชั่นตามช่องต่างๆ และทั้งเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และสมเกียรติ อ่อนวิมลก็ยังมองว่าจะเข้าสู่ทีวี อีกครั้ง ทุกคนที่กำลังเข้าสู่ทีวี “ต่อต้านกลุ่มทุนโทรคมนาคมอย่างรุนแรงทุกคน” จนเกิดการรัฐประหาร

ความเสียหายที่เกิดขึ้นทางการเงิน โดยทุนสื่อ โดยตรงนับลำบากมาก เพราะกลุ่มทุนโทรคมนาคมนั้น “ผันเงิน” เข้าสู่บางส่วนของเศรษฐกิจมาก ความเสียหายตรงนั้นคงมากสำหรับคนเคยได้รับความสนใจ ความเสียหายต่อระบบประชาธิปไตยนั้นก็ยากที่จะประเมิณได้ ความเสียหายในระยะยาว จากการมีสื่อที่เป็นกลาง กลายมาเป็นสื่อที่มีการ “ปักธงชัย” ก็เป็นความเสียหายที่ประเมินยากมาก แต่ที่แน่นอน รัฐบาลภายใต้การทำรัฐประหาร ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยเสื่อมถอย “ไม่มากก็น้อย” เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ผลเสียที่ “ทุนสื่อ” กระทำให้ชาติ แต่ที่แน่นอนคือการไม่ยอมวางมือจากการจองล้างทำลายทุนโทรคมนาคม ก็ยังสร้างความแตกแยกให้สังคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อคำนึงว่าทุนสื่อ มีเครดิตสูงมากกับผู้นำคณะปฏิวัติ ชนิดแทบจะกำหนดนโยบายให้คณะปฏิวัติเลยก็ว่าได้ แต่การไม่สมานฉันท์นั้น กับทุกภาคส่วน ก็ยังคงทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ที่เห็นชัดที่สุดคือความเชื่อมั่นผู้บริโภค หดลงตลอดเวลา

ทุน “เศรษฐกิจพอเพียง “ จะมาแรงแค่ไหน”
นักวิเคราหะห์การเมืองหลายท่านกล่าวว่าต่อไปนี้ หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า การเมืองจะอ่อนแอ และข้าราชการและนักวิชาการจะมีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาชาติ เป็นการกลับตัวครั้งใหญ่หลังทุนธนาคาร ทุนโทรคมนาคม และทุนสื่อผ่านคณะปฏิวัติ ครองเมือง “รวมกัน” มานานพอดู และความเสียหายที่สะสมกันมา “ก็มากพอดู”
แต่ถึงจะสนับสนุน “พอเพียง” กันขนาดไหน ความจริงคือ “ทุนนิยม วัตถุนิยม โตเร็ว และ เจริญขึ้นนิยม” นั้น ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของสังคมไทยไปแล้ว คนไทยคนไหนที่ใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน จะเห็นว่าสิ่งนี้คือความจริง การเอาพอเพียงมาใช้และสอนกัน ก็คงจะกระทบน้อยมากต่อความจริงนั้น ว่าทุกคนอยากออกจากความจน และอยากรวย จะได้อยู่อย่างสบายๆ

เพียงแต่ว่าปรัชญานี้หรือจะเรียกว่าเศรษฐศาสตร์แขนงนี้นั้น มาจากระดับสูงของสังคมไทย ฉะนั้นพลังที่จะผลักดันตัวเองเข้าสู่กระแสหลักของการพัฒนาชาตินั้นคงจะมี แต่อย่างเช่นที่โพลล่าสุดกล่าวถึง ในวันพรุ่งนี้ และรัฐบาลของวันข้างหน้า การโกงกินก็ยังจะมีอยู่ สังคมอันมีคุณธรรมสูง ยังมีน้อยคนนักที่จะเชื่อว่าจะเกิดขึ้น และสังคมที่ทุกภาคส่วน สนับสนุนและเอาจริงกับพอเพียง อาจจะอยู่ได้เพียงในนามธรรม แต่ในรูปธรรมแล้ว ทุกภาคส่วนของสังคมไทย อาจจะยังพยายาม “ถีบตัวให้สูงขึ้น” อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

จากคุณ : ทันคนทันข่าว - [ 18 ก.พ. 50 17:08:45 A:58.64.90.70 X: ]


เรื่องของเทเลคอมเมื่อสมัยก่อนหากเราจำกันได้ เรายื่นเรื่องขอใช้โทรศัพย์ พ่อไปยื่น ลูกอาจได้ใช้ ยกเว้น ไปขอซิ้กับเอกชนที่มีหมายเลขเป็นพันๆหมายเลขอยู่ในมือ พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นญาติลูกเมียของข้าราชผู้ใหญ่ในเทเลคอม พวกนี้ถึงกับขายกันทางหน้าหนังสือพิมพ์ หรือ ยื่นใต้โต๊ะจ่ายเงินเครื่องละ15000บาททั้งที่ยื่นขอเพียง6000บาทเท่านั้น แต่พ่อยื่นลุก(ต้องไปทวงทุกๆปี)ต้องการหลายๆเครื่องๆละ100000บาททีเดียว มายุคหลังมีการแข่งขัน บริษัทเอกชนขอปั๊บได้ปุ๊บ
มายุคทักษิณผู้ที่ประมูลได้ ทำเฉพาะโทรพื้นฐาน ไม่กล้าทำมือถือ เพราะต้นทุนสูงต้องใช้ดาวเทียมต่างประเทศ ลูกชายของผู้ประมูลซึ่งสนิทกับนายกทักษิณ จึงเสนอให้ท่านทำ ( ตอนนั้นท่านยังเป็น NPLกับทหารไทย7ล้านบาท พอได้โครงการก็ไปเจรจากับทหารไทยเลยได้มา8ล้านเริ่มต้นด้วยวิทยุติดตามตัว)ลองถามสนธิดู
ท่านบริหารได้ดีใช้หนี้หมด หันไปเล่นดาวเทียม ประสบความสำเร็จมากไทยเราใช้ไม่กี่ช่อง ส่วนใหญ่เป็นจีน สิงคโปร มาเลย์ ฟิลิปปินส์ อินโดฯ เวียดนาม ลาว เขมร พม่า เกาหลี ญี่ปุ่น แม้ยูโรป บางประเทศยังใช้ (จริงมั๊ย มีประว้ติอยู่ นำรายได้เข้าประเทศเสียภาษีด้วย)
ส่วนเรื่องเสียหายจากเศรษฐกิจนั้นหากพูดต้องเกี่ยวไปถึงยุคอานันท์โน้น มันยาวเอาแค่เห็นๆตอนนี้เลย หม่อมอุ๋ยเผยว่าเศรษฐกิจแข็งเกร่ง ใครมาเป็นนายกก็ได้ (ความหมายคือไม่จำเป็นต้องท่านทักษิณ)พูดเมื่อก่อนปฎิวัติ ส.ค.นี้ แล้วไงแค่4เดือน สว็อป เงินหาย 300000ล้านหุ้น780000ล้าน เกิดวิกฤตขึ้นมาสายการผลิตลดคนงานลง310000คนเมิ่อเดือนม.ค.รถยนต์ ยอดรวมม.ค38000คัน ม.ค 49 52000คัน อย่าบอกนะทักษิณสั่งใหรัฐบาลคมช.ทำ

จากคุณ : สุขวสา (สุขวสา) - [ 15 ก.พ. 50 10:56:01 A:58.8.99.4 X: ]

โปรดใช้สมองขณะอ่าน เพราะผมในฐานะผู้อ่านคัดกรองเนื้อหาบทความยังมึนพอสมควร แถมมีพิมพ์ผิดหลายจุดทำให้ผมต้องเสียเวลาแก้ไขไม่ใช่เล่นครับ
Comment โดยกรรมกรกระทู้ผู้รวบรวม



Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2550 12:40:03 น. 0 comments
Counter : 531 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.