ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง

ว่าด้วยเรื่องสามก๊กที่เป็นประวัติศาสตร์จริงๆมิใช่นิยาย

เนื่องจากฉบับหนังสือของเจ้าพระยาพระคลัง(หน)นั้น แปลจากต้นฉบับของหลอกว้านจงซึ่งเขียนชำระใหม่โดยแต่งขึ้นมาบางส่วนเมื่อสมัยราชวงศ์หมิง

นอกจากนี้ก็มีหนังสือปรัชญานิพนธ์ขงเบ้งมรดกงานเขียนจากยุคสมัยสามก๊ก ซึ่งผมก็อยากจะเก็บในรูปTextไว้เผยแพร่ในBlogอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่เห็นมีโพสต์มีอัพแจกให้Loadเก็บกัน ฉบับหนังสือแปลโดยเธียรชัย เอี่ยมวรเมธ


ข้อมูลโดยคุณVekitแห่งบอร์ดฟ้าเดียวกัน

ผุ้บันทึกประวัติศาสตร์ช่วงสามก๊กนั้น คือ เฉินโซ่วครับ (Chen Shou) ซึ่งประวัติศาสตร์ช่วงสามก๊กถูกรวมขึ้น เรียบเรียงในช่วงจิ้น เรืองอำนาจ

โดยทำการรวมหนังสือประวัติศาสตร์ของก๊กWei กับ Wu ที่เขียนกันแยกเป็นของแต่ละก๊กรวมเข้าด้วยกัน

ด้วยความที่Shu ไม่มีการเขียนบันทึกประวัติศาสตร์ไว้ที่แน่นอน Chen Shou เลยอ้างอิงประวัติศาสตร์Shu จากตำราของWei กับ Wu

Sanguo Zhi ที่Chen shou เขียนและเรียบเรียงขึ้นนั้นประกอบด้วย
65 ตอนใหญ่ๆ แบ่งเป็นสามเล่ม ,Book of Wei30 เล่ม , Book of Wu15เล่ม, Book of Shu20 เล่ม

ถ้าอยากอ่านหนังสือ Sanguo Zhi มีคนแปลบ้างแล้วครับ เป็นอังกฤษ ซึ่งผมว่าใช้อ้างอิง ความเป็นจริงตามประวัติศาสตร์ได้ดีกว่านิยายที่ถูกเอามาทำเป็นseries มากเลยครับ

แนะนำเว็บนี้ครับ

//www.kongming.net




 

Create Date : 30 มกราคม 2553    
Last Update : 30 มกราคม 2553 2:24:35 น.
Counter : 754 Pageviews.  

(พิเศษ)ตำราพิชัยสงคราม 21กลยุทธ์ไทย

พิชัยสงครามกลศึกของไทยกับการรบยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศฯ
กลฤทธี ................. กลสีหจักร .................... กลลักษณซ่อนเงื่อน
กลเถื่อนกำบัง ............. กลพังผู้ผา .................. กลม้ากินสวน
กลพวนเรือโยง ........... กลโพงบ่อน้ำ .................. กลฬ่อช้างป่า
กลฟ้างำดิน ................. กลอินทรพิมาน ................... กลผลาญศรัตรู
กลชูพิศแสลง .............. กลแขนงให้อ่อน ................. กลยอนภูเขา
กลเย้าให้ผอม .............. กลจอมปราสาท .................. กลราชปัญญา
กลฟ้าสนั่นเสียง .............. กลเรียงหลักยืน .................. กลปืนพระราม

(ตัวสะกดใช้แบบเดิมครับ)คำบรรยายจะค่อยๆพิมพ์ลงให้ ส่วนกลไหนที่ทำให้ชนะการรบจะแจ้งให้ทราบหลังสุด

พิชัยสงครามมีบันทึกกันหลายที่ครับบางที่บันทึกแต่ชื่อ.....บางที่ก็มีรายละเอียด
ทั้งนี้แม่ทัพต้องปรับใช้ถูกต้อง............แต่รหัสในการอ่าน(ที่มักจะมีซ่อนไว้ในตำราไทยต่างๆ)
ตำราพิชัยสงคราม ๒๑ กลยุทธ์ไทย

๑. กลฤทธี ๒. กลสีหจักร ๓. กลลักษณ์ซ่อนเงื่อน ๔. กลเถื่อนกำบัง ๕. กลพังภูผา

๖. กลม้ากินสวน ๗. กลพวนเรือโยง ๘. กลโพงน้ำบ่อ ๙. กลล่อช้างป่า ๑๐. กลฟ้างำดิน

๑๑. กลอินทร์พิมาน ๑๒. กลผลาญศัตรู ๑๓. กลชูพิษแสลง ๑๔. กลแข็งให้อ่อน

๑๕. กลยอนภูเขา ๑๖. กลเย้าให้ผอม ๑๗. กลจอมปราสาท ๑๘. กลราชปัญญา

๑๙. กลฟ้าสนั่นเสียง ๒๐. กลเรียงหลักยืน ๒๑. กลปืนพระราม

ตำราพิชัยสงคราม(เนื้อ)

๑. กลฤทธี
?กลศึกอันหนึ่ง ชื่อว่าฤทธีนั้น
ซั้นทะนงองค์อาจ ผกผาดกล่าวเริงแรง
สำแดงแก่ข้าแกล้วหาร ชวนทำการสอนสาตร
อาจเอาบ้านเอาเมือง ชำนาญเนืองณรงค์
ยงใจผู้ใจคน อาษาเจ้าตนทุกค่ำเช้า
จงหมั่นเฝ้าอย่าคลา ภักตราชื่นเทียมจันทร์
ทำโดยธรรม์จงภักดิ์ บันเทิงศักดิจงสูง
จูงพระยศยิ่งหล้า กลศึกนี้ชื่อว่า ฤทธีฯ?

๒. กลสีหจักร
?กลหนึ่งชื่อว่าสีหจักร ให้บริรักษพวกพล
ดูกำลังตนกำลังท่าน คิดคเนการแม่นหมาย
ยกย้ายพลเดียรดาษ พาษไคลคลี่กรรกง
ต้อรพลลงเป็นทิศ สถิตรช้างม้าอย่าไหว
ตั้งพระพลาไชยจงสรรพ จงตั้งทับโดยสาตร
ฝังนพบาทตรีโกณ ให้ฟังโหรอันแม่น
แกว่นรู้หลักหมีคลาด ให้ผู้องอาจทะลวงฟัน
ให้ศึกผันแพ้พ่าย ย้ายพลใหญ่ให้ไหว
ไสพลศึกให้หนี กลศึกอันนี้ชื่อว่า สีหจักรฯ?

๓. กลลักษณ์ซ่อนเงื่อน
?กลหนึ่งลักษณส้อนเงื่อน เตือนกำหนดกฎหมายตรา
แยกปีกกาอยู่สรรพ นับทหารผู้แกล้ว
แล้วกำหนดจงคง แต่งให้ยงยั่งเย้า
ลากศึกเข้าในกล แต่งคนแต่งช้างม้า
เรียงหน้าหลังโจเจ รบโยเยแล้วหนี
ศึกติดตีตามติด สมความคิดพาดฆ้องไชย
ยกพลในสองข้าง ยกช้างม้ากระทบ
ยอหลังรบสองข้าง จึ่งบ่ายช้างอันหนี
คระวีอาวุทธโห่ร้อง สำทับก้องสำคัญ
ยืนยันรบทั้งสี่ คลี่พลออกโดยสั่ง
สัตรูตั้งพังฉิบหาย อุบายศึกนี้
ชื่อว่าลักษณซ่อนเงื่อนฯ?

๔. กลเถื่อนกำบัง
?กลหนึ่งชื่อว่าเถื่อนกำบัง รั้งรบพลตนน้อย
ชัดคนคล้อยแฝงป่า แต่งพลหล้าแล่นวง
ทั้งกงนอกกงใน ไว้ช้างม้าให้แฝง
แทงให้ร้องทรหึง มี่อึงฆ้องกลองไชย
ไว้ให้เสียงสำทับ ปืนไฟกับธนู
น่าไม้กรูกันมา ดาบถะลวงฟันดาหน้า
ประดังช้างม้าเรี่ยชายไพร ลูกหาบในป่าโห่
เกราะเสโลห์นี่นั่น ให้ศึกงันร่าถอย
ครั้นศึกคล้อยเหนผู้ห้าว กลเสือคราวครึมป่า
แล้วออกล่าเเล่นฉาว ทำสำหาวซ่อนเล็บ
เกบแต่เตียนกินรก ลอบฉวยฉกเอาจงเนือง
ให้ศึกเคืองใจหมอง คลองยุบนดังนี้
ชื่อว่าเถื่อนกำบังฯ?

๕. กลพังภูผา
?กลนี้ชื่อพังภูผา แม้ศึกมาปะทะ
อย่าเพ่อระเริงแรง สำแดงดุจเหนน้อย
ชักคล้อยแฝงป่าเข้า ศึกเหนเราดูถูก
ผูกช้างม้าออกไล่ ยอพลใหญ่กระทบ
ผิรบเข้าบอไหว ให้ช้างม้าโรมรุม
กลุ้มกันหักอย่าคลา อย่าช้าเร่งรุมตี
ศึกแล่นหนีตามต่อย ให้ยับย่อยพรายพรัด
ตัดเอาหัวโห่เล่น เต้นเริงรำสำแดงหาร
ให้ศึกคร้านคร้ามกลัว ระรั้วระเสิดสัง
กลศึกอันนี้ ชื่อว่าพังภูผาฯ?

๖. กลม้ากินสวน
?กลหนึ่งชื่อว่าม้ากินสวน ให้หาผู้ควนหารห้าว
ลาดเอาเย่าเอาเรือน บ้านถิ่นเถื่อนอยู่ใกล้
จับกุมได้เอามา นานาเลศเทศกาล
ปันพนักงานจงขาด ปรนไปลาดเนืองเนือง
ให้ศึกเคืองใจแค้น แม้นจะอยู่บมีสุข
บุกขับกับทุกเดือน เตือนใจตื่นไปมา
กลขับปลาให้ห้อม ด้อมดักสักสุ่มเอา
ให้ศึกเหงาใจถอย ค่อยเก็บนอกเข้ามา
ให้ระอาใจอ่อน ผ่อนผู้คนให้หนี
กลอนกล่าวกลศึกนี้ ชื่อว่าม้ากินสวนฯ

๗. กลพวนเรือโยง
?กลศึกอันหนึ่ง ชื่อว่าพวนเรือโยง
ประดุจผะโองปืนตาล ทำจงหวานแช่มชื่น
ผูกเปนมิตรไมตรี สิ่งใดดียกให้
ละไลต่ออย่าเสีย แต่งลูกเมียให้สนิจ
ติดต่อตั้งยังกล ยุบลช้างเถื่อนตามทั้งโขลง
โยงเบ็ดราวคร่าวเหยื่อกาม ค่อยลากก้ามเอามา
ด้วยปัญญาพิสดาร กลการศึกอันนี้
ชื่อว่าพวนเรือโยงฯ?

๘. กลโพงน้ำบ่อ
?กลหนึ่งชื่อว่าโพงน้ำบ่อ คิดติดต่อข้าศึก
ฝ่ายเขานึกดูแคลน ใครรุกแดนรุกด้าว
เลียบเลียมกล่าวข่มเหง ชระเลงดูหมิ่นเรา
โอนเอนเอาอย่าขวาง ข้างเราทำดุจน้อย
ค่อยเจรจาพาที ลับคดีชอบไว้
อ่อนคือใครตามใจ น้ำไหลลู่หลั่งหลาม
พูดงามก้านกิ่งใบ อัทยาไศรถ่อมถด
อดคำกล่าวท่าวเอา ครั้นว่าเขาดูหมิ่น
ผินฟังพลดูแคลน แดนพังพลดูถูก
ประดุจลูกหลายตน ครั้นสปสกลไซ้
จึ่งยกได้เขาคืน เราลุกยืนผูกเอา
ได้เขาทำสง่าเงย เตยหน้าตาโอ่โถง
ดุจหนึ่งโพงได้น้ำ คำคิดติดต่อ
ชื่อว่าโพงน้ำบ่อฯ?

๙. กลล่อช้างป่า
?กลหนึ่งชื่อว่าฬ่อช้างป่า ผี้ศึกมาคะคึก
ศึกครั้นหนีครั้นไล่ บค่อยไต่ค่อยตาม
ลามปามแล่นไล่มา ให้แทงหาขุมขวาก
พากยที่เหวที่ตม แต่งให้ล้มหลุมขุม
ซุ่มซ่อนตนสองปราด แต่งให้ลาดเบื้องน่า
คอยอยู่ท่าที่ดี ถ้าไพรีเหนได้
ศึกเหนใคร่ใจคด ค่อยถอยถดฝ่ายเรา
ฝ่ายเขาขามบไล่ ฝ่ายเราไปล่รี้พล
ไว้เปนกลหลายถาน ปันการตามน่าหลัง
ระวังยอหลายแห่ง สบที่แต่งเนืองเนือง
พลเขาเปลืองด้วยกล ยุบลฬ่อช้างเถื่อน
แล้วแต่งเตือนน่าหลัง ทั้งไปน่าก็บได้
ถอยหลังไปก็บรอด ทอดตนตายกลางช่อง
คลองยุบลดังนี้ ชื่อว่าฬ่อช้างป่าฯ?

๑๐. กลฟ้างำดิน
?กลศึกอันหนึ่ง ชื่อว่าฟ้างำดิน
หมั่นสำเนียกพลพฤนทรามตย์ ให้ใจอาจใจหาญ
ชำนาญช้างม้ากล้าณรงค์ หมั้นคงชี้ฉับเฉียว
เหลือบเหลียวน่าซ้ายขวา ไปมาผับฉับไว
ใช้สอยยอดยวดยง จงชำนาญแล่นแอ่นไว
ปืนไฟน่าไม้พิศม์ สนิทธนูดาบดั้งแพน
แสนเสโลหโตมร กรไว้พุ่งเชี่ยวชาญ
ชำนาญศิลป์ทั้งปวง ถลวงฟันรันรุม
ชุมพลสิบพลร้อย อย่าให้คล้อยคลายกัน
ทั่วพลพันพลหมื่น หื่นพลแสนพลล้าน
จรเดียวดาลเด็ดมา แปรงาช้างบ่ายตาม
ฟังความตามบังคับ กับเสบียงเรียงถุง
ประดุงไพร่พลช้างม้า กลศึกอันนี้ว่า
ชื่อฟ้างำดินฯ?

๑๑. กลอินทร์พิมาน
?กลหนึ่งชื่อว่า อินทพิมาน
ให้อาจารยผู้รู้ เทพยาครูฝังนพบาท
แต่งสีหนาทข่มนาม ตามโบราณผู้แม่น
อันชาญแกวนเหนประโยชน์ บรรเทาโทษโดยสาตร
ยุรยาตรโดยอรรถ ให้ประหยัดซึ่งโทษ
อย่าขึ้งโกรธอหังกา มนตราคมสิทธิ์ศักดิ์
พำนักน์ในโบราณ บูรพาจารยพิไชย
โอบเอาใจพลหมู่ ให้ดูสกุณนิมิตร
พิศโดยญาณุประเทศ พิเศศราชภักดี
ศรีสุริยศักดิ์มหิมา แก่ผู้อาษานรนารถ
เทพาสาธุการ โดยตำนานดั่งนี้
ชื่อว่าอินทพิมานฯ?

๑๒. กลผลาญศัตรู
?กลหนึ่งชื่อว่าผลานศัตรู ข้าศึกดูองอาจ
บพลาดราษฎรกระทำ นำพลพยัคฆะปะเมือง
พลนองเนืองแสนเต้า แจกเล่าเข้าเชาเรา
เอาอาวุธจงมาก ลากปืนพิศม์พาดไว้
ขึ้นน่าไม้ธนู กรูปืนไฟจุกช่อง
สองจงแม่นอย่าคลา ชักสารพาบันทุก
อย่าอุกลุกคอยฟัง อย่าประนังตนเด็ด
เล็ดเล็งดูที่หมั้น กันที่พลจงคง
คนหนึ่งจงอย่าฉุก ปลุกใจคนให้หื่น
ให้ชื่นในสงคราม ฟังความสั่งสำคัญ
ฆ้องกลองพรรณแตรสังข์ ประนังโรมรันรุม
เอาจุมพลดาศึก พิฦกคะเปนนาย
ครั้นถูกกระจายพ่ายพัง พลเสริดสั่งฤาอยู่
บ่เปนหมู่เปนการ โดยสารโสลกดั่งนี้
ชื่อว่า ผลานศัตรูฯ?

๑๓. กลชูพิษแสลง
?กลหนึ่งว่าชูพิศม์แสลง ข้าศึกแรงเรืองฤทธิ์
คิดไฝ่ไภยเอาเรา เคยเขามากมาก
ภากย์ที่แคบที่คับ สลับรี้พลช้างม้า
เคยคลาปล้นรุกราม ผลานฬ่อลวงบ้านเมือง
เนืองเนืองมาเพื่อนตน ให้ใส่กลปราไศรย
ฝากของไปฝากรักษ์ ลักลอบให้เงินทอง
รังวันปองขุนใหญ่ หัวเมืองไพร่ข้าศึก
ให้ตฤกจงลับแล้ง แข่งอุบายเลห์คิด
ไปมาสนิทเปนกล ให้เขาฉงนสนเท่ห์
เพราะเปนเล่ห์ภายใน บไว้ใจแก่กัน
ผันใจออกกินแหนง แยงให้ผิดด้วยกัน
ชูพิศม์ผรรแปรพิศม์ ให้ผิดกันเองโจกเจก
บเป็นเอกใจเดียว บเปนเกี่ยวเปนการ
เพราะพิศม์ผลานศัตรู กลศึกอันนี้
ชื่อว่าชูพิศม์แสลงฯ?

๑๔. กลแข็งให้อ่อน
?กลหนึ่งแขงให้อ่อน ผ่อนเมื่อศัตรูยก
ให้ดูบกดูน้ำ ซ้ำดูเข้ายาพิศม์
พินิตพิศม์จงแหลก ตัดไม้แบกเบื่อเมา
เอาไปทอดในน้ำ ทัพซ้ำหนามขวาก
แต่งจงมากท่าทาง วางจาวห้าวแหลมเล่ห์
บ่อดานทางเข่าที่ขัน กันหลายแห่งที่คับ
แต่งสนับไว้จ่อไฟ ไล่เผาคลอกป่าแขม
แนมขวากแนมห่วงน้ำค่าม ตามเผาป่าแทบทัพ
ยับไม้เผาเปนถ่าน หว่านไฟไว้รายเรียง
รอเผาเสบียงจงสิ้น อย่าให้กินเปนอาหาร
แต่งคนชาญหลอกทัพ ให้เสียหับเสียหาย
ทำลายคาบเนืองเนือง เปลืองเสบียงเปล่าเฉาแรง
กลเชื้อแขงให้อ่อนฯ?

๑๕. กลยอนภูเขา
?กลหนึ่งยอยภูเขา ข้าศึกเนาประชิะ
ให้ริะดูช่องชอบ ที่จะขอบจะขัง
แต่งระวังยักย้าย ฝ่ายพลเขาเอาเสบียง
เรียงงานในเมืองเรา เอาใจไพร่ใจพล
คนอยู่ประจำการ พนักงานใครใครรบ
แต่งบรรจบพลแล่น ให้ทำแกว่นชวนกัน
แต่งถลวงฟันบุกทัพ คอยฟังศัปทสำคัญ
หาที่ยันที่อ้าง เอาม้าช้างเป็นดิน
ปืนคูหักค่ายเข้า รบรุกเร้ารุมแทง
อย่าคลายแคลงพรายพรัด ตัดให้ม้วยด้วยกัน
ให้สำคัญจงแม่น แล่นช้างม้าวางขวาก
เขาตามยากเอาเรา เท่าทิศที่ตนหมาย
ฆ่าให้ตายกลากลาด ต้องบาดเจ็บป่วยการ
ศัตรูดาลระทด ขดด้วยเสียงปืนไฟ
ในเมืองเร่งโห่ร้อง ให้มี่ก้องนิรนาท
มีปี่พาทย์เสียงสรวญใน ชมชื่นใจขับรำ
ซ้ำทนงองอาจ ปืนไฟพาดประนัง
กลชื่อพังภูเขาฯ?

๑๖. กลเย้าให้ผอม
?กลหนึ่งเย้าให้ผอมนั้น บั้นเมื่อให้เธอลีลา
พาธาอธิราช ให้พินาศศัตรู
หมั่นตรวจดูกำลัง ช้างม้าทั้งรี้พล
ปรนกันเปลี่ยนไปลาด ผาดจู่เอาแต่ได้
หนังสือไว้หมายหมก ว่าจะยกพลหลวง
ลวงใส่กลเป็นเขตร ดูในเทศการ
ให้ป่วยงานทำนา แสงตรวจตราพลแกล้ว
แล้วคลายพลเราเสีย เยียกลเมฆมืดฝน
ฝนไป่ตกตรนกอางขนาง ให้แผ้วถางแส้งทำ
คคึกคำแรงรณ ครั้นหลงกลกลยกเล่า
ลากพลเข้าเนืองเนือง แยงให้เปลืองไปมา
ดุจกลกาลักไข่ จะไล่ก็ไล่มิทัน
วันคืนปีป่วยการ ข้าศึกต้านยืนอยาก
ให้ข้าวยากหมากแพง สิ่งเปนแรงให้แรงถอย
ร่อยรอนไข้ใจหิว ตีนมือปลิวพลัดพราย
ไพร่หนีนายนายเปลี่ยว บเป็นเรี่ยวเปนแรง
ใครใครแขงมิได้ ใครใครไม่มีลาภ
ถ้ารูปงามเสาวภาพย์ก็จะเศร้า กลอุบายนี้เล่า
ชื่อว่าเย้าให้ผอมฯ?

๑๗. กลจอมปราสาท
?กลหนึ่งชื่อจอมปราสาท องอาจมุ่งมาทดู
คูหอคอยเวียงวัง ตั้งไชยภุมจงผับ
รู้ตั้งทัพพระพลาไชย อย่าได้ไหวได้หวั่น
หมั่นดูฉบับธรรมเนียม เตรียมปูนปันเป็นกอง
น่าหลังสองตราบข้าง รอบไว้ช้างม้ารถ
ห้วยธารคชโยธา ให้รักษาจงรอบ
ทุกคันขอบนอกใน อย่าได้ไหวปั่นป่วน
อย่าได้ด่วนคอยฟัง คอยดูหลังดูน่า
จัดช้างม้ารี้พล ปรนกันกินกันนอน
อย่ายอหย่อนอุส่าห์ ให้หมั่นว่าหมั่นตรวจตรา
ทังกระลากระแลงแกง อย่าได้แฝงนายไพร่
ไภยรักษาจงมาก อย่าให้ยากใจพล
อย่าทำกลดุจเสือ บกเรือจงชำนาญ
ชาญทั้งที่โดยกระบวน คิดควรรู้จงผับ
นับหน้าดูผู้อาษา หาคนดีเป็นเพื่อน
อย่าเลื่อนถ้อยให้เสียคำ ทำอันใดทำโดยสาตร์
ตามฉบับราชโบราณ กระทำการให้รอมชอม
กลศึกนี้ชื่อว่าจอมปราสาทฯ?

๑๘. กลราชปัญญา
?กลหนึ่งชื่อว่าราชปัญญา พร้อมเสนาทั้งสองข้าง
ช้างม้ารถเสมอกัน หานักธรรม์ผู้ฉลาด
อาจใส่กลไปปลอม ด้อมดูที่ดูทาง
วางต้นหนคนใช้ ไว้กังวลแก่เขา
เอาสิ่นให้หฤหรรษ์ ให้คิดผันใจออก
ทั้งภายนอกภายใน หวั่นไหวใจไปมา
แต่งโยธาหัดกัน หลายหมู่พรรค์หลายกอง
จองนายหนึ่งไพร่สี่ ทวีนายหนึ่งไพร่หก
ยกนายหนึ่งไพร่เก้า เคล้านายห้าจองพล
ซ้ายขวาคลน่าหลัง ทั้งอาวุธท่าทาง
ถอยพึงกางกันรบ ทบท่าวอย่าหนีกัน
คอยยืนยันรบพลาง ไส่ยาวางเรียเด็ก
นายไพร่เล็ดลอดตาม ให้ฟังความสั่งสำคัญ
ฆ้องกลองพรรณธงไชย กดให้ไล่ให้หนี
ลีลาลาดศึกเข้า ในพลเคล้าเปนกล
สองกองพลซ้ายขวา ดูมรรคาชอบกล
เอาพลตั้งสองข้าง กองกลางง้างพลถอย
ศึกตามลอยแล่นไล่ ครั้นศึกไปล่ออกข้าง
คอยดูช้างดูม้า ดูทวยคลารี้พล
สบสกลโดยสำคัญ จึ่งกระทบกันเข้ารบ
สบสำเนียกเสียกสา อย่าให้คลาให้คลาด
ผาดเอาคงเอาวัน หยิบเอาพลันจงได้
ไว้กำหนดนายกอง ช่องปองปูนจงสรับ
นับอ่านเร่งตรวจตรา กลศึกอันนี้ชื่อว่า
กลราชปัญญาฯ?

๑๙. กลฟ้าสนั่นเสียง
?กลชื่อฟ้าสนั่นเสียง เรียงพลพยุหกำหนด
กดประกาศถึงตาย หมายให้รู้ถ้วนตน
ปรนปันงานณรงค์ ยวดยงกล่าวองอาจ
ผาดกำหนดกดตรา ยามล่าอย่าลืมตน
ทำยุบลสีหนาท ดุจฟ้าฟาดแสงสาย
สำแดงการรุกรัน ปล้นปลอมเอาชิงช่อง
ลวงเอาบุรีราชเสมา ตรารางวันเงินทอง
ปองผ้าผ่อนแพรพรรณ์ ยศอนันต์ผายผูก
ไว้ชั่วลูกชั่วหลาน การช้างม้าพลหาญ
ใช้ชำนาญการรบ สบได้แก้จงรอดราศฏร์
ดุจฟ้าฟาดเผาพลาญ แต่งทหารรั้งรายเรียง
เสียงคะเครงคะคฤ้าน ทังพื้นป่าคะครัน
สนั่นฆ้องกลองไชย สรในสรัพแตรสังข์
กระดึงดังฉานฉ่า ง่อนงาช้างรายเรียง
เสียงบันฦาคร้านครั่น กล่าวกลศึกนั้น
ชื่อฟ้าสนั่นเสียงฯ?

๒๐. กลเรียงหลักยืน
?กลศึกชื่อเรียงหลักยืน ให้ชมชื่นรุกราน
ผลาญให้ครอบทั่วพัน ผันเอาใจให้ชื่น
หื่นสร้างไร่สร้างนา หาปลาล่วงแดนต่าง
โพนเลื่อนช้างล่วงแดนเขา เอาเปนพี่เปนน้อง
พร้องตั้งค่ายตั้งเวียง บ้านถิ่นเรียงรายหมั้น
เร่งกระชั้นเข้าเรียงราย เกราะเอานายเอาไพร่
ไว่ใจไกยใจถึง ระวังพึงใจให้
ใส่ไคล้เอาเปนเพื่อน ใครแขงกล่นเกลือนเสีย
ให้เมียผูกรัดรึง ให้เปนจึ่งม่ามสาย
รายรอบเอาจงหมั้น จงเอาชั้นเปนกล
กลให้เขาลอบล้น ปล้นบ้านถิ่นเถื่อนไปมา
ระวาเพศแทบเวียง กลศึกอันนี้ชื่อว่าเรียงหลักยืนฯ?

๒๑. กลปืนพระราม
?กลชื่อว่าปืนพระราม ว่าอย่ามีความโกรธขึ้ง
ทรอึง ใจหนักฦก สำแดงศึกใหญ่มา
พาธาจงคอยฟัง ให้ระวังถอยแกล้ง
แม่นอย่าแอ่วแวนไว้ ได้แล้วกลับคืนรอด
ริรอบปลอดมีไชย หวั่นไหวใจศัตรู
ดูสนั่นใจเศร้า ให้พระยศเจ้ารุ่งเรือง
เลื่องฦาเดชหาญห้าว ทุกทั่วท้าวเกรงขาม
ชื่อปืนพระรามสำเรทธิ์ ญี่สิบเบ็ดกลณรงค์
ด้วยประสงค์ดั่งนี้?

ขอบพระคุณข้อมูลประกอบจากเวปThaiBlade.com ด้วยครับ
โดยคุณB62แห่งบอร์ดคนเมืองบัว
กระทู้ต้นขั้ว




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 17:45:58 น.
Counter : 510 Pageviews.  

บทที่ ๑๓ ใช้สายลับ

การยกทัพหนึ่งแสนเดินทางพันลี้ไปรบค่าใช้จ่ายที่ประเทศชาติและประชาชนต้องแบกรับคือวันละพันตำลึงทอง ทั่วประเทศเดือดร้อน ชาวประชาต้องเข้าเกณฑ์แรงงาน เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากับการเดินทาง และประชาที่จะไม่อาจดำเนินการเพาะปลูกยังมีถึงเจ็ดแสนครัวเรือน

ยามทำศึก ทั้งสองฝ่ายตั้งประจันยืดเยื้อหลายปี เพื่อที่จะพิชิตชัยในวันเดียว หากตระหนี่ตำแหน่งและเงินทอง ไม่ยอมใช้สายลับ จนทำให้ไม่อาจเข้าใจสภาพของข้าศึกจนต้องพ่ายแพ้ นั่นก็ “ไม่เมตตา” เกินไปแล้ว แม่ทัพเช่นนี้ ไม่ใช่แม่ทัพที่ดีของกองทัพ ไม่ใช่ผู้ช่วยที่ดีของราชา และราชาเช่นนี้ ก็ไม่ใช่ราชาที่จะชนะศึก

สาเหตุสำคัญที่ราชาที่ปราดเปรื่อง และแม่ทัพที่ดีเลิศ สามารถพิชิตชัยข้าศึกและมีผลงานที่โดดเด่นเหนือใคร คือการทำความเข้าใจสภาพการณ์ข้าศึกกระจ่างก่อนทั้งสิ้น และการทำความเข้าใจสภาพการณ์ของข้าศึกล่วงหน้า ห้ามใช้วิธีงมงายเช่นการเสี่ยงทายทำนายเป็นอันขาด และห้ามใช้เรื่องราวคล้ายกันที่เคยขึ้นมาแล้วในอดีตเป็นตัวอย่างว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันจะเป็นดังนั้น แต่จะต้องได้ข้อมูลจากผู้ที่รู้สภาพภายในของข้าศึกอย่างแท้จริง


การใช้สายลับมี 5 ประเภท

ยามใช้สายลับทั้ง 5 ประเภทนี้ จะทำให้ศัตรูไม่อาจทราบระบบระเบียบของเราได้และรับมือไม่ถูก นี่เองที่เรียกว่า “เทพบันดาล” และเป็นวิธีการอันได้ผลอย่างยิ่งที่ราชาจะใช้เอาชนะข้าศึก

อันว่า“สายลับท้องถิ่น” คือ ใช้ชาวบ้านธรรมดาในชนบทของฝ่ายศัตรูเป็นสายลับ

อันว่า “สายลับภายใน” คือ ซื้อตัวขุนนางของฝ่ายศัตรูไว้เป็นสายลับ

อันว่า “สายลับสองหน้า” คือ ซื้อตัวหรือทำให้สายลับที่ศัตรูส่งมาทำงานรับใช้ฝ่ายเรา

อันว่า“สายลับตาย” คือ การที่ฝ่ายเราจงใจวางแผนลวงให้สายลับที่ศัตรูส่งมาเข้าใจผิด และไปบอกแผนลวงแก่ข้าศึกโดยคิดว่าเป็นแผนจริง สายลับเช่นนี้มักถูกฝ่ายศัตรูสังหารทิ้งในภายหลังเสมอ

อันว่า “สายลับเป็น” คือ สายลับที่ทางเราส่งไปสืบสาวความเป็นไปของข้าศึก หลังจากนั้นย้อนกลับมารายงานเรา


ดังนั้น ผู้ที่เชื่อถือได้ในกองทัพ ไม่มีใดเกินไปกว่าสายลับ และไม่มีผู้ใดจะได้รับการปูนบำเหน็จมากมายไปกว่าสายลับอีกแล้ว และไม่มีเรื่องใดจะลึกล้ำรอบคอบไปกว่าการใช้สายลับอีกแล้ว

หากไม่ใช่แม่ทัพที่เปรื่องปราดเป็นพิเศษ จะไม่สามารถใช้สายลับได้

หากไม่ใช่แม่ทัพที่ “มีเมตตาและคุณธรรม” ก็ไม่อาจใช้สายลับได้

หากไม่ใช่แม่ทัพที่มีความละเอียดรอบคอบสูง มีฝีมือยอดเยี่ยมเลิศล้ำ ก็ไม่อาจได้รับข้อมูลที่แท้จริงจากสายลับได้

หากแผนสายลับยังไม่ถูกใช้ ข่าวก็รั่วออกไป ทั้งสายลับและคนที่สายลับเอ่ยนามมาล้วนต้องโทษประหาร


การจะบุกจู่โจมทัพศัตรู จะบุกยึดเมือง จะบุกสังหารพลทหารของศัตรู จำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องของแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามและคนสนิทของเขา รวมถึงทหารที่ทำหน้าที่ส่งข่าว ทหารที่ทำหน้าที่เฝ้ารักษาประตูเมือง รวมถึงชื่อเสียงเรียงนามของที่ปรึกษาของแม่ทัพทุกคน เหล่านี้ต้องให้สายลับของเราสืบทราบให้กระจ่างชัดทั้งหมด

ต้องทราบถึงสายลับที่ศัตรูส่งมาสืบข่าวของฝ่ายเรา จากนั้นทำการซื้อตัว มอบหมายหน้าที่ แล้วปล่อยกลับประเทศไป เช่นนี้ สายลับของฝ่ายศัตรูก็จะถูกเราใช้ประโยชน์ได้

หลังจากทราบสภาพภายในของศัตรูจากสายลับสองหน้าแล้ว ก็จะสามารถใช้สายลับท้องถิ่นและสายลับภายในได้ เมื่อได้ทราบความเป็นไปของข้าศึกจากสายลับสองหน้า ก็ให้จัดวางกลลวงตบตาสายลับตายให้ไปรายงานต่อฝ่ายข้าศึก จากข้อมูลเรื่องสภาพภายในของข้าศึกที่ได้รู้จากสายลับสองหน้า สายลับเป็นของฝ่ายเราจึงจะสามารถกลับมารายงานสภาพภายในของศัตรูตามเวลาที่นัดหมายกันไว้ได้

การใช้สายลับทั้ง 5 ประเภท ราชาจะต้องรู้และเข้าใจ จุดสำคัญในนั้นคือจะต้องใช้สายลับสองหน้าให้เป็น ดังนั้นจึงมิอาจไม่บำเหน็จรางวัลแก่สายลับสองหน้าอย่างมหาศาล

(จบตำราพิชัยสงครามซุนอู่ รวม 13 บท)

ต้นฉบับคือ "Sunwu bingfa" (ซุนอู่ปิงฝ่า) ของแท้และดั้งเดิม เล่มบางนิดเดียวอย่างที่รู้กัน แปลโดยคุณLinmou

2 เล่มที่ว่านั่น เล่มหลักสุด (และเก่าสุด) ก็
Sunzi bingfa xin zhu อรรถาธิบายและเรียบเรียงโดย Zhanzheng lilun yanjiu bu zhu shi xiao zu (ภาควิจัยทฤษฎีศึก กลุ่มอรรถาธิบาย "ตำราพิชัยสงครามซุนอู่") พิมพ์โดย สนพ.จงฮว๋าซูจวี๋ (Zhonghua shu ju)พิมพ์เมื่อปี 1996 เล่มละ 8.7 หยวน (แต่ซื้อมา 6 หยวน อิอิ)

เล่มที่ 2
Wu Sunzi fe wei (อู๋ซุนจื่อฟาเวย) อรรถาธิบายโดย หลี่หลิง (Li ling) พิมพ์โดย สนพ.จงฮว๋าซูจวี๋ (Zhonghua shu ju) เช่นกัน พิมพ์เมื่อปี 2000 เล่มละ 13 หยวน

//topicstock.pantip.com/library/topicstock/K2506201/K2506201.html




 

Create Date : 10 มีนาคม 2548    
Last Update : 10 มีนาคม 2548 16:25:30 น.
Counter : 388 Pageviews.  

บทที่ ๑๒ วางเพลิง

แผนวางเพลิงมี 5 ชนิด

1. คือ เผาคนและม้าของทัพข้าศึก

2. คือเผาเสบียงและหญ้าที่ข้าศึกเก็บสะสมไว้

3. คือเผาอาวุธและปัจจัยที่ใช้ในการรบและดำรงชีวิตในกองทัพอื่นๆ ของข้าศึก

4. คือ เผาคลังของข้าศึก

5. คือ เผาสิ่งที่ใช้ในการบรรทุกขนส่งของข้าศึก



ในการใช้แผนวางเพลิงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์และปัจจัยเตรียมพร้อม อุปกรณ์ที่จะใช้จุดไฟจะต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา และยังต้องเลือกจุดไฟในเวลาที่จะเป็นประโยชน์ที่สุด ต้องเลือกเวลาที่จะวางเพลิงให้แม่นยำ

อันว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมนั้นคือ ช่วงเวลาที่อากาศแห้ง

อันว่าวันเวลาที่เหมาะสมนั้นคือ วันที่ลมพัดแรง


อันแผนวางเพลิงนั้น จะเลือกใช้รูปแบบใดใน 5 แบบข้างต้น ต้องพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพที่บังเกิด จากนั้นใช้กำลังทหารหนุนเสริม

การวางเพลิงจากภายในทัพศัตรู ต้องรีบส่งทหารไปหนุนเสริมจากภายนอกแต่เนิ่นๆ

เมื่อไฟเริ่มโหม แต่ทัพข้าศึกยังคงรักษาความสงบเยือกเย็นอยู่ได้ ต้องรอสังเกตการณ์ก่อน อย่าจู่โจมในทันที หากจู่โจมไม่ได้ก็ให้หยุด

การวางเพลิงนั้น ยังสามารถวางเพลิงจากภายนอกได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ไม่จำเป็นต้องรอการสนับสนุนจากการก่อกวนภายในกองทัพข้าศึก ขอเพียงช่วงเวลาและปัจจัยต่างๆ เหมาะสมแก่กาล ก็สามารถวางเพลิงได้

ให้วางเพลิงที่เหนือลม อย่าวางเพลิงที่ใต้ลม

กลางวันลมพัดนานแล้ว กลางคืนลมจะหยุด กองทัพควรจะทราบความเปลี่ยนแปลงในการใช้แผนวางเพลิงทั้ง 5 ชนิด รอจนทุกอย่างพร้อมแล้ว จึงค่อยวางเพลิง


การใช้ไฟช่วยจู่โจม ผลลัพธ์มองเห็นได้อย่างชัดเจน

ใช้น้ำช่วยจู่โจม อานุภาพแข็งแกร่ง

น้ำสามารถตัดแบ่งทัพศัตรูให้ขาดออกจากกันได้ แต่ไม่อาจสู้ไฟที่สามารถเผาเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของข้าศึกได้


เมื่อชนะสงคราม ยึดดินแดนได้แล้ว แต่ไม่อาจทำให้ชัยชนะนั้นมีเสถียรภาพได้ จัดว่าอันตรายมาก นี่เรียกว่า “เปล่าประโยชน์” ดังนั้นราชาผู้ปราดเปรื่องจะต้องคิดถึงปัญหานี้ให้จงหนัก แม่ทัพที่ปราดเปรื่องจะต้องจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง

หากการใช้กำลังทหารในยามนั้นไม่เป็นผลดีต่อประเทศ ก็ห้ามใช้กำลังทหารเด็ดขาด หากไม่แน่ใจว่าจะชนะ ก็ห้ามเคลื่อนทัพโดยตามใจชอบ หากไม่ถึงคราวจำเป็นจริงๆ อย่าก่อศึกโดยพลการ

ราชาจะก่อศึกเพียงเพราะความโกรธชั่ววูบไม่ได้ แม่ทัพจะเข้าปะทะกับข้าศึกเพราะความโกรธชั่ววูบไม่ได้ จะต้องเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเท่านั้น หากไม่เป็นประโยชน์ต่อชาติ ก็ให้หยุดยั้งเสีย

เมื่อโกรธแล้วอาจเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีอีกครั้งได้ เดือดดาลแล้วอาจแปรเป็นยินดีได้ แต่เมื่อประเทศล่มสลายแล้วมันจะไม่คงอยู่อีกต่อไป คนตายไปแล้วจะไม่อาจฟื้นคืนได้อีก ดังนั้น ราชาที่ลาดจะต้องให้ความระมัดระวังต่อการทำสงครามอย่างยิ่งยวด แม่ทัพที่ดีก็ต้องตื่นตัวรอบคอบต่อปัญหาเรื่องการทำศึก เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลอันเป็นรากฐานซึ่งเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของกองทัพและประเทศชาติทั้งสิ้น




 

Create Date : 10 มีนาคม 2548    
Last Update : 10 มีนาคม 2548 16:17:38 น.
Counter : 453 Pageviews.  

บทที่ ๑๑ เก้าชัยภูมิ(2)

ดังนั้น ใน “ที่แบ่ง” พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง

ใน “ที่เบา” เราต้องให้กองทัพอยู่รวมตัวกัน ติดต่อสื่อสารถึงกันได้ตลอด

พบ “ที่ชิง” เราต้องไปให้ถึงด้านหลังของมันก่อน

ใน “ที่ต่อ” เราต้องตั้งรับอย่างระมัดระวัง

ใน “ที่เชื่อม” เราต้องเสริมความมั่นคงให้กับความเป็นพันธมิตรกับเพื่อนบ้าน

ใน “ที่หนัก” เราต้องทำให้เสบียงของกองทัพไม่ขาดแคลน

ใน “ที่ลุ่ม “ เราต้องผ่านไปโดยเร็ว

ใน “ที่ล้อม” เราต้องอุดทางเข้าออก

ใน “ที่ตาย” เราต้องแสดงถึงการตัดสินใจสู้ตาย


สภาพจิตใจของทหารนั้น หากถูกโอบล้อมก็จะต้องพยายามต่อต้าน และจะถูกบีบให้ต้องสู้ตายโดยปริยาย และเมื่อตกอยู่ในภาวะคับขัน ก็จะเชื่อฟังคำบังคับบัญชาไปเองโดยปริยาย


หากไม่ทราบแผนการของราชาแคว้นอื่น จงอย่าผูกไมตรีด้วยเด็ดขาด

หากไม่ชำนาญพื้นที่ป่าเขา ภูมิประเทศเปี่ยมอันตราย และเขตหนองบึง ห้ามเดินทัพผ่านเด็ดขาด

หากไม่ใช้ข้อมูลข้างต้นที่ได้กล่าวมาแล้วเหล่านั้น จะไม่อาจได้ประโยชน์จากการรบเด็ดขาด

สำหรับข้อดีข้อด้อยของ “เก้าชัยภูมิ” นั้น หากมีข้อที่ไม่เข้าใจแม้เพียงข้อเดียว ก็ไม่อาจนับเป็นกองทัพมหาอำนาจได้ กองทัพมหาอำนาจ ยามบุกตีแคว้นใหญ่ สามารถทำให้ทหารและประชาของแคว้นนั้นรวมตัวไม่ทัน

ยามแผ่อำนาจไปประชิดแดนศัตรู จะทำให้แคว้นนั้นไม่อาจเชื่อมไมตรีกับแคว้นอื่นได้ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องชิงเชื่อมไมตรีกับแคว้นอื่น และไม่จำเป็นต้องเพาะสร้างฐานอำนาจของตนในดินแดนแคว้นอื่น เพียงอาศัยกำลังของตนเอง แผ่อานุภาพกดดันแคว้นศัตรู ก็สามารถยึดเมืองของศัตรู ทำลายแคว้นของศัตรูได้แล้ว

บำเหน็จรางวัลให้เหนือกว่ายามปกติ ออกคำสั่งที่ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น บังคับบัญชาทหารทั้งกองทัพดุจสั่งการคนเพียงคนเดียว สั่งให้ทหารปฏิบัติหน้าที่โดยไม่บอกจุดประสงค์ให้ทราบ เพียงบอกถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับโดยไม่บอกถึงอันตรายที่พวกเขาจะได้รับ

ต้องบีบให้ทหารตกอยู่ในภาวะคับขันจึงจะสามารถเอาชีวิตรอดได้ ต้องบีบให้ทหารเข้าสู่ที่ตาย จึงจะสามารถดิ้นรนเอาชีวิตรอดได้ เมื่อทหารตกอยู่ในภาวะคับขัน จึงจะสามารถสู้สุดกำลังเพื่อให้ได้รับชัยชนะ

ดังนั้น การบัญชาการรบ ต้องแสร้งทำเป็นเดินไปตามแผนของศัตรู จากนั้นทันทีที่มีโอกาสให้ฉกฉวย ก็รวมกำลังพลบุกเข้าใส่ศัตรูเป็นจุดเดียว เช่นนี้ แม้จะผ่านการเดินทัพพันลี้ ก็ยังสามารถสังหารแม่ทัพศัตรูได้

นี่เองคือความหมายของความเลิศล้ำเหมาะเจาะสามารถสำเร็จการใหญ่


ดังนั้น เมื่อได้ตัดสินใจแล้วว่าจะทำสงคราม จึงต้องปิดด่าน ยกเลิกหมายอนุญาตเข้าออกข้ามแดนโดยสิ้นเชิง ยกเลิกการส่งทูตเจรจากับแดนศัตรู หมั่นทบทวนศึกษาและคิดวางแผนการรบ ทันทีที่พบว่าศัตรูมีช่องว่างให้จู่โจม ก็ให้รีบฉวยโอกาสบุกเข้าไปทันที

ก่อนอื่นต้องตีชิงจุดยุทธศาสตร์สำคัญของศัตรูให้ได้ และห้ามนัดหมายเวลาปะทะกันกับศัตรูเด็ดขาด แผนการที่วางไว้ควรพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามความเคลื่อนไหวของศัตรู เพื่อชัยชนะในการรบ ดังนั้น แรกเริ่มจะต้องสงบเสงี่ยมนิ่งเงียบจนศัตรูเริ่มผ่อนคลาย จากนั้นค่อยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วให้ศัตรูป้องกันไม่ทัน




 

Create Date : 10 มีนาคม 2548    
Last Update : 10 มีนาคม 2548 16:16:40 น.
Counter : 353 Pageviews.  

1  2  3  4  

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.